รักเราไม่เก่าเลย และฉลองวันแห่งความรัก ที่ Outback Steakhouse
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ชาวบล๊อกแก็งค์
ช่วงเดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรัก ดิฉันช่วงนี้จึงเอาเรื่องหวาน ๆ เกี่ยวกับความรักมาเขียนบ่อยหน่อย เพราะไม่อยากตกเทรนด์
สำหรับบล๊อกล่าสุดที่เพิ่งเขียนไปก็เป็นเรื่องความโรแมนติกของสามีดิฉัน ที่ไม่ว่าเทศกาลอะไร หรือวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันเกิด ครบรอบวันแต่งงาน วันแห่งความรัก สามีดิฉันจะต้องทำการ์ดด้วยตัวเองหรือซื้อของขวัญมาให้ดิฉัน สำหรับดิฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยโรแมนติกเท่าไรคือตั้งแต่แต่งงานกันมา ดิฉันไม่เคยให้การ์ดหรือให้ของขวัญอะไรสามีเลย แต่สามีก็ทราบว่าดิฉันรักเค้า เพราะสามีดิฉันสังเกตได้จากการกระทำของดิฉัน
นี่คือบล๊อกล่าสุดที่ดิฉันเขียนถึงความโรแมนติกของสามีดิฉันค่ะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=jiney&month=17-02-2009&group=30&gblog=10
อย่างที่เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ก็คงพอทราบกันว่าสามีดิฉันเป็นคนโรแมนติก สำหรับปีที่ผ่านมาวันแห่งความรักเป็นวันตรงกับวันทำงาน สามีและดิฉันจึงไม่ได้ออกไปฉลองกันที่ไหน สามีจึงทำการ์ดและซื้อของขวัญให้ดิฉัน แล้ววางไว้ที่เตียงก่อนไปทำงาน
สำหรับปีนี้วันวาเลนไทน์ตรงกับวันเสาร์ ที่แรกดิฉันตั้งใจบอกกับสามีไว้ว่าจะไปฉลองวันนี้ตอนเย็นหลังดิฉันเลิกงาน เพราะดิฉันต้องไปทำงานเลิกประมาณห้าโมงเย็น แต่เพราะผู้จัดการได้มาถามดิฉันก่อนถึงวันเสาร์ ว่าวันเสาร์คือวันวาเลนไทน์อยากจะทำงานได้ชั่วโมงเพิ่มหรือไม่ ดิฉันจึงตอบตกลงเพราะดิฉันอยากได้เงิน แล้วการที่จะได้ชั่วโมงเพิ่มกับสภาวะเศรษฐกิจขาลงอย่างนี้ ไม่ใช่ง่าย ๆ ดิฉันจึงตอบตกลงว่ายินดีทำงานได้ชั่วโมงเพิ่มกับผู้จัดการ
โดยเหตุนี้ ดิฉันจึงบอกกับสามีไปว่าไปฉลองวันอาทิตย์ก็แล้วกัน เพราะดิฉันอยากทำงานได้เงินเพิ่มและถ้าไปฉลองวันเสาร์คือวันวาเลนไทน์ก็เกรงว่าคนจะแน่น เพราะคนส่วนใหญ่จะไปฉลองกันในวันนี้ เป็นอันว่าดิฉันและสามีไปฉลองกันวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แล้วเราก็ตกลงไปดินเนอร์กันที่ Outback Steakhouse ซึ่งภัตตาคารนี้มีชื่อเสียงมาก ๆ ในด้านสเต็ก และราคาก็จัดว่าแพง แต่เพราะวันสำคัญอย่างนี้ เราสองคนจึงไม่เกียงเรื่องราคา
มาดูภาพพร้อมคำบรรยายกันเลยค่ะ
นี่คือของขวัญและการด์ที่สามีให้ดิฉันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสามีเอาของขวัญมาวาง ก่อนออกไปทำงาน ดิฉันกำลังออกกำลังกายอยู่ข้างล่าง ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนค่ะ พอสามีออกไปทำงาน ดิฉันกำลังขึ้นไปอาบน้ำ เลยเห็นค่ะ สามีวางไว้บนหัวเตียงค่ะ สำหรับของขวัญก็คือกล้องถ่ายรูป ที่ดิฉันใช้ถ่ายรูปลงบล๊อกในปัจจุบันนี้ค่ะ ที่สามีซื้อของขวัญเป็นกล้องถ่ายรูปให้ เพราะเห็นดิฉันเคยบ่นว่าอยากมีกล้องเล็ก ๆ สักตัวเป็นดิจิตอล และกล้องที่ดิฉันมีอยู่ถึงจะเล็กแต่ไม่ได้เป็นดิจิตอล เป็นรุ่นเก่า ที่ต้องใช้ฟิลม์ อีกอย่างดิฉัน ไม่อยากใช้กล้องถ่ายรูปที่เป็นดิจิตอลของสามี เพราะใหญ่เหมือนนักท่องเที่ยว
นี่ค่ะของขวัญพร้อมการ์ดที่วางไว้บนเตียงนอน
นีค่ะการ์ดมีสองด้าน
อีกด้านหนึ่งค่ะ สามีทำเองค่ะ
สำหรับวาเลนไทน์ปีนี้ สามีก็โรแมนติกอีกล่ะค่ะ ทำการ์ดให้ดิฉันอีกแล้ว
ด้านในของการด์ค่ะ
มาดูใกล้ๆ ค่ะ เห็นไหมค่ะรักของดิฉันกับสามีไม่เก่าเลย
เชื่อไหมค่ะ ดิฉันกับสามีถึงแต่งงานกันมาห้าปีกว่า เวลาไปไหนก็ยังเดินจูงมือกัน เหมือนคนขาดความมั่นใจหรือความอบอุ่นค่ะ ถ้าไม่ได้จูงมือกัน เหมือนขาดอะไรไป เพื่อน ๆ และน้อง ๆ บางคนก็คงจะเอียนในเรื่องความรักของดิฉันกับสามี แต่จริง ๆ น่ะค่ะ เรารักกันมาก ยิ่งอยู่ยิ่งรักสามีเพิ่มมากขึ้น เพราะเห็นความดีและความรักที่สามีมีต่อดิฉัน ไม่ว่าดิฉันจะสุข จะทุกข์ สามีดิฉันจะคอยให้กำลังใจ อยู่เคียงข้าง ปลอบดิฉัน
เช่นกันเราสองคนก็ถนอมความรักของกันและกัน อย่างที่ดิฉันเคยบอกไว้ในบล๊อกก่อนว่า สามีและดิฉันแต่งงานกันตอนเราสองคนอายุมาก เราจึงเข้าใจในเรื่องชีวิตคู่มาก ๆ ประกอบกับเราเป็นผู้ใหญ่ ผ่านเห็นสิ่งต่าง ๆ มามาก เราจึงให้อภัยซึ่งกันและกัน เพราะเราสองคนคิดเสมอว่าทุกคนไม่ได้เกิดมาสมบรูณ์แบบ บางครั้งเราก็มองข้ามข้อบกพร่องของกันและกันไปบ้าง ถ้าไม่หนักหนาอะไร เพราะสามีดิฉันก็อายุมาก จะให้มาปรับเปลียนทันทีทันใดไม่ได้ แล้วดิฉันก็ไม่ได้สมบรูณ์แบบมีข้อบกพร่อง จะให้เปลียนพฤติกรรมบางอย่างที่เคยชินมาตั้งแต่เด็กจนแก่ปานนี้คงไม่ได้ อย่างที่คำโบราณบอกว่าไม้แก่ดัดยาก เราสองคนตายายก็ต้องยอมรับข้อบกพร่องของกันและกัน ถ้าบางอย่างปรับเปลียนได้ก็พยายาม เช่นกันถ้าการปรับเปลี่ยบพฤติกรรมบางอย่าง แล้วทำให้อีกฝ่ายลำบาก หรืออึดอัดใจ เราก็ควรจะมองข้ามไปบ้าง
มากกว่านั้นเมื่อเราสองคนมีปัญหา โต้เถียงกันเราจะไม่หลบหน้า เราจะหันหน้ามาพูดกัน ว่าปัญหาที่ทำให้แต่ละฝ่ายขุ่นข้องหมองใจคืออะไร ฝ่ายใดผิดก็จะกล่าวคำว่าขอโทษ ถนอมน้ำใจของกันและกันไว้
เช่นกัน เราสองคนจะบอกความในใจซึ่งกันและกัน โดยกล่าวคำว่า I love you ทุกครั้งที่เราคุยโทรศัพท์หรืออยู่ด้วยกัน เราสองคนคิดเสมอว่าชีวิตคนเรามันสั้นนัก เราสองคน ไม่ควรเก็บประโยคนี้เอาไว้ในใจ เพราะอย่างที่เคยบอกน้อง ๆ และเพื่อน ๆ ว่าเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุหรือความตายจะเกิดขึ้นเมือไร เมื่อเรารักใครสักคนก็ควรบอกความในใจออกมา เพราะอีกฝ่ายจะได้ทราบความในใจของเรา ฉนั้นดิฉันและสามีจะบอกรักกันวันละหลายสิบครั้ง เพราะทำให้เราสองคนได้รับรู้ความในใจของเราสองคนว่าเรารักกันมาก ๆ
อย่างที่บอกเพื่อน ๆ และน้องว่าเราไปฉลองวันแห่งความรักกันที่ Outback Steakhouse ซึ่งเป็นภัตตาคารที่มีชื่อเสียงในเรื่องสเต็กของอเมริกา และราคานั้นก็แพงตามไปด้วย เพราะอาหารคุณภาพดีและอร่อยมาก ๆ
นี่ค่ะป้ายหน้าภัตตาคาร
ในยามค่ำคืนค่ะ
ประตูทางเข้าค่ะ
เชื่อไหมค่ะ ใครว่าเศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี ตอนที่ดิฉันและสามีไปต้องรอคิวกว่าสามสิบนาที ขนาดเป็นภัตตาคารที่ราคาแพง คนแน่นมาก ๆ พอไปถึงเราก็ไปบอกพนักงานต้อนรับว่าจะมาทานอาหารสองคน แล้วพนักงานก็จะให้คล้ายบัตรคิว แต่วัตถุชนิดนี้เรียกว่า พอถึงคิวเรา จะมีไฟแดงเป็นสัญญาณเตือนให้เราว่าถึงคิวแล้ว พนักงานต้อนรับไม่ต้องเรียกเรา เพราะสัญญาณไฟแดงขึ้นที่เครื่องของเรา เราก็เดินไปที่พนักงานต้อนรับ แล้วพนักงานต้อนรับก็จะเตรียมช้อน ผ้า ถือเตรียมให้เรา แล้วพาเราไปนั่งที่โต๊ะ
นี่ค่ะสามีไปรับวัตถุทีเรียกว่าคล้ายบัตรคิว
มาดูใก้ล ๆ ค่ะ พอถึงคิวเรา วัตถุนี้จะขึ้นไฟสีแดงค่ะ
นี่ค่ะ พนักงานเสริฟพามานั่งโต๊ะ พร้อมด้วยผ้าเช็ดปากที่ห่อด้วยส้อม มีด จำนวนสองที่
นี่ค่ะเมนูที่วางไว้
นี่ค่ะข้างในเมนูอาหารที่เราจะสั่งอาหาร เชื่อไหมค่ะเมนูสั่งอาหารไม่สวยเท่าเมนูเครืองดื่ม แอลกฮอลก์
เมนูอื่น ๆ ค่ะ เป็นพวกเครื่องดืมแอลกฮอล์ สวยมาก ๆเลยค่ะ
เครื่องดืมที่เราสั่งมาแล้วค่ะ ภัตตาคารที่อเมริกาดีอย่างน่ะค่ะ ถ้าเราสั่ง เครืองดืมแล้ว บริกรจะเติมให้เราจนเราเบื่อไม่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ เสียเงินแค่ครั้งเดียวที่สั่งเครื่องดื่ม
ภาพที่อยู่ข้างโต๊ะต่ะ เห็นน่ารักดี เหมือนดิฉันกับสามีเลยค่ะ
ไปที่นี่ที่ไร ต้องสั่ง Blooming Onion ค่ะ เพราะเป็นเมนูที่มีชื่อเสียงของภัตตาคารนี้ อร่อยมาก ๆ และต้องประดิดประดอย หาทานที่ภัตตาคารที่อื่นไม่ค่อยได้
เสริฟพร้อมขนมปังร้อน ๆ พร้อมเนย
สามีรับประกันความอร่อยอีกแล้วค่ะ
หลังจากนั้นไม่นานเมนูอาหารที่เราสั่งก็ตามมาค่ะ นี่ค่ะของสามี Porterhouse Steak
Baked potoes with sourcream, crumlbed bacon and chives
สำหรับของดิฉันเป็น Full Rack of Baby Back Ribs ดิฉันเป็นคนที่ไม่ชอบทานสเต็กค่ะ ไปภัตตาคารที่มีชื่อเสียงด้านสเต็กที่ไร ต้องสั่ง Full Rack of Baby Back Ribs ทุกครั้ง ดิฉันว่าเนื้อย่างของไทย พร้อมน้ำจิ้มแซบ ๆ อร่อยกว่าสเต็กตั้งเยอะ
ที่อเมริกา อย่างที่เคยบอกเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ว่าถ้าเราทานไม่หมด บอกพนักงานบริกรไปตรง ๆ เลยว่าจะใส่กล่องเอากลับบ้าน พนักงานเค้าจะเอากล่องมาให้ พร้อมถุง หิ้วกลับบ้านได้เลยค่ะ พนักงานเสริฟคนนี้น่ารักมาก ๆ ค่ะ เธอเอากล่องมาให้ แถมยังจัดการเอาอาหารใส่กล่อง ใส่ถุงให้อีก ไม่ค่อยเห็นเท่าไรกับการบริการแบบนี้ สามีจึงถูกใจมาก ที่เธอเอาใจใส่สามีและดิฉันอย่างดี เลยให้ทิปหนักไป เธอก็น่ารักค่ะพอเห็นทิปแล้วก็กล่าวขอบคุณ แถมยังบอกว่าจะถ่ายรูปคู่ไหม เธอจะถ่ายให้
นี่คะภาพคู่ที่พนักงานเสริฟถ่ายให้เราสองคนตายยาย
ขอขอบคุณผู้ที่มาเยียมบล๊อกดิฉัน แล้วดิฉันจะไปเยี่ยมน่ะค่ะ
สุข สันต์ วันหยุดค่ะ
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
39 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2552 2:25:34 น. |
Counter : 1434 Pageviews. |
|
|
|
ขอหม่ำด้วยยยย
STEAK จะไปกับ EMPEROR TEA ของเฮียนซุนได้ปะ
มาร้องเพลง ให้คู่รักแห่งปีฟังคับ อิอิ
URL อยู่หลังไมค์คับ