Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 

กรณีการประเมินมูลค่าเพื่อเข้าซื้อ โคคาโคล่า ของวอเรน บัฟเฟต

ตัวอย่างการลงทุนที่ยอดเยี่ยมของวอร์เรน ที่ผู้แต่งตำราหลาย ๆ เล่มนิยมนำไปเป็นกรณีศึกษาคือการเข้าลงทุนในบริษัทโคคา-โคล่า





จากตารางเป็นข้อมูลตั้งแต่ปี 1973 ถึง 1992 ที่วอร์เรนนำมาวิเคราะห์ก่อนซื้อหุ้นบริษัทโคคา-โคล่า ลำดับเหตุการณ์ได้ดังนี้

วอร์เรนเริ่มซื้อหุ้นบริษัทโคคา-โคล่าเมื่อปี 1988 โดยใช้ข้อมูลย้อนหลังมาตั้งแต่ปี 1973

คอลัมน์ที่สอง Annual sales คือยอดขายประจำปี คอลัมน์ที่ 3 คือกำไรสุทธิประจำปี ซึ่งวอร์เรนนำมาปรับแต่งอีกเล็กน้อยเพื่อให้ได้ข้อมูลในคอลัมน์สุดท้าย คือ "กำไรของเจ้าของ" แล้วจึงนำข้อมูลไปใช้

วอร์เรนไม่ต้องการกำไรทางบัญชี แต่เขาต้องการกำไรที่เป็นกระแสเงินสดและเรียกมันว่า "กำไรของเจ้าของ" เพราะโมเดลในการคำนวณมูลค่าที่แท้จริงเป็นโมเดลของ "การคำนวณมูลค่าหุ้นกู้ผสมกับการคำนวณมูลค่าหุ้นสามัญ" ซึ่งใช้ผลตอบแทนที่เป็นกระแสเงินสด หลักการอันนี้จะอธิบายในตอนต่อ ๆ ไป

จากข้อมูลย้อนหลังเมื่อวิเคราะห์มาเป็น 3 บรรทัดสุดท้าย และที่เป็นจุดเด่นก็คือปี 1981 - 1988 หรือ 7 ปีก่อนวอร์เรนจะซื้อหุ้นของบริษัทโคคา-โคล่า บริษัทฯมีอัตราการเจริญเติบโตกำไรของเจ้าของ 17.8%

วอร์เรนจึงลดอัตราการเจริญเติบโตเหลือ 15% แล้วนำไปคาดคะเนกำไรของเจ้าของสำหรับ 10 ปีในอนาคต โดยเริ่มต้นที่ปี 1988 ที่บริษัทฯ มีกำไรของเจ้าของ 828 ล้านเหรียญ





เมื่อได้อัตราการเจริญเติบโตของบริษัทและวอร์เรนมั่นใจในธุรกิจนี้แล้วเขาจึงเริ่มคำนวณมูลค่าที่แท้จริง( หากเขาไม่มั่นใจหรือไม่เข้าใจในธุรกิจเขาจะไม่คำนวณมูลค่าของมัน )ตามขั้นต้อนดังนี้

1. เริ่มต้นบรรทัดที่ 1 ด้วยกำไรของเจ้าของ 828 ล้านเหรียญ คูณด้วยอัตราเติบโต 15% ในบรรทัดที่ 2 ได้กำไรจากการประมาณในบรรทัดที่ 3

2.กำไรในบรรทัดที่ 3 เอาไปตั้งต้นในบรรทัดที่ 1 ของปีถัดไป ทำตามข้อ 1 จนได้กำไรโดยประมาณ 10 ปีในอนาคต

3.ในอนาคตเงินจะด้อยค่าลงเขาจึงต้องทำให้เงินในอนาคตมีมูลค่าเป็นปัจจุบันในบรรทัดที่ 5( บรรทัดที่ 4 คือวิธีคำนวณเงินในอนาคตให้เป็นมูลค่าปัจจุบันจะกล่าวในบทต่อไป )

4.หลังจากได้กำไรที่เป็นกระแสเงินสดในอนาคต 10 ปีแล้ว เขาจึงคำนวณมูลค่าหลักทรัพย์ในปีที่ 10 ได้ 87,930 ล้านเหรียญในบรรทัดที่ 12 ซึ่งเป็นมูลค่าในอนาคตเขาจึงทำให้เป็นมูลค่าปัจจุบันอีก ได้มูลค่าหลักทรัพย์ในบรรทัดที่ 14 เหลือ 37,143 ล้านเหรียญ( บรรทัดที่ 13 คือวิธีคำนวณเงินในอนาคตให้เป็นมูลค่าปัจจุบัน )

5.สุดท้ายเขานำ กำไรที่เป็นกระแสเงินสดทั้ง 10 ปีมารวมกันในบรรทัดที่ 6 และ รวมกับมูลค่าหลักทรัพย์ในปีสุดท้ายในบรรทัดที่ 14 ได้มูลค่าที่แท้จริง 48,393 ล้านเหรียญ เมื่อคุณด้วย Margin of Safety( ประมาณ 2/3 )แล้วราคาที่น่าสนใจอยู่ที่ต่ำกว่า 32,262 ล้านเหรียญ

6.จาก Margin of Safety ของมูลค่าที่แท้จริงประมาณ 3.2 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 1988-89 ที่เขาลงทุน มูลค่าตลาดของโคคา-โคล่ามีค่าเพียง 1.51 หมื่นล้านเหรียญ วอร์เรนลงทุนในกิจการนี้ประมาณ 1 พันล้านเหรียญ เขาเก็บหุ้นนี้ที่ราคาเฉลี่ย 10.96 เหรียญต่อหุ้น

7.ในปี 1998 หุ้นของบริษัทโคคา-โคล่าซื้อขายกันที่ 88 เหรียญต่อหุ้น แปลว่า หุ้นที่วอร์เรนถือไว้เมื่อ 10 ปีก่อนมีมูลค่าเพื่มขึ้น 800%

8.ย้อนกลับไปที่ปี 1988 วอร์เรนคำนวณมูลค่าปัจจุบันของบริษัทโคคา-โคล่าได้ที่ 4.8 หมื่นล้านเหรียญ แต่ 10 ปีถัดมามูลค่าตลาดของบริษัทซื้อขายกันที่ 1.2 แสนล้านเหรียญ

....................................................................

ที่มาของบทความ .. //vistockvalue.blogspot.com/2009/09/1973-1992-1988-1973-annual-sales-3.html

....................................................................




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2558
2 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2558 19:55:34 น.
Counter : 2484 Pageviews.

 

87930 ตัวเลขนี้คำนวนได้อย่างไรครับ

 

โดย: m IP: 58.9.20.134 15 มีนาคม 2561 11:34:09 น.  

 



87930 คำนวณจาก
3517 / 4% ครับ ..
ในทางคณิตศาสตร์มันจะได้ 87925
แต่ลุงวอเรนต์คงปัดขึ้นให้กลมๆ

 

โดย: สดายุ... 16 มีนาคม 2561 19:00:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.