|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
สาเหตุของความอ้วน
สาเหตุของความอ้วน
1.เกิดจากสาเหตุภายนอก เป็นสาเหตุใหญ่ที่เกิดโรคอ้วน เพราะตามใจปากมากเกินไป กินมากเกินความต้องการของร่างกาย อาหารที่กิน เนื้อ ไขมัน หรือแป้ง ของหวาน สิ่งเหล่านี้จะถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกาย ถ้ามีมากเกินไปก็จะกลายเป็นไขมันพอกพูนตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ออกกำลังกายน้อย กินแล้วนอน
2.มาจากสาเหตุภายใน พบได้จากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อไทรอยด์ ทำให้มีไขมันตามบริเวณต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง
3.กรรมพันธุ์ ซึ่งพบได้น้อย กรรมพันธุ์นี้พิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าพ่อและแม่อ้วนทั้งสองคน ลูกจะมีโอกาสอ้วนได้ถึงร้อยละ 80 ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งอ้วน ลูกมีโอกาสอ้วนได้ถึงร้อยละ 40
4.โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง
5.กินยาบางชนิด ก็ส่งผลกระทบให้อ้วน ผู้ป่วยบางโรคได้รับฮอร์โมนสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ก็ทำให้อ้วนได้ และในผู้หญิงที่ฉีดยาหรือกินยาคุมกำเนิดก็ทำให้อ้วนง่ายเช่นกัน
6.เพศ เพศหญิงนั้นมักอ้วนกว่าเพศชาย ก็ธรรมชาติเธอมักสรรหาจะกิน กิน และกิน ตลอดเวลา อีกทั้งตอนตั้งครรภ์ ก็ต้องกินมากขึ้น เพื่อบำรุงร่างกายและลูกน้อยในครรภ์ แต่หลังจากคลอดลูกแล้ว บางรายก็ลดน้ำหนักลงมาได้ แต่บางรายก็ลดไม่ได้ ผู้หญิงทำงานน้อย ออกกำลังน้อยกว่าชาย ผู้หญิงอ้วนมากกว่าผู้ชาย 4 : 1
ความอ้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการให้เกิดกับตัวเอง แต่บางครั้งเป็นเรื่องยากที่จะบังคับตัวเองไม่ให้อ้วนได้
หลายคนใช้วิธีลดความอ้วนด้วยการกินยาลดความอ้วน หมดเงินไปมากมายก็ยังไม่ได้ผล…สุดท้าย เกิดโยโย่ เอฟเฟ็ค ทำให้ยิ่งอ้วนขึ้นมากกว่าเดิม
ดังนั้น อย่าปล่อยตัวเองให้อ้วน.. หากมีน้ำหนักตัวและรูปร่างที่เหมาะสมอยู่แล้ว ควรควบคุมน้ำหนักให้คงที่ แต่ถ้ามีปัญหาน้ำหนักเกิน ควรตั้งใจลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก่อนที่น้ำหนักยิ่งเพิ่มมาก ยิ่งลดยาก ที่สำคัญ อย่าลดน้ำหนัก แบบตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง หรือปล่อยให้น้ำหนักขึ้นๆลงๆ เพราะ ยิ่งน้ำหนักเหวี่ยงขึ้น-ลง บ่อยมากเท่าไหร่ การลดน้ำหนักก็จะยิ่งยากขึ้น และการลดความอ้วนในครั้งต่อๆไป ก็จะยิ่งไม่ค่อยได้ผล
Create Date : 29 เมษายน 2554 |
Last Update : 29 เมษายน 2554 20:04:06 น. |
|
0 comments
|
Counter : 265 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|