กินๆเที่ยวๆเขาใหญ่กับ 2 แสบ นอน Valata Resort เที่ยวฟาร์มโชคชัย พากิน ครัวเขาใหญ่กันค่า

 สวัสดีทุกท่านค่ะ ปิดเทอมนี้น้ำได้รับหน้าที่พาน้องสาวและหลานไปเที่ยวกันตามลำพัง
คืองานนี้งดพ่อแม่ของเด็กๆค่ะ เพราะ 2 แสบนี้เวลาอยู่กับพ่อแม่จะเป็นอีกร่างนึง เวลาอยู่กันลำพังก็จะเป็นอีกร่างนึงเลยค่ะ 555
เพราะฉะนั้น งานนี้จึงมีแค่น้ำ คุณผู้ชาย หลานสาว และน้องสาว ซึ่งอายุห่างกับน้ำถึง 23 ปี เพราะเป็นลูกหลงของคุณแม่ค่ะ
เราเริ่มออกเดินทางกันวันที่ 7 ต.ค ที่ผ่านมานี้ค่ะ จองห้องพักของ วาลาตา รีสอร์ท ไว้ตั้งแต่งานไทยเที่ยวไทย 2 คืน
ถ้าใครจำทริปก่อนหน้านี้ของน้ำที่พัทยาได้ ที่บอกเอาไว้ว่าป่วยหง่อมเลยหมดสนุก
ทริปนี้แทบไม่ต่างเลยค่ะ ถึงขั้นพอกลับมาถึงแล้วต้องแอดมิทโรงพยาบาลทันที รูปในทริปนี้เลยไม่มากอย่างใจคิดเท่าไหร่
เน้นถ่ายเด็กๆซะเยอะมากกว่า เพราะเริ่มมีอาการเจ็บที่หัวตั้งแต่ออกเดินทางได้ไปได้ครึ่งทาง
เจ็บแบบว่าเหมือนหัวมีแผลเลยค่ะ จับก็ไม่ได้ ระบมไปหมด ก็ได้แต่ทานยาแก้ปวดไป ตอนไหนยาออกฤทธิ์ก็ได้รูปมาเยอะหน่อย
ตอนไหนยาหมดฤทธิ์ก็ไม่มีรูปซักกะใบ 5555
สุดท้ายกลับมาแอดมิทถึงได้ทราบว่าเป็นไซนัสอักเสบ แต่เป็นเยอะมากแล้วจนปลายประสาทที่ศีรษะมันอักเสบไปแล้วน่ะค่ะ
น่ากลัวมาก แต่ตอนนี้หายดีแล้วนะคะ
มาค่ะ ไปเที่ยวแบบป่วยๆกันอีกซักทริปนะคะ หวังว่าทริปหน้าจะไม่เป็นอย่างนี้แล้วน๊า 2 ทริปติดกันแล้ว เสียดายจริงๆเลย


เริ่มแรกเราตั้งใจจะไปทานที่ร้าน "ครัวเขาใหญ่" ตอนเที่ยง เพื่อให้ทันไปเที่ยวไร่ พีบีวัลเล่ย์ รอบบ่าย 2 แต่เราไปถึงค่อนข้างเลทมากแล้วค่ะ
เพราะว่าเส้นหลักที่มาถูกน้ำท่วม ต้องขับเลาะมาทางที่เค้าเลี่ยงไว้ให้ ซึ่งเล็กและค่อนข้างไกลพอสมควร เลยตัดสินใจงดเที่ยวไร่องุ่นไปก่อนค่ะ
มาถึงร้าน ครัวเขาใหญ่ ตอนเกือบบ่ายแล้วค่ะ เด็กๆถูกปลุกมา หน้าตาไม่เต็มใจมากๆ 5555





หน้าร้านมีร้านส้มตำอยู่ค่ะ ของโปรดคุณผู้ชายพอดี จัดมาให้หูตาสว่างซักครกค่ะ ราคา 40 บาท อร่อยนะคะ สั่งเผ็ดๆก็ได้เผ็ดสมใจเลยค่ะ


มาร้านนี้ไม่สั่งเมนูนี้คงไม่ได้ แฮมกระดูกอ่อนค่ะ จานนี้เด็กๆปลื้ม ตอนแรกคิดว่าคงไม่ทานกันแน่ๆ ที่ไหนได้ ขออีกๆกันเป็นแถว



บล็อคโคลี่ผัดกุ้ง ของโปรดหลานสาวค่ะ


แกงเขียวหวานไก่ ของโปรดน้องสาวค่ะ


ไข่เจียว


แกงป่าปลาเนื้ออ่อน มาเท่านี้ เหลือเท่านี้เลยค่ะ 5555 อุตส่าห์จะเอาใจคุณผู้ชายซักหน่อย แต่เค้าดันไม่ปลื้ม บอกว่ารสแปลกๆ ไม่ถูกปากบ้านเราค่ะ


อาหารมาเด็กๆก็ฟื้นคืนชีพทันที




หลังจากนั้นเราก็กลับมาเช็คอินที่โรงแรมกันค่ะ ย้อนกลับมาจากเขาใหญ่ไปทางวังน้ำเขียวอีก 18 กม. นะคะ จะว่าไกลก็ไกลพอสมควร
ตอนแรกคุณผู้ชายก็บ่นๆว่าทำไมไม่หาที่พักใกล้เขาใหญ่ไปเลย แต่สุดท้ายก็มีอะไรน่าติดอกติดใจหลายอย่าง คิ่ยๆตามดูกันนะคะ

มาถึงโรงแรม ตั้งใจจะถ่ายรูปห้องพักมาให้ชม แต่ไม่ทันลิงน้อยตัวนี้จริงๆค่ะ 55555




มองไปทางหน้าห้องค่ะ เราเพิ่มเตียงเสริม 1 เตียงด้วยนะคะ สำหรับคุณผู้ชายค่ะ


แต่ก็โดนหลานสาวยึดครองอาณาเขตชั่วคราวไปจนได้



จากนั้นก็นอนพักกันซักแป๊บ พอแดดร่มลมตกก็มาเด็กๆออกมาเดินชมโรงแรมกันค่ะ
จุดเด่นของที่นี่คือ เค้าจะเลี้ยงสัตว์น่ารักๆทั้งแบบอยู่ในกรงและแบบปล่อยทั่วโรงแรมเลยค่ะ
แบบปล่อยก็จะมีเป็ด กระต่าย พร้อมกับมีอาหารสัตว์ขาย
ใครใจไม่แข็งพอนี่ หมดกันหลายเลยนะคะงานนี้ 5555









กวางดาวก็มีค่ะ เลี้ยงเอาไว้ในกรงนะคะ


นกแก้วมาคอร์ สีสดมากๆ เด็กๆชอบใจใหญ่เลยค่ะ





ดูเจ้าตัวนี้เอาเท้าหยิบแครอทกัดกิน น่ารักจริงๆค่ะ



มองย้อนกลับไปที่ตัวอาคารห้องพักค่ะ


มาแล้วค่ะ วิ่งถือกระป๋องเปล่ามาเมื่อไหร่ ลุงกับป้าเตรียมควักเงินอีกแล้วค่ะ




เห็นสระว่ายน้ำ เด็กๆก็ร้องจะลงๆท่าเดียว บอกว่าอากาศไม่เป็นใจ ครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็ไม่ฟัง ก็เลย เลยตามเลยค่ะ






เล่นได้แป๊บเดียวจริงๆค่ะ ฝนก็เทลงมา หอบข้าวของวิ่งกลับห้องกันแทบไม่ทัน
จากนั้นก็อาบน้ำอาบท่า เตรียมตัวออกมาทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของทางโรงแรมเลยค่ะ และเพราะรู้อยู่แล้วว่าโรงแรมค่อนข้างไกลจากเขาใหญ่
น้ำเลยซื้อวอเชอร์ห้องอาหารไว้ก่อนหน้านี้ 2 ใบเลยค่ะ รู้สึกจะราคา 777 บาท ทานได้ 1 พัน นี่ล่ะค่ะ

เด็กๆพร้อม โชว์หวานกันซะหน่อย



มาดูอาหารกันค่ะ ซุปผักโขม มาพร้อมขนมปังค่ะ อร่อยตามมาตรฐานค่ะ




น้ำแตงโมปั่นของหลานสาว



คาโบนาร่าของน้องสาว ครีมเข้มข้น แต่กลิ่นชีสยังอ่อนไปนิดค่ะ แต่น้องสาวกินเรียบเลย




จานต่อมาเป็นสปาเกตตีเบคอน เห็นทีแรกก็ว่าหน้าตาแปลกๆ มีทั้งบล็อคโคลี่ มะเขือเทศ และน้ำยังนองๆอย่างที่เห็นอีกด้วย
รสชาติก็ออกไปทางเค็มๆเลยค่ะ แต่ไม่ได้บ่นอะไรนะคะ ของแบบนี้สูตรใครสูตรมันเนอะ
แต่ตอนเก็บจาน ส่งจานนี้ไปให้ พอพนักงานเห็นว่าเหลือเยอะเลยถามว่าไม่อร่อยเหรอคะ น้ำก็ยิ้มๆบอกไปว่าเค็มไปนิดนึงค่ะ
ซักพักเชฟก็ออกมาแจ้งเลยค่ะ ว่าจานนี้ต้องออกเค็มหน่อย เพราะใส่แองโชวี่ด้วยค่ะ น้ำก็ตอบแค่ ค่ะๆ อย่างที่บอกนะคะ
ของแบบนี้สูตรใครก็สูตรใคร ไม่ว่ากันจ้า




จานนี้ของหลานสาวค่ะ ข้าวผัดกุ้ง ผัดมาอร่อยนะคะ แห้งๆหอมๆ หลานสาวซัดเรียบตามระเบียบ



ผัดไทย ของคุณผู้ชายค่ะ แฉะไปนิด หวานไปหน่อย แต่หมดอีกเช่นกันค่ะ



มาถึงจานที่ปลื้มเลยค่ะ ไส้กรอกรวม จานนี้อร่อยค่ะ ไส้กรอกคุณภาพดี เนื้อๆเน้นๆ น้ำราดก็อร่อย มันบดก็อร่อยตามมาตรฐาน
แต่ไอ้เจ้าผักดองที่คล้ายๆมะระลูกน้อยๆนั่น เค้าเรียกว่าอะไรใครรู้วานบอกทีค่ะ 55555 เจ้าตัวนี้ล่ะค่ะ อร่อยมว๊ากกกกกกกก
ตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี กรอบๆหวานๆเปรี้ยวๆ แอร๊ยยย คิดแล้วน้ำลายไหลเลยค่ะเนี่ย




ของคาวอีกจาน น้องสาวเห็นมีโรตีแกงเขียวหวาน ของโปรดเค้าล่ะค่ะ เลยขอกินอีกจาน น้ำชิมไปด้วยคำนึง ส่วนตัวว่าหวานไปนิด แต่น้องสาวไม่บ่นอะไรบอกอร่อยดีค่ะ



ของหวานปิดท้าย หลานสาวเลือกเค้กในตู้มา 1 ชิ้นค่ะ น้องสาวเลือกลูกตาลลอยแก้ว ส่วนผู้ใหญ่ 2 คนรับของหวานไม่ไหวแล้วค่ะ ท้องจะแตก




จากนั้นก็กลับห้อง เตรียมตัวเข้านอน อ้อ ตอนกลางคืนเค้ามีเครื่องดื่มเสิร์ฟให้ก่อนนอนด้วยนะคะ น้ำเลือกเป็นโกโก้ทั้ง 3 แก้วค่ะ
เสร็จเจ้าตัวเล็กไป 2 ตัวใหญ่ไป 1 พร้อมบอกอีกว่าพรุ่งนี้ขออีกนะคะป้า กินกันเก่งจริงๆค่ะเด็กบ้านนี้
จบวันแรก นอนหลับสนิททั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ที่นอนนุ่มนอนสบายจริงๆค่ะ



ตื่นเช้ามาวันนี้ อากาศสดใสมากๆ แดดดีแถมมีลมหนาวโชยให้เบาใจ เพราะก่อนหน้านี้ฝนตกทุกวันเลยค่ะ และวันนี้เรามีโปรแกรมเที่ยวฟาร์มโชคชัยกันด้วย
อากาศเป็นใจแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อยนะคะ




อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็พากันมาที่ห้องอาหาร ห้องเดียวกับที่เราทานกันเมื่อคืนนั่นล่ะค่ะ อาหารเช้าของที่นี่ เค้าจะให้เราเลือกตอนที่เช็คอินเลยนะคะ
มีด้วยกัน 3 แบบ คือแบบอเมรันเบรคฟาสต์ ข้าวต้มเครื่อง และข้าวต้มขาวกับกับข้าว น้ำก็เลยเลือกมาทั้ง 3 อย่างอย่างละชุดเลยค่ะ
ตั้งใจว่าจะทานด้วยกันก่อน ถ้าไม่พอค่อยสั่งเพิ่มอีกชุด แต่ก็ไม่ได้สั่งเลยซักวันค่ะ อาหารเค้าให้มาชุดนึงเยอะจริงๆนะคะ

มาถึงก็เสริฟน้ำเปล่า น้ำส้ม เครื่องดื่มร้อนหรือนมสด และขนมปั้งปิ้งพร้อมเนยและแยม น้ำบอกแล้วว่าอีกที่นึงขอแค่น้ำเปล่าอย่างเดียวก็พอ เพราะไม่อยากเอาเปรียบน่ะค่ะ
แต่พนักงานก็เสริฟมาให้ 4 ที่เลยนะคะ ก็ประทับใจกันไปตรงนี้ค่ะ



ชุดแรก ข้าวต้มขาวกับกับข้าวค่ะ มาเยอะนะคะ น้ำว่าคนเดียวนี่ทานไม่หมดแน่ๆค่ะ กับข้าวอร่อยทุกอย่าง ผัดผักนี่ผัดมาอร่อยเลยล่ะค่ะ



ชุดอเมริกันเบรคฟาสต์ จานใหญ่มว๊ากกกกกกกกกก



อีกชามเป็น ข้าวต้มปลา มาชามใหญ่มากอีกเช่นกันค่ะ



เด็กๆก็เติมพลังกันไปค่ะ



ปิดท้ายด้วยผลไม้ล้างปาก อิ่มกันจนท้องจะแตก แถมทานไม่หมดอีกด้วยค่ะ




เสร็จแล้วก็มาทำกิจกรรมหลักของเราที่นี่กันค่ะ ให้อาหารสัตว์นั่นเอง ผู้นำฝูงสัตว์ก็หิ้วกระป๋องประจำตำแหน่งพร้อมทำงานทันทีค่ะ



สนุกสนานกันเต็มที่จริงๆค่ะ




อ้อ ที่นี่มีจักรยานให้ปั่นเล่นด้วยนะคะ จอดอยู่บริเวณหน้าห้องอาหาร แจ้งพนักงานซักหน่อยแล้วเลือกไปปั่นเล่นกันได้เลยค่ะ





ได้เวลาก็พาเด็กไปเที่ยวในเขาใหญ่กันค่ะ แวะไปถ่ายรูปที่ปาลิโอ้เล็กน้อย ต่อด้วย Panter Creek เด็กๆเริ่มโยเยหน้ามุ่ย เพราะแดดร้อนจริงๆค่ะวันนี้
เราเลยข้ามไปที่ฟาร์มโชคชัยกันเลย เดี๋ยวงแองกันมากๆจะหมดสนุกกันปล่าๆค่ะ








มาถึงฟาร์มโชคชัยซัก 11 โมงกว่าๆ แดดร้อนแต่มีลมเย็นทีเดียว มีมุมให้นั่งพักมาก แถมมีไอติมของโปรดให้ทานอีก เด็กๆก็อารมณ์ดีขึ้นแยะค่ะ









และแน่นอนค่ะ มีให้อาหารสัตว์อีกแล้ว 55555 ตรงลานจอดรถด้านนอกมีแกะ ลูกวัว และขี่ม้าค่ะ เด็กๆก็สนุกสนานกันไปตามระเบียบ





ทั้งเล่นทั้งพัก เข้าห้องน้ำห้องท่า ไปรับตั๋วเข้าชมฟาร์มที่จองไว้รอบบ่าย 2 โมง แล้วเราก็มาทานกลางวันที่นี่กันค่ะ โชคชัยเสต๊กเฮาส์
เรื่องอาหาร น้ำว่าก็โอเคระดับนึงนะคะ แต่ที่ประทับใจคือบริการมากกว่า ตอนไปถึงนี่คนเยอะมากๆ แต่พนักงานดูแลเอาใจใส่ดีมาก
เห็นตั๋วในมือก็ขอดูเวลาว่าจะเข้าชมฟาร์มรอบกี่โมง แล้วก็บอกว่าทันค่ะ รับออเดอร์เร็ว อาหารเร็ว บริการดีค่ะ
ก่อนหน้านี้ดูรีวิวหลายอัน เจอแย่ๆมา ตอนแรกก็กลัวๆเหมือนกันค่ะ แต่รอบนี้โชคดีที่ไม่มีอะไรแบบนั้น อันนี้ก็ยอมรับว่าพอใจมากทีเดียวค่ะ





ขึ้นมาก็โดนอีกด่านค่ะ อาหารปลา 5555



จากนั้นก็ได้เข้าชมฟาร์มตามเวลาค่ะ เริ่มด้วยวีดีทัศน์ความเป็นมาของฟาร์มค่ะ





พาชมพ่อพันธุ์ และความรู้เกี่ยวกับการเก็บน้ำเชื้อและผสมเทียม





การแสดงต่างๆของคาวบอย







ขี่ม้า ป้าลูกโป่ง ยิงปืน อะไรกันไปตามเรื่องค่ะ






ชมการล้มแกะค่ะ





โชว์นี้สนุกมากๆค่ะ สุนัขเลี้ยงแกะตัวนี้เก่งมากๆ เด็กๆตื่นเต้นกันใหญ่






โชว์สัตว์แสนรู้ทั้งหลาย น่ารักดีค่ะ







และปล่อยเราเดินเล่นตามอัธยาศัย และเด็กๆก็ทำหน้าที่หลักอีกครั้งค่ะ







จบแล้วออกมาทางร้านของที่ระลึก ให้เด็กๆเลือกของกลับบ้านได้คนละ 1 ชิ้น ก็เป็นอันจบ 2 ชม.กว่าๆในฟาร์ม
ซึ่งน้ำว่าสนุกดีนะคะ เห็นเด็กๆชอบ และตื่นตาตื่นใจพร้อมทั้งมีความสุข เราก็สนุกไปด้วยค่ะ


ออกจากฟาร์ม เราตั้งใจจะพาเด็กๆไปทานข้าวเย็นกันที่ Smoke House โดยเฉพาะน้องสาวนี่อยากไปมาก
เพราะเคยเห็นรูปที่น้ำไปเมื่อปีก่อน เลยขอให้พาไป วันนั้นวันที่ 8 ต.ค 56 ค่ะ น้ำยังไม่รู้ข่าวว่าร้านจะปิด
เห็นแต่หน้าร้านมีรถจอดเยอะมากๆ มียามเอาราวเหล็กมากั้นทางเข้าไว้ จอดถามเค้าก็บอกแค่ว่าวันนี้ปิดครับ เจ้านายประชุม
ถามว่าพรุ่งนี้เปิดไหมเค้าก็ตอบว่าไม่ทราบเหมือนกัน วันหลังมาใหม่นะครับ
เลยออกมาด้วยความผิดหวัง และไม่รู้จะทานอะไรดี เด็กๆก็เริ่มหิว คิดอะไรไม่ออก ก็อ่ะ.... ครัวเขาใหญ่กันอีกรอบแล้วกันนะ


ส้มตำมาค่ะ วันนี้สั่งตำป่า อร่อยเหมือนเดิม




ผัดกะเพราหมูไม่ใส่พริกของเด็กๆ




ฟองเต้าหู้ทอด กรอบๆ อร่อยดีค่ะ



ปลาทับทิมทอดกระเทียม





และของโปรดเด็กๆ แฮมซี่โครงอ่อนค่ะ แต่วันนี้ไม่รู้ยังไง มันเยอะเชียวค่ะ เด็กๆไม่ค่อยปลื้มเหมือนวันแรกเท่าไหร่





เช็คบิล กลับโรงแรมก็มืดพอดีค่ะ อาบน้ำอาบท่า พากันสลบหมดแรงตามระเบียบค่ะ


ตื่นเช้ามาอีกวันนึง จริงๆวันนี้ต้องเตรียมตัวกลับกันแล้ว แต่เด็กๆร้องอยากอยู่ต่ออีกวันนึง น้ำเองจริงๆวันนี้อาการเริ่มแย่มากแล้ว
แต่ก็อดใจอ่อนไม่ได้ เลยตามใจอยู่ต่อก็อยู่ต่อ โทรไปบอกที่ฟร้อนท์แล้วก็ออกไปทานอาหารกันค่ะ





อาหารเช้าก็มาเต็มเหมือนเดิมค่ะ





ตามด้วยอาชีพหลัก



จากนั้นปล่อยเด็กๆวิ่งเล่น ปั่นจักยาน กันให้พอใจ ส่วนน้ำเข้าห้องกินยานอนค่ะ ปล่อยหน้าที่ให้คุณผู้ชายจัดการไปค่ะ
หลับไปพักนึง ตื่นมาอีกทีตอนเด็กๆวิ่งตึงๆเข้ามาหาน้ำหาขนมกิน พักกันซักแป๊บก็เลยว่าจะลองเข้าเขาใหญ่พาน้องสาวไปดู Smoke House อีกที
แต่ก็ยังไม่เปิดค่ะ วนรถกลับมา แวะ 7-11 ซื้อขนมตุนกันเพราะวันนี้ตั้งใจจะอยู่โรงแรมกันทั้งวันไม่ออกไปไหนละ
หาอะไรแวะทานกันง่ายๆที่นี่กันค่ะ





จากนั้นก็กลับโรงแรมค่ะ พักซักนิดรอแดดอ่อนซักหน่อย พร้อมตอบคำถามเด็กๆทุก 5 นาทีว่า แดดหายร้อนยังๆๆๆ 5555 ก็เป็นอันได้เล่นละจ้า





เล่นกันอยู่นานเลยค่ะ แบบที่ไม่ต้องเรียกให้ขึ้น ให้หมดแรงแล้วร้องขึ้นเองกันไปเลยค่ะ 55555

แดดหุบพอดี







อาบน้ำอาบท่า พากันมาเตรียมทานอาหารเย็นกัน ก่อนทานก็ทำหน้าที่กันอักซักหน่อย









บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทยามเย็นค่ะ





จากนั้นก็พร้อมรับประทานอาหารค่ะ

เริ่มด้วยน้ำมะนาวโซดาของน้ำเอง หวานเปรี้ยวชื่นใจดีค่ะ



สตอเบอรี่สมู๊ทตี้ของน้องสาวค่ะ



แคนตาลูปปั่นของหลานสาวค่ะ หอมชื่นใจดี




จานแรกเป็นมันฝรั่งทอดปรุงรสโรยเบคอนกรอบ เด็กๆชอบค่ะ



ข้าวผัดกุ้งของหลานสาว เหมือนเดิมค่ะ



คาโบนาร่าของน้องสาว



สปาเก็ตตี้หมึกดำซีฟู้ด




เสต๊กหมู จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ แต่จานนี้อร่อย หมูนุ่ม น้ำราดอร่อยดีค่ะ



ต้มยำอะไรซักอย่างคุณผู้ชายสั่ง รสกลางๆ ไม่ถูกปากบ้านเราเท่าไหร่ ตอนสั่งก็ลืมเน้นว่าขอรสจัดๆแซ่บเองค่ะ




ยำวุ้นเส้น



วันนี้ทานกันไปเท่านี้ พอถึงห้อง น้ำก็กินยาแล้วรีบนอน ปล่อยคุณผู้ชายเล่านิทานอะไรไปเรื่อยเปื่อย
ส่วนมื้อเช้าก็ลุกไปทานไม่ไหว ให้แฟนพาเด็กๆไปทานกันเองค่ะ จากนั้นเค้าก็พากันไปให้อาหารสัตว์พร้อมบอกลากันให้เรียบร้อย
ส่วนน้ำเองไม่ได้ลุกไปไหนเลยค่ะ เพราะอาการวันนี้แย่มากแล้ว เช็คเอ้าท์ได้ก็กลับบ้าน พาเด็กๆมาคืนพ่อแม่เค้า
แล้วก็รีบไปหาหมอ โดนจับแอดมิทต่ออีกซะ 3 คืน สบายไปค่ะ เช้าวันสุดท้ายเลยไม่มีรูปมาฝากเลยนะคะ เพราะไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วจริงค่ะ

พูดถึง วาลาตา รีสอร์ท ซักหน่อย
จุดด้อยเดียวของที่นี่สำหรับบ้านเราเลยคือ รีสอร์ทห่างจากตัวเขาใหญ่ 18 กม. ซึ่งถือว่าไกลพอสมควรอยู่
คงไม่เหมาะเท่าไหร่ หากคนที่มาเที่ยวตั้งใจจะเที่ยวกินดื่มในเขาใหญ่ซะมากกว่า คงไปมาลำบากหน่อย
แต่ถ้ามาแบบครอบครัว ต้องการความเป็นส่วนตัว พักผ่อนเงียบๆ บรรยากาศดีๆ ที่นี่ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวค่ะ
จุดแข็งที่นี่สำหรับครอบครัวเราเลยคือการบริการค่ะ พนักงานทุกคนบริการเราดีมากๆๆๆๆ จริงๆค่ะ
ยิ้มแย้มทักทายดีตลอด ทั้งพนักงานห้องอาหารก็ดูแลดี สุภาพ เรียบร้อย เอาใจใส่
อย่างเวลาเราไปเล่นที่สระน้ำ ไม่ถึง 5 นาที จะมีพนักงานตามมาเฝ้าตลอด ขนอุปกรณ์เล่นน้ำมาให้ และอยู่ตลอดเวลาจนเราเล่นเสร็จเลยค่ะ
คือรู้สึกได้ว่าทุกคนตั้งใจ เต็มใจ และมีใจที่จะทำให้จริงๆ ก็ขอบอกว่าขอบคุณที่ดูแลเราอย่างดี และเราประทับใจมากๆค่ะ



จบทริปปิดเทอมกับตัวแสบทั้ง 2 คนไว้เท่านี้ เสียดายที่ร่างกายไปพร้อมเท่าที่ควร ไม่อย่างนั้นคงสนุกกว่านี้แน่ๆ
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เทอมหน้าตั้งใจว่าจะพาเค้าไปเที่ยวกันอีก รอบนี้ติดใจกันทุกคนค่ะ
ทริปหน้าจะเป็นที่ไหนอย่างไร ติดตามนะคร๊า
พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ สวัสดีค่า

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2556		2 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2556 14:37:12 น.
Counter : 3437 Pageviews.
Share Tweet