9 พย 52 ปัญจมหาบริจาค
วันนี้ขอเขียนเรื่องธรรมะ ต่ออีกสักวันนะคะ จะได้แนวความคิดต่อเนื่องจากวันก่อน ถึงแม้บางคนเบื่อที่จะอ่านแล้ว อันที่จริงเรื่องธรรมะมีผู้เขียนไว้มากมาย แต่วันนี้ตั้งใจว่าจะเขียนจากประสบการณ์ของตนเองที่ได้อ่านและฟังรวบรวมข้อมูลมาเป็นเวลานาน เพื่อว่าผู้ที่เข้ามาอ่านและมีความสนใจอยู่บ้างอาจได้ประโยชน์สักเล็กน้อย หรือถ้าวันนี้ยังไม่สนใจ แต่ในวันข้างหน้าอาจหวนนึกถึงเรื่องที่เคยอ่านไว้ขึ้นมาได้บ้าง การเขียนก็จะพยายามเขียนให้ได้ใจความสำคัญ อย่างลัดสั้นค่ะ แต่ไหนแต่ไรมาครูบาอาจารย์มักจะเน้นย้ำเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา โดยเฉพาะเรื่อง ทาน ท่านมักสอนและพาให้กระทำอยู่เสมอ ท่านว่า "แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ก็เพราะมีทานเป็นพื้นฐาน" เมื่อวานจึงนั่งพิจารณาว่าเพราะเหตุใด ท่านถึงต้องเน้นย้ำถึงการทำทาน และการทำทานทำไมถึงเป็นพื้นฐานการไปสู่ภาวะเป็นอิสระของใจ ที่ผ่านมาเรามักเคยแต่ได้ยิน คำพูดในทำนองถึงการทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผลตอบแทน เช่น รักษาศีลมีอานิสงค์ให้สวยงาม ทำทานมีอานิสงค์ให้มีทรัพย์มาก ภาวนามีอานิสงค์ให้มีสติปัญญาดี แล้วการมีทรัพย์มากจะไปเกี่ยวข้องอะไรกลับการสลัดจากกระแสโลก แต่ถ้าพิจารณาให้ดีจะพบว่า ตั้งแต่เริ่มที่เราคิดจะทำทานนั้นจิตใจของเราได้เริ่มกระบวนการละขาดจากสิ่งนั้น ความรู้สึกที่เคยมีก็เปลี่ยนไปกลายเป็นความปลงใจได้ว่านับแต่นี้สิ่งที่เราจะทำทานนี้จะไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้ว เมื่อเราปลงใจได้ในการสละออกจิตใจของเราก็จะไม่อาลัยอาวรณ์กับสิ่งนั้นอีก เท่ากับว่าจิตใจเราได้ละขาดจากการเข้าครอบครองผูกพันกับสิ่งนั้น ซึ่งเป็นอารมณ์เดียวกับการสลัดออกจากสิ่งที่จิตใจเรายังเกี่ยวข้องผูกพันอยู่นั่นเอง ดังนั้นการทำทานบ่อยๆก็เป็นกระบวนการฝึกจิตใจให้ละขาดจากสิ่งที่เรายังมีความรู้สึกผูกพันเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของนั่นเอง เมื่อทำบ่อยครั้งเข้าจึงเกิดความเคยชินและเป็นนิสัยไม่ผูกพันร้อยรัดกับสิ่งใด จึงเป็นหนทางแห่งความหลุดพ้นในที่สุดนั่นเอง ทาน ตามที่ทราบกันทั่วไปนั้น มี 3 ประเภทใหญ่คือ 1 วัตถุทาน 2 ธรรมทาน คือ การให้ความรู้หรือธรรมะ 3 อภัยทาน ทานที่เรามักจะลืมนึกถึง ทั้งที่ไม่ต้องใช้สิ่งของมีค่ามีราคาใดๆ นอกจากนี้ยังมีทานที่ให้ได้ยากที่สุด เรียกว่า ปัญจมหาบริจาค ซึ่งเป็นบารมีที่พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ได้ทรงกระทำบำเพ็ญ มหาบริจาค ๕ อย่างได้แก่ ๑. ทรัพย์
๒. อวัยวะ ๓. ชีวิต ๔. บุตรผู้เป็นที่รัก ๕. ภรรยาผู้เป็นที่รัก มหาทานทั้ง 5 ประการนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยากยิ่งเพราะเป็นวิสัยของนิยตโพธิสัตว์เท่านั้นที่จะทำได้ ถือเป็นด่านทดสอบที่สำคัญในการ วัดกำลังใจก่อนที่จะตรัสรู้ การจะบรรลุเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า นอกจากสละสิ่งที่มีค่าแล้วยังต้องสละสิ่งที่เป็นที่รักด้วย หากพระองค์ไม่ยอมเสียสละจนถึงที่สุดแล้ว ก็จะไม่สามารถ"รื้อผัง แห่งความผูกพัน"ไปได้ เพราะการไปสู่ทางสายกลางนั้น จะต้องไม่ติดข้องในอะไรเลย ในความเห็นส่วนตัวแล้ว มหาทานเป็นสิ่งที่ทำได้ยากยิ่ง และคงจะ ยากยิ่งขึ้นอีกถ้าเป็นทานที่ให้แก่บุคคลที่ให้ได้โดยยาก แต่ถ้าสามารถทำใจให้ยินดีในทานที่ยากยิ่งนั้นได้แล้วอานิสงค์ทานนั้นคงหาประมาณไม่ได้ จึงได้ข้อคิดว่าถ้าเราต้องสละสิ่งใด หรืออารมณ์ใดแก่ท่านผู้ใดแล้วเราน้อมใจให้ยินดีสละเป็นทานได้ทุกสถานการณ์ เราคงได้อานิสงค์ผลบุญย้อนมาสู่จิตใจได้บ้าง
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2552 19:48:11 น. |
Counter : 2842 Pageviews. |
|
|
|
แม๋ จขบ.(เจ้าของบล็อก) ก็เขียนธรรมะ เป็นธรรมทานนี่ก็ได้อานิสงส์มากนะคะ อนุโมทนาสาธุค่ะ มาอ่านหลายหนแต่ไม่ได้คอมเมนต์ค่ะ มาให้กำลังใจนะคะถ้ารวมเล่มเมื่อไร ขอหนูด้วยหนึ่งเล่มพร้อมลายเซนต์นะคะ