บล๊อกนี้เป็นเมนูที่ทำง๊ายง่ายของหลายคน
แต่ก็อยากเอามาลงไว้เพราะเป็นเมนูโปรดของเจ้าของบล๊อก

สมัยเมื่อหลายปีก่อนนู๊นนน เมนูนี้ฮิตติดชาร์จมาจากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
ขนาดขายจานเป็นร้อยอร่อยไม่อร่อยคิดดู แค่หันไปดูโต๊ะข้างๆ รอบตัวต้องมีจานนี้แทบทุกโต๊ะ
นอกจากนั้นยังมีผักกาดแก้วทอดน้ำปลาด้วย แต่เราไม่ค่อยชอบผักมันจะเละไม่กรอบเท่ากะหล่ำปลี





บางทีแค่อยากกินกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา จะไปนั่งที่ร้านและสั่งมาแค่เมนูเดียวก็ใช่ที่
ก็เลยมาลองเลียนแบบทำบ้าง กะหล่ำปลีเอามาแกะใบออกล้างและใส่ตะแกรงสะเด็ดน้ำให้แห้ง
ไม่งั้นแล้วมันจะโป๊กป๊ากหน้ายับเยินได้นะคะ หรือถ้าไม่มั่นใจก็ใช้กระทะมีฝาปิดดีที่สุด







ตอนที่ลองทำครั้งแรก เห็นชื่อเมนูใช้ว่ากะหล่ำปลีทอดน้ำปลาแสดงว่ากะหล่ำปลีก็ต้องเอามาทอดใช่ป่ะ
เราก็จัดการเอากะหล่ำปลีลงทอดน้ำมันท่วมๆ ทอดขึ้นมาโอเคถึงกลีบกะหล่ำจะหดเหี่ยวไปบ้าง
แต่...เปลืองน้ำมันชมัด และก็มั๊นมัน







ครั้งต่อไปเอาใหม่ ใช้น้ำมันน้อยๆ แค่ 2-3-4 ช้อนโต๊ะ เปิดไฟแรง
ถ้าใช้ไฟกลางไฟอ่อนใบจะเหี่ยวเหนียว เอากะหล่ำปลีที่สะเด็ดน้ำจนแห้งใส่ลงไป
ทิ้งไว้จนกะหล่ำปลีสลดขอบใบมีเกรียมหน่อยๆ แล้วก็ทอดแบบพลิกไปมาสัก 2-3 รอบๆ








เราชอบกะหล่ำปลีที่ทอดน้ำมันแล้วมีไหม้นิดๆ และไม่ชอบแบบที่มีน้ำมันเจิ่งนอง
จริงๆ น้ำมันที่ทอดกะหล่ำก็ไม่ค่อยแยะ แต่แทนที่จะพักในจานก็เอามาพักในตะแกรงและเขย่าหน่อย
บางคนบอกว่าให้เอาผักไปลวกหรือเวฟให้สลดก่อนจะได้ไม่ต้องใช้เวลาผัดน้ำมันนาน
ลองแล้วแต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะใบกะหล่ำจะนิ่ม เอาผัดแบบนี้ผักยังมีกรอบอยู่





ผสมน้ำปลาดี น้ำตาลทราย น้ำเปล่านิดหน่อย ชิมให้ได้รสหวานๆ เค็มๆ แบบที่ชอบ







กะทะที่ผัดกะหล่ำปลีถ้ามีน้ำมันเหลือก้นกระทะก็ออกให้หมด (เราใช้ Paper Towel เช็ดออก)
เทน้ำปลาที่ผสมแล้วลงไปให้ดังฉ่า ทีนี้แหละกลิ่นน้ำปลาคลุ้งทั่วครัว
เอากะหล่ำปลีที่พักไว้ลงผัดกลับไปกลับมาสัก 3-4 รอบ ปิดไฟตักใส่จาน






จะทานเล่นทานจริงก็ทานเพลินทุกครั้งที่ทำแหละค่ะ