จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
 
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 มกราคม 2549
 
All Blogs
 

ความรักบนเส้นลวด


คนเรามีเพื่อนได้หลายช่วงวัย บ้างเป็นเพื่อนสมัยนักเรียน บ้างเป็นเพื่อนร่วมงาน สำหรับผมกับเพื่อนคนหนึ่ง
ที่ชื่อ "ตู่" ผมกับเขาได้เป็นเพื่อนกันเพราะช่วงหนึ่งของชีวิตเคยเปิดร้านค้าขายใกล้ๆกัน


สมัยที่ผมยังชอบดื่มกินเที่ยวเตร่อยู่นั้น ผมกับตู่มีโอกาสเที่ยวเตร่และร่วมวงกันบ่อยจนกลายเป็นมิตรภาพแนบแน่นต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้

ในบรรดาเพื่อนฝูงผู้ชายที่มีลูก ตู่เป็นคนที่รักลูกมากๆคนหนึ่ง ผมกับเขามีลูกสาวเหมือนกัน ทั้งคู่เคยเล่นด้วยกันบ้างเมื่อตอนเล็กๆ แต่ตอนนี้วิถีชีวิตของเราห่างกันก็เลยไม่ค่อยได้พบกัน นานๆจึงจะโทร.คุยกันหรือนัดพบกันบ้าง ส่วนลูกสาวของเราต่างก็เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นตอนต้นแล้ว ขณะคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ก็แก่ตัวขึ้น

เมื่อนึกย้อนเรื่องราวของตู่ที่ผ่านมา นับตั้งแต่รู้จักกัน ผมเห็นว่าตู่เป็นนักต่อสู้ชีวิตคนหนึ่ง ตู่ผ่านงานมามากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานธนาคาร ทำร้านเสื้อผ้า ,ทำร้านอาหาร , Organizer และProduction รับออกแบบตกแต่งภายในและจัดบู้ธสินค้าในงานต่างๆ ปัจจุบันเขาทำงานที่โรงละครอลังการ์ล่าสุดของประเทศไทยในขณะนี้

เขาเคยมีบ้านเป็นของตัวเอง เคยมีรถยนต์ใช้ ช่วงที่ฟองสบู่แตก เศรษฐกิจของเขาก็พลอยแตกกระจายไปด้วย บ้านที่เป็นสมบัติชิ้นใหญ่ของเขาถูกธนาคารยึดไป รถยนต์ก็จำต้องขายทิ้งไป ทุกวันนี้เขาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่กับครอบครัวซึ่งประกอบด้วยภรรยาและลูกสาวลูกชายอย่างละหนึ่งคน

แม้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเขาสูญหายไประหว่างการเพลี่ยงพล้ำกับจังหวะเพลงของชีวิต แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยหายไปจากชีวิตของเขาเลยก็คือกีต้าร์โปร่งตัวนี้…
ช่วงที่เขาเรียนอยู่ระดับ ปวช. ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาจักรพงศ์ภูวนาถ เขาเล่นดนตรีกับเพื่อนๆจนตั้งเป็นวง เขาทำหน้าที่เล่นกีตาร์บ้างร้องเพลงบ้าง เพลงที่เล่นส่วนใหญ่เป็นเพลงสากลของวง the Egle, วง CCR ส่วนเพลงไทยก็เล่นตามสมัยนิยม

เมื่อปี พ.ศ. 2522 ตอนนั้นเขาอายุยังไม่ครบยี่สิบปีดี กำลังเรียนอยู่ ปวส. ปีหนึ่ง เขาไปกินเหล้าที่บ้านเพื่อน เพื่อนเอากีตาร์มาให้เล่น จู่ๆเพื่อนคนนั้นก็บอกขายให้ในราคา 1,000 บาท เขาตกลงทันที เหตุที่เขาตัดสินใจซื้อต่อจากเพื่อนเพราะฟังเสียงมันแล้วเห็นว่าใช้ได้

เงิน1,000 บาท ใน พ.ศ.นั้นสำหรับเขาแล้วนับว่ามากพอสมควร เขาขายกีตาร์เก่าไปเจ็ดร้อยบาท อีกสามร้อยบาทเขาค่อยๆเก็บออมส่งให้เพื่อน กีต้าร์ตัวนี้ยี่ห้อ Degas ไม่มีชื่อเสียงอะไร พอเขาจับคอกีต้าร์แล้วรู้สึกว่ามันใช่เลย! แต่ตอนนี้หมุดที่ขึงสายกีตาร์หายไปหนึ่งหมุด เหลือเพียงห้าหมุดเท่านั้น

กีต้าร์ตัวแรกที่เป็นเจ้าของเป็นยี่ห้อ Kemus แม่ให้เงินไปซื้อที่หลังกระทรวงเมื่อตอนเรียน ปวช. ปีแรก ตอนนั้นราคา 400 บาท กีตาร์ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวที่สองที่เขาซื้อเอง แต่ถ้านับตัวที่เพื่อนให้ด้วยถือว่าเป็นตัวที่ห้า ปัจจุบันเหลือเพียงสองตัวเท่านั้น เขาให้เหตุผลที่รู้สึกผูกพันกับกีต้าร์ตัวนี้เป็นพิเศษว่า

“เงินหนึ่งพันบาทสมัยก่อนนี้ไม่ใช่น้อย ต้องอดออมอดเหล้าหลายอย่าง พอได้มาคิดว่ามันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตในตอนนั้น มันต่างจากการได้รองเท้าผ้าใบมาคู่หนึ่งหรือได้กางเกงยีนส์มาตัวหนึ่ง กีตาร์ให้ความสุขทางใจ ให้ความสุขกับเพื่อนที่นั่งฟังรอบข้างได้ด้วย ตั้งแต่ได้มาก็เล่นมาตลอด ช่วยทำให้พัฒนาฝีมือขึ้น และกีตาร์ตัวนี้หลายคนเล่น และไม่ได้ทนุถนอมอะไรมาก บางคนเมาก็วางแรงๆ ด้านหลังก็มีร่องรอยเพื่อนเมาใช้คัตเตอร์กรีดเล่น เคยเล่นกล่อมลูกตอนที่เป็นเด็กๆก็จับเขานั่งตัก จับมือเขาดีดสายเล่นๆ ผมไปทำงานอยู่ต่างประเทศสามปี กลับมาถึงรู้ว่าลูกเล่นกีตาร์เป็น เพราะเริ่มหัดจากกีต้าร์ตัวนี้”

ช่วงหนึ่งของชีวิตตอนเป็นหนุ่มเขาเคยใช้กีตาร์ตัวนี้หากินอยู่ประมาณสองเดือน ที่ค็อกเทลเล้าจน์ชื่อ Gessendo ซึ่งอยู่ข้างโรงหนังวอชิงตัน ที่สุดก็ต้องเลิกเพราะไปทำไม่ไหว เนื่องจากช่วงนั้นเขาทำงานประจำอยู่ที่สวนสยาม ดนตรีถือว่าเป็นอาชีพรอง เล่นเพราะใจรักและอยากหารายได้พิเศษ

เมื่อก่อนนี้จะเก็บกีตาร์ตัวนี้ไว้ใต้เตียง พอกลับจากที่ทำงานมาถึงบ้านก็จะลากกล่องกีต้าร์ออกมา เล่นเพราะอยากเล่น…เล่นแล้วมีความสุข…มีอารมณ์เล่น อย่างน้อยๆก็ต้องเล่นเป็นชั่วโมง

ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.ศ.1 เห็นครูที่อยู่บ้านตรงข้ามกันหิ้วกีต้าร์มา พอเห็นกีตาร์แล้วรู้สึกชอบเลย ตอนนั้นที่บ้านยังไม่มี ที.วี. เวลาไปดูที.วี.ต้องไปดูที่บ้านป้า ฟังเพลงจากรายการ “ท็อปทีน ทาเล้นท์” ซึ่งมีวิทูร วทัญญู เป็นผู้จัดรายการ ต่อมาจึงขอยืมหนังสือคอร์ดกีตาร์จากครูข้างบ้านมาหัดเล่นและเคยไปเรียนที่สยามกลการอยู่สองคอร์ส แต่เรียนไม่จบ

กีตาร์ตัวนี้ภรรยาของเขาก็เล่นด้วย ช่วงที่เขาไม่อยู่เวลาเธอคิดถึงเขาก็จะเอากีตาร์ตัวนี้มาเล่น เธอบอกว่าไม่อยากให้ลูกห่างเสียงกีตาร์ เพราะถ้าพ่อไม่อยู่ลูกสาวก็จะไม่ได้ยินเสียงกีตาร์ จึงเป็นหน้าที่ของเธอซึ่งเป็นแม่ที่จะหยิบกีตาร์มาเล่นให้ลูกฟัง เธอเล่นกีตาร์ตัวนี้เพราะคิดถึงเขาเมื่อยามต้องห่างไกลกัน และพยายามทำให้เป็นปกติเหมือนกับว่ายังมีเขาอยู่ใกล้ๆ

แล้ววันหนึ่งลูกก็อยากเล่นกีตาร์เป็นบ้าง เธอก็เอากีตาร์ตัวนี้มาสอนให้ลูกจับคอร์ด ตอนนี้ลูกสาววัยสิบสี่ปีได้เข้าโรงเรียนเรียนกีต้าร์เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว และดูเหมือนว่าจะไปได้ไกลกว่าพ่อ-แม่

ในการเล่นกีตาร์นั้น สิ่งสำคัญประการแรกที่ไม่อาจละเลยได้ก็คือการตั้งสายก่อนเล่น ต้องไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปและแต่ละสายทั้งหกสายนั้นต้องสัมพันธ์กัน เสียงที่ออกมาจึงจะไพเราะ

ชีวิตคนเราบางครั้งก็ไม่ก็ไม่ต่างไปจากเส้นสายของกีต้าร์ คือไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป เรียกว่ารู้จักความพอดี นอกจากที่จะรู้จักตัวเองดีพอแล้วยังต้องรู้จักวางความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างเหมาะสมด้วย เพลงชีวิตของเราจึงจะไพเราะชวนฟัง และไม่มีวันล่ม !

______________




 

Create Date : 29 มกราคม 2549
12 comments
Last Update : 29 มกราคม 2549 18:32:09 น.
Counter : 656 Pageviews.

 


สรุปได้ดีค่ะ

 

โดย: p_tham 29 มกราคม 2549 18:50:58 น.  

 

ชีวิตคนเราบางครั้งก็ไม่ก็ไม่ต่างไปจากเส้นสายของกีต้าร์ คือไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป เรียกว่ารู้จักความพอดี นอกจากที่จะรู้จักตัวเองดีพอแล้วยังต้องรู้จักวางความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างเหมาะสมด้วย เพลงชีวิตของเราจึงจะไพเราะชวนฟัง และไม่มีวันล่ม !

กินใจครับ

 

โดย: ชายคา 29 มกราคม 2549 19:27:04 น.  

 

อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลย ที่คนๆนึงผ่านสรสุมชีวิตมาอย่างสาหัสสากัญ
แต่ก็ได้ครอบครัวดี คู่ชีวิตดี ความทุกข์ยากก็ดูราวกะน้อยลงไป
ผมเองไม่เคยรู้เรื่องฟองสบู่แตก ไม่เคยสำผัสมัน แต่ผมเริ่มมาสัมผัสมันตอนสึนามินี่เอง
ผมอยู่กรุงเทพ แต่ได้รับผลกระทบจากสึนามิปีที่แล้วสาหัสมากเอาการ
ผมไม่ได้เสียสิ่งที่เคยมี ทุกอย่างยังคงอยู่ เสียแค่เงินบางส่วนที่มากเอาการและเสียใจ เท่านั้นเอง ทุกวันนี้ทำงาน เล่นบล๊อก แล้วไม่พยายามนึกถึงเรื่องเศษฐกิจ
อ้อผมรักเสียงดนตรีเช่นกัน

 

โดย: maczy 29 มกราคม 2549 19:31:31 น.  

 

ชอบชื่อบล็อกพอๆกับเรื่องที่เล่าและสำนวนที่เขียน

อ่านตอนจบแล้วทำให้คิดถึงอาจารย์ที่ปรึกษาตอนเรียนอยู่ป.ตรี อาจารย์เขียนติดไว้ที่ห้องทำงานว่า เสียงซอจะไพเราะ ถ้าสายซอไม่ขึงตึงหรือหย่อนจนเกินไป

สวัสดีวันตรุษจีนค่ะ คุณพ่อพเยีย

 

โดย: SevenDaffodils IP: 69.140.210.74 29 มกราคม 2549 20:03:02 น.  

 

หวัดดีค่ะพี่โดม เพิ่งกลับจากท่องทะเล เย็นนี้เอง ออกไปตั้งแต่วันจันทร์ หนนี้ไปหลายเกาะ ทางเขตกระบี่ พังงากลับมาเยียบแผ่นดิน กลายเป็นเมาแผ่นดิน ยังไม่หายโคลงเคลงเลยเนี่ย แล้วจะบอกกับกิดให้ค่ะ
อยากส่งรูปให้พี่โดม ทางเมลล์ ขอที่อยู่ด้วยค่ะ

 

โดย: shadow-of-art IP: 203.172.86.7 29 มกราคม 2549 20:53:08 น.  

 

อ่านแล้วก็ประทับใจกับเรื่องราวที่นำมาเล่าให้เราได้อ่านและคิดตามค่ะ

 

โดย: JewNid 29 มกราคม 2549 21:48:54 น.  

 

แวะมาอ่านคับ

 

โดย: hidden file 30 มกราคม 2549 2:12:23 น.  

 

สวัสดีครับ....

เมื่อปีที่แล้วผมได้รับผลกระทบอย่างแรงจากสึนามิทั้งที่อยู่กท.
ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ชื่อเสริมสิน MD แห่ง N-PARK คงรู้จักกันดี ซึ่งมีทั้งคนเกลียดและคนรัก
ผมเองอยู่ฝ่ายเอ็นปาร์ค ช่วงเกิดเหตุสึนามิ ผมมีหุ้นบอสัดนี้อยู่ในราคา 1.75 (หนึ่งบาทเจ็ดสิบห้าสตางค์)
ที่นับว่าถูกมากๆ อยู่มากมายโข

ตอนนั้นมีบอสัดซิตี้เรียลตี้ของตะกูลโสภนพานิชจะมาสวอฟหุ้นอย่างแน่นอนในอีกเดือนนึงข้างหน้า เพราะมีการให้สัมพาททางสื่อครบ
บอสัดเอ็นปาร์คจะเป็นบ.อสังหา ครบวงจรที่ใหญ่เป็นอันดับ1ในประเทศ
และที่2คือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ครับ ถ้าการแต่งงานในธุรกิจเรียบร้อย

หุ้นเอ็นปาร์คจะมีราคาพื้นฐานราวๆหุ้นละ20บาท อิอิ ลองคูณเอาดิ่ครับว่ากี่เท่าตัว
ผมนับถือการทำงานจิงจังของMD และเป็นคนชอบบุกเบิกอไลใหม่ๆ
นักข่าวทีวีและนสพ.รุมกันฉีกเนื้อเสริมสินอย่างสนุกสนานเมามันเพราะโกรธที่อยู่ดีๆ ตระกูลดังมาอุ้ม

ทำให้ผมต้องเข้าไปอยู่ข้างเค้า พอเกิดสึนามิ
ทางซิตี้เรียวตี้มองว่าการไปลงทุนสร้างโรงแรมของเอ็นปาร์คในระดับแนวหน้า
ที่ใต้ต้องขาดทุนยับ ที่ดินเสียหายราคาตก วัสดุก่อสร้างก็ขึ้นราคาฯลฯ และปัจจัยหลายๆอย่างด้วยครับ
ต่อมาการปฎิเสธสวอฟหุ้นก็เกิด

หุ้นบาทกว่าที่ว่าถูกแสนถูกมันหล่นลงมาเหมือนให้ป่าว
ผมเองแบกรับไม่ไหว ทั้งที่รักธุรกิจรถไฟฟ้าของเอ็นปาร์ค

ต้องตัดใจขายหุ้นไปในราคา0.81สตางค์ครับ
เงินหายไปจนบางกระเป๋าเลย ช่วงนั้นกินยานอนหลับอยู่เป็นอาทิตย์เลย

เขียนยาวหน่อยขอโทษด้วยครับ แต่ตอนนี้แผลหายแล้ว กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วครับ

 

โดย: maczy 30 มกราคม 2549 8:25:19 น.  

 

เคยฝันอยากเล่นกีตาร์เป็น
เคยให้รุ่นพี่หัดให้ แต่ยอมแพ้ค่ะ ไม่มีหัวทางนี้เลย
ตอนนี้ เจ้าลูกชายคนเล็ก อายุ 10 ขวบเขาขอเรียนกีตาร์ รีบสนับสนุนทันที มีกีตาร์เก่าเก็บอยู่ตัวหนึ่ง ยกให้เขาไปแล้ว แอบฟังๆ ดูท่าทางจะพอไปไหวนะคะ เล่นเป็นเพลงก็ได้ด้วย

 

โดย: filmgus IP: 203.156.40.131 30 มกราคม 2549 10:26:49 น.  

 

หัดเล่นกีตาร์จะเจ็บนิ้วมาก แต่ถ้าอดทนผ่านไปได้ ก็จะหายเจ็บ สนุกสนานกับการร้องเองเล่นเอง ภูมิใจตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ต้องแลกกับปลายนิ้วด้านๆแข็งๆอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้มังคะ สาวๆส่วนมากจึงไม่ค่อยชอบเล่นกีตาร์นัก

เคยมีกีตาร์เป็นของตัวเองค่ะ พ่อแม่ซื้อให้เพราะแรงตื๊อตามประสาวัยรุ่น แต่ครอบครัวไม่ได้สนับสนุนส่งเสริม ต้องการให้เรียนอย่างเดียว ประกายเล็กๆนั้นจึงดับวูบไป

เห็นกีตาร์ที่ไหน ใจคิดอยากลองจับ ลองเล่นอีกสักครั้ง แต่วางไปนานมาก ลืมๆไปก็มาก ภาระปัจจุบันก็มาก กีตาร์จึงกลายเป็นเพียงเรื่องราวดีในวัยเด็กเรื่องหนึ่งค่ะ

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.68.56 30 มกราคม 2549 12:57:25 น.  

 

แอบหยิบคำคม (ที่มีความหมาย)
ทั้งของคุณโดมและของเพื่อนๆ
ที่คอมเมนท์ในบล็อกมาหลาย...เลย

ขอนำไปคิด
ขอนำไปใช้นะคะ

 

โดย: AY IP: 61.19.192.99 30 มกราคม 2549 14:24:40 น.  

 

สวัสดีครับ ช่วงนี้ชีวิตบรรเลงเพลงออกไปทางแนวลูกทุ่งผสมกับhardcore ออกมาพิลึกๆ กีตาร์ของผมสายไม่มีคุณภาพ ตั้งฮาร์โมนิคก็ยังเพี้ยน แต่ก็ไปกันได้กับเสียงเบสเสียงกลองและแนวเพลง สักพักเพลงชีวิตก็คงเปลี่ยนแนวอีก ก็ค่อยตั้งสายกันใหม่
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพครับ

 

โดย: gutofmadness 31 มกราคม 2549 6:43:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.