Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ปีกนางฟ้า 16


16.

เช้าวันรุ่งขึ้นไมค์เดินมาพาน้องสาวพี่น้องไปยังชายหาดที่มีผู้คนมาเล่นบอดี้บอร์ดกัน เขารู้สึกได้ว่าปริมเฉยเมยกับเขา ไม่เหมือนกับเมื่อวานที่เธอยิ้ม หัวเราะเป็นกันเองกับเขามากกว่านี้ ไม่รู้ว่ายูมิมาพูดอะไรกับปริม เขาอยากจะถามอยากจะคุยกับปริมเหลือเกินแต่เขาก็แทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวกับเธอเลย

“ไมค์ พี่ปริมเปลี่ยนใจไม่ยอมลงเล่นบอดี้บอร์ดกับเราละ” เปรียวเอ่ยปากบอกกับเขา

“อ้าวทำไมละครับ สนุกนะฮะปริม คุณน่าจะลองเล่น”

“ไม่ดีกว่าค่ะ ปริมขอนอนเล่นอ่านหนังสือรอดีกว่าค่ะ คุณพายัยเปรียวไปหัดเล่นเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”

“คุณนั่งเล่นแถวนี้ก่อนก็ได้ฮะ เปลี่ยนใจเมื่อไหร่ได้เสมอเลยนะครับ”

“เล่นกันให้สนุกนะคะ เปรียวระวังตัวด้วยนะ” ปริมเตือนน้องสาว

ลักษณะการเล่นบอดี้บอร์ดก็คือ จะใช้บอร์ดที่คล้ายๆ กับเซิร์ฟบอร์ด เพียงแต่เล็กกว่าแล้วจะมีสายพันบอร์ดไว้กับข้อเท้าเอาไว้เพื่อไม่ได้บอร์ดหลุดหายไปไหน เวลาเล่นก็เดินออกไปโต้กับคลื่นแล้วเอาตัวแนบไปกับบอร์ดให้คลื่นดันบอร์ดและตัวเราให้อยู่ด้านบน ปริมนั่งมองไมค์ที่สอน เปรียวอยู่นาน ก็นึกสนุกเหมือนกันแต่เธอไม่อยากจะทำตัวสนิทสนมกับไมค์ไปมากกว่านี้ เธอไม่อยากให้ไมค์ต้องมาปิดกั้นตัวเองเพราะเธอ ปริมลุกขึ้นเดินเล่นไปคนละทางกับที่ไมค์กับเปรียวกำลังเล่นน้ำกันอยู่ เธอไม่รู้เลยว่าไมค์ได้ขอตัวจากเปรียวเดินตามเธอมาห่างๆ เขาอยากจะคุยกับเธอเรื่องยูมิ อยากจะบอกเธอให้รู้ว่าเขาบอกตัดสัมพันธ์กับยูมิไปอย่างเด็ดขาดแล้ว ต่อไปยูมิจะไม่มายุ่งกับเธออีก

แต่ไม่ทันที่ไมค์จะเดินมาถึงปริม เขาก็เห็นว่าปริมเดินลงทะเล ทันใดนั้นคลื่นลูกใหญ่ก็ถาโถมเข้ามา ปริมรับแรงต้านของคลื่นไม่ไหวเธอล้มลงไปในน้ำ ไมค์เห็นอย่างนั้นจึงรีบวิ่งไปสุดตัว เขารู้ว่าถ้าเธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกคลื่นจะดูดเธอไว้ด้านล่างพาออกไปนอกทะเล เขารีบวิ่งไปเพื่อที่จะดึงปริมเอาไว้ พยายามยกตัวเธอให้ยืนขึ้นมา พร้อมทั้งตะโกนอย่างตกใจว่า “คุณไม่เป็นอะไรนะปริม คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ”

ปริมพยายามพูดทั้งๆ ที่กำลังสำลักน้ำทะเล “ไมค์ช่วยปริมด้วยค่ะ ช่วยด้วย”

“ไม่เป็นไรแล้วครับ คุณไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องตกใจนะ ผมอยู่ตรงนี้” ไมค์อุ้มเธอขึ้นมาจากทะเล พาเดินมายังที่นั่งพัก พร้อมๆ กับที่เปรียววิ่งกระหืด กระหอบขึ้นมาจากน้ำ

“พี่ปริมเป็นอะไรน่ะ ทำไมจมน้ำไปได้ เกิดอะไรขึ้นคะไมค์” เปรียวถามอย่างตกใจ

“ปริมเดินลงทะเลแล้วเผอิญคลื่นมาน่ะ ปริมคงไม่ทันระวังเลยล้มสำลักน้ำ ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วครับ เปรียวช่วยหยิบน้ำเปล่ามาให้ปริมดื่มหน่อยนะ เดี๋ยวผมจะไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ปริม”

เปรียวรีบส่งน้ำให้พี่สาวพร้อมกับพูดว่า “พี่ปริมเป็นไงมั่ง ดีขึ้นรึยัง หายตกใจยังคะ”

“ไม่เป็นอะไรแล้วเปรียว แต่เมื่อกี้พี่กลัวมากเลยนะ พี่ล้มแล้วพี่พยายามจะยืนแต่ทรายมันลากพี่ลงไป พี่ยืนไม่ไหวเลยสำลักน้ำ นึกว่าจะจมน้ำตายซะแล้วสิ” เธอเล่าให้น้องสาวฟัง พร้อมทั้งยื่นมือไปรับผ้าเช็ดตัวมาจากไมค์ “ขอบคุณมากนะคะไมค์ ถ้าคุณไม่เห็นฉันสงสัยฉันต้องแย่แน่ๆ เลยค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ตกใจน่าดูเหมือนกัน ว่าจะเดินไปถามคุณว่าจะไปไหนก็เห็นคุณล้มลงซะก่อน ไม่เป็นไรแล้วนะครับตอนนี้ อย่าเพิ่งกลัวทะเลไปละครับปริม”

“ปริมคงไม่กล้าลงน้ำอีกนานล่ะคะ” เธอตอบกลับเสียงอ่อยๆ “ปริมคงไม่เดินไปไหนแล้วล่ะค่ะ ไมค์กับเปรียวไปเล่นกันต่อเถอะ ไม่ต้องมานั่งเฝ้าปริมกันหรอก”

“ไม่เล่นแล้วพี่ เหนื่อย เปรียวนอนพักดีกว่า”


หลังจากทั้งสามคนทานอาหารเที่ยงที่ไมค์ขับรถออกไปซื้อมาให้สักพัก เปรียวก็เอนตัวลงนอน ไมค์เอ่ยชวนปริมว่า “ปริมฮะ ไปเดินเล่นกับผมนะฮะ”

เธอหันไปมองน้องสาว เห็นว่าเปรียวกำลังหลับสบาย เลยหันไปตอบไมค์ว่า “โอเคค่ะ” ทั้งคู่เดินเคียงกันไปตามชายหาด ลมพัดโชยอ่อนๆ ไมค์ถามปริมขึ้นมาว่า “เมื่อวานผมเห็นยูมิคุยกับคุณ คุยอะไรกันเล่าให้ผมฟังบ้างได้มั๊ยฮะ”

ปริมตอบกลับไปเพียงแค่ว่า “เรื่องของสาวๆ น่ะค่ะ คุณคงไม่อยากรู้หรอก” เธอเงยหน้าขึ้นไปยิ้มกับไมค์ แล้วพูดต่อว่า “พูดจริงๆ ยูมิก็น่ารักนะคะ เธอคงชอบคุณมากๆ คุณไม่คิดจะมองเธอให้ดีกว่านี้หรือคะ”

“ผมไม่ได้ชอบยูมิในลักษณะนั้น คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วจะมาเชียร์ผมทำไม” ไมค์ทำเสียงให้รู้ว่าไม่ชอบใจนักที่ปริมพูดอย่างนี้ “อีกอย่างผมอยากจะบอกคุณด้วยว่า ผมพูดกับยูมิไปแล้วว่าอย่ามายุ่งกับคุณกับผมอีก เราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันนอกจากเป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้นนะฮะ” ไมค์หยุดเดิน หันมามองหน้าปริม พร้อมทั้งเอื้อมมือไปกุมมือเธอเอาไว้ “ปริม ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมจะพูดมันอาจจะเร็วไปสำหรับคุณ แต่ผมมั่นใจความรู้สึกนี้ มันไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวันสองวันที่ผ่านมา แต่มันสร้างสมมานานมากแล้ว เริ่มตั้งแต่วันที่ผมเห็นคุณครั้งแรกและตั้งแต่นั้นผมไม่เคยเปิดใจให้ใคร อีกเลย ปริมครับ ผมรักคุณ ผมอยากให้คุณมองผมใหม่ ลองศึกษาผมว่า ผมสามารถจะเป็นคนรักที่ดีของคุณได้หรือไม่ ผมสามารถที่จะปกป้องดูแลคุณเป็นอย่างดีหรือไม่ สำหรับตัวผม ผมแน่ใจว่าผมทำได้และทำได้อย่างดี เพราะผมรักคุณมากนะปริม”

ปริมหน้าแดงซ่าน รู้สึกขัดเขินเหมือนเป็นหญิงสาวที่เพิ่งเคยโดนบอกรักครั้งแรก เธอพยายามที่จะเอามือเธอออกมาจากมือใหญ่มั่นคงคู่นั้น แต่ไมค์ไม่ยอมให้เธอทำเช่นนั้น ไมค์พูดต่อไปว่า “อย่าปิดกั้นตัวเองเลยนะครับปริม อดีตที่ผ่านมาเราเอามาเป็นบทเรียนสำหรับวันข้างหน้า ผมไม่รีบร้อนขอคำตอบจากคุณ แต่ผมเพียงแต่อยากให้คุณบอกว่าคุณไม่รังเกียจผม เปิดใจรับผมบ้างเพียงแค่นั้นผมก็พอใจ แต่หากว่าคุณคิดว่ายังไงซะระหว่างเราไม่สามารถมีทางเป็นไปได้ ผมก็อยากให้คุณบอกผมมาเลย ผมพร้อมที่จะเดินจากไป ถ้านั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณสบายใจ .... ว่าไงฮะปริม คุณพอที่จะให้โอกาสผมบ้างได้มั๊ย”

ปริมยังคงยืนงงกับสิ่งที่เธอได้รับฟัง เธอไม่นึกว่าไมค์จะพูดกับเธอเช่นนี้ รู้น่ะรู้ว่าไมค์คิดยังไงกับเธอ เพียงแต่ไม่เคยได้ยินคำพูดเล่านี้จากปากของเขา ปริมตัดสินใจพยักหน้าตอบรับกับสิ่งที่เขาถาม และสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงต่อมาก็คือไมค์กลับรวบตัวเธอเข้าไปกอด เธอพูดเสียงอู้อี้ออกมาว่า “ปล่อยคะ ไมค์ อายเขา”

“ขอโทษฮะปริม ผมลืมตัวไป ผมดีใจฮะ หลายวันมาเนี่ยผมคิดแต่เรื่องนี้ เรื่องของคุณกับผม ผมกลัวว่าจะมาจุ้นจ้านกลายเป็นทำให้คุณรำคาญ วันนี้ผมได้พูดในสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณและคุณให้โอกาสกับผม แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วฮะ เดี๋ยวเย็นนี้เราต้องฉลองกันหน่อยนะปริม ... เอ่อ.. ผมบอกเปรียวได้มั๊ยฮะ” ไมค์แสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้าจนปริมอดขำไม่ได้

“ไมค์คะ ปริมแค่บอกว่าจะรับคุณไว้พิจารณานะ ปริมยังไม่ได้รับรักคุณซะหน่อย”

“อืมมม นั่นสินะ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นก้าวแรกที่งดงาม ยังไงก็ต้องฉลองฮะ คุณเดินเล่นกับผมต่อก่อนนะ อย่าเพิ่งกลับไปหาเปรียวนะ ผมหาโอกาสที่จะได้อยู่ตามลำพังกับคุณอย่างนี้ยากจังเลย ... แต่อย่าเข้าใจผิดนะฮะ ผมก็ชอบน้องสาวคุณนะ เธอน่ารักสดใสดี ผมเห็นเธอเหมือนน้องสาวผมคนหนึ่งเหมือนกัน”


ทั้งคู่เดินเล่นคุยกันจนเพลิน ไมค์เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตของเขาให้ฟัง เขาเป็นลูกชายคนเดียวของที่บ้าน เขาเล่าถึงภรรยาเก่าที่เลิกรากันมานานหลายปีและตอนนี้ก็คบหากันเป็นเพื่อน สาเหตุที่เลิกกันไม่มีใครผิดใครถูก เพียงแต่ว่าทั้งสองคนเข้ากันไม่ได้แค่นั้นเอง เขาบอกกับปริมว่า เขาอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีลูกหลายๆ คน การเป็นลูกชายคนเดียวมันเหงาน่าดู และเขาก็บอกว่าเขาหลงเสน่ห์สาวไทยอย่างปริมตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นหน้าและก็อกหักอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าปริมแต่งงานไปแล้ว เขาไม่ได้ถามถึงเหตุผลว่าทำไมปริมถึงเลิกรากับศัลย์ และปริมเองก็ไม่ได้เล่าให้ฟ้ง เรื่องบางเรื่องแผลมันยังใหม่เกินกว่าที่จะไปสะกิดได้ เธอเพียงแต่บอกไมค์ว่าเธอมาจากครอบครัวที่อบอุ่นอย่างเหลือเกิน เพราะพ่อแม่และเปรียวทำให้เธอยืนขึ้นใหม่ได้ในวันนี้ ไมค์เอ่ยปากขออนุญาติกับปริมว่าถ้าเขาไปเมืองไทยคราวหน้าอยากจะไปสวัสดีพ่อและแม่ของเธอ ซึ่งเธอก็รับปากไว้แล้ว


“กลับไปหาเปรียวกันดีมั๊ยคะ เราเดินมาไกลมากเลยนะ เดี๋ยวเปรียวจะเป็นห่วงเอา” ปริมชวนไมค์เดินกลับ
ไมค์หันมองกลับไปตามทางที่เพิ่งเดินมาเมื่อสักครู่ “ไม่น่าเชื่อนะฮะว่าเราจะเดินไกลขนาดนี้ คุณเดินกลับไหวมั๊ยปริม”

“ไหวสิคะ วิ่งแข่งกันยังได้นะ”

“ไม่ละครับ ผมว่าเราเดินคุยกันไปช้าๆ ดีกว่า จะรีบร้อนวิ่งไปทำไมละฮะ” ไมค์อมยิ้ม “จริงๆ ผมยังไม่อยากกลับเลยนะ ผมว่าผมจับเปรียวขึ้นเครื่องบินกลับก่อนกำหนดดีกว่าละมั่งเนี่ย”

ปริมหัวเราะ พร้อมบอกว่า “อย่าไปพูดให้เปรียวได้ยินเชียวนะ มีหวังกรี๊ดลั่นหาดละค่ะ ... ไมค์คะ ปริมขอบคุณสำหรับทุกๆ สิ่งนะคะ ตั้งแต่ความเป็นเพื่อนที่ดีที่คุณมีให้กับปริม รวมทั้งการที่คุณดูแลเราสองพี่น้องที่นี้ด้วย ปริมไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดีเลยค่ะ”

“เป็นอย่างที่คุณเป็นทุกวันนี้ก็ดีสำหรับผมมากๆ แล้วครับ” ไมค์ยื่นมือตัวเองออกไปหาปริม และปริมก็ตัดสินใจที่จะวางมือตัวเองไว้ในอุ้มมือที่แข็งแรงมั่นคงนั้น


สิ่งที่เปรียวเห็นข้างหน้าคือคนคู่หนึ่งเดินจับมือกันมา และคนคู่นั้นก็คือพี่สาวเธอกับไมค์ เปรียวไม่แปลกใจที่จะได้เห็นภาพนี้ สำหรับไมค์เห็นตั้งแต่วันแรกก็รู้อยู่แล้วว่าชอบพี่สาวเธอแค่ไหน แต่พี่ปริมเธอยังไม่แน่ใจว่าคิดยังไงกับผู้ชายคนนี้กันแน่ ถามเมื่อไหร่ก็ตอบว่าเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอีกละถ้าพี่สาวเธอจะใจอ่อน ก็ไมค์ทั้งเอาใจทั้งดูแลพี่สาวเธอขนาดนี้ ไม่ว่าเป็นผู้หญิงคนไหนก็ย่อมที่จะใจอ่อนกันทั้งนั้นละ แต่เธอหวังเพียงแค่ว่า พี่สาวของเธอจะมองผู้ชายคนนี้ในตัวตนที่เขาเป็น ไม่ใช่มองเขาแค่เป็นเงาของพี่ศัลย์

“อะไรกัน มาจับมือพี่สาวฉันขออนุญาตผู้ปกครองรึยังคะเนี่ย” เปรียวแซวในทันทีที่ทั้งคู่เดินเข้ามาถึง

“งั้นเดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวเย็น ถือเป็นการขออนุญาตอย่างเป็นทางการนะครับ” ปากก็พูดแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือที่กุมผู้หญิงที่ตัวรักออก ทั้งๆ ที่ปริมพยายามจะดึงมือออกอยู่หลายคราว ตั้งแต่ยังเดินมาไม่ถึงเลยละมั่ง

“ไปทานร้านอาหารอีกแล้วเหรอ ไม่เอาละวันนี้เปรียวขอตัว คุณไปกับพี่ปริมเถอะ ฉันอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ แต่ว่าต้องซื้อกลับมาฝากฉันด้วยแล้วกันนะ เอาอะไรก็ได้ที่แพงที่สุดในร้าน” แล้วเธอก็หันมาบอกพี่สาว “พี่ปริมไปกันเองเถอะนะคะ เปรียวขอตัวดีกว่า”

ไมค์หันไปขยิบตาให้เปรียว เป็นเชิงขอบคุณ ส่วนปริมยังคงเป็นห่วงน้องสาวถามต่อว่า “แล้วพี่ไม่อยู่เปรียวจะทำอะไรละ ไม่เบื่อแย่เหรอ ไปด้วยกันก็ได้นะ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ใช่มั๊ยคะไมค์”

“ใช่ฮะ ไปด้วยกันดีกว่าเปรียว จะได้ไปชมบรรยากาศด้วย ร้านนี้บรรยากาศดีมากนะฮะ เราจะนั่งทานอาหารกันริมทะเลเลยนะ”

“ไม่ละคะ เดี๋ยวเปรียวหาอะไรทำแถวๆ รีสอร์ทนั่นละ ไม่ก็ไปช่วยคิโอดูแลแขกก็ได้ น่าสนุกดีออก ไม่ต้องห่วงเลย” เปรียวยังยืนกรานคำพูดเดิม “ว่าแต่จะกลับกันรึยังคะ เย็นมากแล้วนะ เดี๋ยวพี่ปริมก็แต่งตัวสวยไม่ทันหรอก”

“โอเคฮะ งั้นเรากลับที่พักกันเถอะ” ไมค์ยกข้อมือมาดูนาฬิกา “ตอนนี้สี่โมงเย็น สักหกโมงผมไปรับคุณที่ห้องนะฮะปริม แล้วผมจะสั่งทางห้องอาหารให้เอาอาหารเย็นมาให้เปรียวด้วยเลย”

“ไม่เอาคะ เดี๋ยวฉันไปทานที่ร้านในรีสอร์ทเองดีกว่า ไม่ต้องหอบมาให้ถึงห้องหรอก” เปรียวรีบค้าน

“งั้นเก็บของขึ้นรถกันเถอะค่ะ คุณไม่ต้องห่วงเปรียวหรอก ขานี้รับรองไม่มีวันอดตายค่ะ” ปริมพูดเสร็จก็กระซิบกับไมค์ว่า “ปล่อยมือฉันสักทีสิคะคุณ” นั่นละไมค์ถึงได้ยอมปล่อยมือบางนั้นได้


เมื่อกลับมาถึงห้องพัก เปรียวจับเธอมาซักถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปริมเล่าให้ฟังว่าไมค์พูดว่าอะไรบ้างและเธอตอบว่าอย่างไร เธอถามน้องสาวว่า “มันจะเร็วไปมั๊ยปริม ถ้าพี่จะคบใครคนใหม่สักคน”

“ไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าพี่คบกับคนนั้นที่ตัวตนของเขาเอง ไม่ใช่เพื่อมาแทนที่ใครหรือเป็นเงาของใครอีกคน พี่ปริมถามใจตัวเองให้ดีๆ นะคะว่าเพราะอะไรที่พี่ตัดสินใจอย่างนี้ เพราะพี่ชอบไมค์หรือเพราะพี่เหงา หรือบรรยากาศพาไป อะไรกันแน่ถ้าไม่ใช่เพราะชอบไมค์จริงๆ ก็อย่าทำให้เขาเสียใจนะพี่ ไมค์เองก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เปรียวรู้ว่าเขาชอบพี่ปริมมากๆ อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของคนนะคะ”
เพราะคำพูดของเปรียวทำเอาเธอรู้สึกอึ้งไป เธอไม่เคยถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้เลย แต่เอาน่าไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม อย่างน้อยที่สุดเธอก็ไม่คิดที่จะหลอกไมค์ ทุกอย่างที่เธอทำก็ด้วยความจริงใจไม่ได้มีเล่ห์กลใดๆ ทั้งสิ้น ความสัมพันธ์จะก้าวหน้าไปถึงไหนก็เป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกัน


วันนี้ปริมหยิบโสร่งสีสดใสมาใส่กับเสื้อคอคล้องสีดำ ปล่อยผมยาวให้สยายไปข้างหลัง พร้อมหยิบดอกลั่นทมมาทัดหูหนึ่งดอก แต่งหน้าอ่อนๆ เป็นสาวชาวเกาะอย่างเต็มตัวเลยทีเดียว เหมือนกับนัดกันมากับไมค์ เพราะเขาก็ใส่กางเกงขายาวสีกากีกับเสื้อฮาวายสีสดใสเช่นเดียวกัน เปรียวเห็นคนทั้งคู่ถึงกับหัวเราะกิ๊ก

“นัดกันแต่งตัวหรือไงคะเนี่ย”

“คนใจตรงกันก็เป็นอย่างนี้ละครับเปรียว” ไมค์ตอบพร้อมยิ้มหน้าบาน

“ฮิ๊ววววววววว ทนฟังไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าคุณก็พูดอย่างนี้เป็นเหมือนกันนะ” เปรียวเดินกอดแขนพี่สาวมาส่งที่หน้าประตู “ดินเนอร์กันให้มีความสุขนะคะ แล้วต้องพานางซินกลับมาก่อนเที่ยงคืนนะ ไม่งั้นเดี๋ยวรถม้าจะกลายเป็นรถฟักทองไปซะละ”

“เดี๋ยวเปรียวจะไปไหนต่อ เปลี่ยนใจไปกับพี่มั๊ย” ปริมยังคงเป็นห่วงน้องสาว

“ไม่ละค่ะ เดี๋ยวเปรียวจะเดินไปดูคิโอหน่อย เผื่อมีอะไรให้เปรียวช่วยได้บ้าง พี่ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงเปรียว อืม เดี๋ยวเปรียวจะโทรหาพ่อกับแม่ด้วย พี่ปริมจะฝากอะไรถึงมั๊ย”

“บอกนะว่าพี่คิดถึง แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วง อ้อ ไม่ต้องบอกนะว่าพี่เกือบจมน้ำเมื่อเช้า เดี๋ยวพ่อกับแม่ตกใจแย่ ... พี่ไปนะเปรียว”


ไมค์พาเธอมานั่งทานอาหารเย็นที่ร้านหรูในเกาะ ลักษณะของร้านทำเหมือนเพิงใหญ่ๆ สร้างขึ้นมาจากไม้ทั้งหลัง แต่ด้านในจัดอย่างหรูหรางดงาม ไมค์พาเธอนั่งรับลมทะเลด้านนอก อากาศกำลังสบายปริมสังเกตว่าลมจากทะเลฮาวายจะไม่ทำให้เหนอะหนะตัวเหมือนกับทะเลเมืองไทย แต่ถ้าพูดถึงทรายขาวนิ่มละสู้ทะเลเมืองไทยไม่ได้เลย ปริมเพิ่งรู้ว่าไมค์ไม่ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอร์เลย ซึ่งเธอเองก็เช่นกัน ยังจำได้ถึงเหตุการณ์วันที่เธอไปเที่ยวซิงกิ้งบาร์แล้วเมา ปริมสัญญากับตัวเองว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะดื่มเครื่องดื่มประเภทนั้น

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มตกฟ้าเริ่มมืด ทางร้านก็จะมีการเป่าหอยสังข์เป็นสัญญาณว่าจะเริ่มจุดคบไฟ บริเวณด้านนอกจะไม่มีการใช้ไฟฟ้า ทุกๆ มุมจะ มีเสาคบเพลิงสร้างความสว่างและสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกยิ่งขึ้น

“คุณชอบร้านนี้มั๊ยฮะปริม” ไมค์ถามระหว่างที่รอของหวาน

“ชอบมากค่ะไมค์ บรรยากาศดี๊ดีนะคะ อาหารก็อร่อยใช้ได้เลยนะ”

“คืนนี้เป็นคืนที่ผมมีความสุขมากเลยฮะปริม ขอบคุณนะครับ”

“คุณนี่แปลกจริงๆ นะคะไมค์ คุณพาปริมมาทานข้าวร้านสวยๆ แบบนี้ แล้วกลับมาขอบคุณปริม ปริมสิคะต้องเป็นฝ่ายขอบคุณคุณมากกว่า”

“ขอบคุณที่คุณนำความสุขมาให้ผมไงฮะ” ไมค์เอื้อมมือมากุมมือเธอเอาไว้ “ผมสัญญานะปริม อะไรที่ทำให้คุณมีความสุข ผมจะทำให้คุณทุกอย่างขอให้เชื่อใจและมั่นใจในตัวผมนะฮะ”

“ปริมขออะไรอย่างหนึ่งนะคะ อย่าโกหกกัน อย่าหลอกปริม สัญญานะคะ”

“ครับ ผมสัญญาฮะปริม”

“เดี๋ยวเราไปเดินเล่นริมชายหาดก่อนสักพักแล้วค่อยกลับนะครับปริม ยังไม่ดึกเท่าไหร่เลย”

“ตามใจคุณสิคะ”

ปริมรู้สึกมีความสุขมากขึ้นกว่าตอนที่จากเมืองไทยมา เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองยังคงมีค่าอยู่ อย่างน้อยผู้ชายคนข้างๆ คนนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกอย่างนั้น บวกกับบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก คงไม่แปลกหรอกที่เธอจะใจอ่อนลงไปบ้าง



ไมค์ขับรถมาส่งเธอที่หน้าห้องพัก เสียงเครื่องยนต์รถคงทำให้เปรียวได้ยินเลยเปิดประตูออกมาดู

“พี่ปริม ไมค์ เกิดเรื่องแล้วละ” เปรียวรีบเรียกทั้งสองคนลงมาคุยด้วยกัน

“ทำไมเหรอเปรียว” ปริมรีบถามน้องสาว

“ยัยยูมิน่ะสิ หายตัวไป ไม่ใช่หายแต่ตัวนะ มันยังกวาดเอาเงินสดที่อยู่ในตู้เคชเชียร์ทั้งที่ร้านและที่เคาเตอร์เช็คอินไปด้วยหมดเลยนะ ยังดีที่คิโอบอกว่าไม่ได้มีมากมายอะไร”

“เป็นไปได้เหรอเปรียว ยูมิทำงานกับคิโอมาตั้งหลายปีแล้วนะ ไม่น่าที่เธอจะทำอย่างนี้เลย” ไมค์รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก และสังหรณ์ใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคราวนี้คงเป็นเพราะเขาเป็นต้นเหตุ

“ได้หรือไม่ได้ก็หายกันไปทั้งคนทั้งเงินแล้วละไมค์ คิโอก็เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น” เปรียวหันไปตอบไมค์อย่างหงุดหงิด ไม่เข้าใจจะต้องปกป้องกันทำไมนะ

“แล้วเปรียวไปรู้เรื่องได้ยังไงเนี่ย” ปริมถามต่อ

“ก็เมื่อเย็นพอส่งพี่ปริมเสร็จ เปรียวก็ไปที่รีสอร์ทไง ทางนู้นกำลังวุ่นใหญ่เชียวละ เปรียวก็เลยไปช่วยคิโอเขา ก็เลยได้รู้เรื่องไงละพี่ปริม เนี่ยเปรียวก็เพิ่งกลับมาไม่นานเหมือนกัน”

“แล้วคิโอ แจ้งความรึเปล่าครับ” ไมค์เอ่ยปากถามต่อ

“ไม่เห็นแจ้งนะคะ เปรียวก็แปลกใจว่าทำไมไม่แจ้งความ คิโอคงเห็นว่าเงินไม่ได้มากมายอะไรละมั่ง”

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไปคุยกับคิโอมันหน่อยว่าจะเอายังไงกันดี” ไมค์รีบเอ่ยลา พร้อมคิดในใจว่าถ้าคิโอไม่แจ้งความตำรวจ เงินจำนวนที่ยูมิเอาไปเขาคงจะต้องชดใช้แทนให้คิโอ เขามั่นใจว่ายูมิทำอย่างนี้เพราะแค้นเขานั่นเอง


ไมค์เดินไปที่ห้องพักของคิโอ เขาเห็นคิโอนั่งคิดอะไรอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้อง

“เป็นไงมั่งว่ะ” ไมค์ทักเพื่อน

“รู้เรื่องแล้วใช่มั๊ย เงินน่ะไอไม่เสียดายเท่าไหร่หรอก แต่นึกไม่ถึงว่ายูมิจะทำอย่างนี้ อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี คิดไงของเขาว่ะ” คิโอบ่นหน้าตาเคร่งเครียด

“ไอรู้ว่ายูคิดยังไงกับยูมิ อย่าคิดมากเลยนะเพื่อน ถือซะว่าไม่ใช่คู่กัน ส่วนเรื่องเงินยูมิเอาไปเท่าไหร่ก็บอกว่า เดี๋ยวไอจ่ายคืนให้เอง” ไมค์รู้อยู่นานแล้วว่าคิโอชอบยูมิอยู่มาก แต่ยูมิไม่เคยมองเพื่อนเขาคนนี้เลย คิโอก็เหมือนกับหนุ่มชาวฮาวายทั่วไปที่รูปร่างหนาใหญ่และผิวเป็นสีเข้มตามแบบของคนพื้นเมือง

“นายจะมารับผิดชอบแทนยูมิทำไมว่ะ จริงๆ เงินไม่ได้มากมายอะไรหรอก ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ อยากรู้ว่ายูมิไปไหน แล้วทำไมเธอถึงต้องทำอย่างนี้ นี่ไอมองคนผิดเหรอว่ะเนี่ย” คิโอพูดจบก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม

“พูดก็พูดเถอะว่ะ ยูมิคงจะโกรธไอที่ไอไปรักปริม แล้ววันก่อนไอก็พูดกับเธอค่อนข้างแรง บอกว่าอย่ามายุ่งกับไอกับคุณปริม ก็เท่านั้นละเธอเลยทำแบบนี้ละมั่ง”

“เรื่องของความรักมันบังคับกันไม่ได้ซะด้วยนะ” คิโอพูดอย่างปลงตก

“ยูจะตามหายูมิมั๊ย ถ้าจะตามไอจะได้ช่วยด้วย”

“คงไม่หว่ะ ยูมิก็ไม่ใช่เด็กๆ คงจะไม่หลงทางไปไหนหรอก ไอว่าเธอคงจะกลับแอลเอมากกว่า ปล่อยเธอไปเถอะ” คิโอพูดเบาๆ ออกมา

ไมค์รู้ว่าคิโอคงจะเสียใจเรื่องยูมิมาก เมื่อก่อนถึงแม้ว่าจะรู้ว่ายูมิไม่ได้มีใจให้ตัว แต่ยังไงก็ได้อยู่ใกล้กันได้เห็นหน้าได้พูดคุยกันทุกวัน มาเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ก็ไม่รู้วันไหนที่จะได้เจอเธออีก ไมค์ตบบ่าเพื่อนแล้วเดินกลับออกไป




Create Date : 09 กรกฎาคม 2550
Last Update : 9 กรกฎาคม 2550 5:36:47 น. 3 comments
Counter : 477 Pageviews.

 
อุ้ย..ตอนที่ 16 แล้วเหรอนี่..พลาดไปหลายตอนแล้วแน่ ๆ จำไม่ได้แล้วด้วยว่าอ่านถึงตอนที่เท่าไหร่ ว่าแต่พิมจะรวมเล่มหรือเปล่าเรื่องนี้ ถ้ารวมจะได้รออ่านเป็นหนังสือทีเดียวเลยดีกว่า


โดย: Lauderdale By The Sea วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:00:06 น.  

 
อ่านรวดเดียว 1-16
อ่านเพลินไปเลย
รอลุ้น ปริม & ไมค์ ต่อนะคะ


โดย: นวลกนก (นวลกนก ) วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:25:49 น.  

 
ตามมาจากตอนที่แล้วค่ะคุณพิม มัวแต่อ่านจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ อิอิ


โดย: MoneyPenny วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:12:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pim(พิม)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]





** ถ้าต้องการรูปจากบล็อคพิม รบกวนบอกกล่าวกันสักนิดนะคะ พิมไม่หวงภาพ เพียงแต่ขอให้บอกกันก่อน อย่าเอาไปโดยพลการนะคะ ... ขอบคุณค่ะ **

++ บทความล่าสุด ++

Friends' blogs
[Add pim(พิม)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.