|
นางฟ้า's Diary
จากฮาวายคราวนี้พิมต้องทำไพล์ทเข้าซัปโปโรค่ะ ซับโปโรอยู่บนเกาะฮอกไกโดที่เป็นเกาะอยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู หน้าหนาวก็จะหนาวมาก และเค้าก็มีเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่นี่ด้วยค่ะ พิมนะอยากไปดูมากๆ แต่พิมไม่ค่อยจะได้บินมาที่ซัปโปโรบ่อยเท่าไหร่นัก มาทีไรก็ไม่ตรงกับเทศกาลซะทุกทีค่ะ
แต่บินแพทเทิร์นนี้พิมไม่ได้พักที่ซัปโปโรหรอกนะคะ พอส่งผู้โดยสารเสร็จ เรียบร้อยบรรดาลูกเรือก็ต้องวิ่งจี๋ตรงไปที่ห้องน้ำค่ะ เพื่อที่จะเปลี่ยนชุดจากชุดทำงานเป็นชุดสุภาพเพราะเราจะเดทเฮดไปนาริตะกันต่อค่ะ เพราะฉะนั้นตอนที่ออกมาจากฮาวายเราก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าอีกหนึ่งชุดใส่ไว้ในกระเป๋าที่ลากขึ้นเครื่องบินเพราะต้องมาใช้จากที่นี่ไงค่ะ เราไม่สามารถที่จะใส่ชุดทำงานเดทเฮทกลับไปได้ค่ะ
พอเปลี่ยนชุดกันเสร็จก็ต้องไปเช็คอินเพื่อเอาบอร์ดดิ้งพาส พอได้มานัดเวลากันเรียบร้อยว่าจะต้องไปเจอกันที่เกทกี่โมงแล้วก็แยกย้ายกันไป ส่วนมากก็จะไปเดินเล่นช็อปปิ้งดูของกันในแอร์พอร์ทนั่นแหล่ะค่ะ พอได้เวลาก็ไปเจอกันแล้วก็ขึ้นเครื่อง พอขึ้นเครื่องเรียบร้อยพนักงานต้อนรับบนเครื่องลำนั้นก็จะนำเอาข้าวกล่องมาแจกให้ส่วนมากจะมีให้เลือกสองชนิดค่ะ พวกเราซึ่งมักจะได้นั่งแถวหลังสุด พอรับมาก็จะทานกันอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก เพราะไม่งั้นผู้โดยสารอื่นๆจะแปลกใจว่าทำไมพวกเขาไม่ได้รับแจกอาหารกันบ้าง พอทานเสร็จส่วนมากก็จะหลับ เพราะทำไพล์ทมาจากฮาวายเหนื่อยนะคะ เหนื่อยและง่วงด้วยสิ
เย็นๆก็ถึงนาริตะ ทุกอย่างก็เหมือนเดิมกลับไปโรงแรม โทรหาเพื่อนนัดทานข้าว นัดไปเดินเล่นซื้อของ เข้านาริตะรอบนี้ง่ายๆสบายๆ เพราะวันพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องทำไพล์ทกับกรุงเทพแต่ว่าพิมจะเดทเฮทกลับกันค่ะ
Cha-no-yu tea ceremony
เย็นนี้พิมมีนัดกับเพื่อนกับรุ่นน้องว่าเราจะไปเที่ยวงานวัดญี่ปุ่นกันตอนหัวค่ำค่ะ นั่งรถไฟไปสองสถานีก็ถึงแล้ว เพื่อนที่ไปด้วยจบเอกญี่ปุ่นมางานนี้ไว้ใจได้ว่าเราไม่มีหลงกันแน่ๆ งานนี้ไปเพื่อหม่ำกับถ่ายรูปกันเลย เริ่มกันจากทานโอโคโนมิยากิหรือพิชซ่าญี่ปุ่น ตามด้วยทาโคยากิลูกชิ้นปิ้งญี่ปุ่น อิ่มอร่อยกันเลยค่ะ งานวัดญี่ปุ่นก็ไม่มีอะไรมากส่วนมากก็ขายอาหารแล้วก็มีเกมส์เล่น แล้วก็มีแห่พระ (หรือเปล่าพิมก็ไม่แน่ใจค่ะ) คือมีแห่แล้วก็จะมี ป้าๆญี่ปุ่นเดินรำตามมาสนุกดีค่ะ ส่วนมากคนญี่ปุ่นทั้งสาวทั้งแก่ก็จะใส่ชุดกิโมโนไปงานกันนะคะ
พิมน่ะอยากลองใส่กิโมโนแล้วถ่ายรูปเก็บไว้มากๆเลยค่ะ แต่ก็ไม่เคยสักทีเพราะถ้าไปตามร้านที่มีให้เช่ามันแพงมากๆ เลยไงค่ะ เราสามคนมัวแต่เดินเล่นกันเพลินไม่ได้ดูนาฬิกากัีนเลย ดูอีกทีก็เกือบจะพลาดรถกลับโรงแรมเที่ยวสุดท้ายกันเลยค่ะ งานนี้เลยต้องวิ่งกันหน่อย แล้วพิมนะคะใส่ส้นสูงประมาณสามนิ้วค่ะวันนั้น วิ่งก็ต้องระวังอย่าให้ล้ม เจ็บเท้าก็เจ็บต้องวิ่งไปขึ้นรถไฟ แล้วก็วิ่งจากสถานีไปตรงที่รถโรงแรมจอดรอรับค่ะ เพราะถ้าพลาดก็ ต้องนั่งแท็กซี่กลับกัน ถ้าต้องกลับด้วยรถแท็กซี่ละก็จนกันแน่ๆค่ะ แท็กซี่ที่ญี่ปุ่นแพงมากๆ
เล่าถึงแท๊กซี่จำได้ค่ะเคยมีอยู่ครั้งนั่งแท็กซี่เนี่ยล่ะ แล้วส่วนมากคนขับรถ แท๊กซี่ญี่ปุ่นจะใส่ถุงมือสีขาวกันค่ะ คนขับให้พิมวันนั้นน่ะก็ใส่ถุงมือแหล่ะ แต่ สังเกตุได้ว่านิ้วก้อยคุณลุงหายไป กิ๊ด กิ๊ด อยู่ในใจ พร้อมกับคิดว่าคุณลุงเป็นหรือเคยเป็นพวกพี่ยะหรือเปล่าเนี่ย ประมาณว่าทำความผิดเลยโดนตัดนิ้วก้อย กิ๊ดกิ๊ด (พี่ยะก็คือยากูซ่านะคะ เราเอ่ยตรงๆกันไม่ได้เดี๋ยว คนญี่ปุ่นฟังรู้เรื่อง เราเลยต้องเรียกกันว่าพี่ยะค่ะ)
แท็กซี่ญี่ปุ่นเนี่ยไฮเทคมากนะคะ คุณลุงคนขับจะมีสวิทส์เปิดประตูอัตโนมัติ ค่ะ จอดปุ๊บประตูเปิดเองปั๊บ ขึ้นรถปุ๊บประตูปิดเองทันใดปั๊บ ขึ้นครั้งแรกออกจะ ตกอกตกใจเหมือนกันนะคะ
Create Date : 18 เมษายน 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 18 เมษายน 2551 21:30:34 น. |
Counter : 513 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ลิตช์ (Litchi ) 19 เมษายน 2551 0:23:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: นวลกนก 23 เมษายน 2551 20:55:18 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ปล.ได้เที่ยวบ่อยจังนะคะช่วงนี้