I AM SOMEONE
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
9 ธันวาคม 2555

บุรีรัมย์ เมืองแห่งภูเขาไฟ

หยุดยาว 3 วัน ครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ค่ะ เห็นคนโน้นคนนี้กลับบ้านบ้าง ไปเที่ยวบ้าง เราก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม บ้านก็ไม่ได้กลับ จึงตัดสินใจว่าจุดหมายปลายทางของเสาร์อาทิตย์นี้คือ "บุรีรัมย์"

บุรีรัมย์เป็นจังหวัดที่เราไม่เคยไปเลยค่ะ เช็คระยะทางจากอินเทอร์เนตบอกว่าใช้เวลาประมาณ 2 ชม.38 นาที หลังจากเติมน้ำมันเต็มถังแล้วเกิดลังเลว่าจะทานมื้อเที่ยงที่ไหนดี สุดท้ายก็คือเซเว่น 5555 ซื้ออาหารกล่อง กะว่าคงได้แวะข้างทางสักที่ล่ะว้า...

เราออกจากในเมืองมหาสารคามตอนเที่ยงครึ่ง ขับรถไปเปิดแผนที่ไป (เพิ่งดูแผนที่เป็นตอนขับรถเองนี่แหละ) เพื่อให้ชัวร์ว่าจะไม่หลงทาง ขับผ่าน อ.บรบือ อ.นาเชือก เข้าสู่ อ.ยางสีสุราช



เกือบบ่ายสองแล้ว ยังไม่ได้ทานข้าวเลย จึงแวะเข้าวัด ไม่ใช่ไปไหว้พระ แต่แวะทานข้าว อิอิอิ



เติมแรงก่อนไปต่อ...



บ่ายสองออกจากยางสีสุราชไปอ.พยัคฆภูมิพิสัย ถึงตอนนี้เกิดหลงทางนิดหน่อย จึงต้องเอ่ยปากถามทาง (หลงจุดเดียวกันทั้งไปและกลับ แฮ่ะๆๆ)

ประมาณบ่ายสามโมงครึ่งเห็นอนุสาวรีย์แห่งนี้ที่เป็นสัญลักษณ์ของบุรีรัมย์ แสดงว่า "มาถึงแล้ว เย้!!"



มาถึงช้ากว่าที่คิดไว้เยอะ ร่วมๆ 4 ชม. เล่นเอามึน พยายามขับรถวนๆ ในเมือง ซึ่งมีใจกลางคือวงเวียนรัฐธรรมนูญ ละแวกนั้นเป็นสถานที่ราชการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นราชภัฎ ศาล ที่ว่าการอำเภอ เราพยายามหาที่พัก แต่ส่วนใหญ่เป็นอพาร์ทเม้นต์ที่ไม่มีที่จอดรถ เริ่มเครียด จึงตัดสินใจไปสนามไอ โมบาย สเตเดี้ยมดีกว่า

ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 กม. มองเห็นสนามตั้งตระหง่านโดดเด่นสีน้ำเงินเข้ม



ที่นี่กลายเป็นสนามกีฬาที่สร้างความภูมิใจให้คนบุรีรัมย์ สร้างด้วยวัสดุที่ดี ดูอินเตอร์กว่าที่เคยเห็น มีห้องหับสมบูรณ์พร้อม ดูดีกว่ารัชมังคลากีฬาสถานเยอะ เห็นแบบนี้แล้วเป็นใครก็อยากเชียร์ทีม "ปราสาทสายฟ้า" นะ

















ตอนเย็นกะว่าจะได้หาของกินอร่อยๆ แต่พอเราเข้าที่พัก เราก็มัวแต่ง่วนอยู่กับ wi-fi ฟรีที่ห้อง มันใช้ไม่ได้สักที ปวดหัวและโมโห ไม่รู้จะปรึกษาใคร โทรหาเพื่อนที่เก่งคอมฯ ก็ไม่ติด นี่คือผลของการที่มีเบอร์ แต่ไม่เคยโทรหาใคร 555 จึงเดาว่าเพื่อนคงเปลี่ยนเบอร์ไปหมดแล้ว เป็นอันว่าคืนนั้นเดินออกไปกินอาหารตามสั่ง ร้านน้องสุ่ย ถูกมากกกก...อยู่ติดกับบขส. (ข้างๆ เซเว่น) แล้วได้ของฝากจากบุรีรัมย์เป็นราวพลาสติกสำหรับแขวนชั้นใน อิอิอิ (มาซื้อซะไกลแฮะ)

เช้าวันอาทิตย์ ตื่น 7 โมงแบบมึนหัวนิดๆ แต่สิ่งแรกที่คิดได้คือ "มาแล้ว มันต้องได้เที่ยวสักที่สิน่า..." รีบอาบน้ำเพื่อไปเที่ยวเขากระโดง

ก่อนออกเดินทาง เก็บภาพรอบๆ ที่พัก







ที่ใส่แขนยาว ไม่ใช่หนาว (ออกจะร้อนนิดหน่อย) แต่กลัวดำมากกว่า



วนอุทยานเขากระโดงห่างจากตัวเมือง 6 กม. เดินทางง่ายมาก อยู่ติดกับถนนใหญ่ ไปทางเดียวกับสนามไอโมบาย



บันไดทางขึ้นที่เห็น ถ้าเป็นเมื่อปีที่แล้ว เราอาจจะอยากขึ้นนะ แต่ทุกวันนี้บ๊ายบาย...ลาก่อน



โชคดีที่เขาทำทางขึ้นเป็นถนนคอนกรีตให้รถขับขึ้นไปได้สบาย ที่แรกคือ ปากปล่องภูเขาไฟ



ถ้าไม่บอกก็ไม่ทราบจริงๆ ค่ะว่ามันคือปล่องภูเขาไฟ



หากอยากจะดูชัดๆ ก็ควรจะขึ้นไปเดินบนสะพานแขวน เอ่อ...เราไม่สามารถ แม้ว่าสะพานจะทำด้วยท่อนเหล็กที่แข็งแรง แต่เรา...ก้าวได้แค่ก้าวเดียวก็ถอยแล้ว สั่นไม่สู้!





มาเจอสะพานอีกฝั่ง



แค่เห็นใกล้ๆ ก็ใจเต้นแรงแล้ว ได้แค่ชมไกลๆ ดีกว่า



แวะศาลาชมวิว แต่ต้นไม้สูงจนเกือบไม่เห็นอะไร



สิ่งที่เห็นมากกว่าวิวคือ กราฟิตี้ของวัยรุ่นไทยบ้าน



สูงสุดของเขากระโดง คือ พระสุภัทรบพิตร องค์ใหญ่มาก



และมองเห็นวิวของเมืองบุรีรัมย์



นี่เป็นบันไดขั้นสุดท้ายจากเห็นข้างล่างก่อนหน้านี้





ลงสู่พื้นราบ ก่อนกลับแวะอ่างเก็บน้ำเขากระโดง อยู่ทางไปที่ทำการของวนอุทยาน อิจฉาเจ้าหน้าที่ที่นี่จัง บ้านพักบรรยากาศดีมาก





ถ้าหนาวกว่านี้ คงได้เห็นหมอกลงยามเช้า













รังผึ้งหลวง (ที่ไม่มีผึ้งแล้ว)



กลับจากเขากระโดง ตามหามื้อเช้าจนเกือบถูกตำรวจจับ เพราะเลี้ยวมั่ว หลบตำรวจอีกทางไปจ๊ะเอ๋อีกทางอยู่ตรงวงเวียนรัฐธรรมนูญพอดี ตำรวจโบกให้จอด เรากดกระจกปุ๊บ "เทศบาลอยู่ทางไหนคะ" รีบชิงถามก่อนตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหา ตำรวจงง อีนี่ไม่รู้ตัวว่าผิด! เขาก็ชี้ไปข้างหน้า บอกว่าเลี้ยวซ้ายไฟแดงที่สอง แล้วจัดการแจ้งข้อหาเรา "เขาแจ้งมาว่าคุณไม่คาดเข็มขัด" เรางง?? แล้วที่พาดคอชั้นอยู่นี่เรียกว่าอะไรวะ "นี่ไง ไม่คาดตรงไหน" (บุญแค่ไหนที่เราคาดโดยไม่รู้ตัวว่าคาดตอนไหน 555)

ตำรวจไม่ยอมแพ้ บอกว่า "เขาแจ้งมาว่าเพิ่งคาด" คิดว่าเราจะยอมเหรอ เราก็ไม่ยอม เถียงว่า "อ๋อ เมื่อกี๊หันไปหยิบแผนที่นี่ไง เลยต้องปลดแล้วใส่ใหม่" เถียงพลางหยิบเอกสารที่วางอยู่เบาะข้างๆ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ "จะหาร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าเทศบาล" เราย้ำ (นึกในใจ ตาดีไปป่าว)

ตำรวจหนุ่ม ว.ไปยังตำรวจที่แจ้งมา "เขาแจ้งว่า หันไปหยิบเอกสารข้างหลัง" ว่าแล้วก็ปล่อยเราลอยนวล อิอิอิ ก็คนไม่ผิดนะ จะมาบอกว่าผิดก็เกินไปล่ะ กะว่าถ้าไม่เชื่อ ก็จะชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันเลย จะได้รู้ว่าร้านที่แนะนำนั้นอยู่ที่ไหน?

ขับผ่านไปเทศบาลแล้ว ก็ยังไม่เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ว่าเลย ขับวนไปเวียนมา งงหมดแล้ว อยู่ๆ ก็เจอสถานีรถไฟ เย้!!! ดีใจจังได้ซื้อลูกชิ้นหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ตามคำร่ำลือแล้ว



เป็นร้านรถเข็น (มีหลายร้าน) แต่เรามาเช้า เลยเจอร้านเดียว ชื่อร้านป้านิด อยู่หัวมุมร้านแรก ไม้ละ 3 บาท (ส่วนใหญ่เป็นลูกชิ้นปลา) เราซื้อ 7 ไม้ 20 บาท ถูกจริงๆ รถสีขาวคันที่เห็นซื้อไปสัก 50 ไม้เห็นจะได้

เขาเรียกว่าลูกชิ้นยืนกิน คือยืนกินได้เลย มีน้ำจิ้มพร้อมผักสำหรับคนที่อยากอิ่มทันที อิ่มสะดวกกว่าเซเว่นอีกนะ กินร้อนๆ อร่อยดี



ออกจากบุรีรัมย์ประมาณ 10 โมงเช้า เหยียบคันเร่งแทบเหาะได้ จะได้ไม่ร้อนมาก กลับเส้นทางเดิม ถึงนาเชือกประมาณ 11 โมงกว่า แวะเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน (ชื่อเพราะดี---เราชอบ) เพื่อดูปูทูลกระหม่อมที่มีที่เดียวในประเทศไทย



ก่อนไปดูปูแป้ง หรือปูทูลกระหม่อม เห็นนกตะกรามอยู่ในกรง น่าสงสารจัง ทำไมเอามันมาขังไว้อย่างนี้ล่ะ มันเหงานะ



เจ้าหน้าที่จะเอามาปูมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวดูในตู้เล็กๆ เพื่อไม่ให้ผิดหวังที่ไม่ได้เห็น พร้อมอธิบายให้ฟัง เราถามว่าปกติเขากินกันมั้ย เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่กิน เพราะเนื้อมันไม่เหมือนปูทั่วไป มันจะเหมือนแป้ง อ๋อ มันจึงมีชื่อเล่นว่า "ปูแป้ง" นั่นเอง





เจ้าหน้าที่คนเดิมบอกว่าถ้าอยากดูต้นกำเนิดมันก็ขับรถเข้าไปดูได้ ไหนๆ ก็มาแล้ว เราก็เข้าไปดู แต่มันเป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1.085 กม. เจ้าหน้าที่หน้าปากทางถามว่า เคยมามั้ย เราบอกว่า ไม่เคย เขาสงสัยจึงถามต่อว่า "ไม่เคยมา แต่มาคนเดียวเนี่ยนะ อาจจะต้องรอนานหน่อยนะกว่าจะได้เห็นมัน"





เราเตรียมความพร้อมด้วยการเอาลูกชิ้นที่ซื้อมาจากบุรีรัมย์เข้าไปด้วย เสมือนมาปิกนิก ปรากฏว่าพอเดินเข้าไปไม่ถึงร้อยเมตร มีคนเดินออกมาอีก 4 คน เขาบอกว่า "ไม่กล้าเดินเข้าไปลึก น่ากลัว!" เขามากัน 4 คนยังกลัว แล้วเรามาคนเดียว ก็ควรจะกลัวใช่มั้ย

แม้ว่าจะเป็นป่าโปร่ง ส่วนใหญ่มีแต่ต้นไผ่ เราก็ชักกลัวเหมือนกัน แต่กลัวงู นะ ไม่ได้กลัวผี หยิบมือถือมาดู มีสัญญาณขีดเดียว ถ้าเราเป็นไรขึ้นมา อาจจะติดต่อใครไม่ได้ก็ได้นะ จินตนาการล้ำเลิศ ไม่ถึงไหน ออกมาดีกว่า รีบกินลูกชิ้นให้หมดซะ ไว้วันหลังถ้ามีโอกาสค่อยมาดูเธอใหม่นะปูแป้ง อิอิอิ ขากลับถึงมหาสารคามตอนบ่ายโมง ใช้เวลา 3 ชม.(รวมแวะป่าดูนลำพันด้วย) นับว่าทำเวลาดีมาก

นับเป็นการเดินทางครั้งแรกที่เราขับรถออกต่างจังหวัดมาเที่ยวแบบค้างคืนคนเดียว ดีใจจังที่ทำสำเร็จ มีครั้งแรกแล้วก็ต้องมีครั้งต่อไปแน่ๆ ขอบคุณในการตัดสินใจและความกล้าของตัวเอง


Create Date : 09 ธันวาคม 2555
Last Update : 9 ธันวาคม 2555 16:51:09 น. 2 comments
Counter : 5279 Pageviews.  

 
มาเที่ยวบุรีรัมย์ด้วยคร๊าาา
อ่านตอนแรกตกใจค่ะ
ว่าเดินทางใช้วเลาแค่ 2 ชม. กว่าเองเหรอ
กร๊ากกกกกกกก จากมหาสารคามนี่เอง
นึกว่าจะเริ่มต้นที่กรุงเทพเสียอีก เง้อออ

อยากทานลูกชิ้นค่ะ ...


โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:18:04:53 น.  

 
Thank you very much


โดย: KAI (nookookai8 ) วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:20:50:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]