I AM SOMEONE
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
8 ธันวาคม 2548

เยือนเมืองเก่าสุโขทัย ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง

ต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤกษ์งามยามดี หลังจากตัดสินใจสละเรือจากอาณาจักรของอากู๋ไปสู่อ้อมแขนนายฝรั่ง ก็เลยลาพักร้อน 5 วันรวด ตัดสินใจเดินทางขึ้นเหนือ กะจะไปสูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสบรรยากาศหนาวๆ เพราะเข้าใจว่าเข้าสู่เหมันตฤดูแล้ว

วันที่ 9 เป็นวันแรกของการเดินทางมุ่งสู่จุดหมายปลายทาง เราเดินทางแบบงงๆ ผสมกับอาการเมาแท็กซี่อยู่ก่อนแล้ว มาถึงหมอชิตปุ๊บ ขึ้นรถทัวร์ต่อปั๊บเลย ใช้บริการของวินทัวร์ ที่นี่จะมี 2 สายค่ะ สายหนึ่งจะไปเส้นกำแพงเพชร สุโขทัย ถึงอุตรดิตถ์ อีกเส้นหนึ่งก็ไปทางพิษณุโลก ถึงสุโขทัยเหมือนกัน พนักงานบอกว่า ใช้เวลา 6 ชม. เท่ากัน เราก็เลยตัดสินใจไปเส้นกำแพงเพชร เนื่องจากไม่อยากรอนาน ค่าโดยสาร 302 บาท

เราไม่ได้นั่งรถทัวร์เกือบศตวรรษได้แล้วมั้งคะ เลยคิดว่าตัวเองต้องเมารถแน่ๆ แถมนั่งข้างหลังอีกต่างหาก ผู้หญิงที่นั่งข้างๆ คุณเธอก็ท้องอีก โอ๊ย อึดอัดทันที แต่ก็ทนค่ะ จนไปถึงนครสวรรค์ เค้าจะจอดรถแวะทานข้าวโดยใช้ตั๋วรถแลกอาหารค่ะ อย่าทำหายเชียว ไม่งั้นต้องซื้ออาหารนะ แต่อาหารก็ไม่ได้อร่อยหรือเยอะแยะอะไรมากมายหรอกค่ะ ถ้าอยากอิ่มซื้อเพิ่มดีกว่า

นั่งมา 6 ชม.แล้ว ไม่ยักกะถึงซะที สรุปว่ากว่าจะถึง รวม 6 ชม.ครึ่งค่ะ (จริงๆอาจจะ 6 ชม.พอดีก็ได้ แต่เครื่องยนต์ร้อนเลยต้องจอดรดน้ำ 2 รอบ) เราเกือบท้อใจแน่ะค่ะ เพราะทรมานมากกับการนั่งรถคนเดียว ไอ้เราก็ไม่ใช่คนชอบคุยโทรศัพท์เพื่อฆ่าเวลาเสียด้วย :(

กว่าจะมาถึงก็เย็นแล้วค่ะ เลยไม่ได้ไปไหน หน้าหนาวก็มืดเร็วซะด้วย แต่...อย่าเชื่อคำว่า "หน้าหนาว" นะคะ ขนาดดวงอาทิตย์ที่ว่าใหญ่ก็ยังโดนต้มมาแล้วเลย หลงไปว่าหน้าหนาว เลยรีบตกซะตั้งแต่ยังไม่ 6 โมง

จริงๆแล้ว ยังไม่หนาวเลยด้วยซ้ำ ให้ตายสิคะ ข้าพเจ้าขนเสื้อไหมพรมตัวใหญ่มาเลย ฮ่าๆๆๆ ท่าทางจะเก้อซะแล้วสิเรา แถมเรามาในช่วงที่แมงเม่าบินเข้ากองไฟบุกเมืองสุโขทัยด้วย โห คุณเอ๊ย... มันน่ากลัว น่าขนลุกมากๆ ไฟอยู่ที่ไหน แมงเม่าอยู่ที่นั่น (ยิ่งกว่าความพยายามอีกนะเนี่ย) แม้แต่มอเตอร์ไซค์ที่จอดติดไฟแดงอยู่ ต้องคอยปัดอยู่ตลอดเวลา

เข้าพักโรงแรมค่ะ โรงแรมนี้ก็แปลกดีนะคะ น้ำอุ่นเปิดยังไงก็ไม่อุ่น แต่ดีที่อากาศไม่หนาว เลยไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ วันนี้เราเพลียค่ะ นอนเร็ว

เม้าท์มาตั้งนาน ไม่มีรูปประกอบซะที วันนี้แหละวันที่ 10 เพื่อนข้าพเจ้ามารับไปชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 12 โลเห็นจะได้ ที่นี่แหละที่เค้าจัดงานเผาเทียนเล่นไฟ ฉลองเทศกาลลอยกระทงกันค่ะ แปลกดีตรงที่เค้าเน้นการเล่นไฟและแสงเสียงมากกว่าประกวดนางนพมาศ เพราะเวทีนางนพมาศ หายไปอยู่ในป่าดงดิบโน่นแน่ะค่ะ นางนพมาศอาจถูกงูฉกตายได้

บริเวณที่จัดงานอยู่บริเวณวัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอุทยาน ในเวลากลางวันบรรดาฝรั่งจะแวะเวียนมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันพอสมควร รวมทั้งเราด้วย

รอบๆวัดมหาธาตุ (จริงๆมีวัดอื่นๆอีกแหละ แต่เดินไม่ไหว ใหญ่จัด แค่วัดเดียวก็ดำไป 10%แล้วค่ะ)



ฟ้าเป็นใจให้ถ่ายภาพสวยๆของวัด


มุมนี้น่าจะพอคุ้นๆกันบ้างนะคะ


พระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย สวยค่ะ สวยมาก


บางจุดก็ได้รับการบูรณะไปบ้างแล้ว สังเกตจากปูนที่โบกใหม่ เราชอบต้นไม้ที่นี่มากๆ ต้นใหญ่ๆทั้งนั้นเลย คาดว่าคงมีอายุหลายร้อยปีเช่นเดียวกับวัดค่ะ




จากนั้นเราก็เดินทางไปชมพระใหญ่ วัดศรีชุม หลายคนคงเคยเห็นภาพพวกนี้ใช่มั้ยคะ เราก็เคยเห็นแต่ในรูปค่ะ วันนี้ได้มาเห็นองค์จริงเสียที แต่นี่เค้าบูรณปฏิสังขรณ์แล้วนะ ถ้ายังไม่บูรณะ ก็จะดูไม่เป็นรูปเป็นร่างอย่างนี้ค่ะ ด้านหลังองค์พระมีทางขึ้นไป จึงเรียกว่าพระพูดได้ค่ะ จริงๆ เราขึ้นไปพูดเองนั่นแหละ เอาไว้เพื่อสร้างกำลังใจให้ชาวบ้านสมัยนั้นมั้งคะ
ทางเข้าค่ะ


เข้าชมใกล้ๆใหญ่จริงๆค่ะ นับถือความสามารถของคนในสมัยนั้นนะ

เดินเลาะไปทางด้านข้างขององค์พระ ซึ่งเป็นบันไดขึ้นไปถึงยอด เลยสถาปัตยกรรมภายใน มองจากมุมนี้สวยดี

มุมนี้ยอดนิยมค่ะ


จากอำเภอเมือง เรานั่งรถต่อไปยังอำเภอศรีสัชนาลัยค่ะ ที่นี่มีอุทยาน 2 แห่ง คืออุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย อย่าสับสนนะคะ เดี๋ยวเราจะดูกันทีละแห่งกันเลยนะ

มาถึงแล้วค่ะ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ที่นี่ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเหมือนกัน บางคนก็นั่งรถรางของทางอุทยาน บางคนก็ขี่จักรยานมาชมค่ะ แต่อาจจะเป็นลมได้ เพราะกว้างใหญ่มากกกกกกกกก เสียดายที่ที่นี่ไม่ค่อยตัดหญ้าค่ะ เพราะหญ้ารกมาก เป็นทุ่งหญ้าสวันนาแล้วเนี่ย


เราแวะไปขึ้นเขาพนมเพลิงค่ะ ที่นี่ต้องเดินขึ้นบันได้กว่า 100 ขั้น ไม่ทันเหนื่อยหรอกค่ะ ไม่ชันมาก มีร่มเงาไม่ร้อนด้วย ขึ้นไปก็เป็นวัดค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าจะเห็นวิวของอุทยานทั้งหมด แต่เปล่า...ไม่เห็นค่ะ ต้นไม้บังหมดแล้ว


เจดีย์บนเขา


จากนั้นเราก็แวะวัดเจดีย์เจ็ดแถวค่ะ เราก็ไม่ทราบว่าเขานับกันยังไง เพราะนับแล้วก็เกินอยู่ดี สงสัยบางอันจะไม่เรียกว่าเจดีย์มั้ง




ผ่านมายังแก่งหลวงค่ะ เชื่อกันว่าพระร่วงเสด็จมาสรงน้ำที่นี่


คราวนี้มาเที่ยวถึงวัดช้างล้อมแล้วค่ะ มีช้างจริงๆ รอต้อนรับอยู่ด้านหน้า


นี่เป็นภาพด้านหน้าค่ะ เจดีย์ทรงระฆังคว่ำตั้งตระหง่านให้เราเห็น


นี่เป็นช้างที่ล้อมรอบวัดค่ะ เราว่าวัดช้างล้อมที่นี่จะคล้ายกับวัดช้างล้อมที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรนะ แต่ยิ่งใหญ่คนละแบบ คนสร้างหรือคนออกแบบอาจจะเป็นคนในยุคเดียวกันหรือคนเดียวกันก็ได้


จากนั้นเรานั่งรถไปดูอีกวัดหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานฯ จำชื่อวัดไม่ได้แล้วอ่ะ แต่ถ่ายภาพออกมาฟ้าสวยมาก ตัดกับความขลังของพระปรางค์


หลังจากแวะทานข้าวกลางวันเรียบร้อยแล้ว ภาคบ่ายเราไปอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยต่อค่ะ อากาศที่นี่แปรปรวนดีค่ะ มีฝนตกหนักระหว่างทางด้วย และนอกจากจะได้สูดอากาศอันบริสุทธิ์ก่อนไปถึงอุทยานแล้ว ยังทำบาปอีกต่างหาก ทับพ่อไก่ตายไป 1 ตัว เศร้าค่ะ คุณนึกออกมั้ยคะ หัวหน้าครอบครัวไก่ตาย แล้วแม่และลูกๆ วิ่งมาดูศพพ่อที่ถูกรถเหยียบตายคาที่ เป็นภาพที่สะเทือนใจสุดๆ ไม่ต่างจากคนนั่นแหละค่ะ เราก็เพิ่งรู้ว่าไก่ก็มีหัวใจก็วันนี้แหละค่ะ ขอให้ไปเกิดเป็นดาวพ่อไก่นะคะ สาธุ

เศร้าผ่านพ้นไป ไม่นานก็ลืมได้ (อิๆๆ ไม่ค่อยจะเลวเลยเรา) ถึงอุทยานฯแล้วค่ะ มาถึงประมาณบ่ายสอง อากาศดีเชียว เย็นสดชื่น แบบนี้เราชอบ มีเส้นทางให้เราศึกษาธรรมชาติด้วย เดินป่านั่นเอง เราตัดสินใจเข้าไปยังเส้นทางที่ใกล้ที่สุด นั่นคือ ถ้ำธาราวสันต์ ป้ายบอกว่า 1.5 กม. ไม่น่าจะไกลแฮะ เพราะเดินในกรุงเทพฯยังไกลกว่านี้เลย

ระหว่างทาง มีธรรมชาติที่ต่างจากหลายป่าที่เราเคยเห็น


ดอกไม้ป่า


ป่าเบญจพรรณ


อุ๊ยมีลำธารเล็กๆด้วย หลงป่าก็ไม่ตายแล้วเรา


เดินมาสักพัก เห็นป้ายบอกทาง


เฮ้ย นี่มาตั้งนานแล้วนะ ทำไมเหลืออีกตั้งกิโลเหรอเนี่ย เดินต่ออีกหน่อย โอ๊ย เส้นทางลำบากมากขึ้นค่ะ หลังฝนตกทำให้ดินค่อนข้างแฉะและลื่น เจอป้ายบอกว่าอีก 500 เมตร เพื่อนบอกว่ากลับเหอะ เพราะมันชักจะน่ากลัวขึ้น กลัวว่าถ้าไปถึงจะมืดซะก่อน เพราะในป่ามืดเร็ว ขณะนั้น บ่าย 3 โมงกว่าแล้ว เราก็เลยถอดใจ หมุนตัวกลับ สรุปว่า ไม่ถึงถ้ำค่ะ

ตอนเดินออก กลับใช้เวลาไม่นานแฮะ ได้เหงื่อค่ะ รวมทั้งตื่นเต้นด้วยลุ้นว่าจะออกมาก่อนค่ำหรือไม่ และฝนจะตกระหว่างทางหรือเปล่า และแล้วธรรมชาติก็เป็นใจให้เราเดินกลับออกมาอย่างปลอดภัย
เหนื่อยแค่ไหนก็ยังเก๊กได้เสมอ


ออกมานั่งพักก่อนกลับ ธรรมชาติสุดๆ ผีเสื้อเกาะรองเท้าเน่าๆ ของข้าพเจ้าเอง


ก่อนกลับ เราแวะน้ำตกตาดเดือน ตรงทางเข้า ไม่ต้องเดินไกลเท่าไหร่ ประมาณ 300 เมตรก็เจอแล้ว นักท่องเที่ยวน้อยค่ะ รู้สึกจะมีแต่เราล่ะมั้ง เพราะมันเย็นแล้ว จริงๆ เค้าห้ามเข้าหลัง 4 โมงครึ่งแล้วแหละ แต่เนื่องจากมันไม่ไกล เจ้าหน้าที่เลยอนุญาต น้ำตกที่นี่ไม่ค่อยใสเท่าไหร่ คงจะเป็นปลายน้ำแล้วมั้งคะ


แต่ก็มีความแรงไม่น้อยเหมือนกัน ถ้าเราตกลงไปก็คงตายล่ะค่ะ


ระหว่างทางเดินกลับมาปูน้ำตก มายืนจังก้าต้อนรับด้วย ไม่สิ ก็เรียกว่ามายืนโบกก้ามลาต่างหาก เท่จริงๆเลยครับพี่น้อง เหมือนรูปปั้นเด๊ะ พี่ปูไม่กระดิกเลยแม้เจอแสงแฟลช


สำหรับการเดินทางมาสุโขทัยในครั้งนี้ เรานึกโกรธตัวเองอยู่เหมือนกัน เคยมีความตั้งใจอย่างยิ่งยวดว่าชาตินี้ จะต้องมาเที่ยวงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟที่ยิ่งใหญ่ มาชมพระจันทร์เต็มดวง ณ วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่งที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยให้ได้ แล้วเราก็อุตส่าห์มาถึงที่แล้ว แต่...อีกคืนเดียวเท่านั้น คืนวันที่ 11 เราก็ไม่สามารถอยู่ชมความอลังการของงานได้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าแล้วจะมาทำไมเนี่ย เสียชาติเกิดจริงๆ แล้วก็อุตส่าห์ตั้งชื่อเรื่องซะเหมือนจะมีภาพมาอวดกัน แต่ที่ไหนได้ ไม่มี... ขอโทษค่ะ ข้าพเจ้าแพ้ฝูงมนุษย์

ถ้าชาตินี้ไม่ตายซะก่อน จะมาเยือนใหม่อีกครั้งค่ะ




Create Date : 08 ธันวาคม 2548
Last Update : 8 ธันวาคม 2548 19:09:32 น. 4 comments
Counter : 8226 Pageviews.  

 
ยังไม่เคยไปเลยที่นี่ แต่ขอบอกว่ารูปที่ถ่ายสวยมากๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: เกด IP: 125.24.0.16 วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:17:52:41 น.  

 
ที่นี้สวยมาก


โดย: นัด นภัทร เทพารักษ์พรมอินทร์ IP: 118.173.153.121 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:19:02:12 น.  

 
ที่นี้สวย ผู้ ญ ที่นี้ก็สวยคร้าบ ขอฝาก ชลิตา


โดย: นัด นภัทร เทพารักษ์พรมอินทร์ IP: 118.173.153.121 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:19:04:35 น.  

 
สวยมากค่ะ


โดย: นก+เก๋ IP: 192.168.2.201, 61.19.116.12 วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:9:35:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]