เตรียมขอวีซ่าก่อนเที่ยวญี่ปุ่น

เครดิตรูปจาก //www.thaigoodview.com/files/u1303/Mount_Fuji.jpg


ตื่นเต้นค่ะ...วันพฤหัสฯ ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา จะไปขอวีซ่าท่องเที่ยว ญี่ปุ่น ครั้งแรกในชีวิตค่ะ จะไปช่วงวันที่ 28 มีนาคม 2552 – 6 เมษายน 2552 ไปกะเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานค่ะ ชื่อพี่จง พี่เค้าจะไปเยี่ยมแฟนเค้า (น้องน้อย หรือ NoiseN) ที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นโน่นถึง 3 เดือนค่ะ แหม่มก็เลยขอเกาะติดตามพี่จงไปด้วย ดีใจมาก อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นมานานแล้ว มีโอกาสก็เลยตัดสินใจไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ รอบที่แล้วพลาดนิวซีแลนด์ไปทีนึงแล้ว รอบนี้หวังว่าคงไม่พลาด

พอดีได้อ่าน blog จากน้อง Cardamom ทำให้ความหวังในการไปยื่นวีซ่าไปญี่ปุ่นดีขึ้นค่ะ จากที่จิตตกไปพักนึงเช่นกัน แถมขอทะเบียนบ้านจากพัทลุงก็ยังส่งมาไม่ถึงสักที ลูกน้องของพี่สาวดันส่งลงทะเบียนมาให้นี่นาแทนที่จะ EMS มาให้ เป็นเรื่องต้องโทรสอบถามเจ้าหน้าที่สถานฑูตกันค่ะว่าจะทำยังไงดีหากไม่มีทะเบียนบ้านตัวจริง เจ้าหน้าที่บอกว่า “ให้ไปคัดสำเนาออนไลน์มาแทนได้” เท่านั้นแร่ะ รีบนั่งแท๊กซี่เผ่นไปสำนักงานเขตห้วยขวางทันทีทั้งที่อีก 1 ชั่วโมงใกล้จะหมดเวลาทำการแล้ว การเดินทางนานกว่าขอสำเนาออนไลน์อีกค่ะ เข้าไปทำไม่ถึง 5 นาทีก็ได้มาแล้ว พรุ่งนี้ล่ะจะได้นำไปยื่นขอวีซ่าไปญี่ปุ่นสักที

ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ลุ้นมั่กๆ ลุ้นทั้งสำเนาทะเบียนบ้านออนไลน์จะผ่านมั๊ย ขอวีซ่าจะผ่านป่าว

รอบนี้แหม่มและพี่ไปยื่นขอวีซ่ากัน 2 คน

สำหรับกรณีท่องเที่ยวของแหม่ม เอกสารที่ต้องเตรียมไปยื่น ดังนี้ค่ะ

1. หนังสือเดินทาง (Passport) เล่มจริง ที่ไม่มีตราประทับมากกว่า 2 หน้าขึ้นไป หากมีเล่มเก่าก็นำมาแสดงด้วยนะคะ
2. ใบคำร้อง 1 ใบ ในการขอวีซ่าต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้นค่ะ พร้อมติดรูปถ่ายให้เรียบร้อย
3. รูปถ่าย 1 ใบ ที่มีขนาด 2 x 2 นิ้ว สีหรือขาวดำ
4. ใบสอบถามเพื่อการขอยื่นวีซ่า 1 ใบ (กรุณากรอกโดยเลือกตามวัตถุประสงค์ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น และลงลายเซ็นตามหนังสือเดินทาง)
5. ทะเบียนบ้านฉบับจริง และสำเนา 1 ชุดค่ะ หากไม่มีตัวจริงให้ไปคัดสำเนาออนไลน์มาได้ค่ะ (แหม่มไปคัดมาแล้ว)
6. หนังสือรับรองการทำงานและเงินเดือนที่บริษัทออกให้ฉบับจริง 1 ชุดค่ะ (ให้ระบุตำแหน่ง, วันเริ่มทำงาน, อัตราเงินเดือน และระยะเวลาวันลาพักร้อน) เอกสารทุกอย่างจะต้องออกไม่เกิน 3 เดือน
7. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ยื่นคำร้อง ฉบับจริง และ สำเนา (ทุกหน้า) 1 ชุด ขอเน้นว่า ทุกหน้า ค่ะ
(ใช้สำหรับยื่นในกรณีที่ผู้ยื่นเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยตัวเอง ยกเว้น สำหรับผู้ยื่นที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือมหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งมีอัตราเงินเดือนตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไปและสามารถตรวจสอบได้จากหนังสือรับรองการทำงาน ไม่ต้องยื่นสมุดบัญชีธนาคาร ทั้งนี้รวมถึงการยื่นสำหรับครอบครัวในความอุปการะของบุคคลดังกล่าวด้วย) เตรียมไปค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยักกะเอาไป สงสัยดูที่หนังสือรับรองการทำงานที่บริษัทออกให้แล้วแต่ของพี่เค้าเอาไปนะคะ งงเลยว่าทำไมไม่เอาของแหม่มไป น้องน้อยเค้าแซวว่าสงสัยหน้าตาจนม๊างเลยขอไป 555++
8. ใบจองตั๋วเครื่องบินค่ะ (เตรียมเผื่อไว้ค่ะกรณีเดินทางคนเดียว)

หากยื่นขอวีซ่ากรณีอื่นก็สามารถเข้าไปดูและ click ที่นี่ เพื่อชมรายละเอียดได้ค่ะ


5 มีนาคม 2552

มาเข้าสู่ความตื่นเต้นกันดีกว่าค่ะ พี่จงนัดแหม่ม 09.00 น. ตรง นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีศูนย์วัฒนธรรมไปลงที่สถานีสวนลุม เพื่อนคนอื่นบอกว่าทำไมนัดสายล่ะ วันนี้อาจจะไม่ได้ยื่นนะเพราคิวเต็ม ไอ้เราก็ตื่นเต้นลุ้นอีกรอบว่าจะคิวเต็มป่าวน๊า ก่อนเข้าไปต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ผ่านด่านเครื่องสแกนด้านในเหมือนตรวจที่สนามบินเลยค่ะ พอไปถึงคนเต็มค่ะเอาไงดีก็ไปกดบัตรคิวก่อนเลย 2 คน 1 คิว แหม่มและพี่ได้คิวที่ 142 ต้องรออีก 91 คิวเลยค่ะ จากนั้นก็ไปตัดรูปติดใบคำร้องขอวีซ่า เซ็นชื่อ ลงวันที่ ให้เรียบร้อย ตรวจทานอีกครั้ง



++ รอตั้ง 91 คิวเลยค่ะ ++


เมื่อเตรียมพร้อมแล้วก็นั่งรอไม่นานนะคะ เจ้าหน้าที่ก็เรียกคิว 142 ไปที่ช่อง 5 ตรวจทานเอกสารยื่นวีซ่าของแหม่มและพี่ไม่ถึง 5 นาที ก็แจ้งให้รออีกครั้งโดยใช้บัตรคิวใบเดิม จากนั้นก็มานั่งรออีกครั้ง รอไม่นานค่ะ เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปที่ช่อง 11 เพื่อแจ้งวัน เวลา ที่จะมารับวีซ่าว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” พอเสร็จตรงนี้โล่งไปเปราะนึงค่ะ ทีนี้ก็ลุ้นวันไปรับวีซ่าค่ะ คือวันที่ 9 มีนาคม 2552 รอบ 13.30 – 16.00 น. รวมเวลาเดินทางไปยื่นขอวีซ่า ใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงเองค่ะ บริการเร็วมากๆ



++ ใบนัดที่ทำให้ลุ้นสุดๆ ค่ะ ++


6-8 มีนาคม 2552 ก็ไปเที่ยวน้ำหนาวค่ะ ระหว่างเที่ยวก็ลุ้นไปด้วย เที่ยวไปด้วย กังวลเหมือนกันค่ะว่าผลจะออกมาเป็นยังไงบ้าง จะผ่านแล้วได้วีซ่ามั๊ยน้อ ขากลับแวะพิษณุโลกไหว้ขอพรจากพระพุทธชินราชด้วยล่ะ อิอิ

ทริปเที่ยวน้ำหนาวค่ะ click ที่นี่ เพื่อชมทริปได้นะคะ


9 มีนาคม 2552

นัดฟังผลที่สถานฑูต เวลา 13.30 – 16.00 น. เป็นต้นไป ตื่นเต้นสุดๆ (แต่ระงับอาการไว้)
มาถึงสถานฑูตบ่ายโมงนิดๆ ร้อนง่ะ แต่ดีจังทางสถานฑูตเปิดให้เข้าไปรอฟังผลด้านในก่อนได้ จะได้นั่งรอแอร์เย็นๆ เข้าไปแล้วก็อย่าลืมกดบัตรคิวนะคะ แหม่มได้คิวที่ 042 อ่ะๆ ทำไมได้แต่เลขที่ที่มีเลข 4 กะ เลข2 นะ



++ บัตรคิว มีเลข 4 กะ 2 อีกแร่ะ ++


พอถึงเวลารับวีซ่า ผลออกมา...... "วีซ่าผ่านค่ะ"...... ดีใจจัง เอ๊ย ดีใจจัง !!! อ่ะ อ่ะ อย่าลืมจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าทั่วไปด้วยค่ะ คนละ 900 บาท
สำหรับแหม่มแล้วกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ได้รับวีซ่าอนุญาตเข้าประเทศญี่ปุ่น 90 วัน ก็โอเคมากค่ะ

ส่วนที่เหลือก็มาจัดการตั๋วเครื่องบินที่จองไว้ จ่ายตังส์ให้เค้าออกตั๋วให้ เสียดายที่อดได้ตั๋ว Friend ของการบินไทย ไป-กลับ 15,000 บาทเอง วันที่แหม่มเดินทางดันตั๋วเต็ม ก็เลยต้องไปซื้อตั๋วการบินไทยจากเอเยนซี่ เพื่อนบอกว่าที่แหม่มจองไว้เป็นราคาตั๋วรองจากโปรโมชั่น Friend ของการบินไทยเลยนะ ... อิอิ ดีจัง เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว พรุ่งนี้จะไปแลกเงิน ใกล้วันเดินทางแล้วก็เริ่มตื่นเต้น


ญี่ปุ่นจ๋า ซากุระจ๋า ภูเขาฟูจิจ๋า ไว้เราจะได้เจอกัน วันที่ 28 มีนาคม 2552 ถึงวันที่ 6 เมษายน 2552 นะจ๊ะ ช่วยๆ กันออกมาบานสะพรั่งและโชว์ความงดงามของภูเขาฟูจิให้แหม่มได้ชมด้วยนะจ๊ะ

Create Date : 25 มีนาคม 2552 Last Update : 25 มีนาคม 2552 15:40:01 น. Counter : 5870 Pageviews.		37 comments
Share Tweet