สะบายดีเมืองลาว - เก็บตกหลวงพระบางต่อจ้า

หลวงพระบาง (5 พฤศจิกายน 2550)

และแล้ววันนี้พวกเราก็จะอยู่ที่หลวงพระบางเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ จะเดินเที่ยวเก็บตกไปตามสถานที่ต่างๆ แต่ Highlight ของแหม่ม (เอง) จะอยู่ที่การ ใส่บาตรข้าวเหนียว นี่แหละจ้า อยากสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างไปจากบ้านเรา อยากรับรู้ความรู้สึกว่าเวลาพระมาบิณฑบาตรเยอะๆ แล้วเราจะจกข้าวเหนียวที่ร้อนๆ ทันป่ะ 555++

ตี 5:30 น. คือเวลานัดเพื่อออกมาใส่บาตรข้าวเหนียวกัน วางแผนว่าจะซื้อข้าวเหนียวที่ตลาดเช้าเพราะจะได้ข้าวเหนียวเยอะก่าเราไปซื้อหน้าวัด ตี 5 กว่าๆ ตลาดเช้าของที่นี่ยังไม่มีแม่ค้าออกมาวางของขายกันเลย ไม่เหมือนเมืองไทยป่านนี้ตลาดคึกคักไปแล้ว แต่สุดท้ายก็หาซื้อข้าวเหนียวจนได้ เค้าจะขายเป็นกิโลกรัมๆ ละ 6,000 กีบ พวกเราก็ซื้อกันมา 5 กิโลกรัม รวมเป็น 30,000 กีบ ส่วนเรื่องสถานที่ที่เราจะไปใส่บาตรนั้น ถามคนพื้นที่ก็มีหลายกระแสมากเลยว่าควรใส่ที่โน่นบ้าง ที่นั่นบ้าง หน้าไปรษณีย์ก็ได้ แต่แหม่มอยากไปใส่ที่ที่มีพระเดินมาเยอะๆ เหมือนในหนังสือ (แต่ก็ดันลืมอ่านว่าที่ไหน) หมดกัน สุดท้ายพวกเราก็เลือกใส่ที่หน้าไปรษณีย์ ใกล้ที่พักเราอีกแย้ว 555++ แม่ค้าบอกว่าจะมีพระมาจาก 5 วัดมารวมกันที่นี่เลยทีเดียว อ่ะเชื่อ (แต่ในใจอยากไปที่อื่น)


++ นั่งรอหน้าไปรษณีย์แหละค่ะ อ่ะอ่ะ พระมาแล้ว ++


++ อ้าว ! เริ่มจกข้าวเหนียวไม่ทันแล้วจ้า แฮ่ะๆ ร้อนด้วย ++


++ เค้าบอกว่าข้าวเหนียวที่ติดมือหรือถุงให้ปั้นวางที่กำแพงวัดค่ะ ++

เพื่อความเป็นสิริมงคลเค้าบอกว่าหากทำบุญแล้วก็ให้ทำทาน แหม่มก็เลยปั้นข้าวเหนียวมาวางไว้ที่กำแพงวัดค่ะ เผื่อมีนกบินมาพบจะได้เป็นอาหารของนกค่ะ ถือว่าเป็นการทำทานอีกอย่างนึง แต่ขออินเทรนด์ล่ะกันจ้า อิอิ

และก็ได้เวลาขึ้นบันได 328 ขั้น (เล่นซะหอบ) เพื่อไปนมัสการ "พระพุทธพูสี" พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง ที่ตั้งโดดเด่นกลางใจเมือง ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงพระบางที่ตั้งอยู่ระหว่างลำน้ำโขงและลำน้ำคาน ขอบอกว่า "สวยงามจริงๆ ค่ะ" แต่ค่าธรรมเนียมโหดไปนิ๊ดนึง คนละ 20,000 กีบเลยค่ะ (ประมาณ 80 บาท)


++ ทางขึ้นเพื่อไปนมัสการพระธาตุพูสีค่ะ ++


++ วิวแรกเป็นฝั่งแม่น้ำโขง พอเห็นก็หายเหนื่อยหอบเลยค่ะ ++


++ วิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงพระบางฝั่งแม่น้ำคานค่ะ ++


++ ภาพต้นไม้กะท้องฟ้า ++


++ อีกคนก็สนุกซะ อีกคนแอบคิดถึงใครอยู่น๊า ++

ลงมาจากพระธาตุพูสี ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น "พระราชวังหลวง" เลยค่ะ แต่ปัจจุบันได้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไปซะแล้ว แต่พวกเราก็ได้แค่เข้าไปถ่ายรูปด้านหน้าแค่นั้นเพราะไม่อยากเสียเงินค่าธรรมเนียม (คนละ 20,000 กีบ)


++ พระราชวังหลวงของลาวค่ะ ++

ต่อด้วยเดินเที่ยวตลาดเช้าที่อยู่บริเวณใกล้ๆ พระราชวังหลวง ที่นี่แม่ค้าจะออกมาขายของสดกันสายเล็กน้อย จะมีผัก ผลไม้ เสื้อผ้า ของพื้นเมือง และ สัตว์ที่เห็นแล้วทั้งน่ากิน น่าสงสาร น่าสยอง อึ๊ย


++ บรรยากาศตลาดเช้าของที่นี่ค่ะ ++

เดินไปสักพักก็เริ่มหิวและอยากทานอาหารเช้าแล้วค่ะ พวกเราก็เดินไปทานแถวร้านเดิมคือร้านประชานิยม แต่วันนี้แหม่มไม่ทานเฝอ เพราะเดินไปเห็นอาหารเมนูใหม่ อิอิ เป็นกระดูกหมูอ่อนย่างชิ้นโตมั่กๆ ซะด้วย นู๋นุ่นเรียกว่าไรแล้วหว่าจำมะได้ ก็เลยซื้อมานั่งแบ่งทานกะนู๋นุ่นพร้อมข้าวเหนียวจานใหญ่ที่ร้านกาแฟโดยสั่งมอคค่า (ก็กาแฟผสมโอวัลติน) อ่ะอ่ะ แต่สายตาแอบไปเห็นแม่ค้าเค้าทานปลาร้าสับแบบลาวกันค่ะ ก็ด้วยความปากไวเลยขอเค้าชิมหน่อย อร่อยค่ะและแม่ค้าก็ใจดีแบ่งมาให้ทานด้วย อืม ...ใจดีจัง


++ อาหารเช้ามื้อนี้ของแหม่มอร่อยและถูกมากค่ะ ++

จากนั้นก็กลับไปที่พักเพื่อพักผ่อนกันนิดหน่อยและเตรียมเก็บกระเป๋ามาไว้ที่ห้องพี่ตุ่มและจันทร์เพื่อเราจะได้คืนห้อง 2 ห้อง และเช่าต่อเพื่ออาบน้ำก่อนกลับไปขึ้นรถทัวร์ไปเวียงจันทร์ พอได้เวลาใกล้เที่ยงค่อยออกมาหาอาหารเที่ยงทานกันก็เลือกได้ที่ "ร้านตำหนักลาว"




++ อาหารอร่อยค่ะ มื้อนี้หมดไป 245,000 กีบ บวกกะทิป 5,000 กีบ ++

จขบ. ว่าเด็กเสริฟที่ร้านนี้น่ารักมาก ในที่นี้หมายถึงคุยเก่ง บริการดี จากนั้นก็เดินเที่ยว "วัดเชียงทอง" ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวสุดท้ายของพวกเราที่หลวงพระบางกันต่อเลยจ้า


++ วัดเชียงทองเป็นวัดหลวงของลาวค่ะ ++


++ วัดหลวงจะมีทั้งหมด 17 ฉัตรค่ะ ++


++ บริเวณด้านในอุโบสถค่ะ ++


++ โบสถ์สีชมพูและขอฝากเงาพวกเราไว้ที่นี่ เผื่อจะได้มาใหม่ ++


++ มุมนี้ก็สวยดีค่ะ ++

ได้เวลาบ่าย 2 ก่าๆ พวกเราก็เร่งเดินทางไปที่ร้านขายผ้าทอกันเพื่อซื้อของฝากสวยๆ มาให้เพื่อนๆ ที่น่ารัก เจ้าเบียร์น่าจะซื้อเยอะสุดเลย เมื่อมาถึงที่พักทุกคนก็เตรียมตัวอาบน้ำกันเพื่อที่จะมาขึ้นรถทัวร์ VIP ที่ท่ารถ ก่อนไปขึ้นรถก็แวะไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านโจมาเพราะคิดว่าสะดวกและใกล้ที่พักของเราที่สุด


++ อาหารเย็นของแหม่มก่อนกลับไปเวียงจันทร์ ++

เมื่อมาถึงท่ารถ จขบ. และเตือนเพื่อนๆ ที่จะเดินทางไปเที่ยวเลยนะคะว่าเวลาซื้อตั๋วรถทัวร์ VIP กลับมาเวียงจันทร์ แนะนำให้มาซื้อที่ท่ารถเลยค่ะ หากซื้อจากบริษัททัวร์อย่างพวกเราส่วนมากก็จะโดนหลอก เพราะรถที่เราจองกะรถที่ต้องนั่งกลับเป็นรถคนละแบบกันเลย ดันเป็นรถแอร์ทัวร์ธรรมดาไม่ใช่ VIP ซึ่งราคาก็ต่างกัน 15,000 กีบ 555++ โดนลาวหลอก


++ สภาพรถที่พวกเราต้องนั่งกลับมาเวียงจันทร์ค่ะ ++

แต่ไหนๆ ก็โดนลาวหลอกแล้ว แต่ก็กลับมีความสนุกบนรถทัวร์ตามมาด้วย ได้เห็นสิ่งแปลกๆ ฮาๆ เพียบ (หากขึ้น VIP คงไม่มีแน่ 555++) คิดแง่ดีเสมอ ความฮานั้นไม่ว่าจะเป็น

- การเปิดเพลงเสียงดังๆ ทั้งคืน เพลงที่เปิดก็เป็นเพลงไทยลูกทุ่งทั้งนั้นนะ มีเพลงทางภาคใต้ด้วย ฟังไปก็แปลให้นู๋กุ้งฟังไปด้วย ฮามั่กๆ
- การพักรถ จะมีให้พัก 2 ครั้ง ครั้งแรกแวะให้เข้าห้องน้ำ แต่ห้องน้ำที่นี่เป็นแบบโอเพ่นแอร์สุดๆ นั่งกันข้างๆ รถเลยทีเดียว ครั้งที่ 2 ก็จะแวะให้ทานข้าวและเข้าห้องน้ำ แต่ขอบอกว่าพักแรกฮาก่า
- แต่ที่เห็นจะฮาและงงสุดๆ คือ นวัตกรรมกลางทางเดินรถทัวร์ ทั้งที่นั่งกันเต็มรถแล้วยังรับคนขึ้นมาอีกเด็กรถก็จะเอาเก้าอื้โล้นมาวางตรงกลางรถแล้วก็ให้คนที่เพิ่งขึ้นมาใหม่นั่ง ทำยังกะเป็นทัวร์ที่มีระยะใกล้ช่วงเทศกาลของไทยเลยค่ะ แต่นี่ต้องเดินทางตั้ง 9 ชั่วโมง ไม่รู้เค้านั่งกันได้ไง เพราะทางขึ้นเขานั้นคดเคี้ยวมั่กๆ หากเผลอหลับต้องมีเอนไปโดยคนอื่นแน่ๆ สรุปแล้วขำค่ะ


ปล. โปรดติดตามตอนจบของทริปนี้กันนะคะ

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550 Last Update : 1 ธันวาคม 2550 22:10:16 น. Counter : 2199 Pageviews.		61 comments
Share Tweet