|
|
ต่อไป เข้าถึงพระปัญญา ปัญญาก็หมายความว่า เราต้องศึกษาหาความรู้ความเข้าใจ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หาความรู้ใส่สมอง อย่าใช้เวลาว่างหาของใส่ท้องให้มันมากเกินไป คนไทยเรา มันเป็นอย่างนั้น สังเกตดูเถอะ ขึ้นรถโดยสารมีแต่หาเรื่องหาของใส่ท้องเท่านั้นแหละ กินกันจริงๆ กินถั่ว กินงา กินข้าวโพด สับปะรด กินกล้วย เต็มไปหมดขยะมูลฝอย กินแล้วก็ทิ้งลงไป ทิ้งทางหน้าต่าง ทิ้งตรงนี้ตรงนั้น รกจริงๆ กินจริงๆ คนที่เจริญเขาโดยสารรถไปไหน เขาไม่กินกัน เขากินน้อยๆ กินเสร็จแล้วขึ้นรถ ของเราไม่ได้ พวกที่เจริญหน่อย ไม่กินของเป็นก้อน กินของเป็นน้ำ พอขึ้นรถก็ต้องดื่มเบียร์ ดื่มเหล้า คุยกันไป เอะอะโวยวาย พุทโธ่เอ๊ย หลวงพ่อขึ้นรถบ่อยๆ เพราะมีตั๋วไปไหนมาไหนสะดวกชั้นหนึ่งเสียด้วย พบคนชั้นดี แต่ขี้เมาทั้งนั้น นานๆ จะเจอสุภาพบุรุษสักคนหนึ่ง ปีหนึ่งจะเจอสัก ๒ คน แต่ขี้เมาละก็มากเหลือเกิน เมาจริงๆ ถ้าไปดูรถเสบียง ไม่มีใครนั่งอ่านหนังสือ มีแต่คนขี้เมาทั้งนั้น ใช้เวลาในเรื่องกินเหล้าทั้งนั้น ไม่ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ แล้วมันจะเจริญได้อย่างไร สมองจะก้าวหน้าได้อย่างไร ท้องเจริญแต่สมองมันแย่นะ แต่คนเรามันต้องให้สมองเจริญ ไม่ใช่ให้ท้องเจริญ กินเท่าที่จำเป็น ไม่กินมากเกินไป ไปไหนก็หาหนังสือที่ยังไม่ได้อ่าน ติดมือถือไปสักเล่ม ไปในรถไฟ นั่งทำไมเฉยๆ อ่านเข้าไว้ และนั่งใกล้ผู้รู้ ผู้ฉลาด หมั่นคิด หมั่นตรองในสิ่งต่างๆ ที่เราประสบพบเห็น เรียกว่า หาปัญญาในทางโลกก่อน
ต่อไปก็หาปัญญาเกี่ยวกับตัวเรา ให้รู้จักสภาพจิตใจของเรา รู้อะไรดี อะไรชั่ว อะไรเป็นเหตุของความทุกข์ อะไรเป็นเหตุของความเสื่อม อะไรเป็นเหตุให้เกิดความเจริญ ควรศึกษาให้รู้ว่าอะไรมันเกิดอย่างไร มันมาอย่างไร ธรรมของพระพุทธเจ้าสอนไว้ทุกอย่าง สอนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงที่สุด อะไรมันเกิดอย่างไร ท่านวางไว้หมด หมั่นศึกษาเอามาคิดมาค้น
การศึกษาในเบื้องต้น มันก็ต้องเรียนจากหนังสือเป็นธรรมดา ฟังอาจารย์สอนเป็นธรรมดา แต่นี่เป็นความรู้ชั้นสอง. ความรู้ชั้นหนึ่ง มันอยู่ที่ตัวเรา ต้องไปศึกษาจากตัวเรา ศึกษาจากร่างกายเรา ยาววาหนึ่ง หนาคืบ กว้างศอก นี้แหละ ต้องคิดค้นหาความคิดความอ่าน การกระทำของเราในตัวเรา มันมีทั้งนั้น บาปบุญก็อยู่ในตัวเรา นรกก็อยู่ในตัวเรา สวรรค์มันก็อยู่ในตัวเรา เราต้องพยายามศึกษาให้เกิดปัญญา ให้เข้าใจเรื่องชีวิตถูกต้อง ให้เข้าใจเรื่องทั้งหลายถูกต้อง เมื่อเราเข้าใจถูกต้อง จิตมันบริสุทธิ์ขึ้นเอง เพราะจิตที่บริสุทธิ์เกิดจากปัญญา เกิดจากความรู้ ความเข้าใจ เมื่อเรามีปัญญา เราก็มีความบริสุทธิ์ ที่ถ้ำพัทลุงมีพระพุทธรูปมาก แต่มีพระอยู่แถวหนึ่ง เขาเรียกว่า พระปัญญา เวลาเป็นเด็กนี่เคยไปกับคุณยาย ยายบอกว่าไหว้พระปัญญา ไปขอให้มีปัญญา เราก็ต้องไปไหว้ กราบลูบ ไปทีไรต้องไปกราบทุกที พระองค์ใหญ่ คือ พระบริสุทธิ์ พระกรุณา พระปัญญา เขาทำไว้อย่างนั้น คนโบราณเขาทำถูกนะ ในโบสถ์ปักษ์ใต้ เขามีพระ ๓ องค์ เท่ากัน หมายความว่า พระบริสุทธิ์ พระกรุณา พระปัญญา เขาทำไว้ ๓ องค์
นี่แหละเรียกว่า เขาถึงเนื้อแท้ ถึงคุณของพระพุทธเจ้า ในการปฏิบัติ ในชีวิตประจำวัน เช่น เรา ปฏิบัติศีล ปฏิบัติฝึกสมาธิ คิดค้นให้เกิดปัญญา ก็เรียกว่า เดินทาง เดินทางไปหาพระพุทธเจ้า องค์พระพุทธเจ้าที่แท้ก็คือ ความบริสุทธิ์ นั่นเอง สุทธิหรือความบริสุทธิ์ สะอาด สว่าง สงบ สะอาด สว่าง สงบ ๓ ส. นั่นแหละเนื้อแท้ของพระพุทธเจ้า ใจเราสะอาด ใจเราสงบ แล้วใจเราก็สว่างด้วยปัญญา เราก็ถึงพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ให้ถึงเรื่องนี้ ให้ถึงธรรมะ ธรรมที่เป็นข้อปฏิบัตินี้แหละ เรียกว่าทางเดิน ธรรมที่เป็นผล ที่เกิดจากการปฏิบัติ เรียกว่า เป็นตัวที่เราเข้าถึง เข้าถึงสิ่งนั้น ส่วนสิ่งอื่นนั้น นอกจากนั้นเป็นเพียงแต่เปลือก เป็นเครื่องจูงใจเราไม่ได้หนักหนา เราต้องพึ่งตัวเอง ต้องช่วยตัวเอง เพื่อเข้าถึงสิ่งสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือพระธรรม คือเนื้อแท้ของพระพุทธเจ้า นี้เรียกว่า เข้าถึงพระพุทธเจ้า
Create Date : 10 มกราคม 2565 |
Last Update : 10 มกราคม 2565 8:39:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 338 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|