กุสาวดี แผ่นดินนี้ยังมีรัก # เรซิน

สำนักพิมพ์ไฟน์บุ๊ค

พิมพ์ครั้งที่สอง มีนาคม 2556

จำนวนหน้า 480 หน้า

ราคา 275 บาท

โปรยปก

เสียยศ สิ้นวงศ์

คงเหลือเพียงลมหายใจและคำปฏิญาณ

หนึ่งชีวิตอุทิศเพื่อแผ่นดิน

หากแต่หนึ่งหัวใจ มอบไว้แด่ ‘เธอ’

ท่ามกลางความขัดแย้ง

ความแตกต่างทางอุดมการณ์ความคิดและการแก่งแย่งชิงอำนาจ

บนแผ่นดินกุสาวดี...นำพาคนสองคนมาพบเจอ

หนึ่งนายทหาร ผู้ถูกตราหน้าว่ารับใช้ทรราช

หนึ่งหญิงสาว บุตรีแกนนำกลุ่มต่อต้านเผด็จการ

บนหนทางที่เป็นเสมือนเส้นขนาน

กลับต้องร่วมทางด้วยสถานการณ์บังคับให้จำยอม

แล้วความรักจะก่อเกิดได้หรือ

เรื่องราวของเขาและเธอจะลงเอยอย่างไร...สุขชื่นสมหวัง

ฤ ร้าวรานแทบขาดใจ

@@@@@@@@@@@@@

เป็นนิยายที่ใช้เมืองสมมติที่ผู้เขียนสร้างขึ้นมาโดยผสมผสานเรื่องราวจากประเทศเพื่อนบ้านภูมิภาคอินโดจีน อ่านแล้วให้ความรู้สึกสมจริง จนคล้อยตามในบรรยากาศและฉากต่าง ๆ ได้ไม่ยาก

เรื่องราวหลักเป็นแบบในคำโปรยนะคะ

ซึ่งผู้เขียนเน้นว่านี่เป็นนิยายรัก ... แต่คนอ่านแอบกระซิบว่า การเมืองก็เข้มข้นด้วยค่ะ

เรื่องราวชิงไหวชิงพริบ วางหมาก เดินเกม ของแต่ละฝ่าย เพื่อจะพาตัวเองไปสู่จุดหมายสูงสุดนั้น เขียนได้น่าติดตามมาก เรียกว่าอ่านไม่อยากวางลงเลยทีเดียว

ส่วนเรื่องรัก...

ผู้พันคินเว...ผู้บังคับหน่วยรบทมิฬผู้มีชื่อเสียงว่าโหดเหี้ยม เด็ดขาด ไม่เคยปราณีศัตรู เขาพร้อมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อชัยชนะ แม้แต่การดึงเอา อราสา บุตรีแกนนำกลุ่มต่อต้านเผด็จการ มาข้องเกี่ยวในแผนด้วย แม้จะบอกตัวเองว่าทำไปเพราะหน้าที่ แต่ลึก ๆ ลงไปเขากลับไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีเรื่องของ ‘หัวใจ’ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

และก็เพราะไอ้เรื่องรัก-ไม่รัก เกลียด-ไม่เกลียด ของพระเอกนางเอกนี่แหละ ที่อ่านแล้วมันช่างกลมกล่อม กลมกลืนกันไปกับเหตุการณ์บ้านเมือง(กุสาวดี) ทำเอาคนอ่านใจแกว่งได้เหมือนกัน อ่านไปก็แอบรักผู้พันคินเว มากขึ้นทีละน้อย ๆ แล้วยัยอราสาจะเหลือเรอะ

หนังสือเรื่องนี้ได้รับรางวัลชมเชย หนังสือดีเด่น พ.ศ. 2553 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ด้วยค่ะ ... แต่ตอนซื้อ ไม่ได้สนใจเรื่องรางวัลนี่เท่าไหร่ค่ะ ... สนใจแต่ปกสวย

... อ่านแล้วไม่ผิดหวังค่ะ แนะนำค่ะ เรื่องนี้เขียนดีจริง ๆ