สวัสดีจ้าเพื่อนทั้งหลาย

เห้อ รู้สึกกินอะไรก็แคลโรรี่เยอะไปหมดเลยเน๊อะ แย่จริงเลยเรา นี่ต้องค่อยๆลดแคโรรี่ลง ทรมานอ่ะ จริงๆ ถ้ากินสัก 1600 เท่าเดิมก็ยังชิลๆ นะ ลดลงมาร้อยเดียว แต่ทรมานใจสุดๆ ว่าจะเปลี่ยนเป็นทาน 6 มื้อก็ทำไม่ได้สักทีคะเพราะเวลาทานเข้าไปมื้อนึงมันแทบจะบวกกับอีกมื้อได้เลยทีเดียว ประมาณว่ากินทีหมดโควต้า เอาน่าสู้ๆกันต่อ

เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรักแล้ว อิอิ เดี๋ยวว่าจะเปลี่ยนหน้าตาของบอร์ดหน่อยดีกว่า(อีกแล้วๆ)อิอิ 

มีเรื่องบ่นหลายเรื่องเลยคะ ขอระบายหน่อยเถอะ คิดอยากจะทำอะไรหลายอย่างเลย ตอนแรกอยากไป internship ที่อเมริกา แต่ทว่าสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากทาง Agency แล้วปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างจะปัญหาใหญ่ทีเดียว ก็ถ้าจะต้องทำวีซ่าต้องมีเงินใน Statement โชว์ ตั้ง 7 หลักแน่ะ ลำพังแค่ค่า ที่จะไปกินอยู่บวกทำงานหาประสบการณ์ก็แย่แล้ว เจอค่าวีซ่าเข้าไปเหมือนโดนต่อยหมัดเดียวจอดเลย ถึงแม้เงินที่ให้โชว์Statement จะไม่ได้เอาไปทำอะไรคือให้สเตเบิ้ลอยู่ในบัญชีก็พอก็เถอะนะ เงินล้านนึงหายากมากกกกกก ช่างมัน เอาไว้กอ่นละกันถ้าชาตินี้ไม่ได้ไปชาติเอาใหม่ จะเก็บเงินตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาทีเดียว

หลังจากนั้นก็กลับมาคิดเรื่องที่จะลดน้ำหนักแล้วก็ทำความฝันของตัวเองคือ (ย้ำความฝันเน้อ) จะแต่งคอสเพลย์ให้ดูดีพูดง่ายๆ อยากเป็นคอสเพลย์เยอร์ที่พอจะ Well-know ในหมูคอสเพลย์เซเลอร์มูนบ้างจังอิอิ ก็กำลังทำอยู่พยายามเต็มทีล่ะคะ

ทีนี้กลับมาคิดว่าปีนี้เราอายุก็ 26 ปีแล้ว ยังไม่เป็นหลักเป็นแหล่งเลยยังขอเงินแม่ใช้(แลกกับทำงาน)อยู่เลย T-T แม่บอกว่า น่าจะมีลูกได้แล้วนะ แต่คือมันไม่พร้อมคะ รู้สึกว่ายังยังไม่ได้ทำสิ่งที่อยากทำตั้งหลายอย่าง(อย่างว่าขี้กลัวเลยพลาดโอกาสเยอะ) ก็เลยยกไว้ก่อนน่ะ ประกอบกับ ปิ๊งไอเดียร์ได้ว่า ปีนี้จะอดออมสุดชีวิต สิ้นปีเก็บเงินได้สักแสนนึงบวกกับ เล่นแชร์อีกนิดๆ หน่อยๆ ว่าจะเปิดร้านเช่าหนังสือคะ 1 เลยมันเป็นงานที่รักเพราะชอบอ่านแล้วก็ สามารถอยู่กับมันได้เป็นวันๆ 2 ทำเลที่บ้านจะเต็มไปด้วย อพาร์ตเม้นท์ หลายหลัง 3 ยังไม่มีคนทำ นอกจากร้านเช่า จะเปิดแผงขายหนังสือเล็กๆด้วยคะ บวกกับรับแปลเอกสาร พิมพ์งาน แล้วก็ขายเครื่องเขียนนิดหน่อย เพื่อนๆ คิดว่าไงบ้างคะ? ดีไม๊?  เลยวางแผนชีวิตไว้ว่า

ต้นปีนี้จนถึงกลางปีจะครบกำหนดลดน้ำหนัก เอาแค่ที่ 79 ก็คิดว่าน่าจะกลับไปคอสได้แล้วหล่ะคะ แล้วก็จะตระเวนทำสิ่งที่ชอบให้สุดๆ พร้อมกับเก็บเงินไปด้วย

พอปีหน้าปุ๊บจะเปิดธุรกิจที่ว่า ก็คงจะน้อยลงทำเรื่องที่ชอบเพราะต้องเริ่มดูแลธุรกิจ จนกระทั่งปีถัดไป (รวมเวลา 2 ปี ทำธุรกิจ)

หลังจากนั้นก็จะมีลูก ดีมั๊ย??? (อายุ 29 แล้ว ว่าแต่เพื่อนใครมีลูกอายุ 30 บ้างคะเสี่ยงไหมอยากรู้)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเกิดมีโอกาสใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกครั้งแล้วก็ ทำได้ล่ะก็ ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปหมดเลย  เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ก็ลองๆ วางแผนไว้งั้นล่ะคะ (สงสัยจะคิดมากเกินไป)

วันนี้พิมพ์ซะยาว เลย อิอิขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านมาจนจบนะคะ บายๆๆๆ