14 พย 2552 ตอนต่อ อีสานเขียว
วันนี้ว่างงาน ยังพอมีเวลาเหลือเล็กน้อยก่อนจะลาไปพักผ่อนจิตใจ ในสำนักของหลวงพ่อ ตามประสาคนติดเนตมาอัพบล็อกเราซะหน่อยก่อนนะคะ (คนติดเนตคงคล้ายติดบุหรี่นะคะ เผลอปุ๊บก็สูดสักซี๊ดนึงก็ชื่นใจ อยู่ในวัดก็แอบเปิดเรื่อย แต่ส่วนมากไม่มีสัญญาณ ) เรื่องที่ตั้งใจจะเขียนก็ลืมเอาอุปกรณ์มาค่ะ เขียนเรื่องเก่าต่อให้จบละกันนะคะ แล้วก็เขียนไว้เผื่อมีคนคิดถึงแวะมาดูจะได้ นึกภาพออกว่าไป กินอยู่หลับนอนสภาพยังไงกัน ถ้าจำไม่ได้ก็เปิดเรื่อง อีสานเขียวดูประกอบค่ะ
ภาพที่พัก อยู่ข้างลำธารค่ะ ยืนถ่ายรูปจากบนสะพานข้ามลำธาร ที่เห็นเป็นวงเหล็กก็คือหลังคาของสะพานเนื่องจากคนบริจาคซ่อมสะพานออกแบบมาด้วย ตามที่เขาชอบ แต่เราว่าเกะกะไปสักหน่อย แต่ก่อนไม่มีหลังคา เป็นสะพานไม้ประดู่ ในยุคสมัยที่ชาวบ้านเริ่มถางป่ารกร้างทำเป็นสวนยางพารากัน ก็จะตัดไม้ที่มีอยู่เดิมออกขายในราคาไม่แพง จึงได้ไม้ประดู่มาทำสะพานนี่ค่ะ
ยืนจากบนสะพาน มองไปทางปลายน้ำ จะพบมีสันปูนอยู่ทางขวามือ เป็นฝายน้ำที่ชาวบ้านทำขึ้นเพื่อทดน้ำให้ไหลออกเป็นสองทาง ถ้าในหน้าน้ำ ฝั่งขวามือของฝายจะมีน้ำเต็มขอบปูนใช้เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวได้ค่ะ
สภาพเต๊นท์ส่วนตัวค่ะ เพิ่งซื้อเมื่อคราวที่แล้ว แต่ก่อนใช้ของวัด เห่อถ่ายรูปซะหน่อยค่ะ อยู่ใกล้ป่าเนี่ย นอนในเต๊นท์ดีกว่านอนในห้องเพราะแมลงตัวเล็กๆ จิ้งจก ตุ๊กแก งู เข้าไม่ได้ค่ะ ถ้านอนในห้องยังมีโอกาสเข้าไปได้มากกว่าถ้ามีรูโหว่ lส่วนแมลงเข้าหูก็เอาผมปิดหูไว้ค่ะ คนผมสั้นคงลำบากหน่อยต้องใช้ผ้าคลุมหัวแทน ที่ระเบียงนี่ถ้าอากาศเย็นก็นอนสบายมากๆเลย แต่ไปคราวหลังๆนี่ไม่ค่อยได้นอนเพราะตั้งใจจะปฏิบัติให้มากกว่าอยู่บ้าน ก็จะหลับๆตื่นๆทั้งคืน ถ้าฤดูฝน อากาศจะชื้นมาก ตื่นเช้าเหมือนตัวเปียกไปหมดค่ะ หน้าร้อนก็เอาพัดลมตัวเล็กเข้าไปนอนในเต๊นท์ด้วยค่ะ ในเต๊นท์ปูถุงนอนหนึ่งใบถ้าหนาวก็รูดซิป ถ้าร้อนก็แผ่ถุงนอนกางออกรองนอนเฉยๆ คนผอมก็จะเจ็บตามกระดูกสักหน่อยค่ะ พูดถึงเรื่องปฏิบัติตลอดทั้งคืน ขอเล่าสักหน่อยพอสนุกๆนะคะ เคยมีอยู่ครั้งนึงตั้งใจว่าจะไม่นอนจะปฏิบัติทั้งคืน พอง่วงเผลอตัวลงจะเอนนอน เสียงเหมือนคนมาเรียกบ้าง เสียงเหมือนเด็กมาวิ่งเล่น เสียงเหมือนคนมาตีปี๊บเคาะกระป๋องกันอยู่ใกล้ๆที่พัก ตลอดทั้งคืน ไม่ได้นอนเอาซะจริงๆ ตอนหลังเลยไม่กล้าตั้งใจแบบนั้นเลยค่ะ เอาตามกำลังอินทรีย์ธาตุขันธ์ ง่วงก็นอน หายง่วงก็ตื่นมาต่อ แต่ส่วนมากจิตมันก็จะตื่นอยู่ตลอดทั้งคืนเหมือนไม่ได้หลับ แต่ตื่นเช้าก็สดชื่นเป็นปกติดี
ที่สำนักไม่มีดอกไม้สวยๆหรอกค่ะ มีแต่วัชพืช กับดอกหญ้าอย่างที่เห็น ก็พยายามถ่ายรูปมาฝาก ใครเห็นเขาก็สงสัยว่าจะมาปฏิบัติจริงๆรึมาเที่ยวกันแน่ ก็ทั้งสองอย่างผสมๆกันค่ะ
ตามประสาคนเคยออกนอกบ้านทุกวัน ขอออกมาเที่ยวตลาดเมืองเลยดีกว่าค่ะ ( คนอื่นเขาไม่ค่อยขอออกไปไหนกันหรอกค่ะ ) ตอนไปขออนุญาตหลวงพ่อว่า "ไปให้รื่นเริงเลยนะ" ไม่เป็นไรหลวงพ่อบอกอะไรยิ้มรับไว้ก่อนค่ะ ที่ตลาดมีป้ายนี่ติดไว้ดูเก๋ดีเหมือนตามต่างประเทศ
สภาพด้านหน้าตลาดก็คล้ายๆตลาดที่อื่นทั่วไปนะคะ
ผักที่วางขาย หลายๆชนิดไม่ค่อยรู้จักและไม่เคยรับประทาน ยิ่งถามชื่อยิ่งไม่รู้จักเข้าไปใหญ่ ส่วนมากเอาไว้ประกอบแกงทางภาคอีศานค่ะ และก็มีพวกแมลงขายกันพอสมควร มีหนู กบ มากมาย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาลงเดี๋ยวไม่อยากดูค่ะ วันหยุดนี้ก็ไปที่เดิมประมาณนี้แหละค่ะ บรรยากาศเดิมๆ วันนี้ก็พอกระท่อนกระแท่นมีเรื่องมาเขียน เหมือนได้ทำการบ้านมาส่งคุณครูค่ะ
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2552 13:35:37 น. |
Counter : 1788 Pageviews. |
|
|
|