Bloggang.com : sodacawaii : แคโรตีนอยด์ ในผักและผลไม้ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

แคโรตีนอยด์ ในผักและผลไม้ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ในแต่ละวัน คนเราควร กินข้าวครึ่งหนึ่ง ผักสด ผลไม้ครึ่งหนึ่ง
เพื่อให้สุขภาพดี
หลักการเลือกผักสดและผลไม้ให้ได้ประโยชน์นั้น ควรเลือกผักที่สด และสะอาด
นอกจากนี้แล้ว สีของผักและผลไม้ต่างๆ ยังเป็นตัวบอกว่า
มีสารในกลุ่มแคโรตีนอยด์มากน้อยเท่าใด

แคโรตีนอยด์บางชนิด ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสงในพืชชั้นต่ำและแบคทีเรียบางชนิด (ในขณะที่พืชชั้นสูงใช้คลอโรฟิลล์)
และบางชนิด ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ที่เกิดระหว่างการสังเคราะห์แสงของพืช ประโยชน์ของแคโรตีนอยด์นั้นเป็นที่รู้กันมานาน

การบริโภคแคโรตีนอยด์ เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากอนุมูลอิสระนั้น ควรได้จากการบริโภคผักสด และผลไม้สีเข้มต่าง ๆ
แต่ไม่ได้หมายความว่า ยิ่งมากยิ่งดี ทั้งนี้
เพราะถ้าได้รับแคโรตีนอยด์ ในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากเกินไป
ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระนั้น จะเปลี่ยนไปในทางตรงข้าม
เพราะสารต้านอนุมูลอิสระสามารถกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระเกือบทุกชนิดมีลักษณะที่คล้ายกัน คือ มีทั้งคุณและโทษ การได้รับสารพวกนี้ น้อยไปหรือมากไป ก็ก่อให้เกิดโทษแก่ร่างกาย
ต้องไดัรับในปริมาณที่พอดี จึงจะมีประโยชน์

เสาวรส
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินสูงช่วยบำรุงสายตา ทำให้ร่างกาย แข็งแรง บำรุงกระดูก เพราะมีแคลเซียมสูง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค และป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

แครอท
มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายของเราสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ ทำให้สายตาดี สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืนค่ะ แถมยังช่วยบำรุงผิวพรรณและเนื้อเยื้อจึงทำให้ผิวสดใส และก็ช่วยยับยั้งความเสื่อมของอวัยวะ และยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน เร่งการสร้างเซลล์ในแผลผ่าติด นอกจากนี้ ยังอุดมด้วยวิตามินบี วิตามินซี และแคลเซียมที่ดูด ซึมง่าย มีแพคติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ ชนิดที่ละลายน้ำได้ ช่วยลดโคเลสเตอรอล วิตามินและเกลือแร่ที่มีอยู่ มีบทบาทสำคัญ ในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค

สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสพ์เบอรี่
มีวิตามินซี แมกนีเซียม โปเทสเซียมสูง ช่วยเพิ่มช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยต้านอนุมูลอสิระ ป้องกันโรคต่างๆ ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า

มะเขือเทศ
อุดมด้วยวิตามินซี และอี มีสารไลโคทีน ช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด

มะนาว
มีวิตามินซีสูง มีทั้งวิตามิน บี 1 บี 2 และเกลือแร่ชนิดต่างๆ ช่วยป้องกันหวัด ขับเสมหะ แก้ไอ แก้เจ็บคอ ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ในน้ำมะนาว มีสารไบโอฟลาโวนอยด์สูง จึงช่วยป้องกันอันตราย จากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ และโรคมะเร็ง

สัปปะรด
มีวิตามินซี เบต้าแคโรทีน แมงกานิส ช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ มีกากใยอาหารสูง ช่วยให้ย่อยง่ายและขับถ่ายดี

มะละกอสุก
ในมะละกอสุกจะมีวิตามินเอ แคลเซียม วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 และเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ชะลอความแก่ ช่วยในเรื่องขับถ่าย มีธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด

ฝรั่ง
เป็นผลไม้ที่มีวิตามินหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซีจะมีในปริมาณที่สูงมาก และยังมีวิตามินเออีกด้วย วิตามินซีนั้นจะช่วยในการสร้างคอลลาเจน ผิวหน้าเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัย และฝรั่งยังมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ท้องผูกได้ดี (ท้องผูกเป็นสาเหตุหนึ่งของผิวหมองคล้ำและเป็นสิว) และวิตามินซียังช่วยสร้างภูมิต้านทานป้องกันไข้หวัดได้ด้วย (การที่เราเป็นหวัด ผมของเราจะร่วงนะคะ) และที่สำคัญคือ กินไปเลย กินเพลินๆ กินแล้วไม่อ้วน

ส้ม
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้คงความหนุ่มความสาวเอาไว้ได้นาน

แก้วมังกร
มีกากใยอาหารสูง แคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยวิตามินซี คลอโรฟิลด์ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดชื่น ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ทานแล้วอิ่มท้อง เหมาะแก่ผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

มะพร้าว
ช่วยให้ผิวพรรณเปร่งปรั่งมีน้ำมีนวล และในน้ำมะพร้าวมีเอสโตรเจนที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีราสติน ทำให้ผิวกระชับ ยื่ดหยุ่น และมะพร้าวยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกายด้วยนะคะ คนที่ตั้งท้องเชื่อกันว่า
การดื่มน้ำมะพร้าวทำให้ลูกตัวสะอาดและออกมาขาวผิวดีด้วย

แอ๊ปเปิ้ล
มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีเส้นใยอาหารที่ทำให้อิ่ม และลดความอยากอาหาร เหมาะกับคนที่ลดความอ้วน ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานปกติ
ขับถ่ายสะดวก และยังช่วยจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

ผักโขม
อุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือดผิวพรรณจึงเปร่งปรั่ง มีกากใยอาหารสูง มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูง (ไม่ควรกินผักขมดิบๆ ควรทำการลวกให้สุกก่อน และถ้าบีบน้ำมะนาวลงไปที่ผักขมที่สุกแล้วอีกนิด หรือกินร่วมกับผักที่มีรสเปรี้ยว จะทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น

Create Date : 29 มีนาคม 2554

Last Update : 29 มีนาคม 2554 20:25:20 น.

0 comments

Counter : 644 Pageviews.