Love is All Around.
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
ทดลองขับ HONDA BRIO (ตอนที่1)

Pic_170127


Eco-Car Honda Brio นวัตกรรมยานยนต์ขนาดเล็กที่นำการเคลื่อนที่เดินทางของคนเมืองไปสู่อนาคตจาก การคิดค้นของ Honda กับการทดสอบเต็มรูปแบบที่จังหวัดเชียงราย...

ประวัติ ความเป็นมาของโครงการวิจัยและพัฒนารถ Eco-Car เริ่มต้นขึ้นเมื่อกว่า 15 ปีก่อนด้วยรุ่น City จากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดรถยนต์ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มุมมองและการใช้งานที่แปรเปลี่ยนไปของกลุ่มลูกค้า ที่ต้องการรถยนต์ครอบครัวขนาดเล็กราคาประหยัดไว้ใช้งานในเมือง ทำให้ผู้บริหารของ Honda ตัดสินใจสร้างรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประหยัดเชื้อเพลิงที่มีราคาไม่สูงนัก ตัวรถเหมาะสมกับการเป็นรถยนต์คันแรกของกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน บริษัท Honda ทำการวิจัยตลาดมานานแล้ว โดยเริ่มส่งทีมงานออกไปศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงทำการทดสอบเปรียบเทียบกับรถยนต์ขนาดเล็กของหลายบริษัท เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมในการที่จะสร้างยานยนต์ที่ผสมผสานการออกแบบที่ล้ำ สมัย มีสมรรถนะที่ดีเกินราคา ให้พื้นที่ในการใช้สอยเหมาะสมกับรูปแบบของตัวรถและเป็นมิตรต่อสิ่งแวด ล้อมอย่างแท้จริง





แนวคิดในการพัฒนารถ Eco-Car Honda Brio เริ่มจากการประมวลผลการโครงสร้างของรถรุ่น Jazz ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในด้านความนิยมและสมรรถนะในการใช้งาน รวมถึงตัวเลขของยอดจำหน่ายทั่วโลก วิศวกรของ Honda ทำการลดขนาดของตัวถังรถ Eco-Car คันต้นแบบ เพื่อทำให้มันสั้นลงเล็กน้อย แต่ยังคงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารไว้เพื่อให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย รวมถึงให้มุมมองทัศนวิสัยที่ดียามขับขี่ ทุกมิติของตัวถังถูกออกแบบอย่างละเอียดเพื่อรักษามาตรฐานของแบรนด์ The Power Of Dream ด้วยการผนวกเอาระบบอากาศพลศาสตร์ที่ดีกับรูปแบบที่ทันสมัยของรูปทรง เข้ากับพลังของเครื่องยนต์ขนาดเล็กรุ่นล่าสุดขนาด 1.2 ลิตร i-VTEC ที่มีตัวเลขอัตราการใช้เชื้อเพลิงอยู่ในขั้นดีเยี่ยม ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานของโครงการ Eco-Car ที่ Honda ลงนามในสัญญาไว้กับรัฐบาลไทย






ปี ค.ศ. 2011 รถยนต์ Eco-Car รุ่นใหม่ของ Honda ใช้แนวคิด Man Maximum , Machine Minimum เป็นการผสมผสานกันระหว่างการออกแบบโครงสร้างตัวถังที่มีขนาดกะทัดรัด ด้านหน้าของตัวรถถูกออกแบบให้หดสั้นลง มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารโปร่งโล่งด้วยการนำเอาพื้นที่ภายในของ Civic และ Jazz มาปรับใช้กับ Brio การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์การใช้งานภายในที่ลงตัว วางตำแหน่งถังเชื้อเพลิงไว้กลางลำตัว โครงสร้างใหม่ของรถไซส์จิ๋วอย่าง Brio ถูกคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความหรูหรา รวมถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถังระบบ G-Con อันลือชื่อของค่าย Honda ด้านหน้ากระจังที่มีลักษณะแผ่กว้างและลาดลงต่ำ เส้นทแยงด้านข้างตัวถังทำให้ดูเหมือนกับว่ามันพร้อมที่จะเคลื่อนที่ตลอดเวลา กระจังโครเมี่ยมช่วยเสริมมุมมองให้โดดเด่นขึ้น ส่วนกระจกข้างและกระจกบานหลังถูกออกแบบให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ เพื่อทำหน้าที่เป็นทั้งกระจกบานหลังและฝาท้ายไปในตัว ช่วยเพิ่มเติมมุมมองในการขับขี่ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ชุดไฟท้ายทรงสามเหลี่ยมเข้ากับกระจกบานฝาท้ายที่ทั้งกว้างและลึก การใช้กระจกบานใหญ่ทำเป็นฝาท้ายไปในตัวเกิดจากแนวคิดในการลดน้ำหนักและตัด อุปกรณ์ที่เกินความจำเป็นออกไป วิศวกรโครงสร้างของ Honda ให้ความมั่นใจว่า ฝาท้ายที่เป็นกระจกทั้งบานมีความปลอดภัยสูง ผ่านการทดสอบการชนปะทะบริเวณส่วนท้ายอันเข้มงวดตามมาตรฐาน ECER 32 และ ECER 42





ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว ของ Honda Brio ผลิตจากอลูมินัมอัลลอยน้ำหนักเบา ใช้การออกแบบพื้นผิวที่เป็นร่องลึกเพื่อความสวยงาม ผ่านการทดสอบด้านอากาศพลศาสตร์ในทุกย่านความเร็ว รัดหุ้มด้วยยาง Michelin Energy XM2 ขนาด 175/65/r14 เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านในขณะที่สัมผัสกับพื้นผิวถนนและผ่านการ ทดสอบอย่างหนักเพื่อให้ Honda Brio มีสมรรถนะที่ดีในการยึดเกาะ แต่ยังคงอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงจากการใช้ยางรุ่นนี้อีกด้วย วิศวกรของ Honda ยังแจ้งด้วยว่าหากเจ้าของนำรถ Brio ไปเปลี่ยนล้อที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าล้อเดิมๆ จากโรงงานอาจทำให้ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงขึ้นได้






ภายในห้องโดยสารของ Honda Brio คือจุดที่วิศวกรผู้ออกแบบคำนึงถึงมากที่สุด ภายในของมันใช้การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ด้วยการใช้สีทูโทนในบริเวณคอนโซล แผงข้างประตู เบาะในทุกตำแหน่งและแดชบอร์ด ถึงแม้วัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในพวกพลาสติกจะดูธรรมดาไปสักนิด แต่มันก็มีความเหมาะสมกับรูปแบบและราคาค่าตัวมากที่สุด คอนโซลด้านหน้าและเบาะนั่งใช้สีน้ำตาลคาดโทนแก่ตรงกลาง ช่วยเพิ่มความหรูหรา ที่ทำได้ดีคือตำแหน่งของการนั่งขับ ส่วนพื้นที่ของเบาะโดยสารด้านหลังก็มีเพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 2 คนกับเด็กเล็กอีก 1 คนแบบสบายๆ ฝาท้ายมีพื้นที่เก็บสัมภาระพอสมควร เมื่อพับเบาะหลังยังเพิ่มพื้นที่ในการขนของ แม้จะไม่มากเท่า Jazz แต่ก็ไม่เล็กจนดูน่าเกลียดและยังใส่ถุง Golf ได้ถึง 2 ใบ พร้อมกระเป๋าเดินทางหากพับเบาะหลังอีกด้วย






แผงหน้าปัดแบบเรียบง่าย อ่านค่าหรือตัวเลขต่างๆ ได้สะดวก โดยใข้วงกลมสามวงซ้อนกัน หน้าปัดบอกความเร็วตรงกลางมีขนาดใหญ่ ใช้พื้นสีขาวตัวเลขสีแดง เข็มมาตรวัดทั้งวัดความเร็วและวัดรอบสีแดง ส่วนสัญลักษณ์แจ้งเตือนระบบต่างๆ ของตัวรถอยู่ด้านขวา ใช้รูปแบบครึ่งวงกลมเช่นเดียวกันกับมาตรวัดรอบด้านซ้าย มีสัญลักษณ์ Eco พร้อมสัญญานไฟสีเขียวที่จะติดขึ้นทันทีที่ผู้ขับใช้รอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 รอบต่อนาที วงพวงมาลัยทรงสามก้าน มีกริปที่มุมของตำแหน่ง 9 กับ 3 นาฬิกาให้ยึดจับอย่างมั่นคง คอนโซลกลางแบบเรียบๆ มีระบบเครื่องเสียงแบบดิจิตอล (สำหรับบางรุ่น) พร้อมช่องต่อ AUX-USB สำหรับการนำอุปกรณ์เล่นเพลง iPod MP3 มาเชื่อมต่อ แต่ไม่มีเครื่องเล่น CD มาให้ สำหรับปุ่มควบคุมการใช้งานบนชุดเครื่องเสียงสามารถควบคุมการทำงานของ iPod ได้อีกด้วย กำลังขับ 45 วัตต์ แบบ 4 ทิศทางพร้อมด้วยลำโพง polypropylene กับแม่เหล็กชนิด neodymium 2 ตัว ให้เสียงชัดเจนจนแทบไม่ต้องดิ้นรนไปเสียเงินติดเพิ่ม

ต่ำลงมาจากชุด เครื่องเสียงเป็นชุดควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารแบบปุ่มหมุน ใช้งานได้ง่ายและให้ความเย็นฉ่ำตามแบบฉบับของรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น แอร์ของ Brio ให้ความเย็นกระจายตัวภายในห้องโดยสารอย่างรวดเร็ว เนื่องจากขนาดที่เล็ก แม้อุณหภูมิภายนอกจะร้อนมากก็ตาม นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของยนตกรรมจากค่าย Honda




Honda Brio ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 กระบอกสูบวางตามขวางด้านหน้า ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า ปริมาตรความจุ 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป 16 วาว์ล i-VTEC จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดแบบมัลติพอย์ท PGM-F1 อัตราส่วนกำลังอัด 10.2:1 ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรหรือ 11.2 กิโลกรัมเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่วนระบบส่งกำลังมีให้เลือกใช้ทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ CVT Shift Hold Control ระบบวาว์ลแบบ 2 วาว์ลไอดี 2 วาว์ลไอเสียต่อหนึ่งสูบ ทำให้การเผาไหม้มีความรวดเร็วและสมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งส่งผลไปถึงความประหยัดเชื้อเพลิงและให้อัตราเร่ง ที่มีความเหมาะสมกับรูปแบบของการใช้งานภายในเมือง นิสัยของเครื่อง i-VTEC ในรอบปานกลางถึงสูงเครื่องยนต์จะให้การตอบสนองได้ดี เหนือกว่าเครื่องยนต์ทั่วไปที่มีปริมาตรความจุเท่ากันอยู่เล็กน้อย ระบบหมุนเวียนไอเสียแบบ EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation ช่วยควบคุมการเผาไหม้ให้เหมาะสมกับทุกย่านของรอบเครื่อง ระบบ i-VTEC ยังเข้าไปควบคุมการทำงานของวาว์ลไอดี โดยใช้การหยุดทำงานของวาว์ลไอดี 1 ตัวต่อหนึ่งกระบอกสูบ และเพิ่มการหมุนเข้าของไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผสมผสานกันระหว่างอากาศกับเชื้อเพลิงในกระบอกสูบ ส่งผลให้ระบบหมุนเวียนไอเสียและการเผาไหม้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ถึงแม้จะมีการหมุนวนของไอเสียในปริมาณที่สูงก็ตาม

วิศวกรของ Honda ใช้ลูกสูบที่มีการเคลือบสาร MoS2 โดยทำการเคลือบไปที่พื้นผิวของลูกสูบ โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องเสียดสีในระหว่างการทำงาน สาร MoS2 ภายในลูกสูบมีลักษณะเป็นจุดแบบวางเรียงทแยงมุม ซึ่งจุดต่างๆ เหล่านี้มีคุณสมบัติในการดักจับน้ำมันได้เป็นอย่างดี วิศวกรเครื่องยนต์ของค่าย Honda ยังได้แนะนำให้ผู้ใช้รถยนต์ Honda Brio ทุกคันใช้น้ำมันเครื่องของ Honda ที่มีค่าความหนึดต่ำ (0W-20) เพื่อช่วยลดแรงเสียดทานในระหว่างการใช้งานอีกด้วย สายพานราวลิ้นแบบโซ่ ยังช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานเท่ากับอายุของเครื่องยนต์ โซ่ราวลิ้นมีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา ส่วนสายพานภายนอก (ไดชาร์จและแอร์) ใช้ระบบปรับตั้งความตึงของสายพานแบบอัตโนมัติ ระบบดังกล่าวจะทำหน้าที่ในการตั้งค่าการตึง-หย่อนของสายพานให้อยู่ในระดับคง ที่ตลอดเวลา





ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท ใช้สปริง โช๊คอัพแก๊ส เหล็กกันโคลงโดยมีการปรับมุม Kingpin ให้เยื้องไปที่ด้านหลังมากเป็นพิเศษ ขนาดของมุม Caster ที่กว้างขึ้น เพิ่มระยะ Caster Trail และช่วยลดการโคลงตัวในขณะที่เลี้ยว จากการออกแบบในลักษณะดังกล่าวทำให้ Honda Brio มีสมรรถนะของการทรงตัวเหนือชั้นกว่ารถเล็กคู่แข่งอยู่เล็กน้อย ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม H-Shape ใช้การปรับอัตราส่วนความยืดหยุ่น ระยะหดและดันของสปริงในบริเวณคาน พัฒนาจุดยึดบริเวณ Trailing Arm ให้มีความเหมาะสมในการถ่ายเทน้ำหนักเมื่อต้องรับแรงดึงและแรงบิด รวมถึงยังลงมือไปที่การตั้งค่าการบิดตัวของเพลาและจุดควบคุมองศาของล้อหลัง เพื่อทำให้มันมีประสิทธิภาพในการขับขี่ควบคุมที่ดี แม้จะเป็นรถยนต์คันเล็กจิ๋วก็ตาม





พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS - Electric Power Steering ใน Brio ถูกพัฒนามาจนใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบ ให้การบังคับควบคุมที่ดี แปรผันน้ำหนักไปตามความเร็วของตัวรถโดยใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนที่น้อยลงกว่าพวง มาลัยแบบเพาเวอร์สายพาน รวมถึงน้ำหนักของชุดพวงมาลัยที่ลดลง การเชื่อมต่อกับระบบขับเคลื่อนและช่วงล่างทำออกมาได้ดีและมีความเหมาะสมจน แทบไม่น่าเชื่อว่า รถคันเล็กๆ อย่างเจ้า Brio จะมีพวงมาลัยที่ให้รายละเอียดในการขับที่เหนือกว่ารถคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ให้ความมั่นใจในการควบคุมพวงมาลัยที่มั่นคงในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ได้ใกล้เคียงหรือเทียบเท่า Honda Jazz เลยทีเดียว






ระบบความปลอดภัยของ Honda Brio มีโครงสร้างแบบ G-Con ใช้เหล็ก High-Tensile Steel ที่มีน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแกร่งสูงเป็นส่วนประกอบในการทำโครงสร้างของตัว รถ การใช้โลหะที่มีความเหมาะสมในแต่ละรูปแบบของการใช้งานยังช่วยให้ตัวถังมี น้ำหนักเบา แต่ยังสามารถรับแรงต่างๆ ที่เข้ามากระทำในระหว่างการขับขี่ได้ดี ระบบอากาศพลศาสตร์ที่ถูกต้องจากการทดสอบในอุโมงค์ลมของบริษัท Honda จากการออกแบบของคอมพิวเตอร์ ยังถูกวิเคราะห์อย่างละเอียดในระหว่างการทดสอบรถต้นแบบ ส่วนประสิทธิภาพของการเก็บเสียงอยู่ในระดับมาตรฐานทั่วไป มีการใช้วัสดุที่ช่วยในการลดแรงสั่นสะเทือน พร้อมป้องกันและดูดซับเสียงจากภายนอก ระบบเบรคป้องกันล้อล็อก ABS มีชุดกระจายแรงเบรค EBD ติดตั้งมาให้ทำงานควบคู่กันไปในระบบห้ามล้อ ถุงลมนิรภัย SRS สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ผ่านการทดสอบการชนซึ่งใช้รูปแบบการจำลองการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าที่ ความเร็ว 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านหน้าแนวเฉียงที่ 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การชนปะทะบริเวณด้านข้างที่ความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และที่ด้านหลังในความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านมาตรฐานค่าการทดสอบการชน ECER32/ECER42

Honda Brio มีสีให้เลือกรวมทั้งสิ้น 5 สี รวมถึงสีเฟรชไลม์เมทัลลิก- Fresh Lime Metallic ที่เพิ่มเติมความสดใสสวยงามบนตัวถังขนาดเล็กของมันด้วยสีเขียวมะนาว ซึ่งเป็นสีล่าสุดที่ Honda นำมาใช้ในรถ Brio ส่วนอีก 4 สีคือ Taffeta White ขาวสว่าง - Alabaster Silver Metallic สีเงินยวง - Clystal Black Metallic สีดำเมทัลลิก - Cerulean Blue Metallic สีฟ้าเมทัลลิก.

ติดตามอ่าน ทดลองขับ Honda Brio ได้ในตอนต่อไปครับ


Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook //www.facebook.com/chang.arcom




Create Date : 10 พฤษภาคม 2554
Last Update : 10 พฤษภาคม 2554 8:54:34 น. 6 comments
Counter : 1550 Pageviews.

 
กี่กิโลเมตรต่อลิตรครับ


โดย: SingleM IP: 58.64.107.233 วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:29:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูล เราก็ใช้ตระกูลฮอนด้าอยู่ เสียดายที่ไม่ชอบนั่งรถคันเล็ก


โดย: แอ IP: 124.121.99.73 วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:39:50 น.  

 
ดีกว่าคู่แข่งทุกอย่างเลย...........!!!!!!!


โดย: papa IP: 61.7.252.99 วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:19:36 น.  

 


โดย: aoffyzuzaz วันที่: 28 ตุลาคม 2554 เวลา:23:56:37 น.  

 


โดย: aoffyzuzaz วันที่: 30 ตุลาคม 2554 เวลา:2:43:41 น.  

 
I have been browsing online more than 3 hours today, yet I never found any interesting article like yours. It is pretty worth enough for me. In my view, if all web owners and bloggers made good content as you did, the web will be much more useful than ever before.
Michael Kors Outlet Online //www.michelleskitchen.com/location.html


โดย: Michael Kors Outlet Online IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:17:58:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.