|
นางฟ้า's Diary
พิมจำได้ว่ามีอยู่ปีหนึ่งที่พิมมาฉลองปีใหม่ที่เซนไดค่ะ ปรกติช่วงปีใหม่บริษัทจะมีงบให้ชีพเพอร์เซอร์พาบรรดาลูกเรือที่บินมาด้วยกันไปทานอาหารฉลองปีใหม่ค่ะ ชีพเพอร์เซอร์บางคนใจดี ก็พาไปฉลองร้านหรู เกินงบก็ไม่เป็นไร ชีพจ่ายให้เอง
แต่ปีนั้นพิมบินกับชีพก้ามปู เราฉลองปีใหม่กันในห้องพักของชีพเพอร์เซอร์ค่ะ โดยการซื้ออาหารจากฟูดคอร์ทมาทานด้วยกัน คุยกัน ดูทีวีกันไป (กร่อยมากกกก) สักห้าโมงเย็นก็แยกย้ายกันกลับห้องแล้วล่ะค่ะ
ชีพก้ามปูเนี่ยเป็นสมญานามที่บรรดาแอร์ๆตั้งให้ เพราะพ่อคุณจะเล่นกล้าม จนปีกแขนใหญ่ เวลาเดินก็จะต้องเดินกางๆ แขน เหมือนวางก้ามมองๆ ดูก็เหมือนก้ามปูก็เลยได้ชื่อว่า ชีพก้ามปู สมัยที่เครื่องบินยังสามารถให้ผู้โดยสารสูบบุหรี่ ได้ชีพก้ามปูจะไม่มีทางเดินไปเฉียดใกล้กับบริเวณที่สูบบุหรี่เลย เพราะมันเสียสุขภาพและถ้าสนิทสนมกับแอร์คนไหนก็จะไม่เคยจัดให้แอร์คนนั้นไปทำงานในบริเวณโซนสูบบุหรี่เลย คนไหนไม่รู้จักเหรอค่ะส่งไปเลยหลังเครื่องไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ดมบุหรี่ไม่ต้องมาให้เห็นหน้ากัน
ถ้าหากว่าวันที่ 31 ธันวาคมทำงานอยู่คาบวันอยู่บนเครื่องบินนะคะ พอกะเวลาสัก เที่ยงคืนเราก็จะฉลองปีใหม่ัให้ผู้โดยสารกันบนเครื่อง โดยที่จะมีแจกเหล้าสาเกให้ผู้โดยสารค่ะ เริ่มแรกแอร์ก็จะเดินแจกถ้วยก่อนแล้วก็จะมีคนเดินรินสาเกตาม พอได้ครบกันหมดทุกคนก็จะแฮปปี้นิวเยียร์พร้อมๆ กัน แล้วดื่มเหล้าจากในถ้วยนั้นพร้อมๆ กัน (หมายความว่าสาเกนั้นให้แต่เฉพาะผู้โดยสารนะคะ แอร์ไม่ได้ดื่มฉลองไปพร้อมๆกับผู้โดยสารหรอกนะคะ แล้วถ้วยที่รินสาเกให้ก็จะเป็นแค่ถ้วยเล็กๆ เท่านั้นเอง)
พอวันที่ 1 วันปีใหม่พิมก็ต้องทำงานจากเซนไดเข้าฮาวาย วันนั้นชีพก้ามปูจัดให้พิมทำงานอยู่ครัวหน้ากับรุ่นน้องอีกคน ซึ่งก็ต้องคอยดูแลพวกกัปตันสามหนุ่มหกมุมด้วย เพราะมีกันคนละสองมุม มุมไม่โสดเวลาอยู่บ้านกับมุมโสดเวลามาบิน กัปตันไพล์ทนั้นช่างพูดมากถึงมากที่สุด แปลได้อีกอย่างว่าพูดมาก น่าเบื่อ หล่อก็ไม่หล่อ แถมยังพูดมากอีก ><" พิมก็เลยบอกรุ่นน้องว่า เอางี้พี่เป็นแม่ครัวให้เอง น้องก็คอยเสิร์ฟผู้โดยสารกับดูแลกัปตันละกันนะ ใช้อำนาจรุ่นพี่ให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองค่ะ ^^ แต่ปรกติหน้าที่ต่างๆนี่ชีพจะเป็นคนจัดให้เรียบร้อยนะคะ ว่าใครมีหน้าที่ทำอะไร ถ้าวันไหนผู้โดยสารน้อยๆเราก็อาจจะสลับหน้าที่กันเองได้บ้างเหมือนกันค่ะ
โอ๊ะ โอ๊ะ ...แต่อย่าคิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วมีสิทธิ์อะไรมากกว่ารุ่นน้องนะคะ ไม่หรอก ค่ะทุกคนอยู่ภายใต้การดูแลของชีพเพอร์เซอร์ แต่การเป็นรุ่นน้องที่ดีก็ควรจะ เคารพนับถือรุ่นพี่ อย่างน้อยพี่เค้าก็รู้อะไรๆมากกว่า ชั่วโมงบินก็มากกว่า เป็นเด็กเข้ามาใหม่เคารพนบนอบ ยิ้มแย้มแจ่มใสกับรุ่นพี่หรือไม่ว่ากับใครๆ ใครเห็นใครก็รักก็เอ็นดูใช่มั๊ยคะ อย่างน้อยอาชีพนี้ คืออาชีพบริการ หน้าตาแจ่มใส ยิ้มง่าย ยินดีช่วยเหลือในสิ่งต่างๆ มันควรจะอยู่ในใจของทุกคนที่มาเป็นแอร์อยู่แล้วละนะพิมว่า
พอถึงฮาวายทุกอย่างก็เหมือนเดิม เช็คชื่อเพื่อน ขึ้นห้องไปนอน ตื่นขึ้นมาไปเดินเล่นซื้อของ กลับมาดูทีวีนอน
นอกจากอลาโมนาที่ไปเดินกันบ่อยๆแล้ว พวกเรายังชอบที่จะไปเดินเล่นซื้อของกันที่ duty free ด้วยค่ะ ซึ่งเดินไปได้ ไกลหน่อยแต่ปรกติฮาวายอากาศดีเดินไกลสักนิดก็ยังไม่ทันเหนื่อยหรอกค่ะ ซื้อของเสร็จก็จะมีรถบริการจากดิวตี้ฟรีมาส่งถึงโรงแรมค่ะ ส่วนของที่ซื้อก็รอไปรับที่สนามบินวันที่เดินทางออกนอกประเทศ ปรกติถ้าของผู้โดยสารเค้าก็จะแวะเอาระหว่างทางที่เดินมายังประตูขึ้นเครื่อง แต่ของของพวกแอร์ เวลาประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่เอาของมาให้ในเครื่องเลย แล้วค่อยไปแยกว่าของใครเป็นของใคร
มาฮาวายถ้าไม่เจอเพื่อนสนิทๆ เนี่ยจะเหงามากเป็นพิเศษ เพราะห้องที่พักก็ใหญ่ เตียงก็คิงไซส์ มีบริเวณที่สำหรับนั่งเล่นมีครัวด้วยและยังมีระเบียง มันใหญ่ซะจนรู้สึกว่าอ้างว้างจริงๆ
ทุกครั้งที่บินพิมจะต้องเอาครอสติสกับหนังสือติดมาด้วย เวลาที่ไม่เจอเพื่อนก็จะ หยิบมาทำแก้เหงาได้ดีที่เดียว เพราะที่ฮาวายกว่าจะหลับลงก็ต้องเลยเที่ยงคืนไปแล้วทุกครั้ง ก็จะให้นอนเร็วได้ไงล่ะค่ะ บินมาถึงเช้า อาบน้ำนอน ตื่นมาเย็นๆ ลุกขึ้นไปเดินเล่น ไปทานข้าว เสร็จก็เพิ่งจะมืด จะให้นอนเร็วอีกมันจะไปหลับลงได้ยังไงกัน
Create Date : 02 เมษายน 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2551 22:31:40 น. |
Counter : 554 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: pumorg 2 เมษายน 2551 23:22:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลิตช์ (Litchi ) 3 เมษายน 2551 3:02:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|