Love is All Around.
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 
15 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
LEXUS IS250 THE FINAL TEST RUN (ตอนที่ 1)

Pic_201508


สปอร์ตซีดานสมรรถนะสูงในรุ่น IS250 กับการขับขี่ทดสอบเต็มรูปแบบ ตอนแรกกับรีวิวรูปทรง ตัวถังภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ระบบรองรับ บนงานประกอบที่มีความประณีตในระดับสูงสุดของแบรนด์รถหรูนาม Lexus...

แบรนด์ Lexus ถือกำเนิดขึ้นเมื่อช่วงปีค.ศ. 1983 บนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ด้วยความมุ่งมั่นของท่านประธานบริษัท Toyota คนเก่า Mr.Eiji Toyoda ซึ่งต้องการที่จะสร้างแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ผลิตโดยบริษัทแยกย่อย ของค่าย Toyota เพื่อส่งลงสู่ตลาดรถยนต์ระดับสูงทั่วโลก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โปรเจกต์สร้างยานยนต์ F1 หรือ Flagship And No.1 Vheicle ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นบนเส้นทางยนตกรรมระดับหรูจากประเทศญี่ปุ่น รถ Lexus เริ่มต้นเส้นทางของการทำตลาดในปี 1989 ด้วยตัวรถรุ่น LS400 ที่นับได้ว่าเป็นยนตกรรมระดับพรีเมี่ยมที่ผลิตและออกขายเป็นครั้งแรกในดิน แดนของประเทศสหรัฐอเมริกา นับจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นช่วงเวลากว่า 22 ปีแล้วที่ Lexus ได้พัฒนาคุณภาพของรถยนต์ในแทบทุกๆด้านมาอย่างต่อเนื่ิองยาวนาน จนมีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านรูปทรง สมรรถนะและประสิทธิภาพในการใช้งานเทียบเท่าหรือดีกว่ารถยนต์อย่าง Mercedes Benz หรือ BMW ได้อย่างเต็มภาคภูมิ






โรง งานประกอบ รถยนต์ Lexus ที่เมืองนาโกย่าในหมู่เกาะญี่ปุ่นมีพนักงานทำงานรวมกันกว่า 2,500 คน ด้วยการใช้ประสบการณ์ 3 ด้านได้แก่ ความรู้สึก เทคนิคของการผลิตรถยนต์ในยุคใหม่และความรู้ความเข้าใจในสภาพความเป็นจริงของ การใช้งานรถยนต์ ลำดับขั้นตอนต่างๆในการพัฒนายานยนต์ของ Lexus ขึ้นตรงกับความประณีตบรรจงของการเลือกใช้วัสดุบนงานประกอบระดับมาสเตอร์พีซ สำหรับสายการผลิตภายในโรงงานของ Lexus เน้นหนักไปที่ความสะอาด ทันสมัยและก้าวไกลด้วยเทคโนโลยี หุ่นยนต์ส่งอะไหล่และเชื่อมต่อตะเข็บตัวถังทำงานโดยผ่านการควบคุมด้วย โปรแกรมที่ทันสมัย มีการนำเอาเครื่องปัดฝุ่นอัตโนมัติเพื่อกำจัดฝุ่นผงที่ตกค้างภายในโรงประกอบ ด้วยปรัชญาการผลิตของ Lexus ที่มุ่งเน้นไปที่ A Fusion Of Innovative Technique And Craftsmanship โดยวางเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ทุกคันภายใต้แบรนด์ Lexus ให้มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะสามารถทำออกมาได้






ด้วย รูปแบบดังกล่าวที่เน้นเทคนิคการผลิตในแบบ Innovative Technique หมายรวมถึงการผลิตที่ใช้งานวิศวกรรมการผลิตรถยนต์ที่ล้ำสมัย โดยใช้ระบบดิจิตอลเทคโนโลยี (Digital Engineering) ร่วมกันกับการใช้หุ่นยนต์ระดับสูงหรือ Pioneering Robotics ในสายการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถในขั้นตอนของการควบคุมการผลิตให้เกิด ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเที่ยงตรงอย่างสูงสุด ตามมาด้วยการก่อให้เกิดประสิทธิภาพทางการผลิตได้อย่างชัดเจน ซึ่งการใช้เทคนิคที่ทันสมัยเหล่านี้ได้แก่

-เครื่องปั๊มประสิทธิภาพสูง สามารถปั๊มชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ด้วยความเที่ยงตรงและแม่นยำในระดับสูงสุด

-เครื่องมือวัดบล็อกเครื่องยนต์ที่มีความละเอียดแม่นยำสูงมาก ใช้ความเร็วสูงในระดับ 3 มิติ

-หุ่นยนต์เชื่อมตัวถังแบบใหม่ล่าสุด มีความแม่นยำในระดับไมโครเมตร

-เครื่อง วัดการตั้งฐานช่วงล่าง รับประกันในความแม่นยำและเที่ยงตรง ในการประกอบช่วงล่างที่ใช้มาตรฐานสูงเหนือกว่าระดับของรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ

-ระบบการวัดด้วยลำแสงเลเซอร์ ประกอบกับการปรับ Alignment ที่มีความแม่นยำกว่าระบบอื่น

-โรง พ่นสีและอบสีตัวถังที่ใช้เทคนิคล้ำสมัยล่าสุด ควบคุมโดยช่างผู้ชำนาญงานพ่นสีที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่องานคุณภาพ ในระดับสูงสุดของการพ่นสีตัวถัง

-สายพานการพ่นสีแบบอัตโนมัติคุณภาพ สูง ด้วยการใช้แขนกลซึ่งเป็นหุ่นพ่นสีรุ่นใหม่ล่าสุด คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมภายใต้ระบบการพ่นสีแบบใช้น้ำเป็นตัวทำละลายหรือ Water-Based Painting System






Lexus ระดมความมุ่งมั่นในไลน์การประกอบรถยนต์ของช่างฝีมือและใช้ทักษะในการผลิต ขั้นสูง (Craftsmanship) เน้นความประณีตจากประสาทสัมผัสในการใช้งานของมนุษย์ ใช้การควบคุมและปรับปรุงการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเอาใจใส่ต่อวัสดุที่ใช้ทั้งภายในและภายนอก ทำการตรวจสอบในทุกขั้นตอนของการประกอบอย่างละเอียดและแม่นยำ ทำให้สามารถตรวจสอบถึงความผิดปกติ รวมถึงส่วนต่างที่ไม่สามารถวัดค่าได้จากเครื่องมือโดยลงมือแก้ไขจุดบกพร่อง ต่างๆในขั้นตอนของการทดสอบ นับเป็นค่ายรถยนต์ที่ใช้การผลิตที่ละเอียดซับซ้อนซึ่งตามมาด้วยภาพลักษณ์ของ ยนตกรรมที่มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสูง






สัญลักษณ์ IS คือยานยนต์ประสิทธิภาพสูงของค่าย Lexus ที่สืบทอดจากรุ่น IS200 โมเดลสปอร์ตซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 210 แรงม้า โดยมี Yamaha รับงานออกแบบฝาสูบ Dual VVT-i เน้นประสิทธิภาพของการใช้งานบนรูปแบบและโครงสร้างที่แข็งแกร่งงดงาม การเข้ามาสานต่อประวัติศาสตร์ของรถ IS250 โมเดลไมเนอร์เชนจ์ 2011 คืองาน Dynamic ที่ส่อประสานภาพลักษณ์ของแบรนด์ผนวกเข้ากับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบรองรับรวมถึงระบบความปลอดภัยได้อย่างลงตัว สืบเชื้อพันธุ์ความแรงของสปอร์ตซีดานแห่งตำนานในโมเดลที่ 2 ของตระกูล IS ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยกระจังหน้าแบบซี่ ฝากระโปรงหน้ายกสันนูนเพื่อเน้นแสงเงา และมิติยามแสงตกกระทบ สปอยเลอร์หน้ากับไฟตัดหมอกทรงกลมพร้อมด้วยแผงพลาสติกสีดำที่ชายล่างเหนี่ยว นำอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ ไฟหน้าโปรเจกเตอร์ไบซีนอนแบบปรับตั้งอัตโนมัติ มีชุดไฟ LED Daytime Runung ติดตั้งมาให้และส่งผลให้มันมีความแตกต่างจาก IS250 รุ่นแรกของปี 2005 อยู่บ้างเมื่อมองรูปทรงจากทางด้านหน้า







รูป ทรง ด้านข้างตัวรถมีความไหลลื่นจากแนวของหลังคาที่โค้งมน ขอบประตูและแก้มข้างมีเส้นนำสายตาลากไปจนถึงไฟท้ายตามแบบอย่างของรถยนต์ใน ยุคใหม่ที่เน้นความเรียบแบนของรูปทรงด้านข้างซึ่งจะไม่นิยมใช้วัสดุกัน กระแทกมาติดตั้งแบบรถยนต์ในยุค 90' กระจกมองข้างดีไซน์สปอร์ตที่เข้ากับตัวรถโดยมีไฟเลี้ยวเลนส์สีขาวที่ใช้หลอด LED อยู่ภายในเพื่อเพิ่มมุมมองและความปลอดภัยต่อรถคันอื่นๆเมื่อต้องการเปลี่ยน เลน ซุ้มล้อทั้ง 4 ใช้โป่งล้อนูนๆเพื่อให้สอดรับกับล้ออัลลอยลายใหม่ล่าสุดขนาด 17 นิ้วแบบ 10 ก้านคู่ที่ใช้กรรมวิธีในการผลิตด้วยแรงดันสูงเมื่อต้องการปั๊มขึ้นรูปล้ออะ ลูมินัมอัลลอยน้ำหนักเบา ห่อรัดด้วยยาง Bridgestone Potenza Run Flat Tires รุ่น RE050 Run Flat เพิ่มเติมประสิทธิภาพของการยึดเกาะในระดับสูงสุดด้วยยางซิ่งคุณภาพสูง ล้อคู่หน้าใส่ยางขนาด 225/45/R17 ส่วนล้อหลังใช้ยางไซส์ใหญ่ขึ้นเนื่องจากเป็นล้อส่งกำลังที่ขนาด 245/45/R17 ยาง Bridgestone Potenza Run Flat RE050 ยังมีประสิทธิภาพสูงเมื่อยางเกิดปัญหาเช่น ลมยางอ่อนหรือรั่วจากสาเหตุต่างๆ มันก็ยังสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรเป็นระยะทางถึง 100 กิโลเมตร เพื่อทำให้ผู้ขับขี่ไปยังจุดรับบริการเปลี่ยนยางหรือเติมลมได้อย่างสะดวก มากกว่ายางแบบปกติ







มุม มองที่งดงามของ บั้นท้ายผ่านงานออกแบบไฟท้ายทรงรีแบบหลอด LED พร้อมด้วยเลนส์ไฟท้ายสีแดงสดกับตำแหน่งไฟถอยสีชมพู ผลิตจากพลาสติกใสเกรดสูง ฝากระโปรงท้ายยังใช้การยกสันนูนขึ้นเหมือนเดิมเพื่อความสอดคล้องกับทรงของ ด้านข้างและด้านหน้า สปอยเลอร์หลังมีแผ่นพลาสติกสะท้อนแสงติดตั้งมาให้เพื่อความปลอดภัยยามขับขี่ ใช้งานในเวลากลางคืน รวมถึงเซนเซอร์รอบคันบริเวณสปอยเลอร์หลังที่คอยแจ้งเตือนถึงการขับเข้าใกล้ วัตถุต่างๆ กล้องถอยหลังแบบจอสีติดตั้งอยู่ใกล้กับกรอบป้ายทะเบียน ทำงานร่วมแกนกับตำแหน่งเกียร์ถอยและจอมัลติฟังก์ชั่น ท่อระบายไอเสียแบบสเตนเลส วางตำแหน่งไว้ที่มุมด้านล่างของสปอยเลอร์หลังข้างละท่อ ส่งมุมมองที่ดุดันทรงพลัง กลมกลืนไปกับชุดไฟท้ายพร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบหลอด LED








ห้อง โดยสารของ Lexus ทุกรุ่น ส่งถ่ายงานประกอบในระดับที่ใกล้เคียงกับรถยุโรปสุดหรู ด้วยการคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพสูงสุดผ่านงานตกแต่งที่เน้นความหรูหราประณีต หนังแท้ พลาสติกเกรดเยี่ยมราคาแพง ลายไม้สี Bird's-Eye Maple ที่ไม่ซ้ำแบบกับใครในด้านโทนสีและรูปแบบ ปุ่มกับสวิตช์ปรับตั้งโหมดต่างๆของตัวรถส่งประกายงานตกแต่งภายในขั้นสูงที่ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพสมราคา เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ตบักเก็ตซีตใช้หนังแท้สีดำกับการเย็บแบบตะเข็บคู่ ด้วยด้ายสีขาวเพื่อความคงทนในการใช้งาน ออกแบบให้กระชับตัว นั่งสบายและเหมาะกับการขับขี่ทางไกล ตำแหน่งของการนั่งขับในรถ IS250 ยังถูกจัดวางโดยมุ่งเน้นไปที่การใช้อุปกรณ์ภายในได้อย่างสะดวกของคนขับ พวงมาลัยสามก้านหุ้มด้วยหนังแท้ มีสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นมาให้ปรับตั้งระบบเครื่องเสียง ระบบโทรศัพท์แบบบลูทูธ พร้อมด้วยก้านปรับตั้งและล็อกความเร็วแบบอัตโนมัติ Crus Control กับแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์แบบแพดเดิ้ลชิพ ใช้ก้านพลาสติกสีเงินยวง วางตำแหน่งลบหรือลดเกียร์ไว้ที่ด้านซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นตำแหน่งของการชิฟเกียร์ขึ้นพร้อมสัญลักษณ์ + แผงประตูออกแบบได้ดีโดยใช้รูปแบบของความเป็นรถสปอร์ตซีดานในการนำเสนอ มือจับประตูในแผงประตูทรงสวยพร้อมสวิตช์ปิด-เปิดกระจกไฟฟ้า พร้อมชุดความจำในการปรับตั้งตัวเบาะอีก 3 ตำแหน่งเพื่อรองรับการใช้งานบนความหรูหราสะดวกสบาย พื้นที่ของเบาะหลังมีเพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 2 คนบวกเด็กเล็กอีกหนึ่ง โดยมีตำแหน่งของเข็มขัดนิรภัยถึง 3 ที่นั่งที่เบาะด้านหลัง ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะกับพื้นที่วางเท้าค่อนข้างแคบเนื่องจากรูปแบบของตัวรถ ที่ออกแนวสปอร์ตซีดานซึ่งมีการมุ่งเน้นไปที่การขับขี่มากกว่าจะเอามาขนผู้ โดยสารกันแบบเต็มคันรถ







หน้าปัด ของ Lexus IS250 เป็นแบบเรืองแสงทั้งกลางวันและกลางคืน ให้ความชัดเจนในการอ่านค่าต่างๆทั้งค่าความเร็วและรอบเครื่องยนต์ หน้าปัดวัดความเร็วมีตัวเลขมาให้ถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่วิ่งจริงคงไม่ถึง (ความเร็วสูงสุดอยู่ในระดับ 225.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ส่วนหน้าปัดวัดรอบมีตัวเลขให้ใช้งานกันถึง 8,000 รอบต่อนาที แสดงผ่านไฟโทนสีฟ้าที่ไม่แยงตาเวลาขับขี่ คอนโซลกลางเป็นที่อยู่ของจอมัลติฟังก์ชั่นแบบ Lexus Multi Function Touch Screen Display ชุดควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอลแยกส่วนเต็มระบบ ชุดเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมเกรดสูงสุดของ Mark Levinson สุดยอดค่ายเครื่องเสียงระดับ Hi-End ของอเมริกัน พร้อมลำโพง 14 ดอก ให้กำลังขับและคุณภาพของเสียงเพลงในระดับเหนือคำบรรยาย จอ Lexus Multi Function Touch Screen Display ยังใช้เล่นแผ่น DVD/CD/MP3 กับระบบนำร่องและกำหนดตำแหน่งด้วยดาวเทียม แต่เป็นฟังก์ชั่นภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ความคุ้นเคยในการปรับตั้งอยู่บ้าง





ซุ้ม เกียร์ออโต้แบบร่องหยักของ Lexus IS250 ช่วยป้องกันการใส่ตำแหน่งเกียร์ผิดพลาดและมีความแม่นยำโดยใช้รูปแบบทริ ปทรอนิกส์ที่สามารถปรับโยกเปลี่ยนตำแหน่งของอัตราทดได้ทั้งที่หัวเกียร์หรือ เลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง S +- เพื่อใช้แป้นแพดเดิ้ลชิพในการสั่งงาน เหนือซุ้มเกียร์เป็นปุ่มหมุนใช้งานของพัดลมภายในตัวเบาะที่คล้ายกับรถ Toyota Camry ให้ความเย็นในตัวเบาะอย่างรวดเร็วหากจอดตากแดด สวิตช์ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์วางตำแหน่งไว้ที่มุมขวาด้านล่างของกรอบหน้าปัด และมีรูปแบบการใช้งานทั่วๆไปซึ่งต้องใช้การเหยียบแป้นเบรกก่อนกดปุ่มสตาร์ ตทุกครั้ง ตำแหน่งของเบรกมือออกแบบให้ใช้เท้าเหยียบและอยู่ใกล้กับที่พักเท้าด้านซ้าย มือ ส่วนแป้นคันเร่งและแป้นเบรกอยู่ใกล้กันเพื่อความรวดเร็วในการเร่งและเบรกยาม ขับขี่ใช้งาน






Lexus IS250 วางเครื่องยนต์รหัส 4GR-FSE ขนาด 2.5 ลิตร V6 2,499 ซีซี ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป (DOHC) 4 วาล์วต่อสูบ = 24 วาล์ว วางตามยาวด้านหน้า-ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังตามแบบอย่างของแบรนด์ Lexus กระบอกสูบคูณช่วงชักเท่ากับ 88.0 มิลลิเมตรคูณ 77.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 มีแรงม้าสูงสุด 215 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที ระบายความร้อนด้วยน้ำในหม้อน้ำและพัดลมไฟฟ้าแปรผัน อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 225.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบทริปทรอนิกส์ 6 สปีด มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 153.03 แรงม้า/ตัน ระบบเบรกเป็นแบบดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบช่วยเบรก ABS/EBD/BA กับกลไกอิเล็กทรอนิกส์ที่คอยช่วยเหลือด้านการทรงตัวหรือ Stability Control + Traction Control ป้องกันการลื่นไถล ระบบความปลอดภัย Front And Rear Side Curtain Airbags + Front-Seat Side Airbags ระบบบังคับเลี้ยวใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในชุดกลไกปั๊มไฮดรอลิกแบบ EPS (Electric Power Steering) ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบนปีกนกคู่อัลลอย ส่วนด้านหลังแบบมัลติลิงค์

ติดตามอ่าน Lexus IS250 The Final Testrun ได้ในตอนต่อไป

รูปที่38
Lexus IS250 Minor Chang 2011 Specifications
แบบ................................................ซีดาน 4 ประตู
ผู้ผลิต..............................................Lexus Japan
เครื่องยนต์......................................4GR-FSE V6 DOHC
ปริมาตรความจุ...............................2,499 ซีซี
วาว์ล...............................................4 วาล์วต่อสูบ=24 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันแบบ Dual VVT-i
อัตราส่วนกำลังอัด..........................12.0:1
กระบอกสูบxช่วงชัก........................83.0x77.0 มิลลิเมตร
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง..........................Direct Petrol Injection
แรงม้าสูงสุด....................................215 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด...................................260 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที
อัตราส่วนแรงบิดต่อลิตร.................104.04 นิวตันเมตรต่อลิตร
ระบบระบายความร้อน.....................น้ำ+พัดลมไฟฟ้า
Unitary capacity..............................416.5 cc per cylinder
อัตราเร่ง..........................................0-100 กิโลเมตรใน 8.7 วินาที
ความเร็วสูงสุด................................225.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบบังคับเลี้ยว.............................EPS (Electric Power Steering)
ระบบเบรก......................................ดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบช่วยเบรก ABS/EBD/BA
ระบบทรงตัว....................................Stability Control + Traction Control
ล้อและยาง
ล้อหน้า.............................................อัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยาง Bridgestone Potenza Run Flat ไซล์ 225/45/R17
ล้อหลัง.............................................อัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยาง Bridgestone Potenza Run Flat ไซล์ 245/45/R17
มิติตัวถัง
ความกว้าง........................................1795 มิลลิเมตร
ความยาว..........................................4585 มิลลิเมตร
ความสูง............................................1430 มิลลิเมตร
ความจุถังเชื้อเพลิง............................65 ลิตร
น้ำหนักตัวรถ.....................................1570 กิโลกรัม
ราคา.................................................3,450,000 บาท

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook //www.facebook.com/chang.arcom




Create Date : 15 กันยายน 2554
Last Update : 15 กันยายน 2554 8:48:52 น. 1 comments
Counter : 2130 Pageviews.

 
Great ?V I should certainly pronounce, impressed with your web site. I had no trouble navigating through all the tabs and related info ended up being truly simple to do to access. I recently found what I hoped for before you know it at all. Quite unusual. Is likely to appreciate it for those who add forums or anything, site theme . a tones way for your client to communicate. Excellent task..
louis vuitton outlet //www.nercc.org/louisvuittonoutlet.cfm


โดย: louis vuitton outlet IP: 94.23.252.21 วันที่: 20 สิงหาคม 2557 เวลา:13:30:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.