|
|
วันนี้ จะได้ทำความเข้าใจเรื่อง การทำวัตรสวดมนต์ อันเป็นกิจอย่างหนึ่งของพวกเราภิกษุในพระพุทธศาสนา
การมาทำวัตรสวดมนต์ใน ตอนเช้า – ตอนเย็น นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของการอ้อนวนขอร้องดังที่เขาทำกันอยู่ในศาสนาอื่น เพราะในพระพุทธศาสนาของเราไม่ต้องการเรื่องการอ้อนวอน ไม่มีเรื่องการขอร้อง มีเฉพาะเรื่องที่เราจะต้องปฏิบัติตัวของเราเอง ทุกคนจะต้องปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นด้วยตนเอง
องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ตถาคตเป็นเพียงแต่ผู้ชี้ทางให้ ส่วนการเดินทางเป็นหน้าที่ของเธอทั้งหลาย พระพุทธเจ้าตรัสคำนี้ สำคัญมาก เราควรจะยึดถือเป็นหลักประจำจิตใจว่า สิ่งไรที่จะสำเร็จขึ้นได้ นั้น จะสำเร็จได้ด้วยการปฏิบัติ หรือด้วยการกระทำของตนเอง ไม่ใช่สำเร็จได้ด้วยการวิงวอนขอร้องบนบานศาลกล่าว เรื่องการวิงวอนขอร้องนั้นไม่มีในวงการพระพุทธศาสนา
ที่เราเห็นเขากระทำกันอยู่บ้างทั่วๆไปนั้น ขอให้พึงเข้าใจว่าเป็นการกระทำที่นอกลู่นอกทาง ไม่ได้เป็นการกระทำตามธรรมวินัย หรือตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่เป็นการกระทำแบบอื่นนอกพุทธศาสนาของเรา ซึ่งเราผู้มาบวชมาศึกษาเรื่องธรรมวินัยแล้ว ก็ควรจะทำความเข้าใจว่า การกระทำอย่างนั้นมิใช่วิสัยของพุทธบริษัท แต่เป็นเรื่องของสิ่งอื่นนอกเหนือจากความเป็นพุทธบริษัท แล้วเราจะต้องไปกระทำในรูปอย่างนั้นได้อย่างไร
การแก้ไขปัญหาชีวิตไม่ว่าเรื่องใด ๆ เราต้องแก้ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า หลักคำสอนของท่านสอนให้เราแก้ด้วยการพิจารณาตัวเอง ค้นหาเหตุภายในตัวของเรา เมื่อพบเหตุนั้นแล้วจงตัดเหตุนั้นเสีย เพราะสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นจากเหตุ ไม่มีเหตุ ผลจะเกิดขึ้นไม่ได้ เหตุที่จะทำให้เกิดผลอะไรขึ้นนั้น ส่วนมากอยู่ในตัวของเราเอง อยู่ที่การคิด การพูด การกระทำของตัวเราเป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่เราได้มากระทำการกราบไหว้ในตอนเช้า-เย็นนี้ ไม่ได้หมายความว่าเรามาขอร้องอ้อนวอนอะไร ดังที่ได้กล่าวแล้ว แต่ว่าเรามากล่าวสรรเสริญคุณงามความดีของพระผู้มีพระภาคเจ้า การกล่าวสรรเสริญคุณงามความดีของพระองค์นั้น เป็นเครื่องก่อให้เกิดความเชื่อเลื่อมใสในพระองค์มากยิ่งขึ้น เป็นเหตุให้เราจะได้เดินตามรอยยุคลบาทต่อไป อย่าว่าแต่คนนับถือพุทธศาสนามาแต่กำเนิดเลย แม้แต่ผู้ที่ยังไม่ได้นับถือพุทธศาสนา เมื่อได้มาศึกษาความเป็นมาของพระพุทธเจ้า เขาก็มีความรัก ความเลื่อมใสในพระองค์ จนถึงกับพูดได้ว่า ยิ่งอ่านเรื่องพระองค์มากเท่าใด ยิ่งรักพระองค์มากเท่านั้น อันนี้ เป็นผลของการที่นึกถึงบ่อยๆ คิดถึงบ่อยๆ
ถ้าหากเรามีเวลาว่าง เวลาอื่นเราก็ควรที่จะเอาหนังสือทำวัตรเช้าเย็น มาอ่านมาพิจารณาเป็นข้อๆไป โดยเฉพาะข้อที่เกี่ยวกับพระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้า เราควรจะนำมาพิจารณา เช่น บทที่ว่า อะระหัง นี้ หมายความว่าอย่างไร ? สัมมาสัมพุทโธ หมายความว่าอย่างไร ? สุคะโต โลกะวิทู อะไรเหล่านี้ หมายความว่าอย่างไร ? เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจชัดเจนในเรื่องนั้น ไม่ใช่สักแต่ว่า จำได้ สวดได้ แต่เราต้องเข้าใจความหมาย เมื่อเรานึกถึงบทใดบทหนึ่ง ก็คิดซึ้งไปในข้อความนั้นๆ อันนี้แหละ จะช่วยให้เราได้เข้าถึงพระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้ามากขึ้น
Create Date : 23 ธันวาคม 2564 |
Last Update : 25 ธันวาคม 2564 8:05:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 339 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|