จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
26 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
เสน่หาวาวี

สวัสดีครับทุกๆท่าน

งวดนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาว่าง จึงเก็บเอาของเก่าที่ตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือนมาให้อ่านกัน หากใครอ่านแล้วก็เชิญข้ามไปได้เลยครับ มีเวลาแล้วค่อยเขียนเรื่องใหม่ๆ ช่วงนี้เวลากระชั้นชิด ทั้งเรื่องงานและใกล้ถึงเวลาที่จะเดินทางออกจากดอยวาวีแล้ว...ใกล้เข้ามาแล้ว...

















ก่อนออกเดินทางครั้งนี้ผมมีจุดหมายปลายทางสองแห่งให้เลือก ระหว่างสถานที่หนึ่งซึ่งคุ้นเคยและรู้ว่าจะต้องพบอะไรบ้างที่นั่น กับอีกสถานที่หนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่เคยเห็นแม้กระทั่งรูปถ่าย เพียงแต่เคยได้ยินชื่อมาบ้างเท่านั้น


สถานที่แรกซึ่งผมคุ้นเคยเป็นที่ที่ผมประทับใจ เพราะเคยไปพักอยู่มานานจนรู้จักทุกเส้นทางในหมู่บ้าน รู้จักใครต่อใครหลายคน และบางคนก็คุ้นเคยถึงขั้นสนิทสนม การกลับไปอีกครั้งก็เพื่อจะเก็บเกี่ยวความรู้สึกดี ๆ ที่เคยได้รับ คล้าย ๆ กับการหยิบหนังเรื่องเก่าที่ชอบมาเปิดดูอีกครั้ง


ส่วนสถานที่อีกแห่งผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ผมยังเดาไม่ถูกว่าสภาพบ้านเมืองเป็นอย่างไร แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่คิดที่จะดูข้อมูลจากหนังสือหรืออินเตอร์เน็ต ซึ่งเพียงใช้นิ้วชี้คลิกเมาส์ก็สามารถรับรู้เรื่องราวของสถานที่แห่งนั้นได้แล้ว ผมขอเก็บทุกอย่างไว้ในจินตนาการก่อนที่จะได้เห็นสถานที่จริง

แต่ในพื้นที่ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ ผมรู้จักนักเขียนหนุ่มหน้าใหม่คนหนึ่งซึ่งเป็นครูอยู่ที่นั่น รู้จักเพียงชื่อและนามปากกาของเขาว่า “แก้มหอม” เราเคยพบหน้ากันเพียงสองครั้งที่กรุงเทพฯ เท่านั้น

ระหว่างการตัดสินใจก่อนออกเดินทางผมโทรศัพท์ไปถามเขาว่า ถ้าผมจะไปหาเขาผมจะต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ที่โรงเรียนของเขามีร้านขายของชำไหม เขาตอบผมมาสั้น ๆ ว่า “ที่นี่เจริญแล้วครับพี่” เมื่อได้ยินดังนี้ผมจึงไม่ซักถามอะไรเขาอีก

เวลาผมจะเดินทางไปหาใครสักคน สิ่งที่ผมต้องการรู้เพียงอย่างเดียวก็คือ เขาเต็มใจต้อนรับผมหรือเปล่าเท่านั้น เมื่อได้สนทนากันทางโทรศัพท์แล้ว ผมประเมินจากน้ำเสียงการสนทนากันว่าเขาน่าจะเต็มใจต้อนรับกับการไปเยือนของผม

ในที่สุดผมจึงตัดสินใจเลือกไปดอยวาวี อ.แม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมยังไม่เคยรู้จักมาก่อนแทนที่จะเลือกไปผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดินแดนที่ผมรู้สึกประทับใจมานานแล้ว ดอยวาวีจึงทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับการหยิบหนังเรื่องใหม่มาดู ซึ่งที่เลือกหนังเรื่องนี้ก็เพียงเพราะชื่อเรื่องและดารานำที่ถูกใจเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

ผมออกจากเชียงใหม่ก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้ว ผมจำคำที่ ”แก้มหอม” บอกให้ลงรถที่หน้าอำเภอแล้วจะมีรถสองแถวเล็กขึ้นดอยวาวีและเวลาห้าโมงเย็นเป็นเวลาของรถเที่ยวสุดท้าย รถจากเชียงใหม่มาถึงแม่สรวยได้จังหวะรถเที่ยวสุดท้ายกำลังจะขึ้นดอยวาวีพอดี

อากาศปลายเดือนพฤศจิกายนเย็นสบายและหนาวเพิ่มขึ้นเมื่อค่ำลง ขณะผมนั่งรถสองแถวเล็กขึ้นดอยวาวีก็รู้อยู่ในใจว่าคืนนี้ผมไม่จำเป็นต้องอาบน้ำก่อนนอนอีกแล้ว

ระหว่างทาง “แก้มหอม” จะโทรศัพท์มาถามว่าผมเดินทางถึงไหนแล้ว และขับมอเตอร์ไซค์มารอรับที่ท่ารถซึ่งห่างจากบ้านพักครูไม่ไกลนัก การโทรศัพท์ตรวจสอบการเดินทางของผมเป็นระยะๆ และการมารับถึงท่ารถแทนที่จะให้ผมเดินถามหาด้วยตัวเอง ทำให้ผมเหมาเอาว่าเขาเต็มใจต้อนรับการมาเยือนของผมในครั้งนี้

หอมกลิ่นฤดูหนาวและดอกไม้ป่าบางชนิดแทรกมาในอากาศยามพลบค่ำ เวลากลางคืนทำให้มองไม่เห็นอาคารบ้านเรือนทุกหลังอย่างชัดเจน บรรยากาศรอบ ๆ ตัวที่ส่งผ่านทุกประสาทสัมผัสร่ายมนต์เสน่ห์จับหัวใจของผมเข้าแล้ว เพียงฉากแรกที่ผมลงจากรถในตัวตลาดจนมาถึงบ้านพักครู ผมเหมือนกับคนที่ตกอยู่ในอาการรักแรกพบ

เมื่อมาถึงบ้านพักครูมีเพื่อนครูอีกคนหนึ่งนั่งดื่มเบียร์รออยู่ ขณะนั่งสนทนาอยู่ที่หน้าบ้านของเขาดวงจันทร์กลมโตก็ค่อย ๆ โผล่พ้นยอดเขา ยิ่งดูเหมือนดอยวาวียังร่ายมนต์เสน่ห์ใส่ผมอย่างไม่ยอมหยุด

เขากับเพื่อนนั่งดื่มเบียร์ขณะที่ผมนั่งจิบกาแฟ เรารู้สึกสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ผมออกไปชมจันทร์รับลมหนาวต้นฤดูนอกบ้านเป็นระยะ ๆสลับกับการสนทนา กว่าจะเข้านอนก็ดึกโข เขาเสียสละเตียงนอนให้ผมในฐานะแขกผู้มาเยือน

เช้าวันรุ่งขึ้นผมออกเดินสำรวจตามประสานักเดินทางที่ชอบดูวิถีชีวิตของผู้คน ผมชอบลักษณะภูมิประเทศที่มีพื้นที่สูง ๆ ต่ำ ๆ ต่างระดับกัน เพราะอาคารบ้านเรือนตามหุบเขาและตามไหล่เขาทำให้เกิดเป็นภาพสวยงาม ผมบอกตัวเองว่าผมอยากอยู่ที่นี่สัก 10 วันเป็นอย่างน้อย และครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายสำหรับผมแน่นอน

เขากับเพื่อนครูอีกคนหนึ่งอาสาขับรถพาผมเที่ยวด้วยปรารถนาดี เพราะอยากให้ผมเห็นภาพวิวสวยงาม ผมไม่ปฏิเสธความหวังดีของเขา แต่ผมก็บอกรสนิยมการท่องเที่ยวของผมว่าไม่มีอะไรมาก ผมไม่ถึงกับต้องไปดูสถานที่สวยงามเพียงเพื่อจะถ่ายรูปเก็บไว้ หรือว่าต้องไปเพราะนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ เขาไปที่นั่น ผมเพียงแต่ขอให้ได้ที่พักที่ถูกใจ ถูกใจของผมนั้นไม่ได้หมายถึงว่าต้องสวยงามหรูหราสะดวกสบายอะไรมากมาย หากแต่หมายถึงที่พักที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างสะดวกสำหรับการไปไหนมาไหนด้วยการเดิน และอีกประการหนึ่งคือเรื่องราคาที่เหมาะสมกับผมด้วย

ผมต้องการหาเช่าที่พักด้วยเหตุผลสองประการ คือ หนึ่ง - ผมไม่อยากรบกวนเตียงนอนของเขาในฤดูหนาว สอง - ผมต้องการความเป็นส่วนตัวพอสมควรขณะที่พักอยู่ที่นี่
โดยทั่วไปผมคิดว่าตัวเองเป็นคนเรียบง่าย แต่เรื่องที่พักนั้นค่อนข้างเรื่องมากพอสมควร ผมต้องการพักห้องชั้นบนเพื่อจะได้มองเห็นวิวจากหน้าต่าง แต่ข้างบนเป็นห้องเตียงคู่และไม่มีหน้าต่างทางด้านหลัง

ขณะที่เข้าไปดูภายในห้องพักชั้นล่างเพื่อสำรวจว่ามีหน้าต่างหรือไม่ ผมได้ยินเสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นว่า “เสียดายที่มีกำแพงกั้น“ ผมไม่ทันเห็นกำแพงเพราะมองข้ามไป เหนือระดับสายตานั้นคือวิวภูเขาและหมู่บ้านเล็ก ๆ ผมตัดสินใจที่จะเลือกพักห้องนี้

ผมไม่ได้ดัดจริตแสร้งทำเป็นมองโลกในแง่ดี แต่อยากบอกว่าขณะที่มองออกไปทั้งทางหน้าต่างและประตูห้องนั้น เรามีสิทธิ์เลือกที่จะมองกำแพงหรือมองภาพวิวภูเขาที่อยู่ไกลออกไป

ผมถามราคาจากเจ้าของที่พัก เธอบอกว่าห้องพักชั้นบนคืนละ 300 บาท แต่ห้องพักชั้นล่างคิดเป็นเดือน ๆ ละ 1,500 บาท ผมบอกเธอว่าถ้าต้องการพักเพียง 10 วันจะคิดราคาเท่าไร เธอบอกว่าเท่าไรก็ได้ ท่าทีและน้ำเสียงของเธอหมายความตามนั้นจริง ๆ อาจเป็นเพราะว่าคนที่พาผมมารู้จักและคุ้นเคยกับเธอ ผมให้เธอบอกราคาตามที่เธอต้องการ แต่อยากให้อยู่ในราคาที่มีความสุขทั้งผู้รับและผู้จ่าย เธอทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะบอกว่า “สิบวัน หกร้อยบาทก็แล้วกัน”

“ตกลงครับ” ผมตอบตกลงด้วยความยินดี และนึกถึงคำว่า “ราคายุติธรรม” เพราะความยุติธรรมคือความพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ผมรีบขนสัมภาระจากบ้านพักครูย้ายเข้าห้องพักทันทีที่ แม้ห้องจะว่างเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักชิ้น นอกจากเตียงนอนและโต๊ะกับเก้าอี้ที่ไม่เข้าชุดกันที่พอจะนั่งเขียนหนังสือได้เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมได้รับของแถมขนาดใหญ่ คือชั้นดาดฟ้าที่สามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองนี้ได้ทั้งเช้า – เย็น และยามดึกยังขึ้นไปดูดาวได้อีกด้วย

เพียงครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสดอยวาวี ผมก็ตกหลุมเสน่หาวาวีอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว


-----------------------------









แก้มหอม ถ่ายภาพโดย เรืองรอง รุ่งรัศมี







ซ้ายมือ ฟ้า พูลวรลักษณ์ ถ่ายภาพโดย เรืองรอง รุ่งรัศมี










เด็กๆอ่านหนังสือในห้องสมุดโรงเรียนบ้านวาวีอย่างมีความสุข







- - เ ติ ม ห นั ง สื อ ใ ห้ เ ต็ ม ชั้ น... เ ติ ม ฝั น ใ ห้ ว า วี - -

ช่วยกันคนละไม้คนละมือ หว่านเมล็ดฝันทางความคิด ให้สวนอักษรบานสะพรั่งทั้งวาวี

ด้วยการส่งหนังสือ, นิตยสาร เก่าหรือใหม่ ไปเติมชั้นในห้องสมุดของโรงเรียน กรุณาจัดใส่กล่องพัสดุแล้วจ่าหน้าซองถึง...

คุณครูบุญทม วันสูง
ห้องสมุดโรงเรียนบ้านวาวี
โรงเรียนบ้านวาวี ตำบลวาวี
อำเภอแม่สรวย
จังหวัดเชียงราย (57180)
โทร. 053 – 760147


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บล็อกโดม วุฒิชัย






Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 13:04:00 น. 23 comments
Counter : 2066 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

หนูมาดูที่ลุงให้สัมภาษณ์แล้ว ชอบมากเลยค่ะ ชอบรูปลุงโดม และรูปพี่พเยีย

วันนี้หนูมาที่ทำงานแม่กับน้อง ๆ ค่ะ หนูสอบเสร็จแล้ว หนูได้รับโปสการ์ด อร่อยก็กิน ไม่อร่อยก็กิน แล้วค่ะ

ตอนนี้หนูกำลังเขียนรูปลงในโปสการ์ด แม่มีกระดาษโปสการ์ดให้หนูและน้องฟ้าเขียนรูปด้วย

ไว้เสร็จแล้วหนูจะส่งไปให้ลุงโดมนะคะ


โดย: หนูแป้ง IP: 202.28.180.202 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:23:55 น.  

 
สวัสดีค่ะน้าโดม (ฝากสวัสดีลุงเรืองรองด้วยนะคะ ^^)

เห็นภาพห้องสมุดแล้ว หัวใจอบอุ่นจังค่ะน้า

วันนี้หนูเพิ่งได้วีซ่าค่ะ ลุ้นอยู่หลายวัน... ไม่เคยรู้สึกว่าการเป็น freelance จะเป็นสิ่งที่ทำให้ใจหายใจคว่ำได้เท่านี้เลยจริงๆ (ฮา) ตอนไปขอวีซ่า ลุ้นตัวโก่ง กลัวสถานทูตญี่ปุ่นปฏิเสธ

ตอนนี้ก็รอนับถอยหลัง ไปถ่ายรูปพักผ่อนหย่อนใจที่เกียวโตละค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:17:55 น.  

 
สวัสดีค่ะน้าโดม
ตั้งแต่กลับจากดอยวาวี โรคภัยไข้เจ็บก็แวะมาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ ตอนนี้เป็นคางทูม หน้าบวมมากๆ แต่ก็ดีค่ะ "สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ" ถูกต้องพันเปอร์เซ็นต์ เยี่ยมจริงๆกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต

หนังสือเรื่องบันทึกของหม่าเอี้ยนที่น้าโดมแนะนำ ซื้อมาอ่านแล้วนะคะ "การที่เห็นคนอื่นมีน้อย จึงได้รู้ว่าเรามีเยอะ" ต่อไปจะขยันเรียนให้มากๆ



โดย: ศิริคุณ IP: 58.8.229.7 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:49:43 น.  

 
กลับมาจากเที่ยวแล้วค่ะ

เห็นเด็กๆอ่านหนังสือในห้องสมุดแล้วชื่นใจ...

ภาพแบบนี้เป็นภาพที่อยากเห็น...

............

พี่โดมเขียนซะ ชวนให้หลงรักดอยวาวีด้วยคน

ระวังนะคะ พี่โดมเชียร์มากๆ..วาวีจะโด่งดังเป็นปายเข้าสักวัน (อะโห คิดลบแล้วสิเรา...


โดย: ทากชมพู IP: 115.67.39.235 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:20:12 น.  

 
เพิ่งมาใหม่ค่ะ อ่านแล้วท่าทางจะทำให้หลงรักวาวีด้วยอีกคน อยากไปเที่ยวจังคะ งดงามทั้งธรรมชาติ งามทั้งน้ำใจคน สุดยอด.........


โดย: แสงตะวัน IP: 125.27.58.103 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:39:58 น.  

 
สวัสดีจ้ะหนูแป้ง


กลางเดือนมีนาคมนี้ลุงโดมก็จะเข้ากรุงเทพแล้ว
ถ้าได้พบกันลุงโดมจะเลี้ยงไอติม

ถ้าจะส่งโปสการ์ดให้ลุงโดมที่ดอยวาวี หนุต้องส่งแต่เนิ่นๆนะจ๊ะ



สวัสดีจ้ะแพนด้ามหาภัย


ขอให้เที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกนะ
ลุงเรืองรองจะกลับวันที่ 2 มีนาคมนี้แล้ว


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:41:39 น.  

 
สวัสดีจ้ะหนูศิ


น้าดีใจที่เห็นคอมเม้นท์ของหนู
และดีใจที่ได้อ่านบันทึกของหม่าเอี้ยน


กลับเมืองจีนเมื่อไรก็เข้ามาทักทายกันบ้าง

หรือว่าถ้าเขียนบล็อกเล่าเรื่องเมืองจีนเมื่อไรก็ส่งข่าวน้าบ้างก็แล้วกัน


น้าขออนุญาตส่งรูปถ่ายผ่านบล็อกก็แล้วกันนะ










โดย: พ่อพเยีย วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:45:26 น.  

 
สวัสดีจ้ะทากชมพู


ต้องขอบคุณทากชมพูอีกครั้งที่ส่งหนังสือดีๆมาให้เด็กๆได้อ่านกัน


เรื่องเขียนถึงวาวีนี้ ไม่ได้เชียร์หรอก
แต่เขียนตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆ

อาจจะรู้สึกว่าถูกชะตากับหมู่บ้านนี้มากไปหน่อย

คิดว่าข้อเขียนแค่นี้คงไม่มีอิทธิพลขนาดนั้นหรอกน่า ! !



สวัสดีครับคุณแสงตะวัน

ยินดีต้อนรับสู่วาวี
เอ๊ย ! สู่บล็อกพ่อพเยียครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:52:52 น.  

 
สวัสดีค่ะพ่อพเยีย

เห็นภาพเด็ก ๆ ขณะอ่านหนังสือที่ห้องสมุดอย่างสบายและมีความสุข รู้สึกอิ่มใจค่ะ

บอกให้แป้งมาดูรูปภาพเด็ก ๆ อ่านหนังสือของหนูแป้งที่บริจาคหนังสือไปให้ที่โรงเรียน แกก็พยายามดูค่ะว่าเล่มไหนเป็นของแกที่ส่งไปน่ะ

ตอนนี้ความฝันที่จะวางรากปักฐานที่วาวีใกล้เป็นจริงหรือยังคะ

ไม่น่าเชื่อว่า วาวีจะมีเสน่ห์ขนาดนี้

ฝากความระลึกถึงครูแก้มหอมด้วยค่ะ ได้อ่านเรื่องสั้นของเขาที่เนชั่นแล้ว


โดย: หนอนฯ IP: 58.9.173.111 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:04:51 น.  

 
เอ๊ อ่านอีกรอบไปไม่รู้ตัวแฮะพี่โดม
วาวีน่าหลงเสน่ห์จริงๆ

สาวสวยคมขำข้างบนทำให้บ้านพี่มีชีวิตชีวาเชียว
ที่สัมภาษณ์พี่โดมข้างๆ มาเปิดโหลด 3 วัน 3 รอบแล้ว ยังไม่ได้ดูซะทีค่ะ แงๆ


โดย: ยิปซี IP: 124.121.50.137 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:45:14 น.  

 
ได้แล้วค่ะๆๆ ตัดต่อดีนะ ดูก่อนนะคะ


โดย: ยิปซี IP: 124.121.50.137 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:47:44 น.  

 
สวัสดีจ้ะคุณหนอน

เอาอะไรมาพูดจ๊ะว่าวางรากปักฐาน พูดเป็นเล่นไปได้

รากกับฐานนั้นอยุ่ที่นนท์นั่นแน่
แต่แตกกิ่งที่วาวีนั้นเป็นอีกเรื่องจ้า !



สวัสดีจ้ะยิปซีฯ

เรื่องเสน่ห์แบบนี้
ชอบใครชอบมันน่ะ
อาจจะชอบไม่เหมือนกัน
แต่แตกต่างจากสาวเจ้าเสน่ห์แน่นอน


โดย: พ่อพเยีย IP: 202.149.24.161 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:25:06 น.  

 
แหม...
ใช้คำผิดเพี้ยนไปนิดหน่อย
แต่ก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้
ต้องขออภัยจ้า
ที่ไหน ๆ ฤาจะเหมือนที่บ้าน...เป็นไม่มีแน่นอน

พี่เรืองรองจะกลับวันที่ 2 มีนานี้แน่นอนแล้ว...

หนอนฯ ไม่รู้ว่ากล่องไปรษณีย์ที่ส่งไปนั้น ไปถึงโรงเรียนบ้านวาวีหรือยัง อยากให้พี่เรืองรองได้เห็น...เพื่อจะได้ให้คำแนะนำว่า วัสดุที่ส่งไปนั้นพอจะใช้ได้มั้ย ก็จะได้เอาไว้เป็นมาตรฐานในการจัดส่งต่อไปในวันข้างหน้า แต่ถ้าหากยังต้องปรับปรุง ก็จะได้เลือกสรรวัสดุที่เข้าท่ากว่านี้ค่ะ


โดย: หนอนฯ IP: 58.9.179.98 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:02:21 น.  

 
หวัดดีค่ะ พ่อพเยีย
เริ่มรู้สึกเป็นกันเองขึ้นมานิดนึง ความจริง แสงตะวันได้ยินชื่อโรงเรียนบ้านวาวี มานานแล้ว แต่ได้ยินแต่ชื่อจริงๆ (แหะ แหะ) เพือนที่อยู่ที่นั่นเคยพูดถึง แต่มิได้เล่ารายละเอียดอะไรมากมาย ( หรือว่า เราไม่สนใจฟัง ก็ไม่รู้แฮะ) มาได้สัมผัสจริง ก็อีตอนที่เข้ามาบล๊อกพ่อพเยียนี่แหละค่ะ ตาสว่างเลย...
เรื่องหนังสือตั้งใจจะส่งไปเหมือนกัน ตอนนี้กำลังรวบรวมสมัครพรรคพวก ให้เอามาบริจาคกัน นะค่ะ
อยากขอบคุณอีกสักครั้ง (ไมใช่เพลงนะ) ที่ทำให้ได้รู้จักวาวี ตอนที่เพื่อนเล่า จินตนาการไปอีกขั้วนึงเลย แบบนี้แหละที่เรียกว่าธรรมชาติจริง ๆ...


โดย: แสงตะวัน IP: 125.27.18.253 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:26:59 น.  

 
จำได้ว่าที่เราไปวาวี แม่น้ำแสนสวยที่เราประทับใจก็คือแม่น้ำแม่สรวย แต่เราชอบเรียกว่าแม่น้ำวาวี ตอนนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้างนะ ยังสวยสงบ อ่อนโยนและแสนหวานเหมือนเดิมหรือเปล่า เวลามักจะเป็นฆาตกรที่ทำลายสรรพสิ่งอยู่เสมอ คุณว่าจริงไหม


โดย: คนแปลกหน้า IP: 118.174.69.120 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:28:04 น.  

 
ผละจากบ้านปะการังว่าจะทำงานอดแวะมาดูโดม เจ้าพระยาไม่ได้
ดูหนังเสียหนึ่งรอบ เงียบ ๆ
เพราะลำโพงจุ๊ง
อ่านริมฝีปากเอา
เป็นอันว่า ไม่รู้เรื่อง
ไว้รอหนังมีเสียง ค่อยมาดูใหม่อีกรอบ

สวัสดี


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:52:38 น.  

 
สวัสดีค่ะ

วันนี้ฝนเพิ่งชะช่อมะม่วงไป อากาศเย็นขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว


โดย: สายลมอิสระ วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:12:03:23 น.  

 
สวยที่ใจ ใสที่ใบหน้า

ยินดีด้วยค่ะ


โดย: ปลาจิ้งจ้าง...มนาโป IP: 58.9.229.143 วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:14:17:04 น.  

 
พี่โดมคะ

ถ้าว่าง...รบกวนไปชมที่บล็อกนิดนึงนะคะ

อยากจะขอกำลังใจจากพี่โดมสักนิดค่ะ...

คือว่า...ผลงานล่าสุด กำลังจะวางแผง

ปีนึง มีแค่เล่มเดียว เขียนเอาหนุกๆ...เป็นงานอดิเรก

แต่พองานเสร็จ ก็อดจะลุ้นไม่ได้ค่ะ...

ขอบคุณค่ะ...



โดย: ทากชมพู วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:19:02:37 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

ยังหลงเสนห์วาวีอยู่เหรอค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการเที่ยวน่ะค่ะ


โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:15:31:16 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ...


พี่โดมคะ...

อุ่นรักป่าฝน พี่โดมอ่านได้ชัวร์ๆ

เพราะ

1.เพราะพี่โดมเป็นคนชอบวิถีชีวิตคนต่างจังหวัด

2 ไม่ได้คิขุแบบเรื่องเด็กๆเขียนหรอกค่ะ เพราะคนเขียนวัยปูนนี้แล้ว( กัดฟันพูด)

...แต่ปกอาจจะเอาใจตลาดไปหน่อยเท่านั้น...

ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ให้เกียรติมากมาย...ดีใจสุดริดค่ะ


โดย: ทากชมพู วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:19:18:00 น.  

 


สวัสดีค่ะ อาโดม

นานๆ จะเข้าบล็อกมาค่ะ
เข้ามาทุกครั้ง ก็จะแวะมาอ่านเสมอ
อาโดมมีความสุขกับการเดินทางนะคะ ดีจังเลย
ช่วงที่ผ่านมา..ที่ระยอง คนโดนเลย์ออฟกันเยอะมาก
นกเอง ก็ลุ้นๆ ตัวเองนะคะ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
ตอนนี้ก็กลับมาสู่สภาวะปกติแล้วค่ะ อาโดม



โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:21:41:24 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะ

นั่งทำงานหลังเที่ยงคืน ยังไม่แล้วเสร็จหรอกค่ะ เหลืองานอีกนิดหน่อยว่าจะต่อตอนเช้า

วันนี้ (2 มีนา) พี่เรืองรองเดินทางกลับแล้วนะคะ หลังจากนี้คงกลับไปสร้างงานต่อแน่ ๆ เลย

เรื่องส่งวัสดุอุปกรณ์ไปให้เด็ก ๆ ที่โรงเรียนตามที่พี่เรืองรองบอก ตอนนี้ก็ส่งผลมายังลูกหลานหนอนฯ อ่ะค่ะ เพราะทั้งหนูแป้งหนูฟ้ากำลังสนุกกับการวาดรูประบายสีลงในโปสการ์ด จังหวะดีเพราะปิดเทอมพอดีค่ะ

วันนี้ไปเปิดเจอะข้อความเก่า ๆ ที่เคยบันทึกไว้ เอามาจากไหนจำไม่ได้ซะแล้ว เห็นแล้วคิดถึงพ่อพเยีย (และนักเดินทางทุกคน) เลยเอามาฝากค่ะ

"โลกคือหนังสือเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง ผู้ที่ไม่ออกจากบ้านย่อมอ่านหนั้งสือหน้าเดียวเท่านั้น"



โดย: หนอนฯ IP: 58.9.174.209 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:2:08:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.