Love is All Around.
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
ทดลองขับ CHEVROLET NEW CAPTIVA LTZ VCDi (ตอนที่ 2)

Pic_225183


15 ธันวาคม 2554 เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บริษัท Chevrolet Sales Thailand Co.ltd นำรถ New Captiva รุ่น LTZ VDCi เครื่องยนต์ดีเซลที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมภายในงานแสดงรถยนต์ Motor Expo 2011 มาให้ผมได้ขับทดสอบต่อจากคุณริชชี่ นักข่าวของ Bangkok Post เพื่อนเลิฟที่ได้ยืมไปก่อนหน้าผม และนับเป็นสื่อสิ่งพิมพ์กับเว็บข่าวออนไลน์เจ้าแรกๆ ที่ได้ขับทดสอบรถ SUV สมรรถนะดี เครื่องยนต์ดีเซลของค่ายโบไทอีกครั้ง หลังจากที่เคยควบเจ้า New Captiva LTZ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน E85 ที่วนอุทยานแห่งชาติทับลาน เขาแผงม้า อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงไปเมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา






New Captiva รุ่นสูงสุดซึ่งใช้รหัส LTZ VDCi เป็นยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบ ครัวขนาดกลางที่มักจะนิยมเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยรถ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD แบบ 6-7 ที่นั่ง สมรรถนะในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่เพิ่งจะเปิดตัวไปอย่างสดๆ ร้อนๆมีความเหมาะสมมากกับการวิ่งทางไกลเนื่องจากเครื่องยนต์ถูกพัฒนาให้มี การใช้น้ำมันทุกหยด อย่างคุ้มค่า รูปแบบตัวรถที่สวยงามทันสมัย พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางสะดวกสบายจากการดีไซน์ภายในโดยมุ่งเน้นไปที่การ ใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของคนเมือง พร้อมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกนับสิบรายการที่ใส่เข้ามาในตัวรถเพื่อยก ระดับการขับขี่ให้เทียบเท่า หรือเหนือกว่ารถอเนกประสงค์ราคาสูงของค่ายรถชั้น นำจากทวีปยุโรป เจ้า Captiva LTZ VCDi สามารถตอบสนองการขับขี่ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งขับไปทำงานหรือขับท่องเที่ยวทางไกลกับครอบครัว มีประสิทธิภาพและสมรรถนะโดยภาพรวมแล้วแทบจะไม่แตกต่างไปจากรถ SUV แบรนด์หรูหราอย่าง BMW X3 / Mercedes Benz ML Class / Lexus RX270 แต่โดดเด่นมากจากราคาค่าตัวที่ต่ำกว่ารถหรูทั้งสามรุ่นที่กล่าวมานั่นเอง






เส้น ทางที่ใช้ทดสอบเจ้า New Captiva LTZ VCDi เครื่องยนต์ดีเซลอัดเทอร์โบตัวล่าสุด เป็นเส้นทางจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้ถนนบรมราชชนนี แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอนครชัยศรีของจังหวัดนครปฐมบนเส้นปิ่นเกล้า - นครชัยศรี หรือทางหลวงจังหวัดหมายเลข 338 ก่อนที่จะผ่านบางอำเภอของจังหวัดราชบุรี แล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่จังหวัดกาญจณบุรี ดินแดนสุดเขตประเทศไทยทางทิศตะวันตกที่อุดมไปด้วยด้วยขุนเขา แม่น้ำแคว เขื่อนขนาดใหญ่ทั้งสองเขื่อน และธรรมชาติที่สวยสดงดงามจากการอนุรักษ์ดูแลร่วมกันของคนเมืองกาญจน์ การขับทดสอบในครั้งนี้เป็นการขับขี่รถยนต์ตัวทดสอบเป็นครั้งแรกหลังจากต้อง ทนจับเจ่าอยู่กับบ้านมานานเกือบเดือนจากสภาวะน้ำท่วมอย่างหนักหน่วง โดยว่ากันยาวๆตั้งแต่วันพฤหัสฯที่ 15 ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นถนนหนทางในตัวจังหวัดกาญจนบุรีกับอำเภอรอบนอกล้วนๆ






ถนน บรมราชชนนี ในช่วงที่น้ำเพิ่งจะแห้งไปหมาดๆ หลังจากที่เคยท่วมสูงถึง 1.5 เมตร ทำให้ผิวถนนบางช่วงบางตอนชำรุดเสียหายกับมีหลุมบ่อขนาดใหญ่เกือบตลอดทางไปจน เกือบถึงแยกปิ่นเกล้า - นครชัยศรี ทางหลวงที่เสียหายอย่างหนักไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการขับขี่ควบคุมเจ้า New Captiva VCDi แต่อย่างใดทั้งสิ้นเนื่องจากผมได้เคยทดลองขับเจ้า Captiva รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน E85 และพบกับช่วงทดสอบพิเศษที่ต้องวิ่งลุยไร่มันสำปะหลังแถบอำเภอวังน้ำเขียว กว่า 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางแบบ Off-Road เต็มรูปแบบ และถือได้ว่าโหดหินกว่าหลุมบ่อบนถนนบรมราชชนนีมากมายนัก การโยกพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนช่องทางพร้อมหลบหลุมที่เกิดจากน้ำท่วมตัวรถจึง สามารถวิ่งผ่านไปได้อย่างสบายไม่มีอาการวูบวาบให้เห็นแม้แต่นิดเดียว การทรงตัวของเจ้า New Captiva อยู่ในระดับใกล้เคียงกับ SUV ขนาดกลางจากทวีปยุโรปทั่วไป เนื่องจากล้อและยางไซล์ยักษ์ถึง 235/50/R19 รวมถึงการปรับเปลี่ยนค่ายุบตัวของโช้คอัพและสปริงแบบใหม่หมด สอดรับไปกับน้ำหนักตัวรวมทั้งคันที่เกือบ 2 ตันของมัน ทำให้การวิ่งที่ระดับ 130-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อเลยจากจังหวัดราชบุรีไม่นานนักเป็นไปด้วยความสบาย ไม่มีความเครียดจากการควบคุมตัวรถใดๆ ทั้งสิ้นโผล่มาให้เห็น






ชุด ส่งกำลังที่ใช้ระบบเฟืองโดยมีการทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนแบบ AWD สามารถส่งถ่ายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างหมดจดแม่นยำ รอยต่อขึ้น-ลงของตำแหน่งเกียร์ทำออกมาได้เนียนใช้ได้ ไม่มีอาการกระตุกกระชากให้เห็น ทั้งย่านเกียร์ต่ำและเกียร์สูงที่ออกแนวไหลลื่นต่อเนื่องจนไปคล้ายกับเกียร์ CVT แบบสายพานที่แสนจะน่าเบื่ออยู่บ้าง เมื่อผมลองเข้าโหมดที่ต้องปรับเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ด้วยตัวเอง เกียร์ออโต้ของเจ้า New Captiva LTZ VCDi ก็ยังลื่นไหลและทำงานประสานไปกับแรงบิดรอบต่ำของเครื่องดีเซล VDCi ที่มีแรงบิดมากกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินอย่างชัดเจน ที่ย่านรอบเครื่องประมาณ 1,750 รอบต่อนาทีกับแรงบิดระดับ 360 นิวตันเมตร ทำให้การยกตัวถังที่หนักเกือบสองตันตอนออกตัวจากสัญญาณไฟคล้ายกับเจ้า Cruze ซึ่งเป็นรถเก๋งแบบคอมแพ็กที่ให้อัตราเร่งตีนต้นดีทีเดียว คันเร่งแบบไฟฟ้าค่อนข้างเบา จึงต้องระมัดระวังไม่กดจนจมมิดซึ่งจะตามมาด้วยแรงดึงพร้อมกับการออกตัวอย่าง ว่องไวจนน่าแปลกใจ ส่วนระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลของ New Captiva สามารถส่งกระจายความเย็นไปทั่วห้องโดยสารอย่างรวดเร็วหากปรับพัดลมไปที่ เบอร์สูงสุด ช่องแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารที่นั่งตอนหลังก็ยังทำให้การจอดตากแดดแล้ว เปิดแอร์ไล่ความร้อนภายในห้องโดยสารใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่ความเย็นฉ่ำจะ กระจายตัวไปทั่วทั้งคัน






ชุด เครื่องเสียงพร้อมจอ แบบสัมผัสของ Captiva LTZ ทั้งเบนซินและดีเซลใช้งานได้ง่ายให้คุณภาพของเสียงที่คมชัดมีมิติตามที่บอก เอาไว้ หากแผ่น CD ที่เล่นถูกบันทึกมาอย่างดี ลำโพงทั้ง 8 ดอกที่ถูกจัดวางมาอย่างเป็นระบบโดยมุ่งเน้นไปที่การกระจายมิติของเสียงใน ห้องโดยสารของ New Captiva จะให้เสียงที่สมจริง คมชัด และให้มิติที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนระบบนำทางด้วยดาวเทียมบนจอมอนิเตอร์ขนาด 7 นิ้ว ใช้งานได้อย่างสะดวกเมื่อสัมผัสไปบนหน้าจอเพื่อเข้าเมนู เนื่องจากเป็นเมนูภาษาไทยทำให้การสั่งงานมีความง่ายดายขึ้น แต่สัญลักษณ์และรูปภาพของเส้นทางไม่ค่อยละเอียดเท่าใดนักในโหมดนำทาง การปรับตั้งหรือเปลี่ยนโหมดจากการกดสัมผัสบริเวณหน้าจอ โปรแกรมการใช้งานมีความว่องไวใช้ได้ อ่านค่าได้อย่างชัดเจนและสะดวกแม้แต่การปรับตั้งในขณะที่กำลังขับขี่ จอแสดงผลระบบสัมผัสของ Captiva LTZ VCDi ถึงแม้จะมีโหมดให้ใช้งานไม่มากเท่าใดนัก แต่ให้คุณภาพและความคมชัดอยู่ใน ระดับที่ดี สามารถบันทึกจุดหมายปลายทาง สถานที่ที่จะวิ่งผ่านทั้งร้านอาหาร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วประเทศซึ่งทั้งหมดสามารถปรับโหมดเมนูเป็น ภาษาไทยเพื่อความสะดวกในการอ่านและทำความเข้าใจ






วัน ที่สองของการทดสอบเจ้า New Captiva LTZ VCDi เป็นการทดสอบวิ่งทางไกลจากตัวเมืองกาญจน์ไปยังเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อหา สมรรถนะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD หรือ Active On Demand 4WD ของ New Captiva LTZ VCDi ที่ควบคุมและสั่งการด้วยระบบสมองกลไฟฟ้า ในสภาวะปกติ ระบบส่งกำลังที่ทำงานเชื่อมต่อกับชุดสมองกล Active On Demand 4WD จะถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อคู่หน้าเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น ต่อเมื่อสภาพถนนแปรเปลี่ยนไปเช่นอยู่ในเส้นทางที่ขรุขระ ลื่นไถลหรือเป็นหล่มโคลน รวมถึงทางขึ้น-ลงเขา ตัวจับสัญญาณจะสั่งให้ชุดเฟืองท้ายแบบแม่เหล็กไฟฟ้า Active Coupling ทำการถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อคู่หลังแบบอัตโนมัติในอัตราส่วน 50:50-60:70-70:30 ตามความเหมาะสมของสภาพถนนและองศาของตัวรถจากการคำนวณของกล่องควบคุม เฟืองท้ายลักษณะดังกล่าว ทำงานร่วมกับชุดเสริมแรงบิด Active Torque On Demand ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมกำลังให้กับระบบขับเคลื่อนทั้งหมด โดยจะทำการกระจายแรงบิดที่เหมาะสมและสมดุลไปยังล้อทั้ง 4 ผ่านเพลาขับ ช่วยทำให้การควบคุมตัวรถมีการยึดเกาะกับเส้นทางแบบออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น เมื่อผมทดลองชิพเกียร์เองบนเส้นทางขึ้นสันเขื่อนศรีฯ ก็พบกับความเนียนของ ระบบส่งกำลังที่ตัดต่อขึ้น-ลงตามมือที่ขยับคันเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล แม้จะเป็นเส้นทางขึ้นเขาลงห้วยแถบอำเภอศรีสวัสดิ์ ชุดเกียร์ออโต้ของเจ้า New Captiva LTZ VDCi ก็ยังทำงานได้อย่างราบรื่นและไร้สิ้นซึ่งรอยต่อที่จะส่งอาการกระตุกกระชาก เกิดจากการจงใจในขั้นตอนการพัฒนาเพื่อทำให้มันขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ






ตำแหน่ง ท่านั่งที่สูงโด่งกว่ารถเก๋ง ช่วยทำให้มุมมองในการขับขี่ควบคุมยนตรกรรม SUV ของค่าย Chevrolet คันนี้เปิดโล่งและมองได้ไกลขึ้นเมื่อปรับเบาะไฟฟ้าให้อยู่ในตำแหน่งยกตัวสูง สุด เสาหลังที่หนาอาจบดบังทัศนวิสัยเมื่อต้องการถอยหลังอยู่บ้างเนื่องจากมัน ไม่มีกล้องถอยติดมาให้ เจ้าของรถจึงจำเป็นต้องพึ่งเซนเซอร์สัญญาณเสียงเตือนและสายตาของตนเองยาม ต้องการขับถอยหลังเข้าซองแคบๆ แต่ที่ผมชอบก็คือแรงบิดรอบต่ำของเครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ มันให้ความรู้สึกถึงแรงบิดที่ส่งผ่านชุดทดกำลังไปยังเพลาและล้อได้อย่าง สมบูรณ์และนิ่มนวล อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็วในระดับ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลารอกันไม่นาน แทบจะเหมือนการขับรถเก๋งขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบา ทั้งๆที่ Captiva LTZ VCDi คันนี้มีมวลมากถึงเกือบสองตัน เบาะหลังนั่งได้สบายแบบซีดานแต่ผมไม่มีโอกาสลองนั่งที่เบาะแถวที่สาม เนื่องจากต้องขนทั้งกระเป๋าเสื้อผ้ากับสัมภาระจำนวนมาก ส่วนการวิ่งที่ความเร็วสูงกว่า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวงมาลัยและอาการของระบบรองรับยังคงมั่นคงดี เพียงแต่รอบปลายๆ ของเครื่องยนต์ตัวนี้อาจไม่จัดเท่าเครื่องยนต์เบนซิน แต่เทอร์โบที่ช่วยในการดึงอากาศในรอบต้นๆ ถึงปานกลางก็เป็นของจำเป็นสำหรับรถห้าประตูขนาดกลางคันนี้








สิ่ง ที่โดดเด่นของ เจ้า New Captiva VCDi คือเครื่องยนต์ดีเซลประหยัดเชื้อเพลิงและประสิทธิภาพโดยรวมของตัวรถ หากศูนย์บริการของ Chevrolet มีมากกว่านี้ และเร่งสร้างเสริมภาพลักษณ์กับการบริการของค่ายต่อลูกค้าให้มีความแข็งแกร่ง รวมถึงความเอาใจใส่เทียบเท่าค่ายรถจากญี่ปุ่นที่ครองตลาดในประเทศไทยมานาน ความนิยมในตัวรถ New Captiva จะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่ดีคือโอกาสในการเร่งส่งตัวรถที่ลูกค้าจองได้ทันตามกำหนด ซึ่งเกิดจากสองค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และ Honda ไม่สามารถประกอบรถที่ลูกค้าจองได้ทันตามกำหนดจากสภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ใน ประเทศไทย รถรุ่น Fortuner และ CRV ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Captiva จะหายไปจากโชว์รูมส์อย่างน้อยนานถึงกว่า 4 เดือนกว่าที่จะผลิตได้ทันส่งมอบลูกค้าอีกครั้งในช่วงกลางปี 2555 อานิสงส์ในครั้งนี้ จะแปรวิกฤติให้เป็นโอกาสสำหรับค่ายรถอเมริกันเจ้าของสัญลักษณ์โบไทอย่าง แน่นอน.

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook //www.facebook.com/chang.arcom




Create Date : 23 ธันวาคม 2554
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 9:20:26 น. 0 comments
Counter : 1328 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.