สับแหลก : ตำนานสมเด็จพระนเรศวร 3
ความจริงผมไปดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายแล้วล่ะ แต่ยังไม่อยากเขียนถึง เพราะต้อง spoil เต็มๆ แน่ แต่ถึงวันนี้คนส่วนใหญ่ คงได้ดูกันหมดแล้ว
แต่ถ้าใครยังไม่ได้ดู ก็อย่าอ่านข้อความหลังบรรทัดนี้
ใครๆ ที่คาดว่าหนังเรื่องนี่จะมีแค่ 3 ภาค ก็คงจะต้องทำใจเมื่อได้ดูตอนนี้ ที่หนังใส่รายละเอียดเรื่องพระยาจีนจันตุซะมากกว่าครึ่งเรื่อง แล้วเจียดเวลามากล่าวถึงศึกพระเจ้าเชียงใหม่เพียงเล็กน้อย เข้าใจได้ว่าเนื่องจากท่านมุ้ยลงทุนกับเรือสำเภาจีนลำน้ำไปมาก ก็คงอยากจะให้ปรากฏอยู่ในหนังอย่างคุ้มค่า
แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจะทำให้คนดูตื่นเต้นให้สมกับการตั้งชื่อภาคว่ายุทธนาวีได้ ไม่รวมถึงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่การรบนั้นเกิดขึ้นที่ปากน้ำเจ้าพระยา และสมเด็จพระนเรศวรต้องปืนที่พระหัตถ์ จนสมเด็จพระเอกาต้องนำเรือเข้ามาขวาง แต่ทำไมในหนังถึงกลายเป็นเช่นนั้นได้หนอ
และยุทธนาวีที่สำคัญก็เกิดในศึกนันทบุเรงเสียมากกว่า เพราะสมเด็จพระนเรศวรใช้เรือทุกประเภทแม้แต่เรือสำเภา ติดปืนใหญ่ไล่ยิงพวกพม่า จนต้องอ่อนล้าและถอยทัพกลับไป
หากดูเรื่องเวลาเรื่องพระยาจีนจนตุก็เกิดก่อนประกาศอิสระภาพอีก ต่อเนื่องมาด้วยการเทครัวหัวเมืองฝ่ายเหนือ ที่เอาเรือสวยงามมาให้ดู แต่เนื้อหาสั้นมาก ทั้งที่การเทครัวหัวเมืองเหนือนั้นเป็นเรื่องใหญ่นัก แถมตัดศึกพิไชย-สวรรคโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกระด้างกระเดื่องทิ้ง ซึ่งเป็นปมหลักว่าแม้แต่คนไทยด้วยกันเองก็ยังไม่เชื่อว่า อโยธยาจะไปรอด
ถ้าเอาตอนนี้มาสร้างแทนพระยาจียจันตุ ก็คงพอจะได้รับคำชมมากกว่า
นอกจากนี้ตัวละครที่ไม่มีประโยชน์อย่างไอ้ขามและนางสนองทั้งสอง ใส่มาทำไมก็ไม่ทราบ ความรักชาติมันมากมายไม่ต้องอาศัยการบอกเล่าด้วยคนบ้าก็ได้ ผมรับได้ที่คุณสรพงศ์เดิมเล่นเป็นหมื่นสเน่หานอกราชการในสุริโยไท แล้วกลับมาเล่นเป็นพระมหาเถรคันฉ่อง เพราะรู้ดีว่ายังไงคุณสรพงศ์ก็ต้องได้เล่น
แต่การเอาตัวละครอย่างพี่ต๊อกที่เดิมรับบทเป็นหลวงศรียศบ้านลานตากฟ้า มาเล่นเป็นไอ้ขาม คนบ้าบอแล้วให้สงสัยว่าทำไมหาคนมาเล่นไม่ได้ ยังไงคนดูก็ยังติดภาพเท่ห์ๆ ของพี่ต๊อกในสุริโยไท มาเจอบทนี้เข้าไปก็อึ้ง ก็คิดย้อนกลับไปที่ว่า ตกลงตัวละครนี้จำเป็นตรงไหน
โปรโมทรักสามเส้าของเลอขิ่น ดูจบให้สงสัยว่า แล้วยังไงล่ะ
ไหนจะบทของพวกขอมที่ใส่เข้าไปสั้นๆ ด้วยว่ามาช่วยรบ แต่หนังก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มารบ อ้าว แล้วใส่มาทำไม มันก็ย้อนกลับอีกว่า เพราะจะขยายภาคหนังออกมานั่นเอง
บ่นมามากมาย หากจะสรุปเรื่องทั้งหมดก็คือภาคนี้สร้างได้เยิ่นเย้อ ตัวละครที่ใส่มาล้นเกิน ตัดต่อไม่กระชับอารมณ์ของหนังอืดๆ ชวนหลับ
ทั้งที่ตำนานสมเด็จพระนเรศวรหากจะทำให้จบในภาคนี้ก็ทำได้ โดยให้ครึ่งแรกเป็นเรื่องศึกนันทบุเรง และจบศึกในครึ่งแรก ไม่ว่าจะเป็นพระแสงดาบคาบค่าย พระมาลาเบี่ยง หรืออะไรก็ตามที ผ่อนเรื่องต่อครึ่งหลังและจบลงด้วยศึกยุทธหัตถี จะดีกว่านี้มาก
ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้ ถ่ายไปคิดไป เติมไป ตัดต่อไป ถึงได้ออกมาเช่นนี้
ทุกวันนี้ หากเปิด Wikipedia จะเห็นรูปพี่นกฉัตรชัยแทนรูปพระมหาธรรมราชา ผมคิดว่าคนรุ่นต่อไป คงจำเรื่องราวประวัติศาสตร์ช่วงนั้นโดยผ่านหนังสองเรื่องนี้
แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะแยกได้ว่า ตรงไหนของหนังที่ทำตามพงศาวดาร และตรงไหนของหนังที่เกิดจากการตีความของผู้กำกับ และอะไรคือเหตุผล ทำให้ท่านมุ้ยตีความเช่นนั้น
นั่นเพราะคนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ แล้วสุดท้ายมันก็จะกลายเป็นเรื่องราว ที่เล่าขานต่อๆ กันไป จนทุกคนเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงในที่สุด
มันคือด้านร้ายที่ซ่อนอยู่ในหนังทั้งสองเรื่องนี้
Create Date : 04 พฤษภาคม 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2554 10:58:00 น. |
Counter : 1358 Pageviews. |
|
|
และทราบประวัติศาสตร์ค่อนข้างน้อย
สมัยก่อนเรียนไม่ค่อยสนุก ได้แต่ท่อง สอบ
เดี๋ยวนี้เวลาไปไหนก็เลยต้องกลับมาอ่าน
แล้วทำรายงานลงบล็อกแก้ง ได้ผลนะ เพราะรู้เรื่องมากขึ้น
เช่นไปเจอพ่อขุนบางกลางท่าว ที่นครไทย
พ่อขุนผาเมืองที่หล่มสัก
แต่ .... ไม่ได้ไปอยุธยาแบบละเอียดซักทีค่ะ