Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
7 กันยายน 2557
 
All Blogs
 

*กิน นอน พักผ่อน ตะลอนไป วังน้ำเขียว-เขาใหญ่ วันฝนพรำ ตอนจบค่า

เรามาต่อตอนจบกันเลยค่ะ

พอออกจากเดินดินดูดาว ก็ตั้งใจว่าจะไปหาที่นอนแถวเขาใหญ่กันอีกซักคืน แต่อยู่ดีๆก็นึกถึงที่นี่ขึ้นมาดื้อๆ ที่ "บ้านภูนรินทร์" ค่ะ

ด้วยจำได้แม่นเลยจากรีวิวห้องนี้ แล้วจำได้ว่า 2-3 ปีก่อนเคยโทรไปถามห้อง อมรเบิกฟ้า อันเลื่องชื่อ แต่ก็ไม่เคยว่างซักที

แต่วันนี้เป็นวันจันทร์ แถมไม่ใช่หน้าหนาวอีกด้วย ลองโทรดูซักหน่อยดีกว่า และก็โป๊ะเชะค่ะ ทางรีสอร์ทบอกว่าว่าง น้ำถามทางพอสังเขป

ได้ความว่าให้เกาะป้ายตลาดน้ำเขาใหญ่ไปเรื่อยๆก็จะถึง ประกอบกับเปิดดูแผนที่จากเวปดูไปด้วย ก็ไปถึงง่ายไม่หลงเลยค่ะ

แต่ด้วยความที่รู้มาว่ารีสอร์ทอยู่ห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหาร เลยชวนกันไปหาอะไรกินกันที่เขาใหญ่ก่อน ถือเป็นการขับรถเล่นชมนู่นนี่ไปเพลินๆค่ะ

มาถึงเขาใหญ่ตอนแรกลังเลว่าจะกินร้านไหนดี ระหว่างครัวลุงชุบ กับครัวยุ้งข้าว เพราะดูรีวิวแล้วอยากลองทั้ง 2 ที่เลย

แต่สุดท้ายก็เป็นที่ครัวยุ้งข้าวก่อนแล้วกันนะคะ สำหรับครัวลุงชุบคราวหน้าแน่นอนค่ะสัญญา


ร้านนี้หาไม่ยากค่ะ อยู่บนถนนธนะรัชต์เลย น้ำวิ่งตรงมาจากทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปทางที่เราจะตรงไปปากช่องน่ะค่ะ

ผ่านปาลิโอ ครัวเขาใหญ่ ไปเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ติดถนนเลยนะคะ อยู่ติดกับ sheep land เลยค่ะ หาไม่ยากแน่นอนค่ะ




แก้วนี้เป็นน้ำวุ้นใบเตยค่ะ ราคา 35 บาท ตอนแรกที่สั่งนึกว่าจะมีวุ้นให้เคี้ยวด้วย อิอิอิ

หอมดีเลยค่ะ ส่วนตัวว่าหวานไปนิด แต่เติมน้ำเปล่าแล้วชอบค่ะ ชื่นใจ๊ ชื่นใจ




มาดูอาหารที่สั่งไปกัน แกงคั่วหอยขมค่ะ (150 บาท) ทำมาได้ดีเลยนะคะ กะทิหอมมัน ข้นกำลังดี แต่คุณผู้ชายบ่นว่าไม่หวาน หุหุหุ แปลว่าน้ำจะบอกว่าอร่อยค่ะ

เพราะถ้าเธอบอกว่าอร่อยเมื่อไหร่ น้ำเป็นต้องบ่นว่าหวานไปทู๊กทีเหมือนกัน




น้ำพริกไข่เค็ม (120 บาท)

ตัวน้ำพริกเป็นหมูสับผัดมากับกะปิ เค็มๆหอมๆ หวานนิดๆ โรยหน้ามาด้วยไข่เค็ม มีเครื่องเคียงเป็นไข่เค็มอีก ปลาสลิดทอดกรอบ และผักสดค่ะ

อร่อยดีนะคะ โดยเฉพาะปลาสลิด มาแบบเนื้อล้วนๆและกรอบมากๆ มา 3 ชิ้นแบ่งกันไม่ลงตัว แต่ไม่ต้องทะเลาะกันค่ะ วัดกันที่น้ำหนัก น้ำเลยช่วงชิงมาได้แน่นอนค่ะ 5555




มะระผัดไข่ (100 บาท)

จานนี้สั่งด้วยความอยากกินของตัวเองล้วนๆ แต่พอสั่งไปแล้วนึกได้ว่าไม่น่าสั่งเลย

เพราะจานนี้หาร้านที่ทำอร่อยยากค่ะ ถ้าไปสั่งร้านที่ไม่เคยกินมักจะเป็นเมนูที่พลาดเสมอ

แต่พอมาถึงมันอร่อยมากอ่ะค่ะ ผัดมาหอมมากๆ มะระไม่ได้ขมจนกินไม่ได้เหมือนบางร้าน แต่มันก็ยังขมอยู่นคะ ก็ถ้าไม่ขมมันก็ไม่ใช่มะระเนอะ

ไข่ดูจากสีคงใช้ไข่เป็ดแน่ๆ ปรุงรสมาดี เค็มๆหอมๆ ตัดกับมะระขมนิดๆ ทานเล่นได้เกือบหมดจานเลยค่ะ เลิฟๆค่ะจานนี้




มื้อนี้มีข้าวเปล่าอีก 2 ถ้วย (30 บาท) น้ำเปล่า 1 ขวด (15 บาท) น้ำแข็งเปล่า 2 แก้ว (6 บาท) รวมเบ็ดเสร็จมื้อนี้ 456 บาทค่า

(ไม่ใช่ว่าความจำดีอะไรนะคะ เอาบิลมากางดูค่า อิอิอิ)




ขับรถย้อนกลับมาทางอุทยานเขาใหญ่นะคะ คิดว่าจะหากาแฟกับขนมกินกันกรุบกริบ เลือกร้านนี้ค่ะ The Chocolate Factory

ร้านนี้ถ้ามาจากครัวยุ้งข้าว ร้านจะอยู่ขวามือนะคะ อยู่ตรงข้ามกับร้านครัวเขาใหญ่เลยค่ะ หาไม่ยากอีกเช่นกันจ้า

เดินเข้าไปภายในร้านเป็นห้องแอร์ กว้างขวางน่านั่งทีเดียว ซ้ายมือมีตู้เค้ก และตู้ช็อคโกแลตชิ้นเล็กๆให้เลือก มีห้องกระจกทำช็อคโกแลตเล็กๆอยู่ติดกัน

มองเห็นข้างในได้ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ แหะ แหะ

เลือกขนมแล้วก็มานั่งกันเล๊ย ที่น้ำเลือกมามีชื่อว่า I Love Chocolate ค่ะ แค่ชื่อก็ฟินแล้ว (90 บาท)

ชิ้นนี้กินคำแรกฟินมากค่ะ (เอามือทาบอกน้ำตาไหล) มันเวรี่ๆช็อคคะลึ๊ตมั่กๆ 55555 ข้างในเป็นเค้กช็อคเนื้อแน่นหนัก สลับกับชั้นช็อคโกแลตแน่นๆ

แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ......ด้วยความหนักแน่น แน่นหนักนี้นะคะ น้ำไม่แนะนำให้ทานคนเดียวทั้งชิ้นนะคะ เพราะพอคำที่ 4-5-6 มันเริ่มไม่อร่อยแล้วค่า

ทางทีดีควรหาคนช่วยกิน ยิ่งสาวๆนี่ ถ้าสั่งมาแบ่งกันคนละคำสองคำ ขอบอกว่าสวรรค์ของคนรักช็อคโกแลตจริงๆค่ะ

แต่ถ้ามาคนเดียวคิดจะกินทั้งชิ้นแบบน้ำนี่ เห็นที่จะไม่ไหวละค่า คุณผู้ชายชิมไปคำเดียวส่ายหัวดิก บอกว่ามันช็อคโก้มากๆ

อ้าว....ก็แน่สิยะ ก็มันชื่อ I Love Chocolate ยูว โน๊ววววววว?? 55555555




ของคุณผู้ชาย บานอฟฟี่ค่ะ (75 บาท)

ชิ้นนี้ธรรมดาๆค่ะ ไม่ดีล้ำ และไม่ได้ย่ำแย่อะไร อร่อยตามมาตรฐานบานอฟฟี่ในราชอาณาจักรค่า




มารขาว มารดำ มาแว๊ว รู้เลยนะคะว่าชิ้นไหนของใคร




มาถึงเครื่องดื่มกันบ้าง คุณผู้ชายเลือกเป็น อเมริกาโน่เย็น (130 บาท)

น้ำไม่ได้ชิมค่ะ ถามเธอเธอก็ว่าอร่อยเหมือนๆกันหมด ไม่รู้ถ้าเอาโอเลี้ยงมาให้เธอกินเธอจะรู้หรือเปล่าโน๊ะ อิอิอิ




ของน้ำเป็นคาปูชิโน่ร้อน (90 บาท)

น้ำชอบดื่มแบบนี้เลยค่ะ ไม่ปรุงใดๆเพิ่มทั้งนั้น ตัวกาแฟหอมดีนะคะ ไม่ได้หอมประทะจมูกแรงตั้งแต่ครั้งแรกที่วาง

แต่พอดื่มไปอึกแรกก็หอมละมุนไปทั่วปากทั่วคอดี จิบเรื่อยๆหอมเรื่อยๆค่ะ หอมกาแฟนม ขมๆนุ่มๆ อร่อยตามมาตรฐานกาแฟสดทั่วไป

( เอ๊ะ สรุปแล้วก็ตอบเหมือนคุณผู้ชายนี่เนอะ จะบรรยายทำไมให้ยืดยาว 555)





มีถ่ายมารูปนึง ที่เห็นไกลๆนั่น ตู้ซ้ายเป็นตู้ช็อคโกแลตนะคะ มีช็อคโกแลตเป็นคำๆ คำเล็กๆ คำละประมาณ 30-40 บาทค่ะ

ไม่รู้ราคาแบบนี้แรงไม๊ เพราะไม่ได้ชิมค่ะ ของแบบนี้ต้องได้กินก่อนเนอะ ถึงจะรู้ว่าแพงหรือไม่แพง เพราะถ้าอร่อยมาก พอใจมาก เราก็ว่าไม่แพงนะคะ

ส่วนตู้ขวาเป็นตู้เค้ก เบอเกอรี่ต่างๆค่ะ อ้อ มีมาการองด้วยนะคะ แต่ไม่ได้ลองเช่นกันค่ะ





จบมื้อนี้ด้วยราคา 424 บาท มี SC 10% ค่ะ

ส่วนตัวว่าโอเคนะคะ ร้านสวย น่านั่ง นั่งสบาย พนักงานบริการดีไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสไป จะไปแวะชิมช็อคโกแลตชิ้นเล็กๆดูบ้างค่ะ

คิดๆแล้วเสียดาย ไม่ได้ซื้อกลับมาชิมเนอะ


ออกจากร้านกาแฟ ก็ตรงมาที่บ้านภูนรินทร์เลยค่ะ มาทางที่จะขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นะคะ

แล้วเลี้ยวซ้ายไปทงที่เหมือนเราจะไปวังน้ำเขียว ตรงมาซักประมาณ 18 กม. จะมีป้ายให้เลี้ยวซ้ายไปตลาดน้ำเขาใหญ่ เราตามป้ายนั้นมาเลยค่ะ

เกาะป้ายตลาดน้ำมาเรื่อยๆซัก 6-7 กม.นะคะ จะเจอป้ายบ้านภูนรินทร์ให้เลี้ยวขวา เราก็เลี้ยวไปตามป้ายค่ะ จากนี้ก็จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆแล้วค่ะ

ขับช้าๆ มองป้ายดีๆ ไม่หลงแน่ๆค่ะ ทางช่วงนี้มีขรุขระบ้าง แต่ไม่แย่มากนะคะ รถเก๋งไปได้สบายค่ะ

พอเข้าเขตบ้านภูนรินทร์ขับขึ้นเขามาเรื่อยๆ ทางดีมากค่ะไม่ต้องห่วง มองวิวกันเพลินลืมถ่ายรูปเลยค่ะ (จริงๆคือเวลาอิ่มจะขี้เกียจแบบนี้ล่ะค่ะ)

กลับมานั่งทำรีวิวยังนึกเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายทางระหว่างขึ้นเขามา น่าตีมากๆเนอะ อิอิอิ

มาถึงแวะเช็คอิน ลุงที่ดูแลไม่ถามอะไรเลย ยื่นกุญแจห้องให้ บอกว่าเดี๋ยวให้เด็กพาไปที่ห้องแล้วตอนเย็นลงมาทานข้าวนะครับ

น้ำต้องถามย้ำว่า ห้องไหนค่ะ ลุงบอกว่า ห้องอมรเบิกฟ้านะครับ ก็โอเคค่ะ เป็นอันเข้าใจตรงกัน เพราะตอนน้ำโทรมาถาม เป็นเสียงผู้หญิงรับน่ะค่ะ

แปลว่าคงมีการแจ้งกันไว้แล้ว รับกุญแจเรียบร้อย เงินทองยังไม่ทันได้จ่าย ลุงบอกให้ไปพักผ่อนก่อน ตอนเย็นลงมาทานข้าวได้ตั้งแต่ 5 โมง ถึง 2 ทุ่มนะค้าบบบบ

อ่ะ  มาค่ะๆ ไปที่ห้องกันเลย


เปิดประตูเข้ามา เจอเตียงเลยค่ะ ห้องไม่ใหญ่มาก แต่เตียงกว้างเต็มพื้นที่ด้านนึงเลยค่ะ มีที่นอนเล็กปูไว้ด้วย นอน 3 คนสบายๆค่ะห้องนี้






วิวจากหน้าต่าง มีโซฟ้าผ้าให้นั่งเล่นตัวนึง นั่งสบาย และสามารถปรับยาวเป็นที่นอนได้ด้วยนะคะ คิดว่าถ่ายรูปโซฟามาแล้ว แต่ไหงไม่มีไม่รู้ค่ะ ฮี่ๆๆ




กระติกน้ำร้อน แก้วน้ำ มีกาแฟให้ด้วย ตู้เย็นเล็ก และทีวีติดจาน ชัดแจ๋วทุกช่องค่า




ด้านปลายเตียงมีราวตากผ้าและผ้าเช็ดตัวให้ 2 ผืนค่ะ




เปิดไปดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ แชว๊งงงงงงง




ห้องน้ำไม่กว้างมาก แต่ใช้สอยสะดวกทุกอย่างค่ะ แยกโซนเปียกโซนแห้ง ตรงไปตรงนั้นเป็นที่อาบน้ำค่า




ฝักบัว พร้อมหัวเปิดแบบปรับร้อนเย็นได้ค่ะ ตอนแรกเห็นแบบนี้ก็หวั่นๆใจ ว่าน้ำจะอุ่นไหมน๊อ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ

น้ำร้อนได้ดั่งใจมากๆ อาบกันทีเหมือนอยู่ในเมืองหมอกกันเลยทีเดียว




เปิดหน้าต่างดูวิวกันหน่อย วิวสวยมากกกกกกกกกก เขียวขจีสุดลูกตา

แต่.....เริ่มร้อนแล้วค่า อากาศอึดอัดเหมือนฝนจะตก เลยรีบปิดหน้าต่าง เปิดแอร์ และ........หลับค่ะ!!!!





หลับสนิทจริงๆค่ะ กาแฟที่กินมาคนละแก้วไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ตื่นมาฝนหยุดแล้วค่ะ เจอหมอกฟุ้งๆ เหลือไว้แต่ความสดชื่นนนนนนน






ซัก 6 โมงเย็น เราก็ลงไปกินข้าวกันค่ะ ตอนแรกว่าจะเดินลงไปจากห้อง แต่ว่าฝนตกอีกแล้วค่ะ เลยอดเดินเล่นเลยเนอะ ว้า..แย่จัง

(จริงๆแอบดีใจ เพราะจะได้ไม่ต้องเดินกลับขึ้นมาต่างหาก 55555)




บรรยากาศจากห้องกินข้าวค่ะ




มานั่งปุ๊บ น้ำเย็นๆก็มาเสริฟค่ะ

อ้อ ลืมบอกไป ค่าห้องที่นี่รวมค่าอาหาร 2 มื้อด้วยนะคะ คือมื้อเย็นที่เราเช็คอิน และมื้อเช้าค่า ทานได้เต็มที่ ไม่พอขอเพิ่มได้อีกแต่ต้องทานให้หมดนะคะ

แต่ที่ทางรีสอร์ทจัดมาให้นี่ก็เยอะมากๆสำหรับ 2 คนแล้วค่ะ




ข้าวสวยร้อนๆใส่โถน้อยๆมาค่ะ




หม้อแรกยกมา เป็นต้มแซ่บกระดูกหมูค่ะ กระดูกหมูเปื่อยดี รสชาติอร่อย ซดกันร้อนๆฝนตกพรำๆ ฟินค่าฟิน




ผัดคะน้าผัดหมู+กุ้ง อร่อยอีกแล้วค่ะ จานนี้กินกันจนไม่เหลือผักซักก้านเลยค่ะ (น้ำกินทัน 2 คำสุดท้ายเองค่ะ คุณแฟนกวาดเกือบเรียบ)




ไข่เจียวหมูสับ อร่อยตามมาตรฐานจ้า




ปลากระพทอดราดน้ำปลา จานนี้ปลื้มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ปลาสดมากกกกกกกกก ทอดมาดีมากกกกกกกกกกก น้ำราดอร่อยมากกกกกกกกก

หักคะแนนเรื่องเดียวค่ะ......ทำให้น้ำเลือกกินไม่ถูกค่ะ ระหว่างต้มแซ่บกับปลาทอด กินไปจนท้องเกือบแตกยังกินปลาไม่หมดเลย เสียดายมากค่า 555555




พร้อมลุยค่า




มื้อนี้ประทับใจมากค่ะ อาหารอร่อย บรรยากาศดี คุณลุงกับพนักงานดูแลดีมากๆ (ถ้าเข้าใจไม่ผิด รู้สึกวันนี้จะมีแขกแค่ห้องเดียวคือเรานี่ล่ะค่ะ)

คุยกับคุณลุง ว่าพรุ่งนี้จะมีหมอกบ้างไม๊ ลุงให้กำลังใจว่า อาจจะไม่มีแล้วค่ะ!!!!! 5555555

เพราะว่าวันนี้ฝนตกเหลือเกิน แถมยังบอกว่าเมื่อเช้านี้หมอกเยอะมาก สวยมากๆ เพราะเมื่อวานฝนไม่ตก

เอิ่ม.....ณ เวลานั้นอยากกระโดดกัดคอลุงมากค่ะ แต่เห็นแก่ปลาทอด เอ๊ย ความใจดีของคุณลุง น้ำเลยนั่งเคี้ยวปลาทอดกร๊วบๆต่อไป

เลยปลอบใจลุงไปว่า เรื่องอย่างนี้มันแล้วแต่ดวงเนาะลุงเนาะ ลุงก็ว่า ใช่จ้าๆ (เอ๊ะ ลุงต้องปลอบหนูไม๊คะ 5555)

แต่ก่อนกลับขึ้นห้อง ลุงยังให้กำลังใจ(จริงๆ)ว่า ถ้าคืนนี้ฝนหยุดก่อนเที่ยงคืน พรุ่งนี้คงได้เห็นหมอกนะค้าบบบบบบ ความหวังลุกโชนในใจอีกครั้ง กราบแทบอกคะคุณลุง 55555




จากนั้นก็ขึ้นห้อง อาบน้ำ นอนดูละครไปลุ้นฝนไป ฝนก็ตกเหยาะแหยะตลอด เงียบไปให้มีความหวังได้เดี๋ยวเดียว ก็ซู่ซ่าลงมาอีก

จนตอน ตี 2 ลุงมาเข้าห้องน้ำ ยังได้ยินสียงฝนตกอยู่เลยค่ะ โอเคค่ะ ยอมค่ะยอม ไม่มีหมอกก็ไม่มีค่ะ อย่างว่านะคะ เรื่องอย่างนี้มันแล้วแต่ดวง

แต่ก็ยังไม่วาย แอบตั้งปลุกไว้ตอน 6 โมงเช้า กะว่าลุกมาส่องเสียหน่อยแล้วกัน ถ้าไม่มีหมอกค่อยนอนต่อก็ได้เนอะ

แต่ก่อนนาฬิกาจะปลุก มีเสียงเคาะประตูเรียกค่ะ!!!

คุณลุงนั่นเอง แว๊นรถเครื่องขึ้นมาปลุกเราค่า ว่ามีหมอกอยู่ทางขวามือ ลุกมาดูเร๊วววววววววว 555555

(คุณลุงน่ารักมาก ณ จุดนี้ หนูปลื้มมากค่ะ กราบบบบบบ)


รีบเปิดหน้าต่างส่องทางขวามืออย่างที่ลุงบอก เจอละค่า มาเป็นสายเลยอยู่ทางฟากกระโน้น ว้าวๆๆๆๆ




ออกมาถ่ายมุมมหาชนที่ข้างห้องซะหน่อย นี่ล่ะค่ะ วิวจากห้อง อมรเบิกฟ้า ของเรา สมชื่อจริงๆนะคะ




เดินเล่นไปทางซ้ายบ้าง ไม่มีหมอกให้เห็นเป็นสาย แต่มีหมอกฟุ้งอยู่ทั่วไปเลยค่ะ แจ่มว๊าวมากๆ




แอบซูมๆดูใกล้ๆหน่อย แม้ไม่ได้มีเยอะมากอย่างที่อยากเห็น แต่แค่นี้ก็สวยมากแล้วนะคะ นี่ล่ะค่ะความงามจากธรรมชาติอย่างแท้จริง

เราไม่รู้เลยว่าวันไหนธรรมชาติจะสรรสร้างอะไรให้เราได้เห็นบ้าง นึกถึงคำพูดนี้ขึ้นมาทันที

"ไม่มีวันไหน จะสมบูรณ์พร้อมไปหมดหรอกแม่พลอย ทุกๆวัน...มันก็สวยงามอย่างที่มันเป็นนั่นล่ะ" (จากละครเวทีเรื่อง 4 แผ่นดินเดอะมิวสิคัล) 55555




แอบแว๊บไปล้างหน้าล้างตาซักประเดี๋ยวเดียว พอออกมาเท่านั้นล่ะค่ะ อยากจะกรี๊ดเลยทีเดียว!!!!!!!!

ไม่รู้มาจากไหน หนาฮึ้บขึ้นมาเฉยๆเลยค่ะ สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก





สวยใจละลายเลยจริงๆค่ะ









แอบส่องดูบ้านหลังน้อยๆในสายหมกซะหน่อย อยู่ตรงนั้นจะรู้สึกยังไงน๊า



ไหลมาอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ สวยงามชื่นใจจริงๆ






เพื่อเป็นการยืนยัน ว่าวิวทั้งหมดนี้เห็นได้จากห้องนอนเลยนะคะ ไม่ต้องลำบากไปที่อื่นเลย ฟินจริงอะไรจริงค่ะ




นั่งดูหมอกจนหนำใจ เราก็ลงมากินข้าวเช้ากันค่ะ ตามมาค่ะๆ ทางนี้ค่า






มีกาแฟ โอวัลตินให้ชงเองค่ะ




ระหว่างรออาหาร เก็บรูปรอบๆบริเวณมาฝากกันค่ะ





















แอบส่องเห็นวัดอยู่บนยอดเขาลูกนู้น ใครชอบลองแวะไปได้นะคะ วิวน่าจะสวยไม่เบา แต่น้ำเห็นบันไดขึ้นวัดแล้วขอเอาไว้ก่อนแล้วกันค่ะ แหะ แหะ




อาหารมาแล้วค่า เป็นเสต๊กหมู ไข่ดาว ขนมปังปิ้งค่ะ อร่อยค่ะๆ





ตามมาด้วยข้าวต้ม เป็นข้าวต้มกระดูกหมู ใส่หมูสับและเห็ดหอม อร่อยอีกแล้วค่า





มื้อนี้อิ่มอร่อยอีกแล้วค่ะ คุณลุงถามว่าจะเติมอะไรอีกไม๊ แต่ไม่ไหวจริงๆค่ะ แค่นี้ก็อิ่มแย้วค่า





กลับขึ้นมาที่ห้อง หมอกหายไปหมดแล้วค่ะ ท้องฟ้าขมุกขมัวเหมือนฝนจะตก นอนดูทีวีกลิ้งไปกลิ้งมา ก็หลับไปอีกรอบค่ะ (ทริปนี้นอนเยอะมากๆ 5555)






ตื่นมาอาบน้ำอาบท่า เตรียมตัวกลับบ้านกันแล้วค่ะ ฟ้าเริ่มใสแล้วจ้า




รูปสุดท้าย ณ มุมมหาชนข้างบ้าน อมรเบิกฟ้านะคะ ลาแล้วค่าบ้านภูนรินทร์ จุ๊บๆ






แวะคืนกุญแจ ลาคุณลุง แล้วเราก็จากบ้านภูนรินทร์มาค่ะ

สำหรับที่นี่นะคะ น้ำชอบมากๆ ทั้งอากาศ บรรยากาศ อาหาร ทุกอย่างโอเคหมด

ห้องพักไม่กว้างขวางมาก แต่สะดวกสบายและสะอาดดี

แม้จะไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นไปซักหน่อย แต่ถ้าตั้งใจมาพักผ่อน ตากอากาศ น้ำว่าที่นี่เหมาะมากค่ะ

ตั้งใจว่าคราวหน้าอยากพาครอบครัวมาด้วยกันเยอะๆ คงสนุกกันน่าดู

ส่วนตัวที่เสียดายนิดหน่อยคือห้อง อมรเบิกฟ้า ที่น้ำพักนี่ล่ะค่ะ น้ำว่าด้วยวิวที่สวยกินขาดขนาดนี้แล้ว

ถ้าปรับแต่งห้องให้สวยกว่านี้ซักหน่อย มันจะเข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบมากๆเลยค่ะ





ออกจากภูนรินทร์ น้ำก็กลับมาทางวังน้ำเขียวค่ะ ตั้งใจจะแวะหามื้อเที่ยงกิน ซื้อของฝากแล้วก็กลับบ้าน

ร้านแรกเลยตั้งใจจะแวะไปที่ร้านสุกี้คุณต๋อย เพราะจะได้กินข้าว กินขนม กินกาแฟที่เดียวกันให้จบไปเลย

แต่พอไปถึงปรากฎว่าร้านปิดค่ะ!!!! ถามน้องที่อยู่ในร้านกาแฟ ได้ความว่าร้านปิดทุกวันอังคารนะคะ แหง่วๆๆๆ อมยิ้ม20


อ่ะ ไม่เป็นไร เรายังมีแผนสำรอง ไปกินปลาเผาเขาสลัดไดก็ได้ เพราะว่าเคยกินมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก็อร่อยทุกครั้งค่ะ แต่พอไปถึงหน้าร้าน

เจอป้ายติดไว้ว่า หยุดทุกวันอังคาร!!!!! เพี้ยนรมเสีย คืออะไรกันคะคุณขา พร้อมใจกันหยุดมากๆ 55555

ขับมาเรื่อยๆ ตัดสินใจว่าเจอก๋วยเตี๋ยวก็กินก๋วยเตี๋ยวล่ะค่ะ หิวแย๊ว ว๊าคคคคคคคค เม่าโกรธ


ขับเลยปลาเผาเขาสลัดไดมานิดเดียวค่ะ มองไปฝั่งตรงข้าม เห็นร้านอาหารติดป้ายว่า "เปิด" ตัวเบ้อเร่อ เลยตัดสินใจเข้าไปลองกันดูค่ะ

ร้านนี้ค่า "บ้านครัวรุ่งอมร"




แล้วความผิดหวังจาก 2 ร้านก่อนหน้านี้ กลับทำให้เราได้ค้นพบร้านอร่อยร้านใหม่ จดไว้ในลิสต์เราเลยค่ะ ว่าร้านนี้โอเคมากๆ

อย่างแรกที่สั่งมา "ต้มยำปลาคังหน่อไม้ดอง" ตอนแรกคุณผู้ชายงงๆ น้ำก็งงเหมือนกัน

สรุปว่าพอมาถึงคือแกงหน่อไม้ดองใส่ปลาคังนั่นแหละค่ะ แต่เค้าเขียนต้มยำจริงๆนะคะ น้ำจำไม่ผิดหรอก อิอิอิ

ชามนี้อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก ขนาดหน่อไม้ยังอร่อยเลยอ่ะค่ะ หน้อไม้อ่อนมากๆ น้ำแกงก็แซ่บสุดๆ ปลาก็สดดี ปลื้มจริงๆค่ะชามนี้




จานนี้ "ปลาทับทิมทอดกระเทียม" มาพร้อมน้ำจิ้มเปรี้ยวๆ อร่อยมากๆค่ะ






เนื้อปลาสด ทอดมาอร่อยเลยค่ะ ยิ่งกระเทียมที่ทอดโรยมาบนตัวปลานี่อร่อยมากๆ รู้เลยว่ากระเทียมนี่ทำใหม่ทำจานต่อจาน

ตัวกระเทียมมีรสชาติเค็มๆหอมๆด้วยค่ะ คลุกข้าวกินอร่อยมากเลย อมยิ้ม36





จานสุดท้าย สั่งตำลาวไป แต่จานนี้พลาดเองค่ะ ลืมบอกว่าไม่หวาน และลืมย้ำว่าขอเผ็ดๆด้วย เลยได้มาไม่ใช่อย่างที่ชอบ

แต่ก็อร่อยกลางๆนะคะ ใครชอบแบบไหนอย่าลืมขอรสชาติตัวเองไปด้วยเน้อ...





มื้อนี้อร่อย (อีกแล้ว 55555) ยังคุยกับแฟนเลยว่าคราวหน้ามากินที่นี่อีกดีกว่า ติดใจแกงหน่อไม้มากเลยค่ะ

มื้อนี้มีข้าวเปล่า 3 จาน (หุ หุ) น้ำเปล่า 2 ขวด รวมแล้ว 475 บาทค่า










จากนั้นก็ไปซื้อของฝากหน้าทางเข้าไทยสามัคคี ซึ่งวันนี้พ่อค้าแม่ค้ามาขายของกันน้อยมากๆ เปิดอยู่ไม่กี่ร้านเองค่ะ

ของที่ซื้อทุกครั้งที่มาวังน้ำเขียวคงไม่พ้นบรรดาเห็ดทั้งหลาย โดนเฉพาะเห็ดออรินจิ ผักสดอย่างผักสลัดต่างๆ

องุ่นไร้เมล็ดลูกเล็กๆหวานๆ ช่วงนี้กำลังเยอะเชียวค่ะ พุทรานมสด น้ำมัลเบอรี่ และแยมมัลเบอรี่

ช่วยกันซื้อร้านละนิดละหน่อย อุดหนุนพ่อค้าแม่ค้านะคะ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับบ้าน ฝนตกตลอดทางเลยค่ะ แต่ก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

จบแล้วค่ะ ทริปเล็กๆ เน้นไปกินไปนอนของแท้เลยนะคะ เป็นอีกทริปที่ประทับใจ และได้ชาร์ตพลังกลับมาเต็มเปี่ยม

อย่างน้อยๆเวลาเราเจอปัญหาอะไร คิดยังไงก็คิดไม่ออก ก็เอาตัวเองออกจากปัญหานั้นซักครู่นะคะ

มันไม่ใช่การหนีปัญหา แต่เป็นการวางปัญหาเพื่อรวบรวมสติมาแก้ไขมัน เหมือนก่อนที่เราจะกระโดดไปข้างหน้าได้

เราก็ต้องถอยซักก้าวสองก้าวเพื่อตั้งหลักก่อนอย่างนั้นล่ะค่ะ เพี้ยนเพลีย

เวลาเราไปยืนอยู่ที่สูงๆ เห็นบ้านช่องหลังเล็กนิดเดียว เห็นโลกในมุมกว้างๆไกลๆสุดสายตา

บางทีก็ทำให้เราคิดได้ว่าตัวเราเนี่ยเล็กนิดเดียวเองนะคะ (แม้ปรกติจะรู้สึกว่าเล็กกว่าลูกช้างนิดนึงก็ตาม อมยิ้ม07)

ปัญหาของเราก็ยิ่งเล็กประติ๋วเดียวลงไปอีก สูดหายใจลึกๆแล้วลงมาสู้กับมันดีกว่าค่ะ

และอย่างน้อยๆ ทริปนี้ก็ได้สอนให้รู้ว่า ถ้าเราไม่รู้จักผิดหวังจากสิ่งที่เราอยากได้เสียบ้าง เราจะไม่มีทางได้สิ่งใหม่ที่ดีเทียบเท่าหรืออาจดีกว่าก็ได้นะคะ

ไม่เช่นนั้น เราคงไม่ได้กินแกงหน่อไม้อร่อยๆในร้านที่เราไม่ตั้งใจแน่ๆ จริงไม๊คะ เพี้ยนไฟลุก

วันนี้ลาไปเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาทักทายนะคะ พบกันใหม่รีวิวหน้านะคร๊าาาาาาาาาาา  สวัสดีค่าาาาาาาาา เม่าบัลเล่ต์






 

Create Date : 07 กันยายน 2557
0 comments
Last Update : 7 กันยายน 2557 14:05:55 น.
Counter : 2747 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


วาระหนึ่ง ซึ่งไม่นาน
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add วาระหนึ่ง ซึ่งไม่นาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.