ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
1 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
จากฟากฟ้าสุราลัย...สู่แดนดิน บทที่ 13 "อุปริยา"











จากฟากฟ้าสุราลัย....สู่แดนดิน "อุปริยา"



....ฉันจะตามไปทั่วฟ้า ทั่วจักรวาลผ่านพื้นผิวแห่งทุกดวงดาว
สุดฟ้าสุราลัย สุดขอบแห่งห้วงมหรรณพ
ขอเพียงแต่ให้เธอรอฉันอยู่ เพื่อพบพาน.......


**************************************************




บทที่ 13


เสียงอื้ออึงจับกลุ่มของสภาเทวะก่อนเริ่มการประชุม บริเวณทางเข้าด้านหน้าสภาแห่งองค์เทพ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องต่างขัดใจในการกระทำนอกกรอบของชนิกรรดาเทวี บางแก้ต่างว่านางเป็นอย่างนี้มาเนิ่นนานแล้ว

บ้างก็ท้วงว่าน่าจะเป็นหนึ่งในแผนการของมหาเทวะที่ตั้งใจใช้ชนิกรรดาเทวีเป็นหมากตัวได้เปรียบ โดยที่ฝ่ายมารไม่อาจโต้แย้งได้

บ้างก็สงสารวิษุวัตเทพที่ต้องรับโทษทัณฑ์แทน ทำให้การปฎิบัติภารกิจต้องเลื่อนให้ยาวนานออกไป

และอีกหลายเสียงต่างพูดถึงว่า สภาเทวะควรจะกำหนดเวลาการแบ่งอณูลงไปยังกายหยาบอย่างเป็นทางการได้แล้ว เพราะมิฉะนั้นอาจส่งผลเสียกระทบให้บรรดาเหล่ามารกำเริบได้ใจมากขึ้น

และอีกหลายๆ องค์ต่างก็ยอมรับความจริงที่ว่า สวรรค์ไร้ซึ่งเทวะที่มีฝีมือ มีฤทธิ์และความสามารถที่จะสามารถนำทัพหน้าให้กับกองทัพสวรรค์ได้

ซึ่งหากเปรียบเทียบกับกองทัพมารแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีแม่ทัพเก่งๆ ระดับแถวหน้าอยู่น้อยมาก ซึ่งนั่นหมายความว่า ทำให้สวรรค์ไม่อาจลงทัณฑ์กับชนิกรรดาเทวีได้ เพราะหากนางดื้อดึง มิยอมนำทัพแล้ว อาจจะกลายเป็นการวิบัติครั้งใหญ่ของสวรรค์ทีเดียว


ร่างแห่งเทพธิดาในชุดนักรบสีม่วงแดงปรากฎขึ้นที่มุมด้านหน้า ทำให้เสียงเอ็ดอึ้งเงียบไปชั่วขณะ บ้างทำความเคารพ บ้างก็เมินหน้าหนี หรือเปลี่ยนเรื่องราวที่กำลังสนทนากันอยู่

สำหรับชนิกรรดาเทวีนางเคลื่อนตัวผ่านเทพแต่ละองค์ด้วยท่วงท่าของเทวีนักรบที่งามสง่า ไม่ได้ใส่ใจแยเสียงกับเสียงที่ได้ยิน และเคลื่อนตัวตรงไปยังส่วนที่นั่งด้านในของตนเองอย่างเงียบๆ โดยมีอธิปติลุกขึ้นยืนคอยตั้งแต่เห็นนางก้าวเขามา พร้อมค้อมศีรษะ ก้มลงทำความเคารพต้อนรับนาง

ก่อนที่เสียงสัญญานแห่งองค์มหาเทวะจะดังขึ้น วิษุวัตเทพปรากฎกายเข้ามาในสภาแห่งเทวะเช่นกัน เสียงอื้ออึงดังขึ้นพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมาย เทพแทบทุกองค์ต่างค้อมศีรษะทำความเคารพ พร้อมกล่าวทักทาย อธิปติเองก็ลุกขึ้นค้อมศีรษะทำความเคารพเมื่อวิษุวัตเทพเดินเข้ามาใกล้ ก่อนขยับที่นั่งเดิมของตนเพื่อให้วิษุวัตเข้ามานั่งๆ ข้างๆ องค์ชนิกรรดา

ดวงตาแห่งความผูกพัน แห่งคู่บารมีทั้งสองสบกันด้วยความรัก และความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง รอยยิ้มบนดวงหน้าของชนิกรรดาเทวี แม้จะขัดแย้งกับคราบน้ำตาที่ยังค้างๆ อยู่ไม่น้อยก็ตาม

การปลดปล่อยเทพวิษุวัตจากทัณฑ์แห่งสวรรค์ และการมาเข้าร่วมสภาเทวะได้อย่างอิสระนั้น เป็นข้อบ่งบอกให้เทพทุกองค์เข้าใจตรงกันเป็นอย่างดีว่า กำหนดเวลาแห่งการรวมอณูแห่งภารกิจจะบังเกิดขึ้นในวาระเบื้องหน้าอันใกล้นี้อย่างแน่นอน




ขณะที่ทางฝ่ายสภาสวรรค์กำลังมีการประชุมกันนั้น บรรยากาศการประชุมสภาแห่งมารก็กำลังดำเนินไปอย่างเคร่งเครียดเช่นกัน โดยเฉพาะการตั้งรับมือกับเทพวิษุวัต และชนิกรรดาเทวี รายงานการปลดปล่อยวิษุวัตเทพเข้ามาถึงฝ่ายมารเกือบจะพร้อมๆ กับที่วิษุวัตเทพปรากฎตัวในสภาเทวะ

บุตรแห่งจอมมารหลายองค์ที่นั่งรั้งอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพแห่งมาร ต่างคิดหาแผนการกันอย่างตั้งใจ และทุกองค์ก็ลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่า การใช้วิถีแห่งมารเร่งจุดอ่อนภายในของเทพธิดาชนิกรรดานั้น จะสัมฤทธิผลได้ง่ายกว่าการเข้าโจมตีหรือปะทะกันด้วยฤทธาแห่งพละกำลังโดยตรง

ฝ่ายมารหลายตนยังเคลือบแคลง ซึ่งยังไม่ได้คำตอบแน่ชัดว่า การที่วิษุวัตเทพถูกส่งไปรับทัณฑ์ในที่ปกปิดด้วยม่านแห่งมหาเทวะตลอดมานั้น เป็นการจัดฉากเตรียมการของมหาเทพเพื่อให้วิษุวัตได้บำเพ็ญบารมี

ดังนั้นทิพยฤทธิ์ของวิษุวัตย่อมสูงขึ้นด้วยการปฎิบัติ และสูงกว่าชนิกรรดาเทวีที่มีฤทธิ์มาโดยกำเนิด

อีกทั้งมารเบื้องสูงหลายองค์ต่างข้องใจและวิเคราะห์การณ์ต่อว่า การที่ปล่อยให้ชนิกรรดาทำผิดฝืนโองการเทวะ และผู้ที่ได้รับผลแห่งทัณฑ์แทนเป็นวิษุวัตเทพแล้วนั้น ยิ่งวิษุวัตเทพปฏิบัติมีบารมีสูงขึ้น ชนิกรรดาเทวีก็จะรับบารมีนั้น ด้วยสัจจะวาจาอธิษฐาน และการที่ทั้งคู่ต่างเป็นคู่บารมีซึ่งกันและกัน

หากข้อกังขาตรงนี้เป็นจริง ย่อมเป็นวิถีที่มีมหาเทพอยู่เบื้องหลัง คงต้องเป็นหนึ่งแผนการที่มหาเทพได้กำหนดไว้ ไม่ต่างอะไรกับการให้ชนิกรรดาในร่างมนุษย์มีความสามารถพิเศษ และการถ่ายบารมีในคู่บารมีนั้นย่อมหมายถึงฤทธาของทั้งคู่จะสามารถถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนกันได้ตลอด

ซึ่งนั่นหมายความว่า การที่ชนิกรรดาในร่างมนุษย์มีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ธรรมดาสามัญแล้ว มิใช่ว่ากำลังแห่งชนิกรรดาในส่วนของเทวะจะลดลงตามปกติเสียทีไหน เพราะเมื่อมีการแบ่งบารมีมาจากวิษุวัตคอยเสริมเติมกำลังให้อยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นแล้ว นั่นย่อมหมายความว่าแม้หากเพียงแม่ทัพหน้าแห่งสรวงสวรรค์ จะมีนักรบผู้หาญกล้าเพียงแค่สององค์ แต่กำลังแห่งฤทธิ์ และบารมีก็ใกล้เคียงกับแม่ทัพมารเกือบครึ่ง

อีกทั้งยังมีกำไรในส่วนของความเป็นมนุษย์ของชนิกรรดาอีกต่างหาก อีกทั้งบารมีที่เสริมมาจากวิษุวัตนั้น ก็ทำให้บารมีของนางไม่เคยตกหรือเสื่อมหรืออย่างใด


เสียงอื้ออึ้งในข้อวิเคราะห์ของฝ่ายมาร ทำให้กลับต้องครุ่นคิดกันหนักมากขึ้น และจอมมารยังเชื่อว่า ภารกิจในฝ่ายของมารครั้งนี้จะต้องสัมฤทธิผลตามที่ต้องการ หากโจมตีจุดเป้าหมายที่ชนิกรรดาเทวีเป็นหลัก และแม่ทัพบุตรแห่งมารทั้งสิบองค์พร้อมด้วยบริวาร ที่ถูกกำหนดให้ไปทำหน้าที่ก่อนหน้านี้แล้วนั้น ก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง

ความพร้อมเพรียงของกองทัพพลังแห่งมารที่มีแม่ทัพเหนือกว่าเทพนักรบองค์อื่นๆ อีกทั้งความพร้อมของสมุนมารที่เต็มไปด้วยความสามารถในการครอบงำใจมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย


พญามารทรงพระสรวลด้วยสุรเสียงอันดังอย่างลืมองค์ เมื่อทรงนึกถึงกองทัพมาร วิถีแห่งมารนั้น แม้ทางฝ่ายสวรรค์จะนำไปใช้ต่อต้านกับฝ่ายมารเท่าใดก็ตาม ก็ต้องอย่าลืมว่านั่นคือวิถีแห่งมารมิใช่วิถีแห่งเทพ ซึ่งฝ่ายมารนั้นย่อมนำหน้าเหนือกว่าไปมากมายนัก อีกทั้งกำลังพลของทางฝ่ายมารนั้น พร้อมที่จะส่งกองทัพทำลายสวรรค์วิมานชั้นฟ้าให้ย่อยยับในพริบตา

แต่เป้าหมาย จุดมุ่งหมายในปฏิบัติการทั้งเทพ และมารในครั้งนี้ หาใช่การต่อสู้ทำลายล้างด้วยกำลังเสียทีไหน แต่หากเป็นภารกิจหนึ่ง เพื่อเดินทางไปยังอีกจุดหนึ่งมากกว่า และฝ่ายไหนจะไปถึงจุดสำเร็จก่อนกัน...


ราชโองการขององค์พญามารกึกก้องดังสะท้านไปทั่วสภาแห่งมารที่มืดมิด ไม่ต่างจากความมืดทะมึนของพระวรกายสีดำสนิทนั้น


“ทำทุกสิ่ง ทุกวิถี ขอให้พวกเจ้าใช้วิธีการใด ๆ ก็ได้ในการปฎิบัติครั้งนี้ เพื่อขัดขวางการทำงานของฝ่ายเทพ เพื่อครอบครองดวงตราแห่งธรรมชาติไว้กับพวกมารแล้วไซร้ ....

จิตของชนิกรรดาไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือเทพธิดา ยิ่งหมองหม่นมากเท่าใด ยิ่งแม้ว่าสวรรค์จะใช้วิถีแห่งมารมากเท่าใด นั่นก็ถือว่าเป็นของแถมที่วิเศษสุดแล้วสำหรับข้า ฮ่ะ ฮ่ะ......

ข้าเฝ้ารอคอยมาแสนนาน...เมื่อใดที่ความรักของเทพธิดาแม่ทัพแห่งสรวงสวรรค์จะแปรเปลี่ยนและกลายเป็นจิตแห่งมาร ฮ่ะ ฮ่ะ...ข้าจะเพิ่มโภคทรัพย์ให้วิมานของเจ้าเวฬุวาฬ เจ้ามารเบื้องซ้าย ให้เจ้าได้เทียบเท่าบุตรแห่งข้าทีเดียว....ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ศึกครั้งนี้ถูกใจข้ายิ่งนัก..."



***โปรดติดตามอ่านบทต่อไป***





Create Date : 01 มิถุนายน 2555
Last Update : 1 มิถุนายน 2555 17:37:43 น. 2 comments
Counter : 1009 Pageviews.

 
ต่างฝ่ายต่างมีแผนซ้อนแผน ชิงไหวชิงพริบกันน่าดูเชียวครับ

ตราแห่งธรรมชาติ จำชื่อได้ แต่จำรายละเอียดไม่ได้แฮะ ดูเหมือนฝ่ายมารจะจับจุดอ่อนชนิกรรดาได้น่ากลัวมาก ถ้าจิตแห่งองค์เทพกลายเป็นจิตแห่งมาร คราวนี้... โอ๊ะโอ...


โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:2:32:56 น.  

 
โอ้ ขอบคุณคุณพีทที่พอยังจำได้บ้าง นานมากแล้วเนอะ

เย้ คนเข้ามาดู หรือ เข้ามาอ่านเยอะดีจัง
ขอบคุณทุกคนดูและคนอ่านค่ะ


เกือบลืมไปแร้วววว่าวันนี้วันที่ 15 เดี๋ยวอัพบล็อกนะคะ



โดย: พรายทราย วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:22:02:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.