I AM SOMEONE
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
10 ตุลาคม 2555

ดื่มด่ำธรรมชาติที่ทุ่งกระมัง ณ ผืนป่าภูเขียว

หลังจากตามหาแรงบันดาลใจแล้ว //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=magnolia&month=10-2012&date=09&group=7&gblog=197 ก็โบกมือลาจากเขื่อนจุฬาภรณ์ ออกมาประมาณกิโลกว่าๆ จะเจอเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว อยู่ทางขวามือ เสียค่าเข้าคนละ 20 บาท รถยนต์สี่ล้ออีก 30 บาท



ขับเข้าไปประมาณ 20 กว่ากิโลเพื่อไปชมทุ่งกระมัง นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เราขับรถเข้าป่าจริงๆ ดีที่เขาทำทางไว้ดีแล้ว และมีทางเดียวขับตรงไปเรื่อยๆ เราถามเพื่อนว่า “นี่เรามีจุดหมายมั้ย” เพื่อนบอกว่า “เจ้าหน้าที่บอกขับไปเรื่อยๆ” ฟังดูไม่มีความหวังเอาเสียเลยแฮะ เพื่อนเสริมอีกว่า “เขาบอกว่าเคยมีคนหลงด้วย” อ้าว...จะมาบอกทำไมตอนที่เข้ามาแล้วเนี่ย -_-'

หากเข้าป่าแล้วจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ถ้าจะโทรหาใคร ก็ต้องมาโทรที่จุดโทรศัพท์ที่นี่ที่เดียว แต่ยกเว้น truemove ไม่มีสัญญาณจ้า อิอิอิ



สองข้างทางมีแต่ป่าจริงๆค่ะ แนะนำว่าถ้าเข้าไป ให้เปิดกระจกลง รับความบริสุทธิ์ของป่าอย่างแท้จริง เราว่าที่นี่มีความเป็นป่ามากกว่าอุทยานที่เราเคยไปมานะ นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ไม้แล้ว ยังเห็นสัตว์ป่านานาชนิดๆ ทั้งเก้ง งูจงอาง (เจ้าหน้าที่บอกงั้นนะ แต่เราเดาว่างูเห่ามากกว่า มันดำๆยาวๆ) เหี้ย (เราว่าเราเห็นเสือแว๊บๆด้วยนะ เร็วจนมองไม่ทัน) ผีเสื้อนานาพันธุ์ และขี่ช้างเยอะมาก นั่นหมายถึงบริเวณป่าแห่งนี้คงมีช้างป่าโขลงใหญ่แน่ๆ เมื่อคืนนี้มันคงสนุกสนานกัน เกี่ยวต้นไม้ล้มระเนระนาด (จึงได้ยินไปถึงเขื่อน)

มันเป็นความอิ่มเอมที่ได้ได้ยินเสียงป่าก้องอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ในเส้นทาง อย่าเปิดแม้แต่วิทยุหรือคุยกันให้เสียบรรยากาศเลยนะ เรานึกเสียดายที่เราเป็นคนขับ ถ้าเราเป็นคนนั่งนะ เราจะได้ภาพธรรมชาติและบรรยากาศมากกว่านี้ ที่สำคัญต้องขับช้ามากๆ เพื่อดื่มด่ำธรรมชาติ และระวังจะชนกับสัตว์ป่าโดยไม่ตั้งใจ





จนกระทั่งสุดทาง ข้างในจะเป็นบริเวณบ้านพักรับรองค่ะ ที่นี่จะแตกต่างจากอุทยานแห่งชาติซึ่งจัดทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นเรื่องเป็นราว แต่ที่นี่เป็นเสมือนแหล่งศึกษาธรรมชาติแบบใกล้ชิดซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ บ้านพักจะไม่ได้สะดวกสบายนัก ไม่ได้จองที่พักทางอินเทอร์เน็ตเหมือนอุทยานฯ แต่ต้องติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยตรง และไม่ได้คิดค่าพัก เพียงแต่จ่ายเป็นค่าบำรุงตามแต่จะให้ เราว่าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการปลีกวิเวกจริงๆ



อยากบอกดังๆ เลยค่ะ ต้องมาให้ถึงให้ได้ อย่าเพิ่งท้อ เพราะเข้ามาแล้วจะไม่ผิดหวัง ทุ่งกระมังสวยมาก





เมื่อหันไปมองอีกด้าน ก็จะเห็นฝูงเนื้อทรายนอนตากแดดอยู่เยอะมาก เยอะมากๆ ราวกับเรามาสวนสัตว์เลยอ่ะ เรายังคิดในใจว่า เอ๊ะ เรามาผิดที่หรือเปล่า ทุกตัวมองหน้าเราเหมือนเราเป็นสัตว์ประหลาด 555







พวกนี้มันคงคุ้นชินกับคนแล้ว จริงๆ เราไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเนื้อทราย นึกว่ากวาง แยกไม่ออกจริงๆ มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้บอกมาอีกที

ขี้ของมัน



ระหว่างทางออกจากป่า แวะอีกจุด ซึ่งเป็นจุดที่เป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ขอเข้าไปฉี่หน่อย แล้วเดินเล่นแถวนั้นอยู่พักหนึ่ง บรรยากาศน่าปลีกวิเวกอีกแล้ว มีบ้านพักรับรอง แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าตรงนี้ไม่ค่อยสะดวกเรื่องน้ำ เจ้าหน้าที่คนนี้ตลกมาก เราเดินเล่นๆ ไปเห็นขวานวางอยู่ใต้ต้นไม้ กำลังจะเม้าท์กับเพื่อนว่านิทานเรื่องเทพารักษ์หรือเปล่า แต่ปรากฏว่าพอเงยหน้าขึ้นไป เขาอยู่บนต้นไม้ เราตกใจเขา เขาก็ตกใจเรา เพราะต่างคนต่างไม่เห็นแต่แรก เลยเม้าท์เรื่องสัตว์ป่าต่อ











เราประทับใจป่าภูเขียวมาก ถ้าเราไม่กลัวงู กลัวสัตว์ป่า เราก็อยากลงเดินเหมือนกันนะ เพราะจะได้เต็มที่กับธรรมชาติสุดๆ ไปเลย

อยู่ไม่นานนักก็กลับ เพราะแดดเริ่มร้อน เนื่องจากสายแล้ว จึงกลับออกมาด้วยความสุข ไอ้เราก็ประเภทหิวเร็วด้วยสิ หิวข้าวตาลายแล้ว จะหาข้าวกินแถวนั้นก็ไม่มี (ที่อยากกิน) ก็เลยขับออกมาเรื่อยๆ เจอทางเข้าโรงไฟฟ้าเขื่อนจุฬาภรณ์ ก็คิดว่าจะไปถ่ายรูป ต้องเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นแน่ๆ อุตส่าห์ขับเข้าไป 8 กม. ขึ้นเขาลงเขาชันมาก ไม่รู้ไปทำไม อยากจะเคาะหัวตัวเอง ไปเจอแต่ประตู เข้าไปไม่ได้ 555 เสียเวลาหาข้าวกินไปกลับอีก 20 นาที



มุ่งหน้าเข้าชุมแพ จ๊ะเอ๋ กับป้าย ชุมแพชมเพลินอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าเลยค่ะ ที่นี่เป็นจุดแวะพักรถที่ดักคนก่อนเข้าถึงขอนแก่น เราว่าดีเลยล่ะ เพราะคนหิวข้าวหน้ามืดอย่างเราจะไม่ไหวแล้ว



ที่นี่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ มีแต่ร้านอาหารที่พอให้เลือกกินหลากหลายอยู่ รสชาติใช้ได้ มีร้านกาแฟตกแต่งน่ารักให้นั่งชิลล์ๆ ส่วนในอนาคตคงจะเปิดให้บริการชมอะไรเพลินๆ ตามชื่อได้อยู่





มุมย้อนยุค

















แต่ที่ Recommended มากๆ ต้องเป็นห้องน้ำค่ะ ไม่เข้าไม่ได้แล้ว เพราะเขาการันตีว่าสวยที่สุดและสะอาดที่สุดในอีสาน สะอาดกว่าโรงแรมอีกนะเอ้า





มีผ้าพื้นเมืองไว้ให้เช็ดมือ (อาจจะไม่ค่อยซับน้ำเท่าไหร่ แต่เห็นเจตนาดีค่ะ)





สวนหน้าห้องน้ำ



ที่เก๋ก็คงเป็นจุดนี้แหละค่ะ ห้องของชาวสีม่วง



ปิดท้ายทริปนี้ด้วยรอยยิ้ม ดีใจที่ได้ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ


Create Date : 10 ตุลาคม 2555
Last Update : 10 ตุลาคม 2555 15:07:16 น. 5 comments
Counter : 5425 Pageviews.  

 
ไปเที่ยวแล้วมีความสุขก็ดีใจด้วยครับ


โดย: ทองเบิ้ม IP: 223.204.58.133 วันที่: 10 ตุลาคม 2555 เวลา:18:50:54 น.  

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:7:44:53 น.  

 
น่าไปเที่ยวจัง


โดย: Berger&bacon IP: 113.53.77.127 วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:9:32:43 น.  

 
เด๋ียวพาแม่ไปเที่ยวบ้างดีกว่า


โดย: Jumiko IP: 183.89.97.165 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:56:53 น.  

 
ต้องมีกลุ่มดูนกไปด้วยถึงจะมัน...ถ้าจะให้สุดๆ..ขึ้นภูคิ้ง หรือนอนที่ผาเทวดา ...หรือถ้ำครอบ...เหนื่อย...แต่ได้กำไรชีวิต... ย้ำ...ต้องไปปลายฝน..ต้นหนาว....ถึงจะสนุก......จาก..อนุรักษ์ มข.


โดย: เข้ม IP: 27.131.130.66 วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:12:49:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]