BlogGang.com : : Alex on the rock : นครพนมยัง “เก๋า” เสมอ

นครพนมยัง “เก๋า” เสมอ

จากที่เราเคยบันทึกการเดินทางไปนครพนมครั้งล่าสุดจากคราวก่อน ก็ยังมีเรื่องที่ยังเล่าไม่หมด

เรารู้สึกชอบตรงที่การเดินทางไม่ต้องขึ้นเขาภูพานอีกต่อไป การขับรถยนต์ Eco Car คันเล็ๆ ของเราก็ดูง่ายขึ้นเยอะ และใช้เวลาสั้นลงด้วย

นครพนมในวันนี้ ยังคงเป็นเมืองเก่า แต่เป็นเมืองเก่าที่ใส่ความชิค ความสนุกสนาน เป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เปลี่ยนภาพจำนครพนมเดิมๆ เสียสิ้น
โดยเฉพาะแถบริมโขงที่ผู้คนทั้งในท้องถิ่นและต่างถิ่นต่างจับจองพื้นที่เพื่อทำมาหากินในเมืองเก่าแห่งนี้ด้วยการผสมผสานกลมกลืนไปกับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมการกินการอยู่ของชาวนครพนมที่อยู่ริมฝั่งโขง

การข้ามแม่น้ำไปมาระหว่างไทย-ลาวโดยไม่ใช้สะพานมิตรภาพก็เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเมือง การกินอาหารเช้าแบบญวน การเช็คอินตามร้านกาแฟก็ต้องมีตามค่านิยมของนักท่องเที่ยว ถนนคนเดินที่คับคั่งทั้งคนซื้อคนขาย การนั่งชิลล์ตอนค่ำๆ ในร้านอาหารกึ่งผับเปิดเพลงยุค 80-90 สำหรับลูกค้าที่ชอบเรโทร เหล่านี้ก็ไม่ควรพลาด

แต่สิ่งที่เราชอบที่สุด ก็คือความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมริมโขงที่ยังคงอนุรักษ์และดูแลอย่างดี อาทิ จวนผู้ว่าฯ ซึ่งปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองนครพนม บรรยากาศภายในเย็นสบาย สงบๆ ร่มรื่น ยิ่งมีฝนโปรยปราย หรือหลังฝนตก ยิ่งฟิน!

เช่นเดียวกับโบสถ์คริสต์ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก แต่เราไปในวันที่คริสต์ศาสนิกชนกำลังมีพิธีกรรมจึงไม่ได้เข้าไปชมภายใน

หากใครมีโอกาสไปเยือนนครพนม อยากให้ลองใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์สักวัน เดินเรียบริมโขงแต่เช้า เข้าชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ค่อยๆ เสพบรรยากาศฝั่งลาว มองระลอกน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ลมโชยเบาๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟพอให้นั่งดื่มด่ำได้อย่างน้อยก็ครึ่งวันแล้ว เตรียมชุดสวยๆ หล่อๆ ไว้ถ่ายรูปรัวๆ ได้เลย

แม้เมืองจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ก็ใช่ว่าความคลาสสิกของนครพนมจะหายไปด้วย ยังคง “เก๋า” เหมือนผู้เฒ่าที่ยังยืนหยัดท้าทายกระแสความเปลี่ยนแปลงอย่างมั่นคง