I AM SOMEONE
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
8 ธันวาคม 2548

ชมแม่น้ำปิง เต็มตลิ่งเดือนสิบสอง

ต่อเนื่องจากการเยือนเมืองเก่าสุโขทัย วันที่ 11 พฤศจิกายน เราก็ไปเที่ยวเมืองระแหงกันต่อนะคะ เมืองระแหงที่ว่าก็คือจังหวัดตากนั่นเอง สงสัยเมื่อก่อนดินอาจจะแตกระแหงมากไปหน่อย เลยชื่อเมืองระแหง เพราะถึงเวลาร้อนที่นี่ก็ร้อนสุดๆ เวลาหนาวก็หนาวจับจิต

แต่ข้าพเจ้ามาในหน้าหนาวแท้ๆ ไยจึงร้อนสุดๆ ก็ไม่รู้ แถมยังเจอฝนอีกต่างหาก สงสัยฟ้าดินจะลงโทษเสียกระมัง ภาษาเหนือเค้าเรียกคนอย่างเราว่า "ตัวขึด" ค่ะ หมายถึง ตัวอปุสรรคประมาณนั้นแหละ มาถึงก็ทำให้อากาศบ้านเค้าแปรปรวนซะงั้น

มาถึงวันแรก ก็ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติลานสาง ที่นี่ไม่ใหญ่นัก นักท่องเที่ยวก็ไม่มากเท่าไหร่ หรือจะเป็นเพราะเรามาเที่ยวในวันธรรมดามั้งคะ ไปถึงก็เจอน้ำตกลานสาง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก อยู่ด้านหน้าของอุทยานเลย



ลักษณะเป็นน้ำตกแคบๆ แต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็ตั้งชื่อต่างกันไป


สูงกว่าน้ำตากลานสางก็คือ ผาผึ้งค่ะ เราชวนเพื่อนตามป้ายที่บอกว่าเดินขึ้นไปอีกประมาณ 700 ม. อืม ไม่น่าจะไกลนัก

ระหว่างทางก็ยังได้ชมธรรมชาติแปลกตา


ดอกอะไรใครรู้วานบอก



โอ๊ะ ท่านผู้ชมคะ เราไม่น่าชวนเพื่อนมาลำบากเล้ยยยยยย เพราะมันร้อนมากๆ ทางเดินเป็นทางไม่ชันเท่าไหร่ แต่หวาดเสียวเหมือนกัน เพราะมันต้องเดินเลาะเขาอ่ะค่ะ มองไปข้างล่างก็ขาสั่นพั่บๆ เพราะมันเป็นเหว ตกไปก็ไม่ต้องหาศพกันแล้ว มันไม่ร่มรื่นเหมือนกันตอนเดินป่าไปถ้ำธาราวสันต์นะ เรารีบจ้ำอ้าว เพราะอยากให้ถึงเร็วๆ เหงื่อแตกพลั่กๆ ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย นึกในใจว่า ถ้าไม่มีอะไรเพื่อนต้องด่าแน่ๆ เพราะดิ้นรนอยากขึ้นมาเอง

ใช้เวลาเกือบครึ่งชม.เห็นจะได้ ก็มาถึงน้ำตกผาผึ้ง คาดว่าคงมีผึ้งเยอะมั้งคะ แต่เรายังไม่เจอนะ เจอแต่ตัวอะไรต่อยไม่รู้ คงเป็นแมลงป่า เราไปสะดุดรังของมันที่อยู่บนดินเข้า แสบๆคันๆเอาเรื่องเลย ที่น้ำตกแห่งนี้มีคนมาถึงก่อนเราอยู่แล้ว 2 คน เค้าคงดีใจที่มีคนมาแทนแล้ว พอเรามาถึง เค้าก็กลับทันที

เย้! ถึงแว้ว


น้ำตกผาผึ้งมีลักษณะเป็นผาจริงๆค่ะ คือน้ำจะไหลจากหน้าผาที่ชัน และจะสูงขึ้นๆเรื่อยๆ ไม่รู้ต้นน้ำอยู่ตรงไหน เราไปไม่ถึงแล้ว แค่นี้แล้วกัน เหนื่อยค่ะ น้ำไม่มากเท่าที่คิด เรานั่งอยู่ไม่ถึง 10 นาทีก็กลับ เพราะกลัว แฮ่ะๆๆ ก็มันไม่มีคนจริงๆนี่นา กลับดีกว่า


หน้าที่ทำการของอุทยานเจอฝูงผีเสื้อฝูงหนึ่ง บินวนเวียนอยู่บริเวณนั้นเป็นสิบๆตัว สวยดีค่ะ ที่นี่ผีเสื้อเยอะ สงสัยจะเลี้ยงไว้ดูเล่นมั้ง



ถัดจากอุทยานแห่งชาติลานสาง เราก็ไปดอยมูเซอค่ะ มีคนบอกว่าเหมือนสวิสฯ ฮ่าๆๆ ไปถึง ร้อนตับแตก สวิสตรงไหน ปลั๊กมากกว่า ไม่มีอะไรอย่างที่คิดค่ะ เป็นเหมือนแปลงดอกไม้เมืองหนาว แต่บังเอิญมันไม่หนาวไง มันเลยไม่ได้อารมณ์เท่าไหร่ เก็บภาพซะหน่อย ไหนๆก็มาแล้ว เมื่อก่อนมันอาจจะสวยกว่านี้ก็ได้นะ (ปลอบใจตัวเอง)

เรือนรับรอง (ให้ใครก็ไม่รู้ เพราะพังหมดแล้ว) ไม่ดูแล ก็น่าเสียดาย


ไผ่สีสุกกอใหญ่


ดอกอะไรนะ หมวกจีนหรือเปล่า (สงสัยจะแต่งเองแล้วเรา)


หลังจากไปชมดอกไม้กันแล้ว ก็แวะเที่ยวตลาดมูเซอหน่อยนะคะ มีตลาดจริง กับตลาดปลอมค่ะ ตลาดจริงจะโทรมๆหน่อย ขายของเยอะกว่า โดยเฉพาะพวกกล้วยไม้งามๆ มันงามจริงๆนะคุณ เราก็ไม่รู้ว่าเค้าเอามาได้ยังไง มันน่าจะเป็นของป่ามากกว่า แถมขายถูกอีกต่างหาก

นอกนั้นก็มีพวกผักผลไม้ ส้มสายน้ำผึ้งไม่ต้องซื้อไกลถึงที่นี่หรอกค่ะ เพราะราคาเท่ากับกรุงเทพฯ และในเมืองเป๊ะเลย ที่อยากจะซื้อก็พวกฟักแม้วอ่ะ รู้สึกว่าจะถูกกว่า แต่ไม่ได้ซื้อหรอก เพราะไม่รู้จะทำที่ไหน ส่วนที่ได้มาก็เป็นของสวยๆงามๆ (แต่ขายไม่เยอะ) อย่างที่เราใฝ่ฝัน อิๆๆ กางเกงแม้วค่ะ เอ้า ใส่แล้วดูดีนะคะจะบอกให้ ตอนแรกกลัวแม้วหลอก บอกว่าสีไม่ตก ทั้งๆที่น่าจะตกจะตาย แต่เอากลับมาซักที่บ้านไม่ตกแฮะ รู้งี้น่าจะซื้อสัก 2 ตัว :P

ภาคบ่ายไปทัวร์ต่อค่ะ อยากเพิ่งเหนื่อยนะคะ เราไปต่อกันที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราชค่ะ อันนี้มุ่งมั่นมากว่าจะต้องมานอนดูดาว เท้าติดดินในคืนนี้ให้ได้ แต่ช้าก่อน ฟ้าฝนไม่เป็นใจหรือข้าพเจ้าจะเป็น "ตัวขึด" อย่างที่โดนประณามจริงๆ ไปถึงปรากฏว่าบ้านพักเต็มค่ะ โอ๊ย ทำไมต้องเต็มด้วยล่ะเนี่ย คนมาจากไหนกัน เลยจะเปลี่ยนอารมณ์เป็นนอนเต๊นท์ แต่...ในบัดดล ฝนก็กระหน่ำซ้ำเติมอีก แม้แต่นอนยังไม่ได้นอนเลย คิดดูแล้วกัน เศร้าขนาดไหน

กะจะมาดูต้นกระบากใหญ่ที่สุดในโลกซะหน่อย อดอีกแล้ว เพราะเพื่อนบอกว่าฝนตกหนักขนาดนี้ ถ้าเราลงไปมันอันตราย ทางลื่น ก็เลยได้แต่เก็บภาพต้นทางค่ะ


สวรรค์คงลงโทษน่ะค่ะ ไม่มีบุญได้เห็นในสิ่งที่อยากเห็น งั้นก็แวะถ่ายภาพที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้หญิงก็เคยมาถึงอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราชแล้วนะคะ

จากจุดชมวิวก่อนถึงอุทยานฯ แต่เรามาถ่ายตอนขาออกค่ะ



ดอกบัวตองที่พบได้ตามรายทาง


และแล้วต้องกลับไปนอนในตัวเมือง แล้วก็เกือบจะไม่ได้นอน เพราะโรงแรมเต็ม ดั๊นจะมาเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทงซะงั้นเรา จำไว้เป็นบทเรียนสอนใจเลยนะคะ ถ้ามาเที่ยวในช่วงเทศกาล ต้องจองเท่านั้น แต่...ทางที่ดี อย่ามาในช่วงที่เค้ามากันจะดีกว่าค่ะ

เช้าวันรุ่งขึ้นวันที่ 12 พฤศจิกายน ฤกษ์งามยามดีวันนี้ไปไหว้พระหลวงพ่อทันใจ ที่เค้าร่ำลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ท่าจะจริง เพราะเห็นรถทัวร์มาจากจังหวัดแถบภาคตะวันออกโน่นแน่ะค่ะ

แล้วก็เดินทางต่อไปยังเขื่อนภูมิพล ปูนแช่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เราก็เคยไปมาแล้วสองสามเขื่อนนะ แต่มาเจอที่นี่เข่าอ่อนเลย มันใหญ่จริงๆ ใหญ่มากๆ ใหญ่จนน่ากลัว หวาดเสียว (อีกแล้ว) ไม่รู้เสียวอะไรเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์จะสร้างวัตถุอะไรใหญ่ขนาดนี้


ถ่ายจากหน้าห้องน้ำค่ะ อิๆๆ มันเห็นชัดพอดี เลยเก็บภาพมาฝาก


ไกลสุดลุกหูลูกตาเลย


เพื่อให้ได้อรรถรสของการชมธรรมชาติของแม่น้ำปิงก็เลยตัดสินใจเหมาเรือไปยังเขาหนามค่ะ ลำละ 500 บาท เราว่าเป็นทะเลสาบน่าจะได้นะ เพราะใหญ่จังเลย เหมือนทะเลสาบที่อยู่ระหว่างหุบเขา ต่างจากทะเลสาบที่บ้านเราก็ตรงที่ทะเลสาบสงขลาน่ะ สุดลูกหูลูกตา ตรงเส้นของฟ้านั่นแหละ แต่อันนี้ก็มีอาณาเขตของมัน ซึ่งกว้างไปถึงดอยเต่า เชียงใหม่อ่ะค่ะ ถ้าอยากจะล่องแพแบบค้างคืนก็ได้ แต่เราไม่เอาอ่ะ เราไม่ค่อยถูกกับน้ำเท่าไหร่ มันดูเคว้งคว้างเกินไป

คนขับเรือตัวเล็กยังกะเด็ก 10 ขวบ แต่เก่งชะมัด


เรือพาเรามาถึงเขาหนามใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ ไม่ต้องกลัวเมาเรือนะคะ เพราะเราที่ว่าขี้เมาแล้วยังผ่านมาได้สบายๆ มาถึงก็ต้องไปสักการะพระพุทธรูปของวัดเสียหน่อย โห ขาขึ้นเนี่ย แถบตายเหมือนกันนะเนี่ย ก็นึกเอาว่ากำลังขึ้นสวรรค์ เลยต้องลำบากหน่อย

พอไปถึงก็นอนพังพาบคาศาลาเลยเรา เหนื่อยจัง แต่ข้างบนอากาศค่อนข้างเย็นสบาย ถ้าหนาวก็คงหนาวจับจิตล่ะค่ะ บนนี้เสมือนจุดชมวิวของแม่ปิงก็ว่าได้ สวรรค์จริงๆค่ะ


มุมนี้งดงามเหลือเกิน


ไม่เคยรู้เลยว่าต้นว่านหางจระเข้จะมีดอกใหญ่ขนาดนี้


ต้นอะไรกันเนี่ย แปลกดี


วัดแห่งนี้ ไม่มีพระสงฆ์จำวัดเลยค่ะ แต่ดูจากสภาพภายนอกแล้วเหมือนมีนะคะ การทำบุญก็อาศัยศรัทธา และจิตอันเป็นกุศลจริงๆ ไม่มีใครเฝ้าดูแลปัจจัยเลยสักคน แต่ก็ไม่ยักกะหายแฮะ ใครเอาไปคงเลวโคตรนะ

จากประวัติคร่าวๆที่เราอ่านที่วัดเขาหนามนะคะ เค้าว่าบริเวณเขื่อนนี้ แต่เดิมก็เป็นแผ่นดินนะ มีเมือง มีประชากรนี่แหละ แต่พอสร้างเขื่อน ก็ต้องปล่อยน้ำให้ท่วมไป (แต่เอาคนออกมานะ) เราจึงเห็นเป็นเกาะแก่งอย่างทุกวันนี้
ไปเจอแท่งปูนนี้เข้า ชื่อ "อโศก" (ไม่ใช่สุขุมวิท 21 นะ) เค้าว่ากันว่า ถ้าได้มาถึง มาสัมผัส ก็จะพ้นทุกข์ทุกโศก สาธุ เราแทบจะโอบเสียจริงๆ เพราะไม่อยากโศกอีกต่อไปเลย


ก่อนกลับ แวะทานข้าวบนแพ คุณไม่ต้องหาเมนูอื่นเลย เพราะที่นี่คุณจะได้ทานแต่ปลา ปลา และปลาน้ำจืดเท่านั้น เช่นปลาแรด ปลานิล ปลากดคัง ทานกันจนแทบจะว่ายน้ำกลับเลยล่ะค่ะ

ขากลับก็ยังได้ภาพสวยๆมาฝากกันเนี่ยแหละค่ะ สวยเหมือนภาพวาด


ห้อมล้อมด้วยภูเขา


บ๊ายบายเขาหนาม



ทั้งร้อนทั้งเพลีย แต่ยังไงก็ยังเก็บตกภาพต้นมะพร้าวสองยอดมาภายในที่ทำการของเขื่อนภูมิพลมาด้วยนะ


ระหว่างทางกลับเข้าเมืองก็ผ่าน "ต้นไม้กลายเป็นหิน" มีอายุหลายหมื่นล้านปีแล้วมั้ง เราดูยังไงๆก็เหมือนต้นไม้ล้มธรรมดานั่นแหละ ทางการน่าจะทำให้มันน่าสนใจกว่านี้นะ ก็คุณดูสิคะ มีแค่นี้จริงๆ อยากจะมาชมมั้ยล่ะคะ (อ้าว! ไปว่าของเค้าอีกแล้วเรา)

นอกจากเราแล้ว เราก็ไม่เห็นว่าจะมีใครสนใจแวะเข้าไปดูอย่างเราเลย มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตั้งเต๊นท์ แล้วมีเก้าอี้พลาสติกวางอยู่ 4-5 ตัว ให้นั่งดูท่อนไม้เนี่ยเหรอ ร้อนจะตายใครจะดู อันนี้ไม่ค่อยเวิร์กค่ะ น่าทำเป็นพิพิธภัณฑ์อะไรก็ว่าไปนะ


ตกค่ำของคืนวันที่ 12 ซึ่งเป็นวันแรกของงานลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง ซึ่งเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปีของจังหวัดตาก หนักกว่าเก่าอีกเรา อยากจะเขกหัวตัวเองสัก 2-3 โป๊ก มาดูขบวนแห่ประกวดกระทงจบแล้วก็กลับ แทนที่จะดูสาธิตการลอยกระทง และพิธีเปิดก็ไม่ดูซะงั้น กลับไปนอน เราบ้ารึเปล่าคะ กระทงสายก็ไม่เห็นสักสาย ตั้งใจจะลอยสักกะลา ก็ไม่ได้ลอย โอ๊ย ชีวิตคิดไปก็กลุ้ม จะมาทำไมเนี่ย
เอ้า! เก็บบรรยากาศของงานมาได้หน่อยนึง ยังดีที่มีมาสักภาพ แม้จะไม่ได้บ่งบอกอะไรเลยก็ตาม


อยากจะโดดน้ำตายในสายแม่ปิง อุตส่าห์มาตั้งไกล แต่กลับไม่ได้ดูในสิ่งที่ควรดู คุ้มมั้ยเนี่ยเรา เฮ้อ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ เสียชาติเกิดหนที่สองแล้วล่ะค่ะ ถือซะว่า ได้กางเกงแม้วกลับไปตัวหนึ่งก็คุ้มแล้วเนอะ


Create Date : 08 ธันวาคม 2548
Last Update : 8 ธันวาคม 2548 19:44:21 น. 5 comments
Counter : 4263 Pageviews.  

 
สวยจัง ถ่ายภาพได้สวยมากค่ะ
น่าไปเที่ยวจัง


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 8 ธันวาคม 2548 เวลา:21:30:08 น.  

 
ถ่ายภาพได้สวยงาม ชอบหลายๆ ภาพเลยค่ะ
ดูเชิญชวนให้น่าไปเที่ยวมากๆ

ป้าติ๋วขออนุญาต save บางภาพ
ไปใช้แต่งบล็อกนะคะ


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:14:18:44 น.  

 
ถ่ายรูปสวยอีกและ คิดถึงจังทำไงดีเนี่ย


โดย: เกด IP: 125.24.0.16 วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:17:57:45 น.  

 
รูปสวยมากๆค่ะ อยากได้มาติดฝาผนังคอนโดจังเลย


โดย: คุณจุ๋ม IP: 203.155.73.162 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:14:43:35 น.  

 
ถ้าคิดจะล่องแพที่เขื่อนภูมิพลครั้งใดอย่าลืมแพถวิลชัยทัวร์3นะครับ รับรองในด้านบริการและความเป็นกันเอง
สอบถามข้อมูลได้ที่ คุณ โป่ง 081-6742654 หรือที่
www.tawinchaitour3.com


โดย: คุณ โป่ง IP: 118.172.134.154 วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:09:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]