ด้วยในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มีวันสำคัญ 2 วัน นั่นก็คือวันวาเลนไทน์และวันตรุษจีนซึ่งทั้งสองวันนี้ ก็จะมีสัญญลักษณ์เป็นสีชมพูหวานแหวว และสีแดงแรงฤทธิ์นั่นเองโจทย์ในเดือนนี้เป็นของน้องหนึ่ง "AdrenalineRush"ให้ทำเมนูที่เลือกใช้วัตถุดิบจากสีชมพูหรือสีแดงสีใดสีหนึ่ง หรือจะใช้ทั้งสองสีเลยก็ได้ตามสะดวกสามารถเลือกทำได้ทั้งอาหารคาว หวานและของว่างเช่นเคยJapanese Souffle Cheesecake สูตรและวิธีทำของน้องหนึ่ง(คนออกโจทย์) เราเอามาทานกับสตอเบอรี่ซอสแบบทำเอง ซอสมีสีแดงเลยถือโอกาสได้ส่งการบ้านทั้ง 3F เดือนนี้กับน้องหนึ่งไปพร้อมกัน Japanese Souffle Cheesecake ต้นฉบับของน้องหนึ่ง AdrenalineRush คลิ๊กที่นี่เลยค่ะ่เราทำตามสูตรของน้องหนึ่งเป๊ะ (ยกเว้นลดน้ำตาลของน้องหนึ่งจาก 120 กรัม เป็น 100 กรัม)* แป้งเค้ก 50 กรัม + แป้งข้างโพด 15 กรัม* ครีมชีส 140 กรัม* ไข่แดง 75 กรัม* ไข่ขาว 180 กรัม* นม 80 กรัม* เนย 40 กรัม* น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ* น้ำตาล 100 กรัม (ลดน้ำตาลของน้องหนึ่งจาก 120 กรัม เป็น 100 กรัม)* เกลือ 1/8 กรัม (ไม่ได้ใส่เพราะใช้เนยเค็ม)ไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนไว้ทั้งหมด ตอนที่อบอยู่ได้มีปรึกษาน้องหนึ่งเป็นระยะ ขอบคุณน้องหนึ่งนะคะสำหรับคำแนะนำ ขอลอกสูตรและวิธีทำของน้องหนึ่งมาวางที่นี่อีกรอบเพื่อบันทึกไว้ 1. วอร์มเตา 175 C ไฟล่างอย่างเดียว ทาไขมันที่พิมพ์ กรุกระดาษไขที่ก้นพิมพ์และรอบๆ2. ร่อนแป้ง 2 ชนิด 1 ครั้งพักไว้3. ต้นนมจนเดือด (เอาเข้าไมโครเวฟ 1 นาทีครึ่งตามน้องหนึ่ง) ผสม ครีมชีส เนย คนแรงจนส่วนผสมเข้ากัน ถ้าส่วนผสมเป็นก้อนก็พยายามบี้ๆๆ ไม่ต้องยั้งมือ4. เติมไข่แดง น้ำมะนาวลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันแล้วนำไปกรองผ่านกระชอน 2 รอบ(เรากรองแค่รอบเดียว) เพื่อให้ได้ส่วนผสมเนื้อเนียน.....เราใช้ไข่เบอร์0 4 ฟองแยกไข่แดงและไข่ขาว นำไปชั่งและตักออกอย่างละนิดหน่อยให้ได้ตามน้ำหนัก5. ผสมแป้งลงไป ใช้ตะกร้อมือตะล่อมหรือคนจนส่วนผสมเข้ากัน ไม่ต้องยั้งมือ พักไว้6. ตีไข่ขาวจนฟองอากาศละเอียด ใส่น้ำตาลลงไป ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน.....น้องหนึ่่งช่วยคอมเมนท์ว่าไข่ขาวที่ตีมาจะตีต่อได้อีกนิดนุง แบบเช็คแล้ว ยอดมันเฟิร์มหน่อย ไม่คอพับเกินไป จะทำให้ขนมฟูกว่านี้และสามารถเพิ่มไข่ขาวได้อีกถ้าต้องการให้ขนมฟู.....ไข่ขาวตีแล้วไม่ควรพักไว้และกลับมาตีซ้ำ(โดนด้วยตัวเองเพราะเป็นสาเหตุให้ขนมพัง)เพราะเอามาผสมแล้วแบตเตอร์จะเหลว อบแล้วขนมไม่ขึ้นฟูเนื้อจะด้านๆ เหมือนขนมนึ่งส่วนแบตเตอร์ที่ทำไว้เพื่อรอผสมกับไข่ขาวสามารถพักไว้ได้ แต่ไม่ควรนานเกิน7. แบ่งไข่ขาวลงไปผสมกับส่วนผสมข้างบนสามครั้ง แต่ละครั้งตะล่อมให้เข้ากัน กระแทกเบาๆ 2-3 ครั้งให้ฟองอากาศลอยขึ้นมา.....ใช้ตะกร้อมือผสมจะดีกว่าใช้พาย(ความเห็นส่วนตัว)8. ค่อยๆ เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ....เราเทเสร็จปาดเบาๆ ไม่กล้าเคาะพิมพ์ให้เสมอ ถามน้องหนึ่งไปว่าเคาะได้ไหมจะมีผลกับเค้กหรือเปล่า เพราะเคยเห็นบางตัวไม่ให้เคาะน้องหนึ่งบอกว่าเคาะได้ เค้กพวกต้องดีไข่ขาวไปผสมเคาะได้หมดน้องหนึ่งแนะนำเพิ่มเติมว่าเวลาเท batter ลงพิมพ์ เทสูงนิดนึงค่ะ ซัก 20-30 เซนต์ค่อยๆเทลงมามันจะช่วยทำลายฟองอากาศ ถ้าเทเร็วฟองอากาศจะ trappedเนื้อขนมจะมีฟอง....เราใช้พิมพ์แบบถอดก้น แต่ให้ดีใช้พิมพ์แบบไม่ถอดจะดีกว่า9. อบแบบเอาน้ำร้อนใส่ถาด (water bath) อบ 1 ชม - 1 ชม 15 นาที ถ้าอบปอนด์เดียวประมาณ 45-50 นาทีก็สุกแล้วค่ะ (เช็คสุกด้วยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเค้ก ถ้าดึงออกแล้วไม้จิ้มฟันแห้งๆ ไม่มีขนมเหนียวๆเกาะแสดงว่าใช้ได้แล้วค่ะ) ก่อนครบเวลาประมาณ 5 นาทีเปิดไฟบนด้วยถ้าชอบให้หน้าด้านบนมีสีเข้มหน่อย.....เราเผลออบทั้งไฟบน-ล่างไปประมาณ 30 นาที (เตาไม่มีไฟล่างอย่างเดียว)ส่องดูขนมขึ้นสวยแต่หน้าขนมเริ่มสีเข้ม เลยเอาถาดปิดไฟบน อบต่ออีกประมาณ 20 นาที เอาไม้จิ้มดูไม่มีขนมติดขึ้นมา แสดงว่าน่าจะสุกแล้ว เลยเอาออกจากเตาพอเอาเค้กออกจากเตาเอาเค้กออกจากพิมพ์ทันที ไม่เช่นนั้นเค้กจะหดนะค๊าเค้กด้านข้างดูเบี้ยวๆ หนาไม่เท่ากันเพราะไม่ได้เคาะถาดให้หน้าเสมอค่ะก้นขนมแฉะเล็กน้อย ตอนตัดขนมด้านในตรงกลางด้านล่างเป็นไตแฉะอยู่หน่อยคงเป็นเพราะเรายังอบไม่พอ ที่จริงถ้าอบไฟล่างต่ออีกสัก 10 นาทีน่าจะกำลังดีเอาออกจากพิมพ์แล้วพลิกหลังพลิกหน้า เค้กนี้เนื้อนุ่มและเด้งแต่ก็เกาะตัวแน่นไม่ล้มเละตอนพลิกพักเค้กยังไม่ทันเย็น หมดไปเท่านี้แล้ว เค้กเนื้อเด้ง นุ่ม แน่น แต่ไม่หนักลดหวานลงเพราะจะทานกับสตอเบอรี่ซอสที่ทำไว้(ที่บ้านไม่ทานหวานกัน) อร่อยลงตัวพอดีเลยค่ะสตอเบอรี่ซอสก็ทำแบบลูกทุ่งง่ายๆ แบบหวานน้อย ไม่ใส่เจลาติน ไม่ใส่แป้งกวนไส้ ใช้สตอฯ แช่แข็ง แค่ปล่อยให้น้ำแข็งละลาย เปิดถุงเทสตอเบอรี่ 1กิโลใส่หม้อ ตั้งไฟกลาง เติมน้ำตาลประมาณ 200 กรัม ไม่ต้องเติมน้ำเพราะเทออกมาจะมีน้ำอยู่บ้างแล้วเคี่ยวไปประมาณ 40 นาทีจนข้น เวลาคนระวังไม่ให้ลูกสตอเบอรี่แตก ระหว่างทางถ้าแห้งไปก็คอยเติมน้ำทีละน้อย พอได้ที่เติมน้ำมะนาวประมาณ 3/4 ช้อนโต๊ะ ชิมและปรับรสหวาน/เปรี้ยวได้อีกตามชอบเสริฟกับสตอเบอรี่สดบ้าง Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2561 Last Update : 1 มีนาคม 2561 7:32:39 น. 6 comments Counter : 2228 Pageviews. ShareTweet