Love is All Around.
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
12 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
ทดลองขับ HONDA BRIO (ตอนที่2)

Pic_170388


พบกับการทดสอบ Honda Brio ในเส้นทางขึ้น-ลงภูเขาที่สูงชันแถบอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย....

วัน ที่ 28-29 เมษายน 2554 บริษัท Honda Automobile Thailand co. ltd โดยประธานบริหาร มร. อาซึชิ ฟูจิโมโตะ เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมลงทำการทดสอบการขับขี่รถยนต์ Eco-Car Honda Brio ซึ่งนับได้ว่าเป็นการทดสอบรถยนต์ Eco-Car รุ่นล่าสุดของค่าย Honda เป็นครั้งแรกของโลก เส้นทางการทดสอบในครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง 2 ทีม ในช่วงทดสอบภาคเช้าของทีมแรกกับรถ Honda Brio ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT ใช้ทางหลวงจังหวัดเชียงรายหมายเลข 110 จากโรงแรมเลอ เมอลิเดียน เชียงราย มุ่งสู่ยอดดอยตุงในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวงประมาณหลักกิโลเมตรที่ 870-871 ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือจากตัวเมืองเชียงรายไปประมาณ 45 กิโลเมตร อยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอแม่ฟ้าหลวง ลักษณะเส้นทางที่ทีม PR ของ Honda กำหนดมาสำหรับการขับทดสอบในครั้งนี้เป็นถนนลาดยางที่ตัดผ่านเทือกเขาสูงของ ภาคเหนือ ทอดตัวยาวสลับไปมาของสันเขาอยู่ทางด้านซ้ายของเส้นทางที่มุ่งไปอำเภอแม่สาย มีทางโค้งขึ้น-ลงภูเขาคดเคี้ยววกไปวนมา เหมาะสมมากกับการทดสอบสมรรถนะของรถยนต์เช่น อัตราเร่ง การบังคับควบคุมและการเบรค รวมระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร ส่วนช่วงทดสอบที่ 2 ในภาคบ่ายเป็นการขับขี่เจ้า Honda Brio รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในตัวเมืองเชียงราย โดยใช้เส้นทางวนรอบตัวเมืองตั้งแต่บ่าย 2 โมงไปจนถึง 5 โมงเย็น


 





 


ทีมวิศวกรของ Honda ถูกระดมขนมากันแบบครบๆโดยบินตรงจากประเทศญี่ปุ่นมายังจังหวัดเชียงราย ทั้งวิศวกรออกแบบโครงสร้าง ภายในภายนอก วิศวกรระบบส่งกำลัง ช่วงล่างและระบบความปลอดภัยของตัวรถ รวมถึงวิศวกรเครื่องยนต์กับหัวหน้าทีมพัฒนารถยนต์ Honda Brio ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น ทั้งหมดได้มาตั้งทีมประเมินผลการทดสอบและคอยตอบคำถามต่างๆของสื่อมวลชนที่ จ.เชียงรายมานานกว่า 5 วันแล้ว รวมถึงคอยให้คำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ การอธิบายถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพของตัวรถ Eco-Car รุ่นล่าสุดของ Honda จากการพัฒนาที่ใช้ทั้งเวลาและความมุ่งมั่นในการสร้างรถยนต์คันเล็กรุ่น Brio


 





 


หลังจากเข้าฟังบรรยายสรุปถึงตัวรถ Brio จากหัวหน้าทีมพัฒนาและทดสอบซึ่งเป็นวิศวกรชาวญี่ปุ่นและการใช้เส้นทางในการ ทดสอบทั้ง 2 ช่วงจากทีม PR ของ Honda Automobile Thailand co. ltd แล้ว ก็ถึงเวลาของการลงมือขับจริงกันซะที หลังจากที่ผมเฝ้ารอคอยด้วยความมุ่งมั่นที่จะขับเจ้ารถราคาประหยัดของ Honda มานานกว่า 2 ปี วันนี้ความฝันก็กลายมาเป็นความจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ทีม PR ของ Honda จัดให้ผมได้ขับทดสอบในภาคเช้ากับทีม A ที่จะมุ่งหน้าขึ้นสู่ดอยตุงด้วยเจ้า Brio สี Alabaster Silver Metallic ขบวนรถ Eco-Car Honda Brio ทั้ง 16 คันซึ่งเป็นรถเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ล้วนๆเริ่มทยอยเคลื่อนตัวออกจากโรงแรมเลอ เมอลิเดียน เชียงราย สีสันที่สดใสคล้ายกับลูกกวาดในโหลกับการวิ่งเกาะกลุ่มกันเป็นขบวนทั้ง 16 คันผ่าเข้าไปยังกลางตัวเมืองเชียงราย เรียกร้องสายตาของผู้ที่สัญจรไปมาในเส้นทางที่จะมุ่งสู่ดอยตุงให้ต้องหยุด หันมามองดูด้วยความสนใจระคนแปลกใจว่า ทำไมถึงได้ขนรถมาทดสอบกันซะไกลลิบขนาดนี้


 





 


ขบวนรถทดสอบออกจากตัวเมืองเชียงรายได้ไม่นาน สภาพการจราจรที่เริ่มโปร่งโล่งทำให้เพื่อนๆสื่อสารมวลชนสายรถยนต์บางสำนัก ได้ทดสอบอัตราเร่งกันอย่างจุใจก่อนจะพบกับทางขึ้นเขาที่ชันและโหดน้องๆเส้น ทางไปอำเภอปาย ผมใช้วิธีเดิมๆคือการขับปิดท้ายขบวนเพื่อบันทึกภาพและไม่ต้องการใช้ความเร็ว มากนักเนื่องจากขนาดที่เล็กของตัวรถทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังยามออกมา ขับทดสอบทางไกลแบบนี้ อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งเมื่อออกตัวจากสัญญาณไฟที่ใช้ได้ของเจ้า Brio ทำให้เกิดความรู้สึกสนุกขึ้นมาในทันทีทันใด ถึงแม้มันจะมีเครื่องยนต์ที่มีปริมาตรความจุเพียงแค่ 1198 ซีซี และมีตัวเลข 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงประมาณ 11.30 วินาที แต่ก็ไม่รู้สึกว่ามันอืดแต่อย่างใด ส่วนตีนปลายของมันเมื่อผมลองลากยาวๆโดยการจมคันเร่งไฟฟ้าดู เจ้า Brio ก็ไปได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะโดนกล่องควบคุมล็อกความเร็วปลายเอาไว้เพียงแค่นั้นจากสาเหตุด้าน ความปลอดภัย


 





 


ตำแหน่งการนั่งขับค่อนข้างสูงไปสักนิดสำหรับคนที่ชอบรถมาด สปอร์ตแบบผม ที่มักชอบปรับเบาะลงต่ำสุด แต่เมื่อขับไปนานๆจะเห็นได้ว่าวิศวกรของ Honda จงใจวางตำแหน่งของการนั่งขับให้สูงมากกว่าปกติเล็กน้อยเนื่องจากขนาดของตัว รถเพื่อเพิ่มระยะการมอง ทัศนวิสัยที่มองเห็นได้รอบคันเกิดจากกระจกบานใหญ่รอบตัวที่ให้มุมมองเปิด โล่ง เบาะหุ้มผ้าเนื้อนิ่มนั่งได้สบายไม่น้อยหน้ารถยนต์คันโต ที่ชอบมากคือความรู้สึกของพวงมาลัยในขณะทำการหักเลี้ยว ถึงแม้มันจะไม่แน่นตึบเหมือนรถยุโรปแต่ให้ความรู้สึกถึงการสื่อสารระหว่าง ช่วงล่างกับผิวถนนได้ดี คมและไวใช้ได้เลยทีเดียวซึ่งผิดจากที่คาดการไว้ล่วงหน้าว่ามันก็แค่รถเล็กๆ คันหนึ่งเท่านั้นและน่าจะเหมือนกับพวงมาลัยของรถ Eco-Car ทั่วไป แต่ไม่ไช่สำหรับเจ้า Brio พวงมาลัยไฟฟ้าของมันสร้างอัตราทดที่แท้จริงในการใช้งาน ทั้งการขับขี่แบบซอกแซกไปมาในเมืองรวมถึงการวิ่งเต็มกำลังในย่านความเร็วสูง บนเส้นทางไฮเวย์ เครื่องเล่น MP3-iPod ที่นำมาด้วยก็ได้เปิดใช้งานในการสร้างบรรยากาศของการขับทดสอบให้รื่นเริงมาก ขึ้น นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไม Honda ไม่ใส่ตัวเล่นแผ่น CD มาให้ แต่ก็ถึงบางอ้อเมื่อลองเชื่อมต่อเจ้า iPod เข้ากับช่องเสียบ AUX-USB มันสามารถใช้งานได้จริงโดยผ่านการควบคุมบริเวณชุดเครื่องเสียงของมันได้เลย ให้ทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัย ไม่ต้องคอยเปลี่ยนแผ่น CD กันบ่อยๆในระหว่างการเดินทางที่ต้องขับขี่คนเดียว


 






 


ออกจากตัวเมืองได้ไม่นานนัก กลุ่มเมฆฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่เช้าและเริ่มพัดเข้าปกคลุมเขตจังหวัด เชียงรายจากการสังเกตในระหว่างที่เครื่อง Airbus 300/600 ของการบินไทยกำลังลดระดับเพื่อทำการร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานจังหวัดเชียงราย ในช่วง 9.30 น. ก็เริ่มโปรยปรายลงมาเป็นสาย ทำให้การขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นไปอีก ความสงสัยของผมในตอนแรกว่าทำไมทีม PR ของ Honda จึงเอารถ Eco-Car คันเล็กจิ๋วมาขับทดสอบท่ามกลางขุนเขาที่สูงตระหง่านทางภาคเหนือของประเทศไทย ค่อยๆหมดไปทีละน้อยเมื่อได้ลองควบคุมเจ้าเครื่องจักรแห่งการเดินทางของคน เมืองคันนี้ รถ Honda Brio ใช้ระบบรองรับที่โดดเด่นเกินตัว ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท สปริง โช็คอัพแก็ซและเหล็กกันโคลงกับระบบรองรับด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม H-shape ทำงานได้เป็นอย่างดีเมื่อเริ่มเข้าสู่เส้นทางขึ้นดอยตุง ความชันของถนนทางขึ้นดอยในบางช่วงไม่สร้างภารกรรมใดๆให้กับเจ้า Brio ทั้งสิ้น มันยังคงพุ่งทะยานไปตามแรงกดของฝ่าเท้าและให้อารมณ์สนุกแบบรถเล็กๆเท่าที่ มันควรจะเป็น ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ CVT พร้อมโหมด Shift Hold Control ซึ่งใช้สายพานพูเล่ย์ภายในชุดเกียร์เป็นตัวถ่ายเทแรงบิดจากเครื่องยนต์ลงสู่ พื้น ม้าทั้ง 90 ตัว ทำให้ขนาดของแรงบิดมีความเหมาะสมกับน้ำหนักตัวของเจ้า Brio เอามากๆ ช่วงล่างของ Brio ยังสามารถถ่ายเทมวลโมเมนตัมขนาดเล็กของโครงรถได้อย่างหมดจรด ถึงแม้จะไม่หนึบแน่นเท่ารถคันโต แต่ให้ความรู้สึกที่ดีจากการหักพวงมาลัยโยนตัวรถขึ้นไปตามเนินชัน นี่แน่ใจนะว่ามันไม่ไช่ Jazz!!!


 





 


ที่ความสูงประมาณ 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีกลุ่มเมฆฝนและหมอกปกคลุมไปทั่วในบริเวณทางขึ้นดอยตุงทำให้ทัศนวิสัยในการ มองแย่ลงเป็นช่วงๆ ถนนลาดยางที่เปียกชื้นทำให้ผมต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้คันเร่งถึงแม้ จะเป็นทางขึ้นเขา จากที่เคยขับไล่กันมาติดๆเป็นขบวนยาวเหยียดด้วยความเร็วกว่า 120-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอเริ่มต้นขึ้นดอยกลุ่มรถทดสอบ Brio กลับเริ่มทิ้งระยะห่างจากกันเพื่อความปลอดภัย ทั้งจากการชนท้ายกันเองโดยไม่ได้ตั้งใจหรือไปบวกกับรถที่กำลังลงเขามาแบบ เต็มๆ การขับคนเดียวโดยใช้คันเร่งลึกๆเพื่อเรียกกำลังทำให้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 90 แรงม้าต้องทำงานอย่างหนัก ระบบส่งกำลังที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ CVT ถูกปรับเซ็ตมาให้ใช้งานได้กว้างมากขึ้นกว่าเกียร์ CVT ในยุคแรกของ Honda ที่วางอยู่ใน Jazz โมเดลแรกๆ ความเหนือกว่าของมันอยู่ตรงระบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หมด ทำงานได้อย่างนุ่มนวลแบบไร้รอยต่อตามสไตล์ของเกียร์ที่ใช้สายพานพูเล่ย์ ปั้มน้ำมันเกียร์มีแรงเสียดทานต่ำ สายพานเกียร์และพูเล่ย์รวมถึงรูปทรงเกียร์ทั้งลูกถูกออกแบบให้มีขนาดที่กระ ทัดรัดขึ้น ระบบควบคุมการเคลื่อนตัวพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับความลาดเอียงของตัวรถรวมถึง เซนเซอร์ที่ใช้ในการควบคุมอื่นๆ เพื่อให้ได้กำลังในการเร่งเครื่องในขณะที่ขึ้นทางลาดชัน เกียร์ CVT ของ Honda Brio ได้รับการพัฒนาและถูกออกแบบให้มีน้ำหนักที่เบาลง มีอัตราทดสูงกว่าเกียร์รุ่นเก่า วิศวกรระบบส่งกำลังของ Honda แจ้งว่าอัตราทดที่สูงขึ้นถูกปรับตั้งมาเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ในเมืองไทย อัตราทดเกียร์แบบใหม่นี้ยังช่วยในการลดรอบเครื่องยนต์ซึ่งจะส่งผลไปถึงค่า ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มีตัวเลขลดลงอีกด้วย


 





 


เมื่อขึ้นมาถึงบนยอดดอยตุงทีมทดสอบกับรถ Brio ทั้ง 16 คันก็จอดพักเพื่อถ่ายรูปร่วมกัน ไม่นานฝนเจ้ากรรมก็ตกกระหน่ำลงมาอีกจนทุกคนต้องรีบขึ้นรถเพื่อขับกลับลง มายังจุดสตาร์ทในช่วงเช้า เส้นทางขาลงกับสภาพถนนที่เปียกลื่นทำให้ผมต้องคลานลงมาโดยที่เท้าขวาต้อง อยู่กับแป้นเบรคตลอดเวลา ตำแหน่งของเกียร์ที่ใช้ในช่วงลงเขาถูกสลับไปมาระหว่าง S กับ L โดยใช้การหน่วงรอบเครื่องยนต์ในเกียร์ต่ำเพื่อเป็นเอนจิ้นเบรคไปในตัว ยาง Michelin Energy XM2 ขนาด 175/65/r14 ซึ่งเป็นยางหน้าแคบต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรับทั้งแรงกดและแรงบิดตัวจากการ หักเลี้ยวพวงมาลัยไปมาอยู่ตลอดเวลา โดยภาพรวมมันเป็นยางที่ถูกออกแบบให้มีค่าแรงเสียดทานกับผิวถนนต่ำอยู่แล้ว เมื่อต้องมาเจอกับสภาพทางลงเขาที่เปียกลื่นจึงทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ด้อยลงไปบ้าง ทั้งจากอุณหภูมิที่เย็นลงกับน้ำฝนที่ปกคลุมผิวทาง สิ่งที่เข้ามาชดเชยคือการยึดเกาะของช่วงล่างเจ้า Brio ที่ทำให้การขับขี่ในช่วงลงเขาไม่อันตรายจนเกินไปนักหากไม่เพลินไปกับ ความเร็วของตัวรถที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆและแรงเหวี่ยงซ้าย-ขวาในขณะที่หักพวง มาลัยไปตามโค้งของทางลงดอยตุง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมขับลงมาด้วยความเร็วที่เกินไปสักนิดและหน้ารถเร่ิมออก อาการดื้อโค้งตามลักษณ์รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ความตกใจทำให้เท้าขวากระทืบเบรคในขณะที่ตัวรถกำลังพุ่งเข้าสู่ทางลงดิ่งขัน ซึ่งเป็นหัวโค้งซ้ายรูปตัวยู ระบบ ABS ที่มีชุดเซนเซอร์กระจายแรงเบรคแบบ EBD ติดตั้งอยู่เข้ามาแทรกแซงทันทีและช่วยให้สามารถหักพวงมาลัยไปตามโค้งที่ดิ่ง ลงลึกได้อย่างเฉียดฉิว !!


 





 


ทีมทดสอบทั้งหมดกลับมารวมตัวที่โรงแรมอีกครั้งในช่วงบ่าย 2 โมงเพื่อเปลี่ยนไปขับขี่เจ้า Brio รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดโดยใช้เส้นทางวนรอบตัวเมืองเชียงรายตั้งแต่บ่าย 3โมงไปจนถึง 5 โมงเย็น หลังจากผ่านการขับเจ้า Brio รุ่นเกียร์อัตโนมัติอันแสนสะดวกมากว่า 114 กิโลเมตร ก็ต้องมานั่งยัดเกียร์เองในตัวเมืองที่อุดมไปด้วยรถจักรยานยนต์ เกียร์ธรรมดาของ Brio ใช้ระยะการเปลี่ยนเกียร์สั้นๆจากการออกแบบรวมถึงแป้นคลัตชก็มีน้ำหนักเบา ทำให้ความรู้สึกในการขับมีความกระฉับกระเฉงต่างจากรุ่นเกียร์อัตโนมัติเล็ก น้อย อัตราทดเกียร์ 1 ที่ 3.461 และเกียร์ 2 ที่ 1.869 ส่งผลให้การออกตัวจากสัญญานไฟจราจรเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก แค่ปล่อยเท้าออกจากแป้นคลัตชแล้้วกดคันเร่งเบาๆ เจ้า Brio ก็พร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้าทันที จากการที่ผมใช้รถส่วนตัวเป็นเกียร์อัตโนมัติมานานกว่า 20 ปีโดยแทบจะไม่ได้กลับไปแตะรถเกียร์ธรรมดา ทำให้การขับขี่ทดสอบในช่วงที่สองหลังออกจากโรงแรมเลอ เมอลิเดียนมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงรายมีอาการกระโดกกระเดกไปบ้าง กว่าจะปรับตัวให้เข้ากับน้ำหนักของแป้นคลัตชผมก็โดนเพื่อนๆในกลุ่มทิ้งจนขับ หลงทางวกไปวนมาในตัวเมืองเชียงรายแบบงมเข็ม


 





 


Honda ทำช่วงล่างของ Brio ได้ดีเกินคาดจากการลงความเห็นของเพื่อนสื่อมวลชนหลายสำนัก มันมีความโดดเด่นเกินหน้าเกินตารถคู่แข่งอยู่บ้างในเรื่องของการยึดเกาะ เครื่องยนต์  L12B3 บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์วความจุกระบอกสูบ 1198 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 71.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.2 : 1 พร้อมระบบแปรผันวาล์ว i-VTEC และหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ PGM-FI กับระบบลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า DBW (Drive-By-Wire Electronics Throttle Control) ทำงานผสมผสานไปกับระบบส่งกำลัง-มวลน้ำหนักของตัวรถทั้งคันได้ดี แรงบิดสูงสุด 111.2 กิโลกรัม/เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที เพียงพอต่อการขับในทุกเส้นทางบนถนนของเมืองไทย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไม่อาจวัดได้เนื่องจากเป็นทางขึ้น-ลงเขาซึ่งต้อง ใช้คันเร่งกันมากกว่าปกติ ส่วนการขับขี่ในเมืองด้วยตัวรถรุ่นเกียร์ธรรมดามีตัวเลขที่ไม่หนีไปจากที่ Honda ให้มาเท่าใดนักที่ 18-20 กิโลเมตรต่อลิตร เบรคดีถึงแม้ล้อหลังจะเป็นแบบดรัมเบรคก็ตาม ระบบเบรคยังมีตัวช่วยเช่น ABS ป้องกันล้อล็อกและ EBD ที่ช่วยกระจายแรงเบรค ส่วนระบบความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัย i-SRSทั้งคนนั่งและคนขับรวมถึงโครงสร้างแบบ G-Con ที่เกิดจากการพัฒนาของวิศวกร Honda ล้วนๆ ถึงแม้มันจะมีเรี่ยวแรงมากกว่า Nissan Mach ถึง 11 แรงม้า แต่อัตราเร่งกลับไม่แตกต่างกันมากนักรวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารก็ ยังใกล้เคียงกัน สิ่งที่คนไทยมักคาดหวังจากการซื้อรถ Eco-Car คืออุปกรณ์จำนวนมากเท่าที่จะใส่มาให้จากโรงงานโดยไม่ค่อยจะมองไปที่รูปแบบ ของการใช้งานและราคาค่าตัว ทำให้มักจะเกิดปัญหาตินู่น ว่านี่อยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่ยังไม่เคยได้ไปลองขับดูแม้แต่ครั้งเดียว


 




 


สุดท้ายกับข่าวที่น่าเศร้าใจของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ญี่ปุ่นซึ่ง แถลงโดยประธานบริหารบริษัท Honda Automobile Thailand co. ltd  มร. อาซึชิ ฟูจิโมโตะ หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียดว่า บริษัท Honda จำเป็นต้องหยุดการรับจอง Brio เอาไว้ชั่วคราว เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ ซึ่งมีทั้งระบบอีเล็กโทรนิคส์และระบบต่างๆที่ใช้ภายในรถยนต์ที่ทำการผลิตจาก ญี่ปุ่นแล้วจึงส่งออกมาประกอบที่โรงงาน Honda ในจังหวัดอยุธยา สำหรับใช้ในการประกอบรถยนต์ Honda เกือบทุกรุ่น ซึ่งทำให้นับจากนี้ไปอีกประมาณ 4 เดือน บริษัท Honda จะต้องผลิตรถยนต์จากชิ้นส่วนเท่าที่ส่งมาจากญี่ปุ่นในปริมาณที่ไม่มากเหมือน เดิม เพื่อรักษาระดับการผลิตเอาไว้ไม่ให้ถึงขั้นต้องหยุดสายการผลิต หรือปิดโรงงานจนกว่าปัญหาด้านพลังงานจะได้รับการแก้ไขให้กลับเข้าสู่สภาวะ ปกติ จากผลกระทบในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงถึง 9.0 แม็คนีจูดสเกล ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นสึนามิเข้าถล่มโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ในฐานะสื่อสารมวลชนสายยานยนต์ก็ขอเอาใจช่วยให้บริษัทแห่งนี้ผ่านพ้นความยาก ลำบากในครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว และกลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิมภายใต้สโลแกน The Power Of Dream ผู้คิดค้นจักรกลแห่งจินตนาการที่ใช้ในการเคลื่อนที่เดินทางของมนุษย์มายาวนา นกว่า 70 ปี.


 





Honda Brio Specifications
แบบ............................รถยนต์นั่งขนาดเล็ก 5 ประตู 4 ที่นั่ง
ผู้ผลิต..........................Honda
เครื่องยนต์...................ซิงเกิลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป (SOHC) 4 สูบ 16 วาว์ล i-VTEC
ปริมาตรความจุ............1198 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก.....73.0x71.6 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด.......10.2:1
กำลังสูงสุด...................90 แรงม้าที่ 6000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด................11.2 กิโลกรัม/เมตรที่ 4800 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง...............เกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT Shift Hold Control
ระบบพวงมาลัย............แร็คแอนพีเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS
พวงมาลัยหมุนสุด........3.42 รอบ
รัศมีวงเลี้ยว..................4.5 เมตร
ระบบเบรค
ล้อหน้า..........................จานดิสเบรค พร้อมระบบ ABS-EBD
ล้อหลัง...........................ดรัมเบรค พร้อมระบบ ABS-EBD
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า.........................แม็คเฟอร์สัน สตรัท โช็คอัพ สปริง เหล็กกันโคลง
ด้านหลัง.........................ทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape
มิติตัวถัง
ความกว้าง......................1680 มิลลิเมตร
ความยาว........................3610 มิลลิเมตร
ความสูง..........................1485 มิิลลิเมตร
ล้อและยาง......................ล้ออลูมินัมอัลลอยขนาด 14 นิ้ว ยาง Michelin Energy XM2 ขนาด 175/65/r14 ทั้ง 4 ล้อ พร้อมยางอะไหล่
ความสูงใต้ท้องรถ...........150 มิลลิเมตร
น้ำหนัก............................920 -950 กิโลกรัม (แล้วแต่รุ่น)
ความจุถังเชื้อเพลิง..........35 ลิตร


 


Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook //www.facebook.com/chang.arcom




Create Date : 12 พฤษภาคม 2554
Last Update : 12 พฤษภาคม 2554 9:02:46 น. 3 comments
Counter : 1369 Pageviews.

 
ช่วย review เรื่องบานประตูหลังที่ไม่มีไล่ฝ้าและใบปัดน้ำฝนหลังด้วยครับว่าเป็นอย่างไร พอดีผมสนใจเจ้า Brio อย่างมาก


โดย: Oakley IP: 125.213.232.26 วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:51:09 น.  

 
ผมยังเชื่อในจรรยาบรรณของสื่อสายยานยนต์อยู่นะครับ
ขอให้วิจารณ์กันตามความเป็นจริง ไม่มีวาระซ้อนเร้นก็แล้วกัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่คิดจะซื้อรถรุ่นนี้


โดย: hot IP: 101.109.138.58 วันที่: 13 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:21:57 น.  

 
เยี่ยม จองไปแล้ว รอรถ เท่านั้น สุดยอดเลย ชอบ ๆ


โดย: Rock5tar IP: 124.122.184.217 วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:16:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.