บริษัท Honda Automobile Thailand co. ltd ได้ทำการเปิดรับจองรถ Honda Brio ให้กับลูกค้าที่สนใจ รวมถึงการส่งรถไปตามโชว์รูมทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์แบบ อีโคคาร์ราคาประหยัดได้ทำการทดลองขับอีกด้วย ส่วนกำลังการผลิตของโรงงาน Honda ในประเทศไทยจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้งภายในเดือนกันยายนนี้...

Honda ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาและการผลิตรถยนต์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมในทุกกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบในขั้นตอน แรกไปจนถึงการทดสอบอย่างหนักในขั้นตอนสุดท้ายก่อนส่งขึ้นไลน์ประกอบเป็นตัว รถคันจริง กรรมวิธีที่สลับซับซ้อนช่วยให้บริษัทผลิตรถยนต์แห่งนี้ประสบความสำเร็จในการ พัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็ก เช่น Honda Jazz / Honda City และล่าสุดกับผลงานสร้างยานยนต์ขนาดจิ๋วในรุ่น Brio

บริษัท Honda ทำการส่งทีมงานออกไปทำการประเมินและศึกษาถึงความเป็นไปได้ของตลาดรถยนต์นั่ง แบบประหยัดในประเทศไทย รวมถึงการตรวจสอบสภาพแวดล้อมของการจราจรในกรุงเทพมหานคร ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นพาหนะเพื่อใช้ เดินทางในเมือง จึงพบว่า สิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดสำหรับการเลือกซื้อรถยนต์คันแรกในชีวิต คือ รูปลักษณ์ที่โดดเด่นสวยงาม ห้องโดยสารที่เน้นพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยหลากหลายรูปแบบและประหยัดเชื้อเพลิง จากตัวถังและเครื่องยนต์ที่มีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แนวความคิดดังกล่าวของกลุ่มลูกค้าถูกนำมาใช้เป็นแนวทางในการสร้างรถยนต์แบบ อีโค-คาร์ หรือรถยนต์ราคาประหยัดที่มีประสิทธิภาพสูง เอื้ออำนวยต่อการเดินทางไปในถนนหนทางของเมืองใหญ่ มีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ก้าวล้ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการคายไอเสียต่ำกับการประหยัดเชื้อเพลิงอย่าง สูงสุด สิ่งต่างๆเหล่านี้ก่อกำเนิดรถยนต์ Honda Brio ยานยนต์ 5 ประตูขนาดจิ๋ว ที่มีทุกอย่างตามมาตรฐานของโครงการรถยนต์อีโคคาร์ในประเทศไทย ที่ถูกกำหนดโดยรัฐบาลจากความต้องการรถยนต์นั่งขนาดเล็กราคาประหยัดของ ประชาชน

ภายในห้องโดยสารของ Brio ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่พอเพียง ถึงแม้รูปทรงภายนอกจะมีขนาดเล็ก ด้วยการขยายความสูงของหลังคาและพื้นที่ส่วนท้ายสำหรับเก็บสัมภาระ ตำแหน่งของการขับขี่คือจุดศูนย์กลางของการใช้อุปกรณ์ เช่น ปุ่มปรับอุณหภูมิ และชุดเครื่องเสียง มาตรวัดแบบ 3 วง มีดีไซน์ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงแม้จะมีขนาดที่กะทัดรัดก็ตาม มาตรวัดของ Brio ทั้งวัดความเร็วของตัวรถ วัดรอบเครื่องยนต์กับแจ้งตำแหน่งของเกียร์ออโต้ CVT รวมถึงการแจ้งเตือนสถานะการทำงานของระบบต่างๆ ด้วยสัญลักษณ์ไฟเรืองแสง มาตรวัดความเร็วถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งตรงกลางเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ อย่างชัดเจน ในเวลากลางคืนมาตรวัดดังกล่าวยังให้แสงสีส้มที่ไม่รบกวนสายตา บนมาตรวัดด้านขวาจะมีไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ซึ่งจะแสดงเป็นไฟสีเขียวทันทีที่เครื่องยนต์กำลังทำงานอยู่ในรอบที่เหมาะสม กับการประหยัดเชื้อเพลิง ส่วนช่องแอร์ทรงกลม 4 ช่องช่วยกระจายลมเย็นไปทั่วทั้งห้องโดยสาร สวิตช์แอร์แบบหมุนมีรูปแบบที่ใช้งานได้ง่าย แม้จะใช้พลาสติกราคาถูก แต่มีการจัดวางที่เหมาะสม ซึ่งเป็นไปตามลักษณะทั่วไปของรถอีโคคาร์

ระบบเครื่องเสียงแบบดิจิตอลมีช่อง เชื่อมต่อ AUX-USB มุ่งเน้นไปที่การต่อเชื่อมกับอุปกรณ์เล่นเพลงภายนอกอย่าง iPod โดยไม่มีชุดเครื่องเล่น CD ที่ต้องคอยใส่แผ่นเองมาให้ วิทยุ AM-FM กับปุ่มสั่งงานขนาดใหญ่ ชุดเครื่องเสียงของ Brio มีสีดำที่กลมกลืนไปกับคอนโซล ปุ่มควมคุมสีเงิน 4 ปุ่ม และปุ่มหมุนใช้สำหรับควบคุม iPod ได้เหมือนกับปุ่มควบคุมที่ตัวเครื่อง ส่วนระบบเสียงประกอบไปด้วยลำโพงที่มีกำลังขับขนาด 45 วัตต์ 4 ทิศทาง กรวยลำโพงแบบ Polypropylene พร้อมด้วยชุดแม่เหล็กชนิด Neodymium 2 ตัว ให้เสียงที่ชัดเจนจัดจ้าน เหมาะกับขนาดของห้องโดยสารและมีรูปแบบที่ทันสมัยด้วยการใช้พื้นผิวและสีสัน ทีี่่เข้ากับสีของภายในได้อย่างลงตัว

โครงสร้างตัวถังของ Brio ที่มีขนาดกะทัดรัดช่วยให้การขับขี่ในเมืองเต็มไปด้วยความคล่องตัว กระจกบานหน้าขนาดใหญ่ยังช่วยเพิ่มมุมมองที่กว้างไกล เสาหน้าออกแบบให้ลดการบดบังทัศนวิสัย พื้นที่กระจกบานประตูลาดเอียงต่ำลงไปที่ด้านหน้า กระจกมองข้างก็มีการจัดวางให้อยู่ในระดับที่ต่ำอีกเช่นกัน รวมถึงตำแหน่งที่สูงขึ้นเล็กน้อยของเบาะคู่หน้า (เป็นแบบปรับระดับความสูงไม่ได้ แต่ปรับเดินหน้า-ถอยหลังและปรับเอนได้)ส่งผลไปถึงมุมมองด้านหน้าและด้านข้าง ที่ชัดเจน จนสามารถเห็นได้ทั่วทั้งคัน การเลี้ยวกลับรถในที่คับแคบทำได้อย่างสะดวก จากส่วนท้ายที่สั้น กับกระจกบานหลังที่ออกแบบให้เปิดได้เพื่อการขนสัมภาระ เบาะหลังที่สามารถพับเอนราบได้ยังช่วยเพิ่มเติมพื้นที่ในการขนของ เช่น กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ หรือถุง Golf ภายในห้องโดยสารยังมีพื้นที่วางขาที่มากเป็นพิเศษสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมด้วยช่องเก็บของและช่องวางแก้ว รวมถึงพื้นที่สำหรับวางโทรศัพท์มือถือ หรือของใช้ขนาดเล็กอื่นๆ ส่วนท้ายของคอนโซลกลางยังใส่ขวดน้ำขนาดความจุ 1 ลิตรได้อีกด้วย

เครื่องยนต์ขนาดเล็กความจุ 1.2 ลิตร คือหัวใจในการขับเคลื่อนตัวรถ Brio เป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนามาเพื่อตอบสนองการใช้งานในเมืองเป็น หลัก แต่ยังสามารถวิ่งทางไกลได้อย่างประหยัด พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอันลือชื่อของ Honda แบบ i-VTEC ในกระบอกสูบแต่ละชุดจะมีวาล์วไอดีและวาล์วไอเสียอย่างละ 2 เมื่อใช้รอบเครื่องยนต์ในระดับต่ำ สมองกลจะสั่งงานให้เปิดใช้งานวาล์วไอดีเพียง 1 ตัวต่อ 1 สูบ ทำให้การเผาไหม้ระหว่างอากาศกับเชื้อเพลิงมีความรวดเร็วและส่งผลไปถึงอัตรา สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลง ส่วนในความเร็วรอบเครื่องแบบปานกลางถึงสูงสุด วาล์วของระบบ i-VTEC จะตอบสนองอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อสร้างอัตราเร่งของกำลังแรงม้าทั้ง 90 ตัว บนแรงบิดขนาด 11.2 กิโลกรัม-เมตร ที่เหมาะสมกับน้ำหนัก 900 กว่ากิโลกรัมของตัวรถ ลุกสูบและชิ้นส่วนต่างๆ ที่เคล่ือนที่ภายในเครื่องยนต์ถูกออกแบบจากการคำนวณถึงการรับแรงที่เหมาะสม

ระบบหมุนเวียนไอเสีย EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation ช่วยควบคุมการเผาไหม้ให้เหมาะสมกับการทำงานในทุกรอบเครื่อง ระบบ i-VETC จะเข้าไปควบคุมการทำงานของวาล์วไอดี โดยใช้การหยุดการทำงานของวาล์วไอเสีย 1 ตัวในกระบอกสูบ และเพิ่มเติมการหมุนเข้าของไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการผสมผสานกันระหว่างอากาศกับเชื้อเพลิงในกระบอก ลูกสูบ ช่วยให้การเผาไหม้และการหมุนเวียนไอเสียทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ จากการทดสอบถึงแม้เครื่องยนต์รุ่นนี้จะมีการหมุนเวียนไอเสียในปริมาณที่สูง ก็ตาม ระบบจุดระเบิดใช้หัวเทียน High-ignitability Spark Plug Structure ที่ประกอบด้วยอิเล็กโทรด 2 ชั้น ชั้นบนทำจากแร่อิริเดียมอัลลอยและชั้นล่างทำจากแพลตตินั่ม ซึ่งในโครงสร้างของอิเล็กโทรดจะเพิ่มประสิทธิภาพการจุดระเบิดและสร้างความ เสถียรในการเผาไหม้ร่วมกับระบบหมุนเวียนไอเสียหรือ Exhaust Gas Recirculation หัวต่อท่อร่วมไอเสียกับท่อกรองไอเสียแบบแคตตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ ทนความร้อนได้สูงถึง 400 องศาเซลเซียส ถูกออกแบบเพื่อให้มีความสอดคล้องกับการทำงานของลูกสูบ รวมถึงป้องกันการสูญเสียความร้อน ส่งผลให้ท่อแคตตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ของ Honda Brio ทำงานได้รวดเร็วขึ้น ช่วยลดปริมาณไอเสียให้น้อยลงอยู่ในค่าที่รับได้ การจัดวางตำแหน่งของแคตตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ ให้เชื่อมต่อโดยตรงกับท่อร่วมไอเสีย กับการที่มันมีความคงทนต่ออุณหภูมิสูงนั้น ยังทำให้ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงใน ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงรวมถึงการบรรทุกสิ่งของ

กระบอกสูบทุกตำแหน่งถูกเคลือบด้วยสาร MoS2 เมื่อส่องด้วยกล้องกำลังขยายสูงๆจะเห็นการเรียงตัวของสาร MoS2 แบบจุดวางเรียงทแยงมุม จุดของสารมีคุณสมบัติในการจับน้ำมัันได้เป็นอย่างดี วิศวกรของ Honda ยังทำการเลือกน้ำมันเครื่องที่ใช้หล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีความหนืดต่ำชนิด 0W-20 เพื่อช่วยในการลดแรงเสียดทานของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ในขณะที่กำลัง เคลื่อนที่ โซ่หมุนแกนลูกเบี้ยวยังออกแบบให้มีลักษณะที่แคบลงและมีน้ำหนักเบา การออกแบบดังกล่าวช่วยให้แรงเสียดทานลดลงสำหรับการหมุนของโซ่แคมชาร์ฟที่รอบ สูง ระบบปรับตั้งสายพานอัตโนมัติถูกวิจัยเพื่อทำให้ความตึงของสายพานอยู่ในระดับ ที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับการทำงานในรอบการหมุนที่มีความแตกต่างกัน ระบบปรับตั้งความตึงของสายพานแบบอัตโนมัติจะทำหน้าที่ในการตั้งค่าการหย่อน และตึงของสายพานให้อยู่ในระดับที่คงที่ในรอบความเร็วต่ำ ระบบนี้ยังช่วยลดการเสียดทานของเครื่องยนต์ และส่งผลไปถึงตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น

ชุดส่งกำลังของ Brio มีให้เลือก 2 แบบคือ เกียร์ธรรมดา 5 สปีดและระบบเกียร์ออโต้แบบ CVT ในรุ่นเกียร์ธรรมดาระบบส่งกำลังถูกออกแบบให้มีอัตราทดที่เหมาะสม ตอบสนองการเร่งและให้ความสนุกในการขับขี่ที่ต้องใส่เกียร์เอง ทั้งการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกล การปรับเซ็ตอัตราทดใหม่หมดยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เชื้อเพลิง วัสดุพื้นผิวของคลัตช์ยังช่วยทำให้สามารถใช้สารละลายอนินทรีย์ในกระบวนการ ผลิต ช่วยลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกทาง ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT จากการทำงานของชุดทอร์กคอนเวอร์เตอร์จะส่งให้การเปลี่ยนอัตราทดไปตามความ เร็วมีความนุ่มนวลอย่างสูงสุด ปั๊มน้ำมันเกียร์แบบใหม่ที่มีแรงเสียดทานต่ำ สายพานเกียร์และชุดพูเลย์ออกแบบใหม่หมด รวมถึงระบบควบคุมการเคลื่อนตัวและเซนเซอร์ตรวจจับความลาดเอียงของตัวรถ ที่มีการเชื่อมโยงกับชุดส่งกำลังแบบ CVT น้ำหนักที่เบาของ Brio ยังช่วยให้อัตราเร่งของเกียร์ CVT ดีขึ้นกว่าชุดเกียร์รุ่นแรกๆ เกียร์ CVT ของ Brio ยังถูกออกแบบให้มีอัตราทดเกียร์ที่สูงขึ้น ซึ่งถูกพัฒนามาเป็นพิเศษสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ นอกจากนั้นสานพานเกียร์ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น ลดแรงต้านการไหลของน้ำมันหล่อลื่นและช่วยลดแรงเสียดทาน เป็นผลลัพธ์ที่ดีจากการพัฒนาในระบบส่งกำลังของ Honda

Warmmer น้ำมันเกียร์นำเอาความร้อนจากเครื่องยนต์มาใช้เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิของ น้ำมันเกียร์ให้อยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน เซนเซอร์แรงดันน้ำมันเกียร์ช่วยควบคุมให้เกิดแรงที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน ของพูลเลย์กับสายพานเกียร์ ในขณะที่เซนเซอร์อุณหภูมิของน้ำมันจะช่วยให้ระบบล็อกอัพคอนโทรลทำงานที่ย่าน ความละเอียดอย่างสุงสุด ชุด Warmer น้ำมันเกียร์ CVT นี้ช่วยลดการทำงานของระบบขับเคลื่อนในขณะที่เร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง รวมถึงในขณะที่กำลังขับขี่ด้วยความเร็วคงที่เพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงอย่าง สูงสุด เซนเซอร์แรงดันน้ำมันเกียร์ที่มีความละเอียดยังเชื่อมโยงกับเซนเซอร์ อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ ด้วยการวัดอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์ที่มีความแม่นยำ เซนเซอร์ชุดนี้จะเพิ่มระยะการล็อกของคลัตช์ ซึ่งมีผลมากในด้านการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ส่วนระบบควบคุมการเคลื่อนตัว พร้อมชุดเซนเซอร์ตรวจจับความลาดเอียงของตัวรถจะทำงานในลักษณะรับรู้ว่า รถยนต์กำลังเคลื่อนที่หรือหยุดนิ่ง โดยจะเข้ามาควบคุมการเคลื่อนตัวอย่างเหมาะสม ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงในระหว่างที่จอดติดเครื่องอยู่กับที่ ส่วนการเคลื่อนตัวจะมีระบบนี้เข้ามาช่วยรักษาระดับให้อยู่ในสภาวะปกติ เมื่อมีการใช้เบรคหรือตัวรถหยุดนิ่ง ระบบจะหยุดการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น เมื่อผู้ขับปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรคและทำการกดคันเร่งเพื่อเคลื่อนตัว ระบบจะกลับมาทำงานอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หากมีการหยุดรถในที่ลาดเอียง เซ็นเซอร์จะตรวจจับระดับของความลาดเอียง จากหน่วยประเมินผลที่ตรวจวัดได้ และทำการปรับการทำงานให้มีความเหมาะสมเพื่อป้องกันการถอยหลังโดยไม่ตั้งใจ และช่วยให้ขับขี่เดินหน้าต่อไปอย่างสะดวกสบาย

ระบบแชสซีส์ของ Honda Brio ช่วยให้การขับขี่ในทุกสภาพถนนมีความมั่นคง การออกแบบให้แชสซีส์มีระยะที่สั้น ยังช่วยในเรื่องของการควบคุมที่ออกมาในแนวทางกระชับและฉับไว ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท มีการปรับแก้มุม Kingpin ให้เยื้องไปทางด้านหลังมากเป็นพิเศษ ขนาดของมุม Caster ที่กว้างขึ้น เพิ่มระยะ Caster Trail ลดอาการโคลงตัวในระหว่างการเลี้ยว จากการออกแบบในลักษณะดังกล่าวทำให้ Brio มีสมรรถนะด้านการทรงตัวที่เป็นเลิศในกลุ่มรถเล็ก ถึงแม้จะมีระยะฐานล้อที่สั้น การคำนวณและปรับตั้งค่าในทุกตำแหน่งของระบบรองรับในการทดสอบการวิ่งที่ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงลักษณะของโครงสร้างชิ้นส่วนเป็นการผสมผสานระหว่างสมรรถนะและความ มั่นคงไว้ด้วยกัน ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม H-Shape ใช้การปรับอัตราส่วนความยืดหยุ่นของสปริงบริเวณคาน พัฒนาจุดยึดในบริเวณ Trailing Arm ให้มีความเหมาะสมกับค่าที่ได้รับตอนทดสอบในรถต้นแบบ พร้อมกันนั้นวิศวกรของ Honda ยังได้รับค่าการบิดตัวของเพลาและจุดควบคุมองศาของล้อ ให้เกิดความเสถียรอย่างสุงสุดในระหว่างขับเข้าสู่ทางโค้ง

ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS หรือ Electric Power Steering สร้างความรู้สึกที่ีเบาสบายในการสาวพวงมาลัยเพื่อกลับรถในมุมแคบๆ ที่ความเร็วต่ำ และให้ความรู้สึกที่มั่นคงเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงจากการเชื่อมต่อโดยตรง กับระบบขับเคลื่อนรวมถึงช่วงล่างด้านหน้าที่ใช้การคำนวณในการตั้งค่าอย่าง เหมาะสม พวงมาลับเพาเวอร์ไฟฟ้าแบบ EPS ตอบสนองการขับขี่ด้วยการควบคุมที่ง่ายดายในรอบความเร็วต่ำ และหน่วงน้ำหนักของพวงมาลัยให้กระชับขึ้นในขณะที่ใช้ความเร็วสูง

โครงสร้างตัวถังของ Honda Brio เป็นแบบ Advanced Compatibility Engineering (ACE) ถูกออกแบบให้กระจายแรงกระแทกจากการชนปะทะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความ ปลอดภัย เพิ่มความคงทนต่อแรงบิดตัวในบริเวณประตูด้านหลัง ด้วยการใช้โครงสร้างที่มีลักษณะเป็นแผงขนาดใหญ่โดยรอบทั้งหมด ช่องใส่ล้อและยางอะไหล่ถูกเสริมด้วยแผ่นเหล็กที่เชื่อมเข้ากับโครงสร้างแผง หน้าตัดของประตูด้านหลัง ระบบเทรลลิ่งอาร์มติดตั้งบริเวณจุดยึดเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างตัวถังด้าน หลังที่มีความแข็งแรงสูง พร้อมกันนั้นยังมีการเชื่อมต่อกับ Closed Cross Section Bracket โลหะแบบ High Tensile Steel ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบโครงสร้างในรถ Honda Brio การใช้โลหะที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละตำแหน่งของโครงสร้างหลัก ช่วยให้ Brio มีความแข็งแกร่งของตัวถังตามมาตรฐานรถยนต์ขนาดเล็กแบบอีโคคาร์

หลัง จาก Honda ได้ทำการแก้ไขปัญหาในเรื่องของกำลังการผลิตรถ Brio จนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติแล้วนั้น ขณะนี้ทางบริษัท Honda Automobile Thailand co. ltd ได้ทำการเปิดรับจองรถ Honda Brio ให้กับลูกค้าที่สนใจ รวมถึงการส่งรถไปตามโชว์รูมทั่วประเทศเพื่อให้ผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์แบบ อีโคคาร์ราคาประหยัดได้ทำการขับขี่ทดสอบก่อนการตัดสินใจซื้อ ส่วนกำลังการผลิตของโรงงาน Honda ซึ่งทำการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น โดยเดินไลน์การผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีความสำคัญเพื่อส่งออกไปทั่วโลกนั้น ในขณะนี้สามารถทำได้ถึงกว่า 80% แล้ว หลังจากปัญหาเรื่องของพลังงานไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นได้รับการแก้ไข อะไหล่และชิ้นส่วนอุปกรณ์จำพวกระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ประกอบขึ้นเป็น ตัวรถ Brio ซึ่งจะถูกส่งมาประกอบยังโรงงานของ Honda ในจังหวัดอยุธยาจะสามารถเดินกำลังการผลิตแบบเต็มอัตรา 100 % ได้ภายในเดือนกันยายนนี้.

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook //www.facebook.com/chang.arcom