I AM SOMEONE
<<
กันยายน 2566
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
2 กันยายน 2566

ครั้งแรกที่มาบ้านลุงโฮ

คราวที่ไปเที่ยวนครพนม เรามีโอกาสไปบ้านลุงโฮ (โฮจิมินท์) เป็นครั้งแรก เราเลือกไปในวันธรรมดาที่คาดว่าคนน่าจะน้อย

ถ้าคุณเข้าไป คุณอาจจะงงสักเล็กน้อย เพราะป้ายเต็มไปหมดไม่รู้จะเข้าทางไหนดี ทางการทำขึ้นเพื่อให้ไปชมพิพิธภัณฑ์ที่สร้างเลียนแบบ แต่ไม่ใช่บ้านลุงโฮจริงๆ ที่กูเกิลปักหมุดให้ นี่จึงเป็นไม่กี่ครั้งที่กูเกิลไม่พาหลง

ทีแรกเราคิดว่าจะต้องเสียค่าเข้าชม แต่ความจริงไม่ต้องเสีย สามารถเดินเข้าไปชมได้เลย ถ่ายรูปได้ทุกอย่างตั้งแต่หน้าประตูยันหลังบ้าน เราไปช่วงหน้าฝน ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ บ้านสดชื่นชุ่มฉ่ำ ดอกไม้อวดโฉมให้นักท่องเที่ยวที่มาชมกันใหญ่

มีลูกหลานลุงโฮเป็น “นักเล่าเรื่อง” ประจำบ้าน เธอก็เป็นวัยแกร่งเช่นกัน เธอว่าหลังจากนี้ก็ไม่แน่ใจว่าใครจะมานั่งเล่าเรื่องแบบนี้ได้อีกไหม อาจจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ทันที่จะรับรู้ข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ถูกบิดเบือนไปมากกว่านี้

เธอเล่าเรื่องราวเยอะแยะและสนุกด้วยจนเราเองซึ่งไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ของบ้านหรือลุงโฮมากนักก็เพิ่งจะรับรู้ หากมองในแง่ดีก็ดีเหมือนกันที่ไม่เคยศึกษามาก่อน เพราะอาจจะเกิดข้อสงสัยมากมายหลังจากฟังเรื่องเล่าก็ได้ ไม่เพียงแต่ลุงโฮเท่านั้นแต่ยังมีเหล่าผองเพื่อนลุงโฮที่อพยมาด้วยกัน เรียกว่าเป็นทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น ใครที่ชอบฟังประวัติศาสตร์โดยไม่ต้องอ่านเอง ก็ต้องมาฟังนักเล่าเรื่องตัวจริงที่นี่

เธอว่าชาวญวนอพยพที่มาอยู่นครพนม เพิ่งจะได้สัญชาติเป็นคนไทยเมื่อปี 2549 จากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทำให้พวกเขาสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นคนไทยเต็มตัวการใช้ชีวิตในเมืองไทยก็ง่ายยิ่งขึ้น

ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เห็นล้วนแล้วแต่เป็นของที่ลุงโฮใช้จริงๆ อาจจะผุกร่อนไปตามกาลเวลา น่าเสียดายที่ทางการกลับของบประมาณจากเวียดนามมาสร้างพิพิธภัณฑ์แข่ง (ที่ๆ มีป้ายนำทางไป) แทนที่จะช่วยสนับสนุนของเดิมที่มีอยู่

เมื่อถามว่าทำไมไม่เก็บค่าเข้าชม เธอบอกว่า ไม่รู้จะเก็บไปทำไม ทุกวันนี้เราก็อยู่กันแบบพอเพียงไม่เดือดร้อนอะไรเพราะในบ้านก็ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ไว้กินเหมือนสมัยที่ลุงโฮยังอยู่ อาศัยขายของที่ระลึกจากเวียดนาม (ซึ่งมีญาติพี่น้องอยู่ที่น้องด้วย) โดยไม่ได้บังคับให้ซื้อ แต่หากสนใจก็ซื้อกลับไป เป็นรายได้เล็กๆ น้อยๆ ก็พอแล้ว

สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากการมาเยี่ยมชมบ้านลุงโฮครั้งแรก ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ที่เราก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เราได้เรียนรู้ว่าคนที่เก็บรายละเอียดได้ดีที่สุดก็คือลูกหลานที่ผูกพันกับบรรพบุรุษ ไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ และที่สำคัญพวกเขามีความรู้สึกต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่นักประวัติศาสตร์บันทึก รวมทั้งสิ่งที่ทางการทำกับพวกเขาด้วย

ขณะเดียวกันเราก็เหมือนได้มิตรภาพโดยไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกัน เธอไม่ได้เป็นแค่นักเล่าเรื่องของครอบครัวเท่านั้นแต่เธอยังไถ่ถามที่มาของเรากลับด้วย เราจึงมีเรื่องสนทนาพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินในช่วงเวลาเกือบชั่วโมง ก่อนจากลาเธอบอกเราว่า “กลับมาเที่ยวนครพนมอีกนะ อย่าให้นานเป็น 10 ปีอีกล่ะ”

เราไม่สัญญากับตัวเองหรอกว่าจะได้มาที่นี่เป็นครั้งที่สองอีกหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับวาระและโอกาส แต่เราจะไม่ลืมเลยว่าเราเคยมาบ้านลุงโฮ บ้านที่มีมิตรไมตรีเพราะเราคือคนไทยด้วยกัน






























































Create Date : 02 กันยายน 2566
Last Update : 2 กันยายน 2566 9:05:48 น. 3 comments
Counter : 574 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณnonnoiGiwGiw


 
ได้ยินมานาน แต่ยังไม่เคยไปเที่ยว.. ทีแรกคิดว่าปลูกอยู่
ที่อุบลครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 6 กันยายน 2566 เวลา:4:44:40 น.  

 
มาเที่ยวด้วยครับ
เพิ่งรู้ว่ามีบ้านลุงโฮเทียม(พิพิธภัณฑ์)ด้วย


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 6 กันยายน 2566 เวลา:11:44:32 น.  

 
ไปฟังลูกหลานแกแล้วสนุกดีค่ะ


โดย: Alex on the rock วันที่: 6 กันยายน 2566 เวลา:19:14:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]