โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ
https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ ๑๓ ที่มาของแผนการ
|
|
ทรงพลเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้นวมตัวหรูข้างเตียง...ก่อนจะเอนตัวลงพิงหลังกับเก้าอี้และทอดตามองไปข้างหน้า
เฮ้อ! เสียงถอนใจเฮือกแล้วเฮือกเล่าที่ดังขึ้นดูเหมือนไม่ได้ทำให้คนที่กำลังแบกความกลัดกลุ้มคลายความกังวลลงแม้แต่น้อย
บัดซบเอ๊ย! ทำไมต้องเป็นแบบนี้
ทรงพลสบถออกมาอย่างเหลืออดเมื่อหาทางออกให้กับปัญหาไม่ได้ ชายกลางคนหลุบเปลือกตาลงพร้อมกับทุบกำปั้นลงบนลงพนักแขนเก้าอี้ด้วยความกราดเกรี้ยว
ไอ้สารวัตรราชมันดวงแข็งยิ่งกว่าหินขืนดวงมันยังดีทั้งปีทั้งชาติแบบนี้ปัญหาคงไม่จบไม่สิ้นฉันจะทำยังไงกับมันดี...
ทรงพลเข่นเขี้ยวอย่างขัดเคืองใจ ชายกลางคนจ้องมองผนังห้องที่ว่างเปล่าแล้วขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด
ทำไมต้องเป็นแบบนี้...
ทรงพลพึมพำกับตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมา...เมื่อนึกถึงหลานสาวคนเดียว เป็นเพราะความโลภของเขาแท้ๆ ทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรจนยากแก้ไขแบบนี้ หากเขาไม่เห็นแก่เงินที่เพิ่มพูนโดยลักลอบค้าขายอาวุธกับพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ซึ่งราคาที่ได้มันเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับอาวุธที่สั่งตรงจากรัสเซียทุกอย่างคงไม่พลิกขนาดนี้
ดวงตาสีหม่นสั่นระริกเมื่อนึกถึงปัญหาที่อาจจะตามมา ไอรีณจะฆ่าเขาไหมหนอถ้ารู้ว่าบุตรีคนเดียวกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของศัตรู
เฮ้อ! ขนาดรู้เรื่องที่เขาแอบไปค้าอาวุธกับพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์จนถูกไล่ล่าไอรีณก็แทบคลั่งจนสั่งให้อลันตามประกบ แล้วถ้ารู้เรื่องนี้ขึ้นมาเขาจะยังมีหน้าไปพบเธอไหมนั่น...
ทรงพลถอนใจยาวเพราะหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้ ไอ้สารวัตรนั่นมันแขวนพระอะไรกัน...ขนาดเขาวางหมากมาอย่างดีโดยหวังใช้ฝีมือของไอรดาที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตนักยิงปืนทีมชาติของรัสเซียมาทำงานนี้ให้ลุล่วงแท้ๆ มันยังสอยนักฆ่ามือหนึ่งขององค์กรไปกอดหน้าตาเฉย...ยิ่งคิดยิ่งเจ็บจิ๊ดไปถึงทรวง...
คราแรกเขาเชื่อว่าไอรดาจะทำงานนี้ได้สำเร็จลุล่วง เพราะความแม่นยำของฝีมือและทักษะด้านการต่อสู้ที่เธอได้รับการฝึกมาอย่างหนักจากองค์กรลับในกรุงมอสโคว์
ไอรดาและอลันตัดสินใจเข้าช่วยงานของมารดาอย่างเต็มตัวหลังจากทราบความจริงว่าบิดาของพวกเขาถูกลอบสังหารจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลเมื่อครั้งทำงานอยู่ในสถานทูตเพียงเพราะข้อมูลด้านความมั่นคงผิดพลาด
หลังจากรู้ตื้นลึกหนาบางคนที่เป็นพลเมืองดีและทำหน้าที่เพื่อชาติก็หันหลังให้กับความถูกต้องและถอนตัวออกจากทีมทันที ไอรดาทิ้งความฝันบนถนนสีขาวแล้วเข้าสู่ถนนสีดำมานับสี่ปีโดยไม่มีใครทัดทานกับการตัดสินใจในครั้ง
ไอรีณ อัศววิเศษกุล หรือมิสซีสไอรีณ อีวานอฟเชรเกย์ สนับสนุนบุตรทั้งสองให้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการต่อสู้และการใช้อาวุธทุกชนิดเพื่อป้องกันตัวเองและผลักดันให้ทั้งสองคนขึ้นกุมบังเหียนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวหลังจากสามีเริ่มป่วยหนัก
ยี่สิบปีก่อนไอรีณคือภริยาผู้เลอโฉมของนักการฑูตระดับสูงของไทยที่ไปประจำการในกรุงมอสโคว์เธอรอดชีวิตหวุดหวิดในเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งประวัติศาสตร์ ครั้งนั้นเธอได้รับความช่วยเหลือจากมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์ อีวานอฟเซรเกย์ โดยบังเอิญและเขายังช่วยเหลือเธออีกหลายครั้ง
หลังจากสูญเสียสามีเธอถูกลอบสังหารถึงสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน...แต่รอดมาได้เพราะได้รับความช่วยเหลือจากอเล็กซานเดอร์...เมื่อหน่วยงานของรัฐไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับชีวิตและลูกๆ เธอจึงขอลาออกจากงานและหันหลังให้กับถนนสีขาวเพราะเริ่มเสื่อมศรัทธากับทุกอย่างรอบตัว
อีกหกเดือนหลังจากนั้นเธอตัดสินใจแต่งงานใหม่และย้ายครอบครัวไปอยู่ในคฤหาสน์ของนักธุรกิจผู้มั่งคั่งเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและลูกเล็กๆ อีกสองคน
ฉากหน้าตระกูลอีวานอฟเซรเกย์คือเจ้าของธุรกิจนำเข้ารถยนต์ผู้มั่งคั่ง แต่เบื้องหลังน้อยคนนักที่จะรู้ว่าอีวานอฟเซรเกย์คือราชาผู้ประทานอาวุธให้กับผู้นำของทุกประเทศที่กระหายสงครามไม่ว่าจะเป็นสงครามกลางเมืองที่เล็กหรือใหญ่ รวมไปถึงสงครามระดับโลก
ไอรีณไม่เคยกลับประเทศไทยเธอใช้ชีวิตอยู่ในวงสังคมชั้นสูงและเรียนรู้ธุรกิจของสามีจนประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว จนธุรกิจของอีวานอฟกรุ๊ฟประสบความสำเร็จและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
แม้ธุรกิจสีขาวจะรุ่งเรืองแต่อเล็กซานเดอร์ก็ไม่ทิ้งธุรกิจมืดเพราะจำนวนเงินอันมากมายมหาศาล...หลังไอรีณแต่งงานไม่ถึงปีเขาจึงเข้าสู่ถนนสายสงครามและพอใจกับการเดินอยู่บนถนนสายนี้จนตราบเท่าทุกวันนี้
ทรงพลกัดกรามแน่นเมื่อนึกถึงศัตรูที่เขาเกลียดชังจนแทบอยากฆ่าให้ตาย สองปีก่อนหลังจากถูกราชไล่ล่าจนตัวเขาแทบเอาชีวิตไม่รอด ครั้งนั้นเขาสูญเงินมากถึงห้าสิบล้าน และลูกน้องส่วนหนึ่งถูกวิสามัญฆาตกรรม
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ไอรีณเดือดดาลจนแทบตัดพี่ตัดน้อง และความเกรี้ยวกราดก็เพิ่มทวีคุณเมื่อเธอทราบว่าเขาติดต่อซื้ออาวุธจากคนอื่นหลายต่อหลายครั้งแทนที่จะสั่งตรงจากรัสเซีย...
เพราะความคิดตื้นๆ ว่าประเทศเล็กๆ ในแอฟริกาและแถวตะเข็บชายแดนของพวกชนกลุ่มน้อยควรได้อาวุธเกรดต่ำ เขาจึงหันไปค้าขายอาวุธกับเดชฤทธิ์ซึ่งมีราคาถูกกว่าและค้าขายร่วมกันมาเรื่อยๆ จนคิดแยกออกจากไอรีณแล้วเริ่มสร้างรากฐานของตัวเอง
จากเหตุการณ์คืนนั้นเขาคิดว่าถูกเดชฤทธิ์หักหลังจึงส่งคนไปลอบฆ่าพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ถึงในคุก และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชีวิตของเขาจึงถูกคุกคามจากสารวัตรหน้าเข้มเรื่อยมานับตั้งแต่มียศเป็นผู้กองจนมาครองตำแหน่งสารวัตร หลังจากฉากหน้าของเขาถูกเปิดโปงในเหตุการณ์คืนอันแสนวิปโยคนั่น
ชีวิตที่เคยอยู่บนถนนเรียบๆ ก็เริ่มขรุขระเพราะสารวัตรหน้าหยกไม่ยอมปล่อยให้เขาทำงานอย่างสงบสุข
หลายครั้งหลายหนที่เขาตัดสินชะตากรรมของนายตำรวจตงฉินด้วยความตาย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะแคล้วคลาดตลอด
นับสองปีที่เขาถูกไล่ล่าจากสารวัตรหน้าเข้มจนทำให้การค้าที่เคยรุ่งเรืองเริ่มรุ่งริ่งเพราะไม่ว่าเขาจะก้าวขาไปทางไหนเจ้าสารวัตรนั่นก็ตามกลิ่นไปถูกทิศถูกเวลาเสียทุกครั้งไป
เพราะถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองบ่อยครั้งจึงทำให้เม็ดเงินที่เคยอู้ฟู่เริ่มซบเซาลงทุกขณะและราชยังตามล่าชนิดกัดไม่ยอมปล่อยนานวันเข้าการค้าก็เริ่มชะงัก เมื่อเห็นท่าไม่ดีอีกหนึ่งปีต่อมาไอรีณจึงส่งอลันเข้ามาควบคุมเขากรายๆ โดยฉากหน้ามีฐานะเป็นลูกน้องคนหนึ่งของเขาแต่ฉากหลังอลันคือผู้สั่งการโดยงานสำคัญๆ ถูกถ่ายโอนเข้ามือของอลันทั้งหมด
เวลานับสองปีที่เขาพยายามเก็บราช แต่จนแล้วจนรอดทุกอย่างก็หาได้เป็นไปดังที่ต้องการ เมื่อหมดทางเลือกเขาจึงโทรไปขอตัวไอรดาเพื่อมาช่วยงานนี้...และหวังกับงานนี้เต็มที่...แต่ดูเถอะแทนที่เจ้าสารวัตรนั่นจะโดนเป่าหัวสมองจนกระจุยกระจายแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้ส่งเนื้อกวางสาวไปให้กับราชสีห์...ซะอย่างนั้น...
หรือจะเดินไปตามเกมของอลัน...ที่จะฆ่าเจ้าสารวัตรนั่นทั้งเป็น...ทรงพลลูบมือกับคางสากๆ ของตนไปมาแล้วครุ่นคิด...เห็นทีงานนี้คงมีตายคู่กันบ้างล่ะ...เฮ้อ! เขาควรต้องทำอย่างไงกับความทุกข์ใจของหลานสาว...เจ้าพ่ออาวุธถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอย่างไร้ทางออก...
ราชนั่งพิงพนักเก้าอี้แล้วพ่นลมหายใจออกมาราวกับกำลังตัดสินใจกับเรื่องอะไรสักอย่าง มือหนาเอื้อมไปเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานและหยิบแผ่นกระดาษที่มีลายพิมพ์นิ้วมือของภรรยาขึ้นมาพิศดู
สารวัตรแน่ใจเหรอครับว่าต้องการแบบนี้จริงๆ
ร้อยตำรวจโทธิติพลถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของผู้บังคับบัญชาดูไม่ดีเอาเสียเลย
ผมไม่มีทางเลือก...เธอมีพ่อมีแม่นะหมวดผมควรทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะครับสารวัตรจะรับมือยังไง เท่าที่ประเมินจากเหตุการณ์ครั้งนั้นผมว่าพวกนั้นไม่น่าใช่คนธรรมดา
หมวดหนุ่มหน้าแฉล้มสันนิษฐานไปตามสภาพ
เพราะงั้นน่ะสิผมถึงต้องรีบหาข้อมูลของไอว่าเธอเป็นใครมาจากไหน...ตอนแรกผมก็เห็นด้วยกับไอที่จะอยู่กันเงียบๆ แบบนี้ แต่ในความเป็นจริงมันทำไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะหมวดที่เราจะมีกันและกันแค่สองคน ผมควรทำทุกอย่างให้มันถูกต้องเสียที
แต่คุณไอเธอก็พอใจกับชีวิตแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ...
ใช่อยู่ที่เธอพอใจ...แต่หมวดอย่าลืมสิว่าครอบครัวเธอคงไม่อยู่เฉยแน่ ขนาดตามมาจนพบและจะพาตัวกลับผมว่าเราคงชะล่าใจไม่ได้แล้วล่ะ อีกอย่างผมรู้สึกว่าไอดูต่างจากผู้หญิงธรรมดาๆ บางครั้งเธอดูเด็ดขาดจนน่าขนลุก แต่บางคราเธอก็อ่อนหวานราวกับไม่มีพิษมีภัยกับใคร บางทีการที่เธอยิงพวกนั้นมันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ
ใบหน้าคมเข้มเครียดขรึมลงทันใดเมื่อนึกถึงความจริงบางอย่างที่ฝังรากลึกอยู่ในใจ
สารวัตรพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ...ผมไม่เข้าใจ
มือข้างซ้ายของเธอหยาบกร้านกว่ามือข้างขวา...เมื่อวานผมสอนเธอยิงปืนถึงได้รู้ว่าเธอจับปืนด้วยมือข้างซ้าย อีกอย่างเท่าที่สังเกตลักษณะของเธอไม่เหมือนคนที่เพิ่งจับปืนครั้งแรก...ยิ่งแววตายามเพ่งเป้าผมเห็นแล้วบอกตรงๆ มันขนลุกยังไงก็ไม่รู้...
มันก็ไม่แปลกนี่ครับสารวัตรเพราะมือข้างถนัดของคนทั่วไปมักจะหยาบกร้านเพราะใช้งานมากกว่ามือข้างที่ไม่ค่อยได้ใช้งานอยู่แล้ว
ธิติพลหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นอาการวิตกจริตของเจ้านายดูมากเกินกว่าปกติ
แต่เธอเป็นคนถนัดขวานะหมวด
อะไรนะครับ...!
คำพูดของผู้บังคับบัญชาที่สวนกลับมาทำเอาผู้หมวดหน้าแฉล้มเบรกเสียงหัวเราะดังเอี๊ยด ก่อนจะถามกลับน้ำเสียงตื่นๆ
เธอหยิบจับทุกอย่างด้วยมือขวา...วันก่อนผมลองให้เธอใช้อินเทอร์เน็ตและพบว่าเธอไม่เข้าใจภาษาไทยเธออ่านไม่ได้แม้จะพูดชัดถ้อยชัดคำก็เถอะ
สารวัตรอย่าบอกนะครับว่าคุณไอเป็นคนต่างด้าวที่ข้ามมาจากพม่า...โหย...แบบนี้ผมว่าให้ร้องเพลงชาติสักรอบดีกว่าไหม
อย่ามาตลกหมวดผมกำลังซีเรียส
ผมทราบครับแต่มันก็น่าลองนะครับสารวัตร...
อยู่ๆ ไปบอกให้เมียร้องเพลงชาติเนี่ยนะเขาได้ว่าผมบ้ากันพอดี
ราชส่ายหน้าไม่เอาด้วยท่าเดียว
แต่มันได้ผลนะครับสารวัตร...เอาแบบนี้สิพอหกโมงเย็นสารวัตรก็ชวนคุณไปไอเคารพธงชาติแล้วชวนเธอร้องเพลงดู...ถ้าไม่อยากไปร้องที่หน้าเสาธงก็ชวนเธอร้องอยู่หน้าโทรทัศน์ก็ได้...มิน่าพวกที่บุกมามันถึงได้ดิบเถื่อนจนกล้าพกปืนขึ้นบ้านสารวัตร...แบบนี้ผมฟันธงเลยว่าพวกไอ้หม่องชัวร์
หมวดธิติพลยังคงสันนิษฐานไปตามความคิดและสถานการณ์
แต่ผมว่าไม่น่าใช่...
ถ้าอย่างนั้นผมว่าลายนิ้วมือนั่นคงให้คำตอบเราได้...สารวัตรแน่ใจนะครับว่าต้องการคำตอบจริงๆ
ธิติพลชี้ไปที่แผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือที่อยู่ในมือของเจ้านายแล้วพ่นลมหายใจอกมา
ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้น หมวดเอาไปจัดการด้วยก็แล้วกันถ้าทำได้ผมขอคำตอบภายในอาทิตย์นี้ บางครั้งผมก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมถึงกลัวความจริงนักหนา...
ครับสารวัตร...เออผมขอถามนิดหนึ่งสิว่าคุณไอเธอไม่เคยสงสัยเลยเหรอครับว่าสารวัตรไม่ได้ส่งไอ้นี่ไปตรวจสอบ
หมวดหนุ่มยื่นมือไปรับแล้วชูแผ่นกระดาษในมือประกอบคำถาม
เธอไม่เคยถาม...บางครั้งผมก็แปลกใจนะหมวดที่คุณไอเธอดูหวาดกลัวกับอดีต เธอเหมือนไม่อยากจดจำเรื่องราวที่ผ่านมาเธอขอแค่มีความสุขอยู่กับปัจจุบัน...ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเธอถึงต้องการปิดกั้นตัวเองออกจากอดีตนัก
เธอคงรักสารวัตรมาก...มากเสียจนใครๆ ก็ไม่มีความหมายให้จดจำ...ผมว่าบางครั้งการลืมอดีตได้มันก็น่าจะดีนะครับ...
การลืมอดีตมันอาจจะดี แต่หมวดอย่าลืมสิว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับเธอ ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหนผมคงเห็นแก่ตัวคิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวไม่ได้แล้วล่ะ...หมวดไปจัดการเถอะผมยื้อมานานแล้วมันคงถึงเวลาที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องเสียที
ธิติพลมองหน้าผู้บังคับบัญชาแล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปทำตามคำสั่ง โดยมีสายตาของราชจ้องตามทุกย่างก้าวอย่างตรองไม่ตกว่าจะทำอย่างไรหากความจริงที่กำลังรอให้ค้นหามันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด
Create Date : 07 กันยายน 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 7 กันยายน 2553 11:28:45 น. |
Counter : 548 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: sansook 7 กันยายน 2553 11:29:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 7 กันยายน 2553 21:06:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
อ่านให้สนุกนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ