สาวน้อย เอาแต่ใจ นิสัยเด็ก ทำอะไรไม่ค่อยคิดแล้วค่อยมาสำนึกผิดทีหลัง ^^
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
18 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

เพื่อน

เมื่อวานโบว์ (เพื่อนสนิทของหนู ลูกคนเดียวเหมือนกันอีกต่างหาก) โทรมาหามาระบายปัญหาชีวิตให้ฟัง ฟังจบแล้วหนูก็ไม่รู้จะสงสารใคร น่าเห็นใจทุกฝ่ายเลยอะ

โบว์เพื่อนหนูคนนี้ใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักข่าวมาตั้งแต่เด็กตอนเข้ามหาลัยก็ตั้งใจจะเรียนนิเทศน์แต่ที่บ้านไม่ยอมอยากให้เรียนบัญชี ทั้งๆที่โบว์แสนจะเกลียดตัวเลข ตอนแรกก็ทะเลาะกันบ้านแทบแตก สุดท้ายก็ลงเอยที่ว่า โบว์จะยอมเรียนตามใจที่บ้าน ส่วนที่บ้านก็จะให้รางวัลโดยการให้โบว์ไป summer ที่ต่างประเทศ+กับสัญญาว่าจะไม่บังคับอะไรอีกแล้วหลังเรียนจบ

โบว์บอกว่าสี่ปีที่เรียนไม่เคยมีความสุขเลย (หมายถึงความสุขในการเรียนนะคะ) โดยเฉพาะสองปีสุดท้ายที่ต้องเรียนเกี่ยวกับบัญชีเป็นหลัก

แต่ในที่สุดโบว์ก็เรียนจนจบเรียกว่ากัดฟันเรียนเพื่อแม่ของแท้เลย จบมาด้วยเกรดกลางๆ พอเรียนจบโบว์ก็ไปสมัครงานกับสำนักข่าวแห่งนึง แล้วก็ได้งานตำแหน่ง admin (โบว์บอกว่าตำแหน่งอะไรก็เอาขอให้ได้ทำกับสำนักข่าวแห่งนี้เพราะหวังว่าถ้าเข้าไปได้การจะได้ย้ายไปทำตำแหน่งนักข่าวคงจะไม่ยาก)

แต่ตำแหน่งของโบว์ต้องไปประจำที่ศูนย์หาดใหญ่ แล้วถ้าความฝันของโบว์ที่จะได้เป็นนักข่าวเป็นจริง นั่นก็หมายถึงว่าจะได้ทำข่าวอยู่แถวนั้นรวมทั้งสามจังหวัดชายแดนด้วย

พอที่บ้านรู้ก็เป็นเรื่องใหญ่ตามคาดทะเลาะกันบ้านแทบแตก

ที่บ้านโบว์ไม่ยอมให้ทำท่าเดียวเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย (โบว์บอกว่าแค่บอกแม่ว่าจะไปอยู่ทางใต้แม่ก็แทบเป็นลม)


โบว์เสียใจมากร้องไห้เหมือนคนบ้า แล้วก็ตะโกนใส่หน้าพ่อกับแม่ บอกว่าทุกคนหลอกโบว์ ไหนว่าสัญญาว่าเรียนจบแล้วอยากทำอะไรก็จะให้ทำ แล้วก็บอกแม่ว่ารู้ไหมว่าสี่ปีที่ผ่านมามันทรมานขนาดไหน

แต่สุดท้ายโบว์ก็เลือกที่จะยอมทำตามที่ๆบ้านต้องการ (คือไม่ทำงานอันนี้แล้วก็ไปเรียนต่อตามที่ๆบ้านต้องการ) แลกกับการที่ๆบ้านจะซื้อรถใหม่ให้

เรื่องนี้น่าจะจบอย่าง Happy Ending แต่ความจริงคือบ้านโบว์ไม่ได้ฐานะดีมาก ทั้งค่าเรียนปริญญาโทแล้วก็ซื้อรถใหม่นั่นหมายถึงพ่อโบว์ต้องเอาเงินเก็บครึ่งนึงของเงินที่เก็บมาชั่วชีวิตมาใช้

ฟังแล้วก็เห็นใจทุกฝ่าย


หนูก็บอกโบว์ไปว่าเป็นหนูถ้าซื้อรถใหม่แล้วเดือดร้อนหนูคงไม่เอาอะ อีกอย่างโบว์ก็มีรถอยู่แล้วๆก็ยังใช้ได้ดีเพียงแต่มันเก่าอะ โบว์บอกว่าจริงๆก็สงสารพ่อเหมือนกัน เพราะพ่อโบว์เป็นคนประหยัดมาก ไม่คิดเหมือนกันว่าพ่อจะยอมซื้อรถใหม่แลกกับการที่โบว์จะยอมไม่ไปทำงานทางใต้ แต่อีกใจก็ยังโมโหพ่อกับแม่อยู่ โบว์เลยบอกว่าขอคิดดูก่อน

หนูก็เข้าใจพ่อแม่โบว์นะ พ่อแม่โบว์ก็คงพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุด+กับปกป้องลูกจากภัยอันตราย ให้มากที่สุดตามความคิดของเขา ถ้าถึงขนาดยอมเอาเงินเก็บครึ่งนึงที่สะสมมาชั่วชีวิตมาซื้อรถให้เพื่อรั้งไม่ให้ลูกไปในที่ๆอันตราย ถ้าจะบอกว่าไม่รัก ไม่พยายามเข้าใจความรู้สึกลูกก็คงไม่ใช่อะ

แต่หนูก็เข้าใจความรู้สึกของโบว์ ให้ทนมาตั้งสี่ปี แล้วอยู่ๆความฝันก็พังทลายลงต่อหน้า เป็นหนูๆก็รับไม่ได้อะ ยิ่งมีการสัญญาไว้แล้วเหมือนถูกหลอกชัดๆเลยอะ



พี่ๆว่าใครน่าเห็นใจมากกว่า แล้วถ้าพี่ๆเป็นโบว์จะเลือกทำยังไงคะ





 

Create Date : 18 เมษายน 2551
37 comments
Last Update : 19 เมษายน 2551 11:26:16 น.
Counter : 426 Pageviews.

 

คือว่ากำลังตามหา น้องคนนึง ชื่อ ผิง นี่แหละ ทำเมล์หายไปตั้งนาน หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าใช่่คนเดียวกันรึป่าว ถ้าไม่ใช่ก็ ขออภัยด้วย ที่เคยเจอกันที่ เซียร์รังสิตน่ะ นานมากแล้ว

 

โดย: พี่มู๋ IP: 58.9.61.31 19 เมษายน 2551 12:45:55 น.  

 

ตอนเรียนม.ปลายพี่ก็อยากเรียนนิเทศน์นะ ตอนเอนท์เลือกแต่นิเทศน์ทั้งหมดเลย
อยากเป็นนักโฆษณาอ่ะจ้า และก็ได้เข้าเรียนนิเทศน์สมใจ
แต่เรียนไปถึงได้รู้ ว่าด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียว
สุดท้ายแล้วที่บ้านทั้งพ่อแม่ และญาติๆก็อยากให้มาเปิดร้านมีกิจการของตัวเอง
มากกว่าไปทำงานบริษัทเป็นลูกจ้างเค้าอ่ะ
สุดท้ายพี่เลยเลิกเรียนกลางคันไปเลย(เหมือนประชดเลยเนอะ)
แต่สุดท้ายของสุดท้ายก็กลับมาเรียนเศรษฐศาสตร์จนจบ
วันนี้มาเปิดร้านขายของ ไม่ได้เป็นนักโฆษณาตามที่เคยอยาก ก็ไม่เป็นไรนะ ก็มีความสุขดี
พี่ว่าบางอารมณ์น้องโบว์ก็อยากเอาชนะมากกว่าอยากเป็นนักข่าวจริงๆรึเปล่า
ไม่รู้สิ พี่ว่าสมมติถ้าเรื่องราวเป็นแบบที่น้องโบว์ฝันทั้งหมด เช่นได้เรียนนิเทศน์
ได้เข้าทำงานเป็นนักข่าวแบบว่าราบรื่นทุกประการ
พี่ว่าน้องเค้าอาจจะดีใจมีความสุข แต่ไม่แน่ผ่านไปครึ่งปีหรือปีนึงอาจจะเฉยๆ หรืออาจจะพบว่างานนี้ไม่สนุกเหมือนที่ตัวเองฝันไว้ก็ได้นา


แต่อีกด้านพี่ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่พ่อแม่จะบังคับลูกให้เรียนในสาขาที่ลูกไม่ชอบนะ
ความคิดนี้ควรจะหมดไปได้แล้ว
สู้สอนลูกให้โน้มเอียงไปทางนั้นยังจะสร้างสรรค์กว่า
เช่นทำให้ลูกสนุกกับการเรียนคณิต หรือสนุกกับการอ่านหนังสือที่มาจากความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ ถ้าลูกชอบ เดี๋ยวเค้าก็จะเลือกเรียนทางนี้เอง แต่ถ้าไม่ชอบก็อย่าไปบังคับเลย

 

โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า 19 เมษายน 2551 13:50:08 น.  

 

อ่านดูเหมือนว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่พ่อแม่ผิดสัญญาเลยนะจ๊ะ เหมือนปัญหาอยู่ที่น้องโบว์จะไปทำงานภาคใต้มากกว่า ไม่ลองหาที่ใหม่ที่ไม่ได้ไปประจำภาคใต้ดูเหรอ สนง.ข่าวในกรุงเทพมันมีอีกเยอะเลยนะ ถ้าสมัครในกทม.แล้วไม่ให้อีก ถึงตอนนั้นพี่ว่าพ่อแม่ทำไม่ถูกแล้วล่ะ ถ้าอยากให้ลูกมีความสุข ก็ไม่ควรต้องบีบบังคับให้ลูกทุกข์ต่อไปอีกทั้งชีวิตด้วย

พี่เชื่อว่าชีวิตนึงมันไม่ได้สำคัญว่าตอนตายประสบความสำเร็จ ร่ำรวยแค่ไหน เพราะความสุขคนเรามันต่างกัน แต่มันสำคัญที่ก่อนตายใครเสียดายเวลาที่ผ่านมามากกว่ากัน

สำหรับน้องโบว์ พี่ว่าก็จะต้องหาจุดพอดี ถึงเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีแต่ต้องไปอยู่ภาคใต้ทางบ้านก็คงไม่ยอมเช่นกัน รักอาชีพนี้จริงก็สใหู้้สุดๆไปเลย เพราะอาชีพนักข่าวก็โดนบีบ โดนกดดันทุกวันเช่นกัน ไฟท์หางานในกทม.ให้ได้แล้วมาคุยกะพ่อแม่ดีๆดูอีกที เพราะยังไงถึงแม้เราจะทุกข์เพราะความเป็นห่วงของท่านมา 4 ปี แต่ท่านเลี้ยงดูเราให้มีความสุข แม้ท่านจะต้องเสียสละอะไรหลายอย่างมาตั้ง 20 กว่าปีเชียว คิดถึงข้อนี้ไว้บ่อยๆอารมณ์อาจจะเย็นลงจ้ะ

 

โดย: Hobbit 19 เมษายน 2551 18:42:27 น.  

 

น้องโบว์ นี่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนกันน่ะนี่

 

โดย: everything on 20 เมษายน 2551 0:28:02 น.  

 

อ่านแล้วพี่ก็ได้แต่สงสารนะ
พี่อ่ะอยากเป็นนักข่าวตั้งแต่เรียนม.ต้น
ตอนนี้พี่เรียนจบแล้ว จบวารสารศาสตร์ด้วย
นักข่าวโดยตรงเลยล่ะ ทำมาทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งแมกกาซีน ทั้งเว็บไซต์ แต่กลายเป็นว่างานข่าวไม่ใช่ความสุขของพี่

แต่พี่ก็รู้จักเพื่อนๆที่เรียนวารสารศาสตร์มหาวิทยาลัยอื่น
ทุกคนดูมุ่งมั่นมากที่จะทำงานด้านนี้ ก็นะ พี่บอกตรงๆว่าไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าอารมณ์อยากทำงานด้านใดด้านหนึ่งมากๆ
มันเป็นยังไง เพราะว่าพี่ยังไงก็ได้ อืม อาจเพราะบ้านพี่ไม่เคยบังคับละมั้ง มีแต่พี่ไม่เอาเอง 555

ถ้าพี่เป็นน้องโบว์ พี่จะยอมไม่ทำงานข่าว แล้วก็จะไม่เอารถด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดที่ฝันสลายไปต่อหน้า
และทนเรียนสิ่งที่เกลียดมาตั้ง 4 ปี แต่พี่คิดว่า การจะทำให้พ่อแม่มีความสุข
ไม่ควรมีข้อแลกเปลี่ยนใดๆทั้งสิ้นค่ะ
ถึงใครจะมองว่าไม่ยุติธรรม ทีพ่อแม่ยังบังคับให้เราเรียนบัญชีตั้งนาน
แต่พี่คิดว่า อีกหน่อยนะ พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว เราจะรู้สึกผิดไปจนวันตาย ยิ่งวันที่เราคิดว่า พ่อแม่เสียสละยอมให้เงินเก็บมาทั้งชีวิต
เพื่อให้เราเอาไปซื้อรถใหม่และเพราะห่วงไม่อยากให้เราได้รับอันตราย

แค่นั้นพี่ก็ซึ้งใจจนยอมแลกกับความสุขส่วนตัวแล้วค่ะ

ฝากไว้นิดนึงนะ การที่เราไม่ได้ทำงานตามที่ใฝ่ฝัน
ไม่ได้หมายความว่าชาตินี้จะไม่มีความสุขเลยนะคะ

ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราต้องเจอ
คนอีกหลายสิบหลายร้อยล้านคนยอมสละความฝัน
ที่ก็อาจจะเป็นแค่เสี้ยวเดียวในชีวิตอันยาวไกล
เพื่อความสุขของคนในครอบครัวโดยเฉพาะพ่อแม่

แล้ววันไหนที่พ่อแม่จากเราไป
วันนั้นเราจะไม่นึกเสียดายเลยค่ะ

 

โดย: ป่ามป๊าม 20 เมษายน 2551 2:00:28 น.  

 

ปล.ลืมบอก ถ้าพ่อแม่น้องโบว์ยอมให้ทำงานข่าวในกทม.
จะโอเคไหมอ่ะคะ? คิดว่าที่พ่อแม่เครียดอาจเพราะจะลงใต้หรือเปล่า?
ลองสมัครงานข่าวในกทม.ดู

 

โดย: ป่ามป๊าม 20 เมษายน 2551 2:04:15 น.  

 

พี่เป็นโบว์
พี่จะไม่เอารถ ให้ที่บ้านเดือดร้อน
และจะเข้าใจถึงความเป็นห่วงใยของพ่อแม่

เรื่องงานสื่อสารมวลชน
เป็นอาชีพในฝันที่อยากทำก็จริง
แต่โอกาสน่าจะมีอีกนะ

พี่ก็มีอาชีพในฝันที่อยากทำ
แต่ก็ไม่ได้ทำ ก็ไม่เป็นแปลกอะไร
บอกเค้าใจเย็นๆนะน้อง...

 

โดย: ชรันจ์ 20 เมษายน 2551 9:19:48 น.  

 

น่าสงสารโบว์เนอะ เป็นโบ๊ต ทำงาน ด้วยเรียน โท ด้วยดีกว่า

 

โดย: boatboat 20 เมษายน 2551 10:01:34 น.  

 

อยากให้น้องโบว์รักพ่อแม่มากๆอ่ะ

 

โดย: Too Optimistic 20 เมษายน 2551 15:48:21 น.  

 

ผิงเอ๋ย ผิง

ไม blog หนูนี่มีอะไร แบบว่า วี ไอ พี ทางความคิดได้ทุกครั้งเลยอะ

แบบว่า อ่านปุ๊บ ชั้นจิ้มตอบได้โดยไม่ต้องมี feeling ว่า มันแบบว่าหนักอยู่หน่าเนี่ย

เราอะ ทำงานเป็นไงบ้าง เหมือนครั้งที่แล้วพี่มาอ่านเจอเรื่องงานมั้ง แต่พี่ยังไม่ได้ตอบ มาคราวนี้ก็ topic ใหม่เลยอะ

จากที่พี่อ่าน พี่ว่าพี่ก็เข้าใจน้องโบว์ พี่เห็นด้วยกับความเห็นบนๆ แต่พี่ก้ยังแอบมีความคิดแบบพี่ด้วยเหมือนกัน

พี่เข้าใจว่าน้องโบว์เค้าคงอยากตามล่าหาความฝัน แต่แท้ที่จริงๆ ลึกๆแล้วเนี่ย เค้าไม่ได้แค่อยากตามล่าฝัน เค้าคงอยากที่จะบินออกจากกรงด้วย

คุณพ่อคุณแม่น้องโบว์ก้รักน้องโบว์มากมาก แต่ท่านพี่ต้องใช้คำว่า พลาด ไม่รู้นะ คนอื่นก็อาจจะใช้คำอื่น แลวก็อาจจะเห็นว่าเป้นการไม่สมควรด้วย ที่พี่เลือกใช้คำนี้ แต่ว่า..เรามีสิทธิ์ที่จะคิดไม่เหมือนกัน พลาดในที่นี่คือเปิดช่องโหว่ของสายสัมพันธ์ในครอบครัว เปิดช่องว่างให้ลูกวิ่งออกห่าง เพราะคนที่ไม่ชอบบัญชีจะไม่มีวันอยากเรียนบัญชี พี่ก็มีเพื่อนนะ พ่อแม่บังคับให้เรียนบัญชีชีก็สอบได้นะสามมย่านเนี่ยแหละ ต่อมาชีเรียนไปได้หนึ่งปีชีก็จะบ้าแล้ว ในที่สุดก็มาลงตัวที่อักษรสามย่าน พ่อแม่เค้าเห็นแล้วลูกไม่มีความสุขแบบมากมาก กรณีข้างบนพี่ว่าน้องโบว์เค้าผิดตรงที่เค้าเรียนเก่งไปเปล่า เรียนจบได้เกรดกลางไม่เลวนะเนี่ย (น่าน ช้านนน หาความผิดให้น้องก็ได้)

ณ ปัจจุบัน น้องฌบว์เลยมีความแค้นฝังหุ่น ว่าคอยดูนะ ชั้นจะทำมันทุกอย่าง แม้ว่าบางที มันจะดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย และหากอะไรที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้สึกแปล๊บบบเข้าไปในหัวใจด้วย คงได้อารมณืมากยิ่งขึ้น (ไม่ได้มีอารมณือยาก hurt ท่านนะ แต่อยากให้ท่านรู้สึกอะไรสักอย่าง ) ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น rebell คือทำในทางตรงกันข้าม ประชดซะ การอยากเป็นนักข่าวนั้น มันก้น่าจะมีขอบเขตอยู่บ้างน้า

มนุษย์รักตัวเอง และก็กลัวตัวเองตาย แต่อำนาจแห่งการอยากเอาชนะมันอยู่เหนือกว่า มันก็เลยไม่สนแล้ว แล้วเค้าก้เลยแค่คิดว่า ตายก็ช่าง แต่พี่กำลังคิดอยู่ว่า น้องเค้าคิดว่าไงคงไม่ตายมากกว่าอะดิ

น่าเสียดายที่เค้าเรียนไท ที่เมืองไทย ลองแลกไปเรียนที่เมืองนอกได้ไหมเนี่ย ไปไอ้พวกประเทสที่จะมีงานทำ ออสเตรเลีย หรืออเมกา อังกฤษก็ยังพอทำเนา แต่โซนอื่นของยุโรปไม่น่าจะหางานง่าย เมืองที่พี่อยู่ไม่มีงานแน่นอน ที่พี่อยากให้โบว์ไป เพราะเค้าจะเจอคำว่าอิสระภาพที่ไม่มีอะไรแล้วที่จะให้เค้าได้มากกว่าที่เค้าขอ แต่สิ่งที่เค้าจะได้รับรู้คือไม่มีใครรักเค้ามากที่สุดเท่ากับพ่อและแม่ และเค้าก็จะไม่มีวันรู้เลยว่ากว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทมันเป็นอย่างไร ถ้าต้องไปทำงานเป็นเด็ก เสริฟหรือล้างจาน ปั้นซูชิ เค้าจะเข้าใจตั้งแต่ต้นเลย เข้าใจเสียก่อนที่จะมาที่นี่อีก เข้าใจว่า งานต้องรองรับอารมณ์คน ต้องอดทน มันไม่ได้ ได้มาง่ายๆ ทุกวันนี้ถ้ามาคิด ค่าที่พักมันยงไม่ต้องเสีย ค่า super market มันยังไม่ต้องเสีย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์บ้าน ค่ายูบีซี เราเองยังไม่ใช่คนที่รับผิดชอบ นักเรียนที่ต้องไปเรียนเมืองนอกเลยแบ่งเป็นสองส่วน

หนึ่ง

ส่วนที่เปลี่ยนพฟติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น (พี่ไม่ใช้คำว่าดัดสันดานนะ เพราะกลุ่มนี้บางทีเปลี่ยนไปคือรักพ่อแม่มากขึ้น แสดงออกซึ่งความรักมากขึ้น และโอนอ่อนเข้าใจโลกมากขึ้น)

สอง

พวกนี้แย่กว่าเดิมอีกอะ ทำอะไรไม่เป็นเลยยยยยย ไม่มีอะไรเปลี่ยนซักตีีดดดด แต่ก็นานจิตตัง

ถ้าหากเปลี่ยนไปเป็นไปเรียเมืองนอกไม่ได้ ก็อย่าซื้อรถใหม่เลย พี่ขอแนะนำให้เค้าไป backpack เมืองนอกซักเดือนสองเดือน ไปยุโรป มันได้ปลอดภัย เวลานั้นแหละที่เค้าแม้จะสนุก แต่เค้าก็จะต้องถุกบังคับให้เรียนรู้ชวิตเพิ่มมากขึ้น พี่ว่าน้องเค้าน่ารักนะ โดยเฉพาะเมื่อเค้าพูดว่าสงสารคุณพ่อ เค้าแค่อยากแก้กลับเท่านั้นเอง เพื่อแลกกับคำว่า จะทำอะไรก็ได้ถ้าหนูเรียนจบบัญชี

และเหมือนกับที่พี่ๆข้างบนเค้าพูดกัน

ตอนนี้น้องโบว์แค่อยากเอาชนะ แต่ในอนาคตน้องโบว์ก็จะโตขึ้นเอง ไม่อยากเอาชนะกะการที่แค่ได้รถ ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่ไม่สบาย ต้องเข้าดรงพยาบาล หรือตัวน้องโบว์เอง (ทั้งที่พี่เชื่อว่าจะไม่มีใครป่วย) ค่ารักษาเดี๋ยวนี้แพงมาก

น่านนนนน อินี่ก็อินจังคุณบะหมี่กี่หน้า A4 ก็ไม่รู้ จบค่ะจบ

good nite darling

 

โดย: บะหมี่น้ำแสนอร่อย 20 เมษายน 2551 22:29:52 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: i_nookae 20 เมษายน 2551 22:40:33 น.  

 

ฟังแล้วเข้าใจทุกฝ่ายเลยฮะ

ทั้งพ่อแม่และน้องโบว์ ...... ประเด็นตรงนี้ไม่มีใครผิดหรอกครับ และก็น่าเห็นใจทุกฝ่ายนั่นแหละ

แต่ว่าโลกเรามันโหดร้ายอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ความฝันกับความจริงมันมักจะต่างกัน

ผมท่องคำนี้จนขึ้นใจแล้วล่ะครับ ...... ความฝันกับความจริงมันมักจะต่างกัน

เรื่องบางเรื่อง เราต้องยอมรับว่าบางทีเราก็ทำตามไม่ได้ หรือทำได้แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่าง

สำคัญที่คือ สื่งที่ต้องแลกมันคุ้มกันหรือเปล่า

ถ้าคุ้ม แลกไปเถอะครับ แต่ถ้าไม่คุ้ม อย่าเลย

ในกรณีนี้คือความเป็นห่วงและไม่สบายใจของพ่อแม่ที่ต้องเอามาช่างน้ำหนัก ซึ่งมันก็แล้วแต่บุคคลล่ะครับ

ไม่มีใครน่าเห็นใจไปกว่ากัน เพราะแต่ละคนต่างมีจุดยืนและเหตุผลของตัวเองในการเรียกร้องสิ่งทีตัวเองสมควรได้ เพียงแต่ตอนนี้ทั้งน้องโบว์และพ่อแม่ยืนกันคนละฝั่งแม่น้ำของความคิดเท่านั้นเอง

ในเมื่อทุกอย่างถึงบทสรุปแล้ว ก็คงพูดได้แต่เพียงว่า เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองฝ่ายคงจะทราบดีว่าที่ตัวเองทำนั้นถูกหรือผิดครับ

 

โดย: Skyman (Analayo ) 21 เมษายน 2551 11:52:16 น.  

 

น่าเห็นใจจ๊ะ แต่เค้าคงมองอนาคตของลูกเค้ามั้งจ๊ะ

ps พี่ก็เกลียดวิชาบัญชีนะ แต่พี่ก็เรียนบัญชีมาเหมือนกันจ๊ะ

 

โดย: S@_KASSEL 21 เมษายน 2551 14:19:12 น.  

 

พี่มู๋ ไม่ใช่นะคะพี่ หนูไม่เคยรู้จักใครที่นั่นเลยอะ

พี่ตี๋ หนูก็ว่าพ่อแม่ไม่ควรบังคับให้ลูกเรียนเหมือนกันอะ ของหนูนี่โชคดีชอบคล้ายๆกันอะ

พี่ปุ๊ก หนูก็บอกโบว์แบบนั้น โบว์ก็บอกว่าต่อให้หาใน กทม ได้ที่บ้านก็คงไม่ให้ทำอยู่ดีแล้วโบว์ก็บอกว่าหมดกำลังใจแล้วด้วย หนูก็เลยไม่รู้จะแนะนำยังไงเหมือนกันอะพี่

พี่แมท งานนี้หนูว่าก็เอาแต่ใจกันทุกคนแหละ

พี่ปาล์ม หนูก็คิดคล้ายๆพี่อะ แต่หนูยอมรับนะว่าจะหาคนที่ทำดีไม่หวังผลนี่ยากจริงๆอะ เเรื่องงานหนูก็ถามโบว์ โบว์บอกที่บ้านหัวโบราณต่อให้ได้งานที่ กทม ก็คงไม่ให้ทำอีก

พี่ชรันจ์ เป็นหนูก็คงทำแบบนั้น แต่บางเรื่องพูดง่ายแต่ทำยากจริงๆอะพี่

 

โดย: น้องผิง 21 เมษายน 2551 14:59:39 น.  

 

emoemoหวัดดีจ้าน้องผิง

 

โดย: หมีสีชมพู 21 เมษายน 2551 15:03:27 น.  

 

โบ๊ท ผิงทำแค่อย่างเดียวยังจะตายเลยโบ๊ทสองอย่างพร้อมกันนี่ยอมแพ้อะ

พี่อร หนูว่าโบว์ก็รักพ่อแม่มากนะ ความรักบางทีมันก็สวนทางกับความเข้าใจอะพี่

พี่บะหมี่

งานหนูตอนนี้็ก็เรื่อยๆอะพี่ี่ ไม่ค่อยมีงานเลยไม่ค่อยมีอะไรอะ แต่ถ้าโดนดุอีกทีหนูก็ไม่แน่ใจว่าจะไม่ร้องไห้อีกอะ

หนูก็คิดคล้ายๆพี่อะ หนูก็เคยแนะนำให้ไปนอกแต่เจ้าตัวไม่เอาอะเพราะโบว์เคยไปมาแล้วแต่ไม่ชอบเท่าไหร่
แบบว่าเคยไปลองทำในร้านอาหารแล้วโดนใช้ไปเก็บขยะในห้องน้ำโบว์ก็เลยเข็ดเลยอะ

หนูว่าโบว์คงแค่อยากเอาชนะมากกว่าอะ อารมณ์แบบนี้หนูก็เคยเป็นแต่พออารมณ์เย็นลงแล้วความคิดก็เปลี่ยนอะ

ตอนนี้โบว์เขาไปสมัครเรียนจ่ายเงินไปบางส่วนแล้วหนูก็คงไม่แนะให้ไปหางานอะ เดี๋ยวเกิดได้งานแล้วเปลี่ยนใจไม่เรียนมีหวังได้ทะเลาะกันใหม่อีกรอบอะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ^^

 

โดย: น้องผิง 21 เมษายน 2551 15:08:29 น.  

 

พี่i nookae ขอบคุณคะ

พี่Skyman

ความฝันกับความจริงมันมักจะต่างกัน
ู^
^
หนูก็ว่าอย่างงั้นอะพี่ แต่บางทีหนูก็ยังดื้อที่จะทำความฝันให้เป็นจริงอะ

พี่ปู พ่อแม่โบว์คงมองเรื่องความมั่นคงมั้งพี่ หนูว่านะ

พี่หมีสีชมพู สวัดดีตอนบ่ายคะ ^^

 

โดย: น้องผิง 21 เมษายน 2551 15:16:09 น.  

 

แวะมาเยี่ยมน้องผิงจ้า

 

โดย: Summer Flower 21 เมษายน 2551 16:38:50 น.  

 

พบกันครึ่งทางสิครับ

เป็นนักข่าวที่ใกล้ๆบ้านก็ได้
คิดว่าพ่อแม่คงยอมนะครับ

 

โดย: ตะวันออกไม่แพ้ 21 เมษายน 2551 22:18:22 น.  

 

มะคืนอ่านไม่จบ ง่วงซะก่อนวันนี้แวะมาอ่านจนจบ
น่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายเลย เฮ้อพูดยากนะเนี่ย
แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วต้องมีทางออกที่ดีที่สุด

พ่อแม่ย่อมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดในสายตาของท่านให้กับลูกเสมอ

 

โดย: i_nookae 21 เมษายน 2551 22:22:55 น.  

 

ไม่มีใครผิดใครถูก
แต่งานนี้ไม่มีความเข้าใจกัน

 

โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท 21 เมษายน 2551 23:17:05 น.  

 

เห็นใจทั้งสองฝ่ายเลยครับ

อีกฝ่ายก็อยากจะทำในสิ่งที่อยากทำใฝ่ฝันมานาน และอีกฝ่ายพี่ก็เข้าใจความเป็นห่วงของครอบครัว พี่ว่าต้องมาจับเข่าคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจ ทั้งสองฝ่ายเลย แต่พี่ว่าฝ่ายเพื่อนน้องน่าจะเป็นฝ่ายถอยหลังง่ายกว่านะ พี่คิดว่าอย่างนั้น !!!

ปล.พี่อัพบล็อคเสริมแล้วนะ (แต่ยังหนักเหมือนเดิม)

 

โดย: postmaker 21 เมษายน 2551 23:37:41 น.  

 

อืม ส่วนพี่คิดว่า พ่อแม่ไม่น่าบังคับให้ทำแบบนั้นให้ทำแบบนี้เลยค่ะ

พี่เติบโตมาพี่ก็ช่วยตัวเองตลอด พี่จะเรียนจะทำอะไรพ่อแม่ไม่ว่าอยู่แล้ว

เรื่องที่พี่ไม่เห็นด้วยก็ตอนบังคับให้ลูกเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบนี่แหละค่ะ

พี่ว่าคนเราจะทำตามฝัน ทำอะไรก็ได้ขอให้ประสบความสำเร็จ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจมากที่สุดแล้ว

ป.ล. การเลี้ยงดูของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน พี่แค่เล่าจากประสบการณ์และความคิดของพี่นะคะ

 

โดย: thaispicy 22 เมษายน 2551 2:40:38 น.  

 

น่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่พี่เห็นใจพ่อกับแม่มากกว่า

กว่าจะเลี้ยงดูลูกจนโต แล้วต้องเห็นลูกไปอยู่ในที่ที่เสี่ยงอันตราย คงไม่สบายใจนักหรอกค่ะ เป็นพี่ พี่ก็ยอมแลกนะ

พี่ว่าให้เพื่อนน้องผิงหางานใน กทม ดีกว่า ไม่เสี่ยงอันตราย แล้วยังได้ทำงานที่ชอบค่ะ

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 22 เมษายน 2551 9:11:20 น.  

 

สู้เพื่อบุพการีจ๊ะ

 

โดย: จูหน่านพ 22 เมษายน 2551 11:35:02 น.  

 

พี่Summer Flower ขอบคุณคะ ^^

พี่ตะวันออก หนูก็ว่างั้นอะพี่ แต่โบว์ตัดสินใจต่อโทไปแล้วอะ

พี่i nookae หนูก็คิดอย่างงั้นอะพี่

พี่หมูปิ้ง ใช่เลยพี่

พี่โพส หนูว่าถอยทั้งคู่ยุติธรรมสุดอะ

พี่อร หนูก็ไม่เห็นด้วยเรื่องบังคับเรียนนะ ยิ่งเรื่องบังคับแต่งงานนี่แย่ที่สุดเลยอะ

พี่ใบไม้ ขอบคุณคะ แต่โบว์เขาตัดสินใจเรียนต่อไปแล้วอะพี่

พี่จูหน่านพ นึกถึงรายการสู้เพื่อแม่เลยอะ

 

โดย: น้องผิง 22 เมษายน 2551 14:42:11 น.  

 

อ่านแล้วก็ปลงเลยครับ ต่างคนก็ต่างความต้องการ

เรื่องเรียนก็ไม่น่าบังคับกันเลย ทั้งๆที่ผมก็เห็นว่านักบัญชีปัจจุบันมีความต้องการสูง

ไหนๆพ่อกัยแม่เค้าอยากให้เป็นนักบัญชี โบวก็น่าจะสนองไปก่อน โบว์เองยังมีเวลาตามฝันอีกนานมาก อย่างน้อยก็ให้สมกับที่เรียนมาทางนี้นะ ตอนที่ทำงานไปก็อาจจะลงนิเทศอีกสาขาก็ได้ จบแล้วค่อยเป็นนักข่าวหรือนักเขียนข่าวก็ได้

เพราะนักข่าวไม่จำกัดอายุนี่

 

โดย: หัวหยิกหน้ากร้อคอสั้นฟันเหยิน 22 เมษายน 2551 16:51:15 น.  

 

ผมเป็นโบ ใครห้ามก็คงไปอะครับ

 

โดย: นายแมมมอส 22 เมษายน 2551 16:59:00 น.  

 

ขอยกมือให้ฝ่ายคุณพ่อคุณแม่นะคะ...อยู่เป็นเพื่อนท่านก่อนดีกว่าค่ะ เวลาเราเหลืออีกเยอะแยะ ฝันไม่เห็นต้องไปตามให้ไกลท่านเลยนี่นา....

เป็นความเห็นส่วนตัวพี่อ่ะนะ...แบบว่าอยากกลับไปอยู่กะท่านแต่ยังฝักใฝ่ความท้าทายอยู่ค่ะ

 

โดย: aom_mY67 23 เมษายน 2551 0:08:43 น.  

 

น่าเห็นใจทั้ง2ฝ่ายเรยค่ะ
ถ้าพี่เป็นแม่น้องโบว์ ก้อคงไม่อยากให้ไปไกลเหมือนกัน่ค่ะ

 

โดย: love_devy 23 เมษายน 2551 10:29:23 น.  

 

พี่หัวหยิก หนูก็ไม่เห็นด้วยกับการบังคับเรื่องเรียนเลยอะพี่ เเคยถามโบว์เรื่องงานบัญชีโบว์บอกให้ตายก็ไม่ทำอะ เรียนต่อคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอะพี่

พี่นายแมมมอส ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเองเนอะพี่

พี่อ้อม เป็นหนูก็คงเลือกพ่อกับแม่อยู่แล้วอะ

พี่love devy หนูก็เหมือนกันอะพี่ หนูก็เข้าใจแม่โบว์นะ

 

โดย: น้องผิง 23 เมษายน 2551 11:51:29 น.  

 

น้องผิงคะ พี่หมวยขอแอดหนู ไว้ใน friend's blog นะคะ

 

โดย: วินนี่ย์หมีพูห์ 23 เมษายน 2551 11:58:10 น.  

 


คลิ๊ก..สร้าง Glitter ด้วยตัวคุณเอง
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่


เข้าใจกับคำว่าลูกคนเดียวค่ะ
เรื่องบังคับลูกเรียนในสิ่งที่ม่ชอบ
เป็นกันทุกๆ บ้านเลยเน๊าะ
เราก็เป็น
สุดท้ายก็มาทำงานในสิ่งที่เราชอบ

 

โดย: อุ้มสี 23 เมษายน 2551 12:22:04 น.  

 

แวะมาขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิด
พี่summer ที่บ้านนะคะ

 

โดย: Summer Flower 23 เมษายน 2551 12:59:38 น.  

 

พี่หมวย ด้วยความยินดีคะ ^^

พี่อุ้มสี หนูก็ไม่เห็นด้วยเรื่องการบังคับเรียนเหมือนกันพี่ ของหนูโชคดีอะที่ชอบคล้ายๆกัน

พี่Summer Flower สุขสันต์วันเกิดคะ ^^

 

โดย: น้องผิง 23 เมษายน 2551 14:28:26 น.  

 

แวะมารับทราบคับผม

 

โดย: พี่มู๋ IP: 58.9.233.225 25 เมษายน 2551 20:36:10 น.  

 

พี่มู๋ จ้า ^^

 

โดย: น้องผิง 28 เมษายน 2551 13:51:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


น้องผิง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




cursor
Friends' blogs
[Add น้องผิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.