sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
21 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

ตอนที่ ๒๕ กำแพง



หลังกลับจากบ้านของกฤตยชญ์ดนุเดชก็บอกกับตัวเองมาตลอดทางว่าคืนนี้เขาจะเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาอยู่ในหัวใจออกไปให้หมดสิ้นและเริ่มต้นอยู่กับความสุขที่มีโดยจะทลายกำแพงบางๆ ให้หมดไปจากชีวิต

ดนุเดชนั่งอยู่บนเตียงเปิดโทรทัศน์ดูข่าวต่างประเทศเหมือนทุกๆ คืน ชายหนุ่มเหลือบมองประตูห้องน้ำบ่อยครั้งด้วยความกระวนกระวายเมื่อเห็นว่าวิกานดายังไม่มีทีท่าจะออกมาสักที

เกือบสามสิบนาที วิกานดาก็เดินออกมา และอ้อยอิ่งอยู่ตรงหน้ากระจกอีกพักใหญ่ โดยไม่คิดใส่ใจกับท่าทางกระวนกระวายของคนที่นั่งอยู่บนเตียง

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของคนรอ เมื่อทนไม่ไหวดนุเดชจึงกดรีโมทปิดโทรทัศน์ลุกขึ้นเดินเข้าไปซ้อนด้านหลังและแย่งหวีจากมือของวิกานดาไปยึดไว้ ก่อนจะค่อยๆ หวีผมให้เธออย่างบรรจง

วิกานดาจ้องหน้าอีกฝ่ายที่กำลังตั้งอกตั้งใจหวีผมให้ผ่านกระจกเงาด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เธอนั่งอยู่นิ่งๆ จนอีกฝ่ายหวีผมเสร็จจึงทำท่าจะลุกขึ้น แต่ดนุเดชทาบฝ่ามือกดหัวไหล่ของเธอไว้เชิงห้าม

“ฉันต้องแต่งตัวนะคะ”

เธอบอกขณะทำท่าจะลุกขึ้น

“ไม่ต้องหรอกเพราะเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”

ดนุเดชบอกพร้อมกับดึงเธอให้ลุกขึ้น ชายหนุ่มกวาดตามองไปทั่วไล่ตั้งแต่ใบหน้าสวยเฉียบที่ยังคงเย้ายวนตาไม่เสื่อมคลายด้วยประกายตาที่แสดงความรักและปรารถนาจนวิกานดาถึงกับหน้าร้อนผ่าว

“คุณโทรไปหาลูกหรือยัง”

วิกานดาหลบสายตารุมร้อนของอีกฝ่ายก่อนจะเสถามไปเรื่องอื่น

“โทรแล้วจ๊ะ...คุณแม่บอกว่าเพิ่งนอนเลยไม่อยากปลุกเดี๋ยวดึกๆ จะโยเย”

“แล้วไข้ลดหรือยังคะ”

“ลดแล้วจ๊ะ...คุณแม่ท่านบอกว่าไม่ต้องห่วง...ทำใจให้สบาย”

หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่นเพราะรู้สึกประหม่ากับประกายตาวาววามของอีกฝ่าย

ดนุเดชยกมือขึ้นสอดเข้าไปรั้งเอวของเธอเข้ามาแนบชิด...ขณะมืออีกข้างค่อยๆ ลูบไล้หัวไหล่กลมกลึงและไล่ไปตามลำคอระหง

“ผมขอโทษนะวิกกี้ที่เป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย...”

ชายหนุ่มพึมพำและเริ่มลูบคลำคนรักไปตามจุดต่างๆ ก่อนจรดริมฝีปากลงบนหน้าผาก..แล้วไล่เรื่อยลงไปตามแก้มแล้วกอดรัดเธอไว้แนบอก

“คุณเป็นอะไรไปเหรอคะ...”

วิกานดารู้สึกวูบวาบไปทั้งร่างเมื่อริมฝีปากรุมร้อนของดนุเดชยังรุกไล่ไปตามเนื้อผิว

“ผมรักคุณนะวิกกี้แม้ความรักของเราจะไม่ได้เริ่มต้นจากความหวานชื่นเหมือนคู่รักคู่อื่นๆ แต่คุณเชื่อใจผมได้ว่าผมจะเป็นสามีที่ดีของคุณ...ตลอดสองปีมานี้ผมพยายามเปลี่ยนตัวเองและทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเรา...สิ่งที่ผมทำมันพิสูจน์ได้หรือยังว่าผมรักคุณและลูกมากแค่ไหน”

“ฉันเห็นค่ะว่าคุณทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแค่ไหน”

“มันเพียงพอหรือยังกับความผิดที่ผมเคยก่อ...และมันดีพอหรือยังถ้าผมจะขอให้คุณรักผมบ้าง”

ดนุเดชถามขณะย่อเข่าลงเพื่อช้อนเธอขึ้นมาไว้ในวงแขนและเดินตรงไปที่เตียง เขาวางร่างภรรยาลงช้าๆ แล้วกระตุกผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เหวี่ยงไปข้างๆ

“คุณดนุ!...”

วิกานดาอุทานออกมาขณะควานมือหาผ้าห่ม หญิงสาวเริ่มใจสั่นเมื่อเห็นประกายตาฉ่ำหวานของคนเบื้องหน้า แม้จะผ่านบทรักมานับครั้งไม่ถ้วนแต่เธอกลับไม่เคยรู้สึกวูบวาบไปกับดวงตาเว้าวอนของสามีได้เท่ากับครั้งนี้...

“ผมรักคุณนะวิกกี้รักจนหึงหวงคุณทุกครั้งที่เห็นหน้าไอ้ราชมัน...ผมกลัวเหลือเกินกลัวว่าคุณจะไม่รักผม”

“แต่คุณควรเชื่อใจฉันบ้าง...”

วิกานดาจ้องหน้าอีกฝ่ายประกายตาตัดพ้อ

“ผมเชื่อใจคุณพอๆ กับเชื่อใจราชแต่ผมรู้สึกผิดมาตลอดกับความเห็นแก่ตัวของตัวเอง...วิกกี้ผมควรทำอย่างไรดี...ผมเสียใจ”

ดนุเดชทอดลำตัวลงกับฟูกเย็นเฉียบ...วางศีรษะลงบนหมอนนุ่ม...ก่อนจะสอดแขนรวบเอวแล้วดึงเธอเข้ามากอดกระชับ

“เรื่องพวกนั้นมันผ่านมานานแล้วนะคะคุณจะเก็บมาคิดทำไมให้รกสมอง...”

“ที่ผมคิดเพราะรู้สึกเหมือนกับว่าไปบังคับเอาตัวคุณมาโดยใช้สังคมเป็นเครื่องมือ...คุณดูไม่ยินดียินร้ายกับชีวิตคู่ของเราเลยนะวิกกี้...ทุกวันนี้เราสองคนเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง...แม้จะนอนเตียงเดียวกันทุกคืนแต่เราไม่เคยพูดคุยกันนานๆ เลยสักครั้ง...คุณทำเหมือนการนอนกับผมเป็นหน้าที่...ไม่ได้มีความลึกซึ้งกับมันเหมือนอย่างที่ผมรู้สึก”

“ฉันทำให้คุณรู้สึกขนาดนั้นเลยเหรอคะ...ตกลงตลอดสองปีมานี้การกระทำของฉันมันบอกอะไรไม่ได้เลยเหรอคุณดนุว่าฉัน...เอ่อ...รักคุณ”

“คุณว่าอะไรนะวิกกี้...”

ดนุเดชถามอย่างตื่นเต้น วิกานดามองประกายตาไหวระริกราวกับยินดีปรีดาของสามีด้วยความขบขัน

“ก็อย่างที่คุณได้ยินนั่นแหละ...จะให้พูดอะไรนักหนา”

“ก็ผมได้ยินไม่ชัดนี่นา...คุณบอกว่ารักผมเหรอ...โอย...”

“ทำไมต้องร้องโอย...”

“ก็ผมไม่อยากเชื่อน่ะสิ...สองปีแล้วนะวิกกี้ที่ผมรอคำๆ นี้จากคุณ...ผมรอจนอ่อนใจแต่ก็ไม่คิดถอยแม้จะรอไปตราบชั่วชีวิตผมก็ยินดีที่จะรอ...ผมรักคุณนะรักขึ้นทุกวันหลังจากมีลูกผมก็ยิ่งรัก...ตอนนี้คุณกับลูกมีความหมายต่อผมมาก...มากจนผมยังนึกแปลกใจตัวเอง”

ชายหนุ่มบอกพลางหลุบเปลือกตาลงมองริมฝีปากเธอ...ก่อนจะค่อยๆ โน้มริมฝีปากลงจุมพิตด้วยความดูดดื่มและหวานชื่นกว่าทุกครา

วิกานดาครางขึ้นเบาๆ และโต้ตอบกลับไปด้วยความอ่อนหวานระคนดุดันจนได้รอยยิ้มจากผู้เริ่ม พอกำแพงบางๆ ถูกกำจัดออกไปความคลางแคลงใจก็มลายสิ้น ดนุเดชถอนริมฝีปากออก...ยกมือประคองดวงหน้าของคนรักไว้..ขณะพลิกตัวทาบลงเบียดกับเรือนร่างของภรรยาจนแนบสนิทไปทั้งร่าง

ชายหนุ่มพึมพำภาษารัก...ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาซอกคอนุ่มและซอนไซ้ไล่จูบลงมาเรื่อย...จนถึงเนินอกสล้าง...ใบหน้าหล่อเหลาเอียงไปมาเมื่อปลายจมูกสัมผัสกับความฉ่ำชื้นของยอดปทุมงาม

วิกานดาหัวเราะร่าออกมาเมื่อเห็นสีหน้าหงุดหงิดของคนรัก เสียงหัวเราะที่ดังคิกคักช่วยเพิ่มบรรยากาศของความเข้าใจให้กับเขาและเธออีกเท่าตัว...

“ผมเห็นลูกกินอยู่ทุกวันมันยังไม่หมดอีกเหรอ”

ดนุเดชถามขึ้นเมื่อเห็นมีน้ำนมสีขุ่นซึมออกมาจากปลายยอดปทุมถัน

“อีกนานค่ะ...ทำไมเหรอคะ”

“ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมผู้ชายถึงกลัวเมียยิ่งกว่ากลัวแม่...สงสัยต้องช่วยตาหนูกินคุณจะได้ไม่ต้องแบกให้หนัก”

ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่มขณะเริ่มดูดคลึงยอดอกของภรรยาและดื่มกลืนทุกอย่างโดยไม่นึกรังเกียจ...ริมฝีปากรุมร้อนเลียไล้ไล่งับไปทั่วเนื้อผิวอย่างนุ่มนวลเอาใจจนเจ้าของร่างกายเริ่มระทดระทวย

มืออุ่นๆ ลูบไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้ว...ของเรือนร่างอรชรที่ไร้ไขมันส่วนเกินแม้จะผ่านการมีบุตรมาแล้วก็ตาม ใบหน้าสวยเฉียบแดงก่ำเมื่อการปลุกเร้าที่รุมร้อนกำลังไต่ระดับจากความหวานนุ่มเป็นร้อนแรง

ทำไมเธอถึงปล่อยให้ความสุขที่มีจมอยู่กับความคลางแคลงใจมานานถึงสองปีโดยที่ไม่คิดทำอะไรบ้าง...เมื่อคิดได้ช่วงแขนเรียวยาวจึงยกขึ้นโอบล้อมไปรอบคอของเขาแนบแน่น...ขณะเอียงหน้าจูบเขาอย่างดูดดื่ม

เธอเบียดร่างเข้าหาเขาอย่างจงใจ และพร้อมล่องลอยไปกับเขาในทุกๆ ที่เมื่อความเข้าใจผสานอยู่ในอารมณ์รักการปรนเปรอด้วยความพิศวาสจึงเร่าร้อนกว่าครั้งไหนๆ

แม้บทรักที่ผ่านๆ มาจะเร่าร้อนและสร้างความหฤหรรษ์ทุกครั้ง แต่มันก็ยังไม่เป็นสุขเท่ากับครั้งนี้เพราะทุกสัมผัสที่ดนุเดชกำลังหยิบยื่นให้เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัวสุดหัวใจเลยทีเดียว

เสียงครวญครางที่ดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะต่างกระหายกับรสรักที่เขากำลังกระหน่ำร่ำร้องขอเป็นผู้นำด้วยการกระทำที่หญิงสาวต้องเว้าวอนออกมาด้วยความรัญจวนใจ

วิกานดาปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปกับความหฤหรรษ์ขณะแอ่นร่างอย่างเพลิดเพลินและอิ่มเอมใจเมื่อปลายลิ้นอุ่นชื้นยังทำหน้าที่ผู้รุกรานจนเรือนกายสั่นสะท้านไปทั้งร่าง...เธอแทบไม่อยากเชื่อว่าแค่คำว่ารักสั้นๆ แค่คำเดียวมันจะมีพละกำลังอันมหาศาลที่จะขับเคลื่อนทุกอย่างให้งดงามถึงเพียงนี้

หญิงสาวหวีดร้องออกมาเมื่อคนรักกำลังมอบของขวัญชิ้นสำคัญด้วยการกระทำที่เธอต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน...

ชายหนุ่มแย้มยิ้มออกมาเมื่อนำพาเธอล่วงเข้าสู่จุดยอดฝัน...เสียงทอดถอนใจที่ดังแผ่วขณะร่างกายอันหอมกรุ่นยังไหวระริกช่างเป็นภาพที่งดงาม...เมื่อความขุ่นข้องหมองใจถูกความเข้าอกเข้าใจทำลายจนย่อยยับ...เขาจึงเริ่มชี้ชวนให้เธอปีนข้ามกำแพงบางๆ ที่ต่างคนต่างใช้ขวางกั้นความสุขไปยังจุดฝันแห่งใหม่...

ผู้นำทางยังคงใช้ความชำนาญในพื้นที่ชี้ชวนให้เธอดื่มด่ำกับความงดงามของเส้นทางที่ยังทอดยาวไปอีกยาวไกล ดนุเดชใช้กลยุทธ์จากปลายนิ้วและเรียวลิ้นอันร้อนรุ่มรุกไล่ปรับเกลี่ยหนทางให้ราบลื่นและชี้ชวนพาเธอเข้าทางนั้นออกทางนี้จนคนเดินตามแทบหมดเรี่ยวแรงในการขยับยกเพื่อให้ทันกับความถี่กระชั้นยามผู้นำเคลื่อนไหวด้วยความช่ำชอง

เสียงหวีดร้องปนกับเสียงหอบเหนื่อยที่ดังผสมปนเปทำเอาผู้นำทางแทบไม่อยากหยุด เพราะประสงค์มอบความสุขให้กับเธอด้วยจำนวนครั้งที่มากกว่าทุกๆ ครา ชายหนุ่มลูบไล้เรือนกายของคนรักด้วยอารมณ์สัมผัสอันนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความร้อนระอุจนร่างกายของหญิงสาวแทบมอดไหม้

วิกานดาบิดกายไปมาพร้อมกับครางสลับกับหอบหายใจหนักๆ หญิงสาวเริ่มเว้าวอนเมื่อถูกส่งข้ามกำแพงไปมากกว่าสามหน...แม้จะอิ่มเอมใจไปกับห้วงแห่งความสุขแต่เธอก็ไม่ปรารถนาที่จะข้ามกำแพงเหล่านั้นเพียงลำพัง...

ดวงตาฉ่ำเยิ้มทอดมองผู้นำทางอย่างเชิญชวนและชี้ชวนให้เขามองไปเบื้องหน้า...ขณะเบียดกายแนบชิด...ริมฝีปากเย้ายวนเผยอครางเบาๆ เมื่อเสียดสีร่างกายยั่วเย้ากับความพร้อมอันทรงพลัง...

ดนุเดชคำรามเสียงสั่นพร่าเมื่อฝ่ามืออันอบอุ่นกำลังสัมผัสเขาด้วยซ่านไหวที่ไม่คาดคิด และสิ่งที่กำลังชักนำกำลังสร้างความร้อนระอุให้กับความแข็งกร้าวราวกับแท่งเหล็กที่ถูกเผาด้วยไฟร้อนแล้วนำขึ้นวางลงบนพื้นราบเพื่อรอช่างเข้ากระหน่ำตี

ชายหนุ่มจ้องใบหน้าอันแสนเซ็กซี่ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมเปรมใจ เมื่อร่างกายอันเย้ายวนร่ำร้องเชิญชวนเขาจึงพร้อมเดินหน้าและเคียงคู่ไปในทุกๆ ที่ที่มีเธอ ดนุเดชเลื่อนกายประกบเข้าหาเรือนร่างฉ่ำหวานจนสนิทแนบแน่น...ขณะหญิงสาวขยุ้มกำไหล่ของเขาไว้แน่นและนอนนิ่งสนิท...ทรวงอกของเธอกำลังสะท้อนขึ้นลงเพราะกำลังหายใจขัดๆ หลังจากเธอและเขาหลอมความรักให้เป็นหนึ่งเดียว...และต่างจดจ่อกับเส้นทางที่กำลังจะฟาดฟันเพื่อมุ่งสู่ปลายฝันในอีกไม่กี่วินาที

“แม้สิ่งที่ผมกำลังบอกรักคุณมันจะเหมือนทุกๆ ครั้ง...แต่ครั้งนี้มันให้ความรู้สึกที่เป็นสุขเหลือเกิน...ขอบคุณจริงๆ กับคำว่ารักที่คุณกรุณามอบให้ผม...ผมรักคุณนะวิกกี้”

ดนุเดชกระซิบเสียงพร่าขณะขยับร่างกายและกอดเธอไว้ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี เสียงครวญครางของหญิงสาวที่ดังระรัวพร้อมกับตอบว่ารักในยามเขาเฝ้าถามดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกๆ ครั้งเมื่อเขากดย้ำความแกร่งกล้าลงไป ชายหนุ่มถามคนรักด้วยคำถามเดิมๆ เพราะฟังเท่าไรก็ไม่รู้สึกว่าเพียงพอกับความต้องการ...เขาปรารถนาจะขอฟังซ้ำๆ และพอใจกับน้ำเสียงพร่ำรำพันอันแสนรัญจวนนั่น

เนิ่นนานกับบทรักที่มาพร้อมกับบทเร่าร้อนของจังหวะอันแสนทรมาน ทั้งสองกำลังอิ่มเปรมไปกับความเข้าอกเข้าใจและต่างฝ่ายต่างหยิบยื่นความสุขให้แกกันโดยไม่ต้องหวาดหวั่นหรือกังขากับความขัดแย้งในอดีต...

วิกานดาหอบหายใจแรงๆ ขณะร่างกายสั่นสะท้าน หญิงสาวหยัดร่างกายขึ้นรวบแขนทั้งสองข้างกับรอบคอและกอดรัดเขาแนบแน่นขณะหวีดร้องออกมาอย่างสุดกลั้น...

เสียงทุ้มที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างโปร่งกดย้ำตัวตนด้วยจังหวะกระชั้นสร้างความเปี่ยมสุขให้กับหญิงสาวจนเหลือคณานับ ทั้งสองตอบรับความรักที่กำลังดำเนินอยู่ด้วยจังหวะอันเร่าร้อนขึ้นทุกขณะ ใบหน้าหล่อเหล่าแหงนเงยขึ้นราวกับกำลังปวดร้าวเหลือแสนพร้อมกับกดย้ำจังหวะรักอันแน่วแน่และทรงพลังอีกครั้งและอีกครั้ง

หัวใจของทั้งสองเต้นสนั่นหวั่นไหวดังประสานไปกับจังหวะรักอันถี่ระรัว ความเร่าร้อนที่ปะปนอยู่บนความชุ่มชื้นกำลังเพิ่มดีกรีของรสรักให้หนักหน่วงขึ้นทุกขณะ วิกานดาหลงใหลเคลิบเคลิ้มและพึงพอใจไปกับจังหวะการขับเคลื่อน แม้ทุกอย่างก้าวที่เขาชักนำจะดึงรั้งเธอไปด้วยความเร็วที่ทำเอาหอบเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่มันกลับสุขสราญจนไม่อยากหยุดเคลื่อนไหวแม้เพียงเสี้ยววินาที

ชายหนุ่มคร่ำครวญราวกับกำลังเจ็บปวดทรมานและเฝ้ารอจนกระทั่งคนรักไปยืนรออยู่ ณ จุดที่เขาและเธอจะสามารถเอื้อมมือไปไขว่คว้าดวงดาว เมื่อความรักเดินทางมาถึงจุดๆ นั้นความหฤหรรษ์เริ่มเพิ่มปริมาณจนล้นปรี่ไปทั้งอณูในที่สุดเมื่อทุกอย่างพร้อมเขาจึงโอบกอดเธอไว้ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีแล้วพาเธอพุ่งทะยานออกไปจนทุกอย่างทะลักทลายและจบลงด้วยความสุขสมอย่างพร้อมเพรียงกัน...

วิกานดาค่อยๆ หลุบเปลือกตาลงเมื่อชายหนุ่มแนบหน้าผากชิดกับหน้าผากเธอ มีเสียงพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาเมื่อทุกอย่างยุติลง ดนุเดชเคลื่อนกายลงนอนเคียงข้างและพลิกร่างโอบรัดเธอไว้

ชายหนุ่มจ้องใบหน้าเปี่ยมสุขของภรรยาที่นอนระทดระทวยอยู่ในอกแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ นี่กระมังคือสิ่งที่เขาปรารถนาจนสุดหัวใจ ต่อให้บอกรักเธอจนหมดหัวใจมันก็ไม่เป็นสุขเท่ากับได้รับความรักจากคนที่ตนเฝ้าปรารถนา...

ชีวิตคู่ต่อให้ร่ำรวยจนล้นฟ้า แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างสร้างกำแพงขึ้นมาสุดท้ายทุกอย่างก็อาจจะพังทลาย วันนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการพยายามสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันและกันเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะบางครั้งการนิ่งเฉยและปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรสุดท้ายชีวิตคู่ก็อาจต้องล่มสลายลงไปอย่างน่าเสียดาย...






 

Create Date : 21 กันยายน 2553
3 comments
Last Update : 21 กันยายน 2553 13:21:23 น.
Counter : 529 Pageviews.

 

สวัสดีล่วงหน้าค่ะคุณเอิงเอย..(เหมือนจะรู้ว่าต้องอ่านหุหุ) ..และทุกท่านที่แวะมาให้กำลังใจ

บทนี้ต้องรีบออกตัวค่ะ เพราะคนแต่งกดดันมาก เนื่องจากเป็นฉาก...ที่ไม่เหมาะกับผ้าขาว...อักษราต้องขออภัยด้วยนะคะหากเนื้อหามันหมิ่นเหม่ต่อความรู้สึกของนักอ่านบางท่าน

อักษราขอน้อมรับคำติเตียนและคำแนะนำหากทุกท่านเห็นความไม่เหมาะสมเพื่อนำไปปรับแก้ต่อไป

ขอบคุณคุณเอิงเอย และทุกความคิดเห็นจากตัวอักษรยามทิ้งไว้ให้เพื่อเป็นกำลังอักษราขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ กันนะคะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ด้วยรัก

อักษรา

 

โดย: sansook 21 กันยายน 2553 13:26:57 น.  

 

ยะฮู้...3 ตอนรวด ขอบอกว่าอิ่มคะตื้อเลย คริ คริ

จะว่าไปก็ไม่ถึงกับไม่เหมาะหรอกคะ ภาษาที่เขียนไม่ได้ล่อแหลมจนเกินไป เคยอ่านเรื่องคนอื่นหนักกว่านี้อีก 555

ขอบอกว่าขอบคุณที่มาต่อคู่ของดนุให้เข้าใจ เพราะภาคที่แล้วคู่นี้ค้างคาชอบกล ความรักสวยงามเสมอ

คุณอักษราก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

 

โดย: jee IP: 10.249.112.88, 203.149.16.43 21 กันยายน 2553 15:39:12 น.  

 

อืมมมมมมมมมม
มีความสุขจริงๆ 3 ตอนรวด
อ่านตอนแรกก็ชักจะหนักใจกับคู่ของดนุ แต่ตอนนี้โล่งแล้วค่ะ ชีวิตคู่เนาะ ความรัก ความเข้าใจ การให้อภัยต้องมาด้วยกันเสมอ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งคงไม่ได้

นิยายเรื่องนี้สำหรับผู้ใหญ่ ไม่เหมาะกับผ้าขาวหรอกค่ะ...

เห็นด้วยกับคุณ jee ค่ะ ในเรื่องของภาษาที่เขียน เพราะความงามของภาษาทำให้เรื่องนี้ไม่หยาบจนเกินไป อ่านแล้วกลับทำให้เห็นความสวยงามของการแสดงความรักของชีวิตคู่ค่ะ

ปกติเอิงจะเลือกอ่านนิยายเหมือนกัน ถ้ามีบทแบบนี้มากๆ จะเลี่ยงเพราะไม่ได้รู้สึกในความงดงาม แต่เรื่องนี้ไม่เป็นเช่นนั้น ชื่นชมคุณอักษรามากๆ (ไม่ได้อวยนะค่ะ)

เป็นกำลังใจให้คุณอักษราค่ะ

รักษาสุขภาพนะค่ะ

 

โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 21 กันยายน 2553 19:49:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.