สิทธิของสัตว์ # ม. มธุการี

ความฉลาดน่ารักของพั้งค์ เพน และกำไล ลิง สุนัข และแมวแสนรู้ ที่พยายามเรียกร้องสิทธิของสัตวชนจากสังคมมนุษย์ เพื่อความอยู่รอดของพวกตน จะสำเร็จหรือไม่ ติดตามอ่านใน สิทธิของสัตว์

ข้อมูลและภาพจาก เวปสกุลไทย

@@@@@@@@@@@@@@

นิยายเรื่องนี้มีการดำเนินเรื่องโดยใช้สัตว์เป็นตัวดำเนินเรื่อง เล่าออกมาในมุมมองของสัตว์ ซึ่งใช้ภาษาง่าย ๆ ซื่อ ๆ ไม่ซับซ้อน อ่านง่าย อ่านแล้วมีความรู้สึกร่วมไปกับบรรดาสัตว์ทั้งหลาย

มีกำไลเป็นแมวสีสวาทอยู่บ้านนางเอก

เพน สุนัขไทยสีดำ อยู่บ้านพระเอก

พั้งค์ ลิงที่ถูกฝึกให้ทำทุกอย่างได้เหมือนคน โดยวิธีการทรมาน จึงหนีออกจากบ้านเจ้านาย มาอยู่กับเด็ก ๆ บ้านนางเอก ต่อมาก็ย้ายไปอยู่บ้านพระเอก

มิ้งค์ หนูถีบจักร ที่รอดชีวิตจากการทดลองของมนุษย์ นางเอกเอามาให้น้องชายเลี้ยง

นกพิราบ ของน้องชายนางเอก ที่จะบินกลับมานอนในกรงที่บ้านทุกวัน ไม่ต้องขัง

ในบรรดาสัตว์เหล่านี้ มี กำไล เพน และพั้งค์ ที่สนิทสนมกัน แม้จะต่างสายพันธุ์ แต่ก็มีความรัก ห่วงใย คอยช่วยเหลือกัน

สัตว์ก็มีหัวใจ

เรื่องราวต่าง ๆ ของคนและสัตว์ ดำเนินไปด้วยกัน เห็นถึงความสัมพันธ์ ความรัก ความผูกพันธ์ของคนกับสัตว์เลี้ยง ชีวิตใคร ใครก็รัก ไม่ควรแม้แต่น้อยนิดที่จะไปคิดรังแก

กำไล เป็นแมวสีสวาทสาวสวย สมาชิกสุดที่รักของบ้านคุณหมอวนา ซึ่งเป็นจิตแพทย์หญิงหม้าย มีลูก 4 คน ก่อนหน้านี้ครอบครัวกำไลก็อยู่กันสุขสบายดี จนกระทั่งคุณหมอวนาป่วยต้องไปรักษาตัวที่ต่างประเทศเป็นเวลานาน ทิ้งลูก ๆ ทั้งสี่ไว้ตามลำพัง โดยมีพี่สาวคนโต วนาลี ที่กำลังเรียนวนศาสตร์ ปีสุดท้ายเป็นคนคอยดูแลน้อง ๆ อีกสามคน สถานะทางการเงินก็เริ่มแย่ลง เห็นได้จากกับข้าวของเด็ก ๆ แต่ละมื้อจะมีแต่ผัดผัก(ที่วนาลีได้มาฟรีจากเพื่อนคณะเกษตร) ใส่กากหมู ที่่ต้องกันไว้ให้กำไล ส่วนคนกินผัก วนาลีจึงคิดจะหางานทำ ซึ่งพอดีกับเพื่อนของแม่โทรมาหาบอกว่ามีคนไข้เป็นโรคประสาทต้องการปรึกษาแม่ของเธอ

วนาลีจึงคิดว่าเห็นแม่รักษาคนเป็นโรคนี้มาตั้งเยอะ ก็แค่นั่งฟังเขาพูดไป เดี๋ยวก็หายไม่มีอะไรยุ่งยาก อย่ากระนั้นเลย ปลอมตัวเป็นแม่ดีกว่า แต่งตัวเชย ๆ ทำผมแก่ๆ ใส่แว่นอันโต ๆ แล้วก็ไปรักษาคนไข้ที่บ้าน !!!!

วิราม ชายหนุ่มวัย 38 กำลังเป็นโรคประสาท อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย นอนไม่หลับ เพราะครอบครัวล้มเหลวเป็นครั้งที่สอง ธุรกิจก็กำลังจะเจ๊ง แถมภรรยาคนที่สองยังฟ้องหย่า เอาสมบัติเกือบทั้งหมด พร้อมกับลูกสองคนไปอยู่ด้วย เขาจึงต้องพึ่งจิตแพทย์ แต่แรกพบก็ไม่คิดเลยว่าหมอของเขาจะแก่ขนาดนี้ !!! สมัยนี้ยังมีหมอแต่งตัวเชยขนาดนี้อยู่อีกหรือ !! แต่เมื่อได้คุยกัน ก็พบว่าเขาสบายใจขึ้น อาการโรคประสาทก็ดีขึ้น หลังทำตามคำแนะนำดี ๆ ของหมอ...

สิ่งที่เชื่อมโยงทั้งคู่เข้าหากันคือความรักที่มีต่อสัตว์ วนาลีมีแมวกำไล ส่วนวิราม มีสุนัขไทยสีดำ ชื่อเพน ซึ่งรักเจ้าของมาก และแสนรู้ วิรามคิดว่าเพนสามารถอ่านใจเขาได้ ในยามที่เขาทุกข์ เสียใจ ไม่มีใคร ก็มีแต่เพนที่คอยอยู่ใกล้ ไม่หนีไปไหน คอยเป็นที่ให้กอดซับน้ำตา เมื่อมีคนมาทำร้ายสัตว์แสนรักของเขา วิรามแสนเจ็บปวด อยากให้เจ้าเพนพูดได้นัก จะได้รู้กันไปว่าใครโกหก... ผู้หญิงคนใหม่ของเจ้านาย เริ่มเข้ามามีบทบาทในบ้าน แต่เพนไม่ชอบเลย เหมือนกับที่เธอก็ไม่ชอบเพนเหมือนกัน มันเป็นสงครามเย็นระหว่างคนกับสุนัข ถึงเพนไม่ชอบหล่อน แต่ก็พยายามปรับตัว เพื่อเจ้านาย แต่แล้วผู้หญิงคนนั้นกลับทำร้ายเพน...ในขณะที่เพนได้แต่หนี...ไม่เคยคิดทำร้ายกลับ เพราะเธอเป็นผู้หญิงของเจ้านาย...  สุดท้าย วิรามจะเลือกใคร

นอกเรื่องหน่อย

…. สำนักพิมพ์เพื่อนดีนำงานเขียนเก่า ของ ม. มธุการี มาพิมพ์ใหม่หลายเล่ม  เราก็เล็งอยู่ เสียแต่หาซื้อยาก ไม่ค่อยลดราคา  พอดีไปเจอฉบับเล่มพิมพ์เก่าที่ร้านหนังสือเก่า เป็นเรื่องนี้ที่มีบรรดาสัตว์เป็นตัวชูโรง ซึ่งชอบมาก เลยซื้อมา พบว่าหนังสือเก่าดีตรงที่ตัวหนังสือใหญ่ บรรทัดห่าง อ่านง่ายดี... แต่อ่านไปจามไป ด้วยความเก่าของกระดาษ  ความจริงซื้อใหม่ดีกว่า ราคาก็ไม่ได้สูงมาก  แถมในเวปสกุลไทยยังมีบททดลองอ่านให้ด้วย เยี่ยมมากค่ะ