BlogGang.com : : Alex on the rock : เที่ยวไปในสกลนคร...เมืองน่ารัก สองวัฒนธรรม (3)

เที่ยวไปในสกลนคร...เมืองน่ารัก สองวัฒนธรรม (3)

ตอน (1)//www.bloggang.com/mainblog.php?id=magnolia&month=13-03-2014&group=7&gblog=227
ตอน (2)//www.bloggang.com/mainblog.php?id=magnolia&month=14-03-2014&group=7&gblog=228

เข้าสู่วันที่ 3 ของการมาเยือนสกลนคร เมืองน่ารักสองวัฒนธรรม แน่นอนว่าเรารู้แล้วว่าร้านอาหารเช้าอยู่ที่ไหน ก็ตามไปที่เดิม ร้านเลิศรสไข่กระทะ นั่นเอง

มื้อนี้ต้องโด๊ปกันหน่อย เพราะเช้านี้ต้องเดินทางไกล เลยสั่งไข่กระทะกับขนมปัง และน้ำส้มเหมือนเดิม

แต่มันไม่สาแก่ใจนัก ไม่ถึงครึ่งท้อง จึงสั่งข้าวต้มปลามาอีกชาม คนขายถามว่าใส่ถุงเหรอ เราว่าเปล่า ทานนี่ 555

ที่ร้านนี้มี wifi ด้วยค่ะ ดังนั้น เราก็เลยเสิร์ชหาสถานที่เล่นๆ ไหนๆ วันนี้ก็ตั้งใจให้เป็นวันกลับแล้ว จะถึงบ้านเร็ว ก็กระไรอยู่ เพราะมันไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว เลยตามหาพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งอยู่ไม่ไกล (แต่ไม่ไปถูกเท่านั้น)

หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เลยใช้ถนนเส้นสุขเกษมซึ่งอยู่หน้าร้านเลิศรสนั่นแหละ มุ่งไปยังวัดป่าสุทธาวาส จะมาป้ายบอกอยู่ เข้าไปในซอยประมาณ 100 เมตรก็ถึง

เช้าวันที่เราไปคนไม่เยอะนัก (แต่ก็หนีไม่พ้นเด็กป.1 มาทัศนศึกษาอีกแล้ว)

อุโบสถสวยงามแปลกตา ด้วยปูนปั้น สีนวลตา

ผู้ศรัทธาเดินรอบโบสถ์ 3 รอบ

ถัดไปอีกหน่อย เป็นพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เราเข้าไปกราบไหว้ขอพร และชมข้าวของเครื่องใช้ของท่าน

ใกล้ๆ กันเป็นกุฏิที่หลวงตามหาบัวเคยจำพรรษา และวิปัสสนาที่นี่

ไม่เข้าใจกุศโลบายการเข้าห้ามทางเดินหลวงตา ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างหรือวัตถุข้าวของที่จะชำรุดทรุดโทรมได้ง่ายๆ ส่วนตัวแล้วเห็นว่าทางเดิน หรือพื้นดินไม่น่าจะเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะจะกลายเป็นการยึดติดในวัตถุมากเกินไป แต่ในเมื่อวานก็ต้องเชื่อฟัง

หลวงตาบัวเลี้ยงเสือด้วย

เห็นรูปโลหิตธาตุของหลวงตาแล้ว น้ำตาจะไหลด้วยความตื่้นตัน บอกไม่ถูกจริงๆ

ออกจากวัดก็เกือบ 11 โมงแล้ว เราก็กลับเส้นทางอ.ภูพานเช่นเดิม แต่คราวนี้แวะชมพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ด้วย ไหนๆ ก็ผ่านแล้ว แน่นอนว่ามาที่นี่ก็เจอเด็กๆ มาทัศนศึกษาอีก เอ่อ...เยอะไปมั้ย 555

พระตำหนักที่นี่ก็มีอาณาบริเวณกว้างขวางมาก เดินเหนื่อยเหมือนกัน แต่ด้วยความที่มีต้นไม้ เยอะเลยให้ร่มเงาได้เยอะ ถ้าเข้ามาแล้ว คุณจะได้ยินเสียงป่าในทันที เขาเลี้ยงไก่เยอะมาก เลี้ยงแบบปล่อย กลัวรถจะไปทับแม่ไก่และลูกไก่

เมื่อต้นไม้เยอะก็เป็นภาระที่ต้องดูแลรักษาต้นไม้ โดยเฉพาะหน้าแล้ง ซึ่งแทบจะไม่มีน้ำใช้ ถามเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เขาบอกว่ามีเขื่อนตาดโตนอยู่ ในหลวงทรงโปรดให้สร้างไว้สำหรับใช้อุปโภคภายในพระตำหนัก แต่หน้าแล้งก็เอาไม่อยู่

ไก่หรือนกยูง??? วานบอก

ประตูหน้าตำหนัก

ถ้าเราไปตอนเย็น และไม่รีบไม่ร้อนนะ เราจะเดินขึ้นไปดูเขื่อนตาดโตนเลย แต่เรามาตอนเที่ยง เดินไม่ไหวค่ะ อ่อ ที่เซอร์ไพร้ส์ก็คือ บนนั้นมีสัญญาณโทรศัพท์เต็ม!!!

ขากลับขับรถบนเทือกเขาภูพานมันเหมือนเดิม จากที่เคยวิตกกังวลว่าจะอ้วกจะเมา ไม่แล้วล่ะ ตอนนี้ชักอยากจะมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูพานด้วยซ้ำ

ถึงยางตลาดกาฬสินธุ์ช่วงบ่ายๆ แวะทานมื้อเที่ยงที่ร้าน Coffee Mug อยู่ริมทางไปมหาสารคาม ขายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม (ราคาอาหารแพงอยู่เมื่อเทียบกับปริมาณและรสชาติ) ร้านน่ารัก แต่บริการไม่ประทับใจ ถ้าไปคนเดียวไม่สนใจไม่รับออเดอร์ ต้องกวักมือเรียก (หรือเราดูเหมือนมานั่งเล่นเฉยๆ ???) อ้อ ที่นี่ร้านไม่มี wifi ด้วย ถือเป็นจุดด้อยมาก ขนาดร้านก๋วยเตี๋ยว หรือส้มตำทุกวันนี้ยังมีเลย อารมณ์ที่นี่คงประมาณ---ขอเป็นทางผ่าน อย่านั่งนานล่ะมั้ง

ปิดทริปสกลนคร 3 วัน 2 คืน ขนความสุขเล็กๆ ในสถานที่ใหม่ๆ กลับมาด้วย การหลงทางเป็นประสบการณ์และเป็นวิธีป้องกันโรคอัลไซเมอร์ให้เราเป็นอย่างดี ถ้ามีโอกาสจะไปเยือนอีกนะเมืองน่ารัก!