Rainy season @Chiangmai (2)

วันที่ 1 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=magnolia&month=13-08-2015&group=7&gblog=245

วันที่ 2 ฝนก็ยังพรำอยู่ อากาศปิดมาก



เราดูแล้วว่าเราควรจะดูงานให้เสร็จเสียวันนี้เลย กินมื้อเช้าที่โรงแรมก่อน พร้อมกับถ่ายรูปหน้าโรงแรมนิดหน่อย









“ยาหยี” ของอนันดาอยู่นี่!!





ที่แรกที่เราไปคือ หอศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนิมมานต์เราเดินไปได้ อากาศไม่ร้อน กำลังเดินได้



งานที่ตั้งใจจะมาดูมันดันเลื่อน เวรจริงๆ แต่ก็ยังมีอีกนิทรรศการให้ดูอยู่









จากนั้น นั่งรถแดงคนละ 30 บาทไป TCDC ราคาก็แพงอยู่นะสำหรับค่ารถ ถ้าไปโน่นไปนี่ทั้งวัน เราว่าแพงกว่าแท็กซี่กรุงเทพฯอีก เพราะเขาคิดต่อหัว วันนึงก็เป็นร้อยแล้ว





นิทรรศการของ TCDC ที่นี่เป็นเรื่องของคนจีนที่มาเที่ยวเชียงใหม่ น่าสนใจมากเลยทีเดียว











เก็บเอกสารไปฝากนักเรียน



แถวนั้นไม่ค่อยมีร้านอาหาร เราจึงพากันเดินไปหาข้าวกิน ผ่านร้านขายปุ๋ยแห่งนึง สร้างสวยดี กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม



เจอวัดอะไรจำชื่อไม่ได้แล้ว หอไตรสวยดี ถ่ายเก็บไว้หน่อย



ทานข้าวเที่ยงเสร็จ (มาเหนือ กินข้าวแกงปักษ์ใต้ครับ) นั่งรถแดงกลับไปแถวคูเมืองต่อ เพราะอยากไปชมวัดโลกโมฬี มาตั้งหลายหน ทำไมไม่เคยมาวัดนี้! น้องชอบหรือเปล่าไม่รู้ แต่เราชอบ อิอิ









พอจะเข้าไปกราบพระพุทธรูป เจอพระนั่งอยู่ ท่านถามว่า “มาทำงานหรือมาเที่ยว” เรามองหน้ากัน เอ๊ะ ทำไมท่านรู้ เลยไม่รู้จะตอบว่าไงดี คือตอนนี้กำลังเที่ยวแล้วอ่ะ เลยตอบว่ามาเที่ยว แต่น้องบอกว่ามาดูงาน 555 ตลกใครโกหกพระ!

พระบอกว่า “ดูอยู่ว่าน่าจะเป็นอาจารย์” เอ๊า! พระรู้ได้ไงอีก เดี๋ยวนะ คนที่มาดูงานก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นอาจารย์หรือเปล่า ท่านยังบอกอีกว่า “มาเหนื่อยๆ ก็นั่งพัก นั่งบนเก้าอี้ก็ได้ เปิดพัดลมก็ได้” อะไรก็ไม่น่ากลัวเท่าพระทักนี่ล่ะ คือ ทักแม่นจัง ไม่อยากเป็นอาจารย์นานนะคะ



โบสถ์หลังนี้พระบอกว่า 700 ปีแล้ว แต่ยังคงสภาพดีอยู่มาก







ไปดูเจดีย์ข้างหลัง น่าจะมีอิฐเก่าและใหม่ปนกัน







เพื่อนของน้องมารับไปบริษัทเพราะมาดูงานนิตยสาร HIP ด้วย แต่เขาพาแวะไปที่บ้านข้างวัดก่อน ที่นี่ไปยากนิดนึง ต้องมีรถหรือรู้ทางจริง เพราะอยู่ในหมู่บ้าน เข้าซอยลึกลับ พอเข้าไปก็เป็นอาณาจักรกว้างๆ ที่ศิลปินมาลงทุนสร้างเพื่อให้เป็นแหล่งนัดพบของคนรักศิลปะ และพวกบรรดาที่ชอบชีวิต slow life ทั้งหลาย































หลังจากดูงานนิตยสารเสร็จแล้ว ก็ให้น้องเขามาส่งในเมืองต่อ เราบอกว่าเราอยากไปวัดราชมณเฑียรเพราะผ่านเมื่อกี๊สวยดี ซึ่งอยู่ติดกับวัดควรค่าม้า ชื่อแปลกดีเลยลงดูด้วย







แต่ไม่มีอะไรภายในที่ตื่นตาเท่าไหร่ จึงเดินต่อไปยังวัดราชมณเฑียร วัดนี้วิจิตรงดงามตามศิลปะล้านนาอยู่ ทั้งสถาปัตยกรรมและพระพุทธรูป























ถ่ายจากด้านหน้า มีแต่สายไฟ ทำให้ทัศนียภาพอันงดงามด้อยลงนิดหนึ่ง



ข้ามมาถ่ายรูปเล่นกันที่คูเมือง เขียวขจีดีแท้ เมืองท่องเที่ยวก็ต้องทำให้บ้านเมืองสะอาดสะอ้านดูดีแบบนี้ล่ะ แม้แต่หญ้ายังถ่ายรูปออกมาแล้วสวย







ขากลับแวะไปทานไอติมกันที่ Iberry ซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมที่เราพักเลย คนเยอะมากโดยเฉพาะคนจีน เหมือนเรามาในถิ่นของเขา และใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปกับเจ้าตัวนี้





ตอนเย็นพยายามหาที่กินที่ช้อปถูกๆ จึงไปกาดหน้ามช. หลังตลาดมาลิน ร้านอาหารเต็มเกือบทุกร้าน เลยต้องหย่อนก้นที่ร้านตามสั่งร้านนึง จานละ 50 บาท ถูกและอิ่มจ้า







มาหมดตังค์เอาจุดๆ นี้แหละ เพราะช้อปไม่มีใครห้ามใคร กลับเข้าโรงแรม หมดแรง...

เหลืออีกหนึ่งวัน!!

Create Date : 19 สิงหาคม 2558		0 comments
Last Update : 19 สิงหาคม 2558 22:38:08 น.
Counter : 2687 Pageviews.
Share Tweet