Love is All Around.
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
พาทัวร์โตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่42

พาทัวร์งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่42 เมื่อเทคโนโลยีกับสิ่งแวดล้อมรวมเป็นหนึ่ง


โดย...นิธิ ท้วมประถม


เป็นประจำทุก 2 ปี ที่ประเทศยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับโลก อย่างประเทศญี่ปุ่นจะจัดงาน โตเกียว มอเตอร์โชว์ ขึ้น และในปีนี้ก็เช่นกันที่มีการจัดงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ขึ้น ตามกำหนดเดิม แม้ว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นจะเจอกับมหาภัยภิบัติอย่าง คลื่นยักษ์สึนามิ ถล่มจนทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักก็ตาม


แต่การจัดงาน โตเกียว มอเตอร์โชว์ ก็ถูกเลื่อนมาจัดงานจากปกติ ที่จัดขึ้นในเดือน ต.ค.ของทุกปี มาเป็นต้นเดือน ธ.ค. ที่อากาศแสนจะเย็นเยียบด้วยอุณหภูมิไม่ถึง 10 องศาเซลเซียส



ซูซูกิ Q-CONCEPT


นอกจากเลื่อนเวลาจัดงานแล้ว ยังเปลี่ยนสถานที่จัดงานมาเป็นที่ Tokyo Big Sight ซึ่งอยู่ใน Koto Ward แทนที่จะเป็น Makuhari Messe ที่เมืองชิบะ อย่างเคย ทำเอาผมเดินงง เป็นไก่ตาแตกเหมือนกัน เพราะไม่คุ้นเลยครับ ตั้งแต่หาห้อง Press ห้องอาหาร รวมถึงฮอลล์ต่างๆ ที่งงๆ ไม่เหมือนที่ Makuhari Messe ที่เดินกันจนคุ้นหมดแล้ว


ธีมการจัดงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 42 นี้ ทาง JAMA (Japan Automobil Manyfacturers Association,Inc กำหนดไว้ว่าเป็น “Mobility can Change the world” หรือ เทคโนโลยียานยนต์ ที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ ซึ่งธีมนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายได้แสดงเทคโนโลยีที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อที่จะแสดงว่าอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมที่ทำลายโลก และสามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ ทำให้เราได้เห็นเทคโนโลยี รถไฟฟ้า รถไฮบริด รถปลั๊กอิน ไฮบริด รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล สะอาด


งานโตเกียว มอเตอร์โชว์ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-11 ธ.ค.นี้ครับ โดย JAMA หวังว่าจะมีคนเข้าชมงานมากถึง 8 แสนคน ส่วนค่าเข้าชมไม่ได้ถูกๆ นะครับ เพราะตั๋วเหมาวันราคา 1,500 เยน หรือประมาณ 450 บาท ถ้าครึ่งวันก็ 1,300 เยน หรือถ้าอยากถูกหน่อยก็ตั๋วแบบเร่งรีบ ที่ 500 เยน ซึ่งเข้างานได้ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาปิดงาน ก็ไม่ว่ากัน


สำหรับบรรยากาศภายในงานนั้นบอกได้เลยครับว่า ไม่ยิ่งใหญ่เหมือนกับงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ผ่านๆ มา แถมยังดูกร่อยๆ โดยเฉพาะพริตตีที่ค่อนข้างน้อยไปอย่างเห็นได้ชัด เล่นเอาบรรดาช่างภาพทั้งนักข่าวไทยและเทศเซ็งกันไปไม่น้อย ถ้าจะเทียบผมว่างานมหกรรมยานยนต์ที่กำลังจัดอยู่นั้น ดูสดใสกว่าด้วยซ้ำ หุหุ



ซูซุกิ เรจินา


งานนี้มีการเปิดตัวรถใหม่ ที่เรียกว่า World Premiere หรือเปิดตัวครั้งแรกในโลกมากถึง 53 คัน และอีก 82 คัน จะเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในตลาดญี่ปุ่น ลองคิดดูแล้วกันครับว่ายิ่งใหญ่หรือเปล่า


มาดูในเรื่องของรถต้นแบบในงานนี้กันดีกว่าครับ ที่ผมมองๆ อยู่คือ เจ้าซูซูกิ REGINA สีเขียวสดใส ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าในบูธ ซูซูกิ นั้นต้องจับตาดูรถคันนี้ให้ดีๆ ครับ เพราะเจ้ารถคันนี้คือรถต้นแบบของรถอีโคคาร์ในรุ่นต่อไปครับ ซึ่งแน่นอนว่าเมืองไทยก็ต้องมีมาแน่ๆ แต่อีกหลายปีหน่อย และยิ่งเห็นสเปก ยิ่งน้ำลายไหล เพราะมีอัตราสิ้นเปลืองแค่ 32 กม./ลิตร น้ำหนักแค่ 730 กก. เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ



มิตซูบิชิ มิราจ


หันมาที่ค่ายมิตซูบิชิ แน่นอนว่าที่น่าสนใจคือ การเปิดตัว อีโคคาร์ ที่ผลิตในประเทศไทย คือรุ่น มิราจ ครับ แต่รุ่นที่เปิดตัวนี้เป็นรุ่นที่จำหน่ายในญี่ปุ่น คือเครื่องยนต์ 1 ลิตร แต่ของไทยเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร โดยมิตซูบิชิ ตั้งเป้าขายเจ้ามิราจ ในประเทศไทยไว้เดือนละ 2,000-2,500 คัน


ส่วนอีกคันที่น่าสนใจในบูธ มิตซูบิชิ คือรถต้นแบบ PX-MiEV II ซึ่งเป็นรถเอสยูวี แบบปลั๊กอิน ไฮบริด คือเป็นรถเครื่องไฮบริด แต่สามารถเสียบปลั๊กไฟชาร์จได้ โดยมีเครื่องยนต์ขนาด 2 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราสิ้นเปลืองได้ยินแล้วใจละลายเพราะอยู่ที่ 60 กม./ลิตร และน้ำมัน 1 ถัง พร้อมการชาร์จไฟ ให้เต็มๆ ต้องวิ่งได้ระยะทาง 800 กม. ว้าวววว...



มิตซูบิชิ PX-MiEV II


มาทางค่ายฮอนด้า กันหน่อยดีกว่า แม้ว่าในประเทศไทย ฮอนด้าจะเหนื่อยไม่น้อย เพราะโรงงานผลิตในไทยจะจมน้ำหมด แต่ในญี่ปุ่น ฮอนด้า จัดบูธ เบ้อเริ่มเทิ่ม รวมทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เอาไว้ในบูธเดียวกันได้อย่างสวยงาม



ฮอนด้า AC-X


สำหรับรถยนต์ที่น่าสนใจของฮอนด้า หนีไม่พ้นเจ้า AC-X ซึ่งเป็นรถต้นแบบสำหรับคนรักสบายอย่างยิ่ง เพราะเจ้า AC-X นี้ มีระบบขับอัตโนมัติ หรือ Auto Pilot เหมือนกับระบบอัตโนมัติบนเครื่องบิน แถมเครื่องยนต์ยังเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร แบบไฮบริด ปลั๊กอิน ว่ากันว่า ฮอนด้าออกแบบรถคันนี้ให้เป็นรถที่ขับสนุก แถมแสนประหยัดด้วยจากระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 50 กม. หากวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว


นอกจากนี้ยังมีรถต้นแบบอย่าง MICRO COMMUTER ที่ดูแล้วยังไงหน้าตาก็เป็นรถแห่งอนาคต ขนาดกะทัดรัด โดยมีความยาวเพียง 2.5 เมตร กว้างเพียง 1.25 เมตร ซึ่งออกแบบให้เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก ใช้การขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเป็นหลัก แถมมีระบบสื่อสารเพียบพร้อมภายในตัวรถ สามารถวิ่งได้ไกล 60 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง



มาสด้า CX-5


ทางค่ายมาสด้า ที่ต้องเดินทะลุมาอีกฮอลล์ ก็ใช่ย่อย เพราะเปิดตัว เอสยูวี ตัวเก่งอย่าง CX-5 ที่จะมาขับเคี่ยวกับฮอนด้า CR-V ในตลาดรถยนต์เมืองไทย และตลาดรถยนต์ทั่วโลกอย่างสูสีทีเดียว ที่สำคัญ CX-5 นั้นเป็นรถยนต์มาสด้า รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี เครื่องยนต์ Skyactiv อย่างเต็มรูปแบบ ซี่งมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-d ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองที่ 18.6 กม./ลิตร กับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G ที่มีอัตราการสิ้นเปลือง 16.6 กม./ลิตร โดยมาสด้ากำหนดว่าจะวางขาย CX-5 ในเดือน ม.ค.ปีหน้า ส่วนในไทยก็มีแผนทำตลาดรถยนต์รุ่นนี้เช่นกัน


และยังมีรถที่แสนบาดใจอย่าง มาสด้า TAKERI ซึ่งถือว่าเป็นรถต้นแบบสำหรับรถยนต์ขนาดกลางในรุ่นต่อๆ ไปของมาสด้า ว่าในอนาคตรถมาสด้า 3 ก็จะมีรูปร่างหน้าตาคลับคล้ายคลับคลาในแบบนี้เหมือนกัน ซึ่งเจ้า TAKERI นี้เครื่องยนต์ Skyactiv ทั้งแบบดีเซลและเบนซินให้เลือก



นิสสัน PIVO3


ด้านนิสสัน ก็ไม่น้อยหน้าเน้นการโชว์รถไฟฟ้ากันอย่างเดียวตามคอนเซปต์ Zero Emission หรือไม่มีการปล่อยไอเสียออกสู่อากาศภายนอกเลย อย่างเจ้า PIVO3 ซึ่งเป็นรถต้นแบบไฟฟ้า ซึ่งนิสสันวาดความหวังว่าจะเอามาใช้จริงสำหรับการใช้งานในเมือง เพราะมีทั้งระบบถอยจอดรถอัตโนมัติ และระบบชาร์จไฟอัตโนมัติ


ด้านยักษ์ใหญ่ของโตโยต้า ตั้งคอนเซปต์บูธ ตัวเองว่า Reborn หรือการเกิดใหม่อีกครั้ง ซึ่งหัวใจหลักของบูธ คือ FUN-VII ที่เน้นเรื่องการออกแบบให้ทั้งคนและรถสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว โดยตัวถังของรถคันนี้จะสามารถแสดงภาพจากโทรศัพท์มือถือของเจ้าของรถได้


นอกจากนี้ ยังมี AQUA ซึ่งเป็นรถไฮบริด ที่มีขนาดเล็กสุดของโตโยต้า เพราะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แต่ขนาดตัวรถนั้นสั้นและเล็กกว่า โตโยต้า พรีอุส ซึ่ง AQUA นี้จะวางขายในญี่ปุ่นภายในเดือน ธ.ค.นี้ และมีแผนวางจำหน่ายไปทั่วโลก เหมือนกับรุ่นพี่อย่างพรีอุสอีกด้วย



โตโยต้า AQUA


นอกจากนี้ ยังมีรถจากยุโรปไปโชว์กันอย่างหนาตา ไม่ว่าจะเป็นบีเอ็มดับเบิลยู ที่นำรถไฟฟ้าในตระกูล I ไปให้ชมกันถึงแดนซากูระ เล่นเอาผมตาโตทีเดียว กับความสวยงามและสีสันของ บีเอ็มฯ I ด้าน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็นำ สมาร์ต EV มาโชว์ เพื่อให้รู้ว่า ยุโรปก็มีรถไฟฟ้ากับเขาเหมือนกัน ออดี้ ก็เปิดตัว ออดี้ A1 Sportback ครั้งแรกในโลก ที่นี่เช่นกัน


ต้องยอมรับว่า ละลานตาไม่น้อยกับเทคโนโลยี อันเหนือชั้นจากมันสมองของค่ายรถยนต์ทั่วโลก ที่ผมก็ได้แต่หวังว่า อยากให้รถต้นแบบเหล่านั้นขายจริงกันเสียที เพื่อโลกอันเป็นที่รักของเรา จะได้อยู่อย่างยาวนาน  



ซูบารุ ADVANCED TOURER CONCEPT


 



โตโยต้า Fun-Vii


 



ซูบารุ BRZ


 



นิสสัน ESFLOW


 



BMW-i




Create Date : 08 ธันวาคม 2554
Last Update : 8 ธันวาคม 2554 9:03:41 น. 1 comments
Counter : 1598 Pageviews.

 
seo ค่ำนี้อากาศเริ่มเย็นๆ ระวังเป็นหวัดนะครับ Directory


โดย: nooblue88 วันที่: 8 ธันวาคม 2554 เวลา:21:40:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.