เอาประเพณีบุญเดือนสิบมาฝากกันค่ะ
บอกเล่าเก้าสิบ
พักนี้คิดอะไรไม่ออกจริงๆค่ะ ว่าจะเอาอะไรมาอัพบล็อกดี บังเอิญนึกขึ้นได้ว่า ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ทางใต้เรากำลังอยู่ในช่วงของเทศกาลบุญเดือนสิบ หรือประเพณี รับ - ส่ง ตา ยาย ซึ่งทำกันเป็นประจำทุกปี และทุกจังหวัด
ส่วนเรื่องที่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยของพิธีกรรม แตกต่างกันออกไปบ้าง ในแต่ละจังหวัดก็ไม่มากมายนัก จังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องประเพณีบุญเดือนสิบ ก็คงจะเป็นนครศรีธรรมราชค่ะ ถือว่าเป็นบูญใหญ่ประจำปีงานหนึ่งทีเดียว
วันนี้ตอนเช้าฉันจึงมีโอกาสไปจ่ายกับข้าว ผลไม้ ขนมหวาน และชุดทาน ตา - ยาย ซึ่งสังเกตุดูบรรยากาศก็คึกคักเหมือนๆกับทุกปี และข้าวของก็แพงขึ้นเท่าตัวเหมือนทุกปีเช่นกัน พรุ่งนี้เป็นบุญใหญ่ ทุกบ้านจะเตรียมข้าวปลาอาหารกันตั้งแต่เช้า ไปทำบุญแล้วจะเอาบุญมาฝากเพื่อนๆนะคะ
ประเพณีบุญเดือนสิบ เกิดขึ้นจากความเชื่อในขนบธรรมเนียมประเพณีนิยม สืบทอดแนวคิดจากอินเดียที่ว่า บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วยังต้องใช้เวรกรรมอยู่ในยมโลก และจะกลับมาเยี่ยมญาติหรือครอบครัวของตน ในช่วงแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ถึง แรม 15ค่ำซึ่งทำให้เกิดมีการทำบุญทำทาน อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
ประเพณีบุญเดือนสิบนี้ไม่ได้มีขึ้นเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดทางภาคใต้เท่านั้น แต่ยังมีทำกันในจังหวัดทางภาคเหนือ และภาคอีสานอีกด้วย และจะมีชื่อเรียกต่างกัน ในภาคอีสานจะเรียกว่า "งานบุญข้าวสาก"และ"งานบุญตานก๋วยสลาก"
ในวันงานจะถือเป็นเสมือนวันรวมญาติที่จะทยอยกันมาร่วมกันทำบุญ "รับตายาย" ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 10 ไปจนถึงวันแรม 15 ค่ำซึ่งถือเป็นวันสุดท้าย แล้วที่บรรพบุรุษของครอบครัวตน จะต้องกลับยมโลก จะร่วมกันทำบุญครั้งสุดท้ายที่เรียกว่า "ส่งตา ยาย" ซึ่งถือเป็นวันสำคัญที่สุด
สำหรับสำรับอาหารที่จัดไปทำบุญ มักจะเป็นชุดทองเหลืองหรือถาด โดยจะจัดของที่ใส่ไว้เป็นชั้นหรือเป็นชุดโดยชั้นล่างสุดจะใส่ข้าวสาร อาหารแห้ง หอม กระเทียม ชั้นถัดไปเป็น ผลไม้และของใช้ประจำวันส่วนชั้นบนสุดใส่ขนมที่เป็นเอกลักษณ์ของงานบุญเดือน 10
ซึ่งขาดไม่ได้มีอยู่ 5 ชนิด คือ ขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมดีซำ และขนมกง
ซึ่งขนมทั้ง 5 ชนิดนี้จะมีความหมายแตกต่างกัน คือ
ขนมลา เปรียบเสมือนเสื้อผ้าเพื่อให้ผู้ตายสวมใส่ในนรกภูมิ
ขนมพอง เปรียบเสมือนแพให้ผู้ตายใช้เป็นพาหนะข้ามห้วยแห่งทุกข์และบาป หรือเวรกรรมต่างๆ
ขนมบ้า เปรียบเสมือน การละเล่นที่ให้ผู้ตายเล่น เช่น สะบ้า
ขนมดีซำ เปรียบเสมือนเบี้ยหรือเงินที่ให้ผู้ตายใช้ในระหว่างใช้เวรกรรมในนรกภูมิ
ขนมกง เปรียบเสมือนเครื่องทรงหรือเครื่องประดับเพื่อให้ดูภูมิฐานและสวยงาม
ส่วนอาหารคาวหวานอย่างอื่นที่จะมีเพิ่มเติมลงไปนั้น ก็แล้วแต่จะพิจารณา ว่าญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วของตนจะชอบอาหารหรือขนมใด นอกจากอาหารแล้ว ยังนิยมใส่เครื่องใช้ ไม้สอย อาทิ ด้าย เข็ม และเงินเหรียญ (ธนบัตรก็ได้) ลงไปในสำรับด้วย
สำรับอาหารที่จัดไว้ส่วนใหญ่จะจัดเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งเตรียมไว้เพื่อบำเพ็ญกุศลแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วซึ่งจะนำไปบำเพ็ญ ที่ศาลาวัดและอีกชุดหนึ่งจะจัดเตรียมไว้สำหรับผู้เสียชีวิตที่ไม่มีญาติ หรือไม่มีใครทำบุญไปให้โ ดยจะตั้งก่อนทางเข้าวัดซึ่งจะเรียกว่า "ตั้งเปรต"หลังจากการบำเพ็ญกุศลเรียบร้อยแล้ว
ผู้ที่เข้าร่วมพิธีก็จะเข้าแย่งอาหารที่เหลือจากการบำเพ็ญกุศล โดยมีความเชื่อว่าของที่เหลือจากการเซ่นไหว้เปรตนี้ เป็นอาหารศักดิ์สิทธิ์ กินแล้วจะได้กุศลแรงและจะเป็นศิริมงคลแก่ตนและครอบครัว พิธีนี้ชาวนครศรีธรรมราชจะเรียกว่า "ชิงเปรต" หรือการแย่งอาหารจากเปรต
นอกจากการทำบุญที่วัดแล้ว ทางราชการยังจัดให้มีการทำพิธีแห่เป็นทางการ รวมทั้งมีการละเล่นต่างๆควบคู่กันไปด้วย เช่น การแสดงมโนราห์ หนังตะลุง และการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ
Create Date : 22 กันยายน 2549 |
|
36 comments |
Last Update : 18 มีนาคม 2550 12:50:24 น. |
Counter : 933 Pageviews. |
|
|
|