|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
*T-T* อีกก้าวของวงการวรรณกรรมไทย *T-T*
ปัจจุบันนี้ดูเหมือนคำว่า "นักเขียนไส้แห้ง" จะไม่ทำให้ ใครต่อใครกลัวอีกต่อไปแล้ว เมื่อวงการวรรณกรรมไทย กำลังบูมถึงขีดสุด สำนักพิมพ์เปิดใหม่ขึ้นยิ่งกว่าเห็ด หน้าฝน หนังสือปกใหม่เกิดขึ้นเดือนละหลายสิบเล่ม และการจะมีหนังสือของตัวเองสักเล่ม ก็ไม่ได้ยากจน แทบขาดใจเหมือนเมื่อสัก 6-7 ปีก่อน
ก่อนหน้านี้ คำว่า "นักเขียน" แทบจะเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ เพราะช่องทางการที่จะได้มีผลงานออกสู่สาธารณะชน ในนิตยสารหรือรวมเล่มนั้นมีน้อยเหลือเกิน จะแจ้งเกิด ได้เร็วหน่อย ก็คือ การส่งงานเข้าประกวด ซึ่งแต่ละปี มีสนามให้ลงไม่มากนัก เมื่อเทียบกับจำนวนของคนที่ อยากเป็นนักเขียน หรืออีกทางก็คือ การส่งต้นฉบับไปยัง นิตยสารหรือสำนักพิมพ์ต่างๆ ส่งไปแล้วก็ต้องร้องเพลง รอ 6 เดือน 1 ปี 2 ปี 3 ปี แทบจะเป็นเรื่องธรรมดา
บางคนโชคร้ายยิ่งกว่า ส่งงานไปแล้ว ได้รับคำตอบว่า เรื่องไม่ผ่าน แต่อีกไม่นาน กลับได้เห็นงานเขียนที่แกะของ ตัวเองมาแทบทุกตัวอักษร แต่บนปกกลับเป็นชื่อคนอื่น วางขายอยู่หน้าตาเฉย บางคนหนังสือตีพิมพ์ไปเป็นปีแล้ว ยังไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนเลยก็มี
ชีวิตนักเขียนไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันแทบ จะเรียกได้ว่า โปรยด้วยหนามกุหลาบเลยทีเดียว
เมื่อก่อนจึงมีไม่กี่คนที่กล้าเรียกตัวเองว่า "นักเขียน"
ตั้งแต่งานเขียนที่เกิดจากอินเตอร์เน็ตขายได้ และ ขายได้ดี สำนักพิมพ์เห็นส่วนแบ่งทางตลาดตรงนี้ ต่าง พากันแย่งต้นฉบับกันจาละหวั่น ใครๆ ก็เป็นนักเขียนได้ เรื่องอะไรก็ถูกนำมาตีพิมพ์ได้ จนคำว่า "นักเขียน" กลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว
เมื่อก่อน ตอนที่อาชีพนักเขียนยังพ่วงคำว่า "ไส้แห้ง" ติดมาด้วยอยู่นั้น คนที่เขียนหนังสือ มีอยู่เหตุผลเดียว ง่ายๆ ไม่ต้องอธิบายกันมาก นั่นก็คือ "ใจรัก"
แต่วันนี้อะไรๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว คำถามที่เห็นจน แทบจะเป็นกิจวัตรตามเว็บบอร์ดต่างๆ ก็คือ
'เป็นนักเขียนได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่' 'ถ้าได้ตีพิมพ์ จะได้รับค่าตอบแทนกี่เปอร์เซ็นต์' การถามถึงค่าตอบแทนไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ที่น่า เศร้าก็คือ ส่วนใหญ่แล้ว คนที่ถามคำถามเหล่านี้ ยังไม่ เคยลงมือเขียนเลยแม้แต่ประโยคเดียว
ที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างก็คือ มีแต่คนจ้องจะเป็น "นักเขียน" น้อยคนเหลือเกินที่เป็น "นักอ่าน" เมื่อคนเขียนอายุน้อย ประสบการณ์ชีวิตน้อย แถมยังไม่ขวนขวายเพิ่มเติม ประสบการณ์ตรงนั้นด้วยการอ่าน สิ่งที่สะท้อนออกมา ในงานเขียนบางชิ้นก็คือ ความอ่อนเยาว์ เพ้อฝัน
แต่งานเหล่านั้นก็ยังขายได้ เพราะคนอ่านส่วนหนึ่ง ก็ด้อยประสบการณ์ มีความอ่อนเยาว์ เพ้อฝัน ไม่ต่างกัน
ตรงนี้กลายเป็นดาบสองคม จริงอยู่ มันทำให้เด็กรุ่น ใหม่กระตือรือร้นกับการเขียนงานมากยิ่งขึ้น ปัญหา ก็คือ การคำนึงถึงคุณค่าและการรับผิดชอบต่องาน เขียนกลับลดลงจนน่าใจหาย
เมื่อขาดข้อมูล แทนที่จะค้นหา แต่กลับกลายเป็น ว่า 'ใส่ๆ มั่วๆ ไปก่อน ให้มันจบเรื่อง'
ผู้เขียนบางคน ที่ยังไม่เคยเขียนอะไรจบสักอย่าง เรียก ตัวเองว่าเป็น "นักเขียน" เรียกร้องให้ใครต่อใครมาอ่านงาน เขียนของตนเอง
เข้าไปดูบางเว็บบอร์ด จะเห็นความคิดเห็นว่า
'มาอ่านแล้วนะ สนุกดี ไปอ่านงานเขียนของเราบ้าง ที่...' 'มาเยี่ยมแว้ว ไปอ่านเรื่องของเราด้วยนะ ที่...'
ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า จริงๆ แล้ว ผู้แปะความคิดเห็น เหล่านี้ ได้อ่านงานเขียนในกระทู้ที่เข้าไปแปะสักกี่บรรทัด
ต่างคนต่างหวังคะแนนโหวต ต่างคนต่างหวังให้ มีความคิดเห็นในงานเขียนของตัวเองเยอะๆ
และอีกคำถามที่ตามมาก็คือ
'ถ้ามีคะแนนโหวตมากๆ เรื่องของเราจะได้รับการ ตีพิมพ์เป็นหนังสือไหม'
บางคนเข้าไปเยี่ยมๆ มองๆ แล้วพบว่า งานเขียน บางชิ้นที่มีฉากรุนแรง มีเซ็กส์เป็นส่วนประกอบของเรื่อง ได้รับความนิยมสูง ก็ใส่ฉากเหล่านั้นไปโดยที่บางครั้ง ไม่มีความจำเป็นต่อเนื้อเรื่องเลย เพียงแค่ต้องการ เรียกร้องให้มีคนเข้ามาอ่านมากขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่า นั่นเป็นการดูถูกทั้งคนอ่านและตัวเองไปพร้อมๆ กัน
มีสักกี่คนที่จะพอเข้าใจบ้างว่า ถ้าตัวงานเขียนดีจริง ไม่ต้องเรียกร้อง คนจะเข้ามาอ่านกันเอง ดังนั้น...ถ้าอยาก ให้มีคนเข้ามาอ่าน จะต้องพัฒนางานเขียนของตัวเอง ให้ดีพอที่จะทำให้คนเข้ามาอ่าน และถ้างานเขียนนั้นดี จริง และตรงกับแนวที่สำนักพิมพ์ต้องการ ไม่ช้าก็เร็ว มันจะได้เป็นรูปเล่มให้คนเขียนภูมิใจแน่นอน
หน้าที่ของนักเขียนไม่ใช่การเรียกร้อง บังคับ ให้ ใครต่อใครเข้ามาอ่านงานของตัวเอง ไม่ใช่การเร่งรีบ กดดันสำนักพิมพ์ให้รีบพิมพ์งานของตัวเองออกมา ไม่ใช่การส่งหน้าม้าเข้าไปโฆษณางานเขียนของตัวเอง ในเว็บต่างๆ
แต่หน้าที่ของนักเขียนก็คือ เขียนงานออกมาให้ดี และมีคุณค่า...ดีและมีคุณค่าพอที่จะทำให้ใครต่อใคร เข้ามาอ่าน และสำนักพิมพ์ตกลงรับต้นฉบับงานเขียน ชิ้นนั้นไปตีพิมพ์
ทุกวันนี้นักอยากเขียนหลายคนอาจจะไม่รู้สึกว่า วงการวรรณกรรมไทยเปิดกว้างมากๆ แล้ว หนทาง ที่จะมีหนังสือเป็นของตัวเองสักเล่ม ง่ายกว่าเมื่อ 6-7 ปีก่อนมาก มีสำนักพิมพ์พร้อมที่จะตีพิมพ์ผลงานมาก มาย ทำให้ความอดทน มารยาทและความประณีต ลดลง
รอผลการพิจารณาเพียงแค่ 1-2 เดือน กลับบ่นว่า 'นานจนแทบทนไม่ไหว' หรือไม่ก็มีการหว่านต้นฉบับ เรื่องเดียวกันไปทุกสำนักพิมพ์ ด้วยเหตุผลว่า 'มันเป็น สิทธิของเรา'
หลายๆ คนคิดว่า ชีวิตนักเขียนไม่ได้โปรยด้วยกลีบ กุหลาบหรือหนามกุหลาบแล้ว แต่มีพรมหนานุ่มลาย กุหลาบมาปูให้รองเดิน มันดูน่าสบายจนคนเดินลืมคิด ไปหรือเปล่าว่า ใต้พรมนั้นก็ยังเป็นพื้นตะปุ่มตะป่ำ เหมือนเดิม และบางครั้งพรมก็อาจจะขาดและแหว่ง ไปบ้าง ดังนั้น...คนเดินก็จะต้องมีความระมัดระวัง และอดทนบ้างเหมือนกัน
ในวงล้อเวลาของวงการวรรณกรรมไทยปัจจุบันนี้ จะเป็นไปได้ไหม ขอให้นักเขียนคิดเสียก่อนว่า งานเขียน ของตัวเองมีคุณค่าและให้อะไรแก่คนอ่านบ้าง ก่อนจะ เรียกร้องให้คนอ่านให้อะไรแก่ตน
ไม่อย่างนั้นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของวงการ วรรณกรรมไทยนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาแบบไหน... ...ไม่กล้าคาดเดาเลยจริงๆ
Poovadee Tuchinda 13/5/06 18.40pm At home
...............................
บทความชิ้นนี้อาจจะเป็นการมองอะไรจากมุมๆ หนึ่ง เท่านั้นนะคะ ในช่วงปีที่ผ่านมาได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่กระทบใจตัวเองเหลือเกิน ทำให้ต้องเขียนระบาย ออกมาบ้าง ฮา
อ่านแล้วอย่าคิดว่าคนเขียนวิเศษวิโสนะคะ ไอซ์เอง กว่าจะถึงทุกวันนี้ ((ที่ก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ เทียบแล้วก็ ประมาณเด็กหัดเดินนั่นแหละ)) ทำอะไรผิดพลาดมาเยอะ เพียงแต่อยากให้คนรุ่นใหม่(กว่า) เอาความผิดพลาดของ คนรุ่นเก่า(กว่า)มาเป็นบทเรียน และก้าวต่อไปข้างหน้า อย่างสง่างามเท่านั้นเองค่ะ
ถ้าบทความชิ้นนี้ ทำให้ใครไม่พอใจ ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่ก็อดหวังไม่ได้ว่า บทความชิ้นนี้ จะให้ข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ กับผู้อ่านบ้างเหมือนกัน
^^
คิดอยู่นานเหมือนกันว่า จะเอาลงห้องไหนในบล็อคดี แต่คิดว่านี่เป็นบทความนะ ลงห้องนี้ละกัน
^^
Create Date : 13 พฤษภาคม 2549 |
|
35 comments |
Last Update : 14 พฤษภาคม 2549 10:13:38 น. |
Counter : 1041 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: มินต์ (papermint ) 13 พฤษภาคม 2549 19:20:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: Kizana IP: 202.47.238.233 13 พฤษภาคม 2549 21:47:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: นีรมาลี 13 พฤษภาคม 2549 21:49:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: แฟนคลับวายดูไอเลิฟยูโซ IP: 84.157.85.170 14 พฤษภาคม 2549 3:39:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชาวโลกพฤหัส IP: 203.114.108.35 14 พฤษภาคม 2549 11:35:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนตรนภัส IP: 203.170.228.172 14 พฤษภาคม 2549 13:36:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: bookmark 14 พฤษภาคม 2549 14:30:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวZ IP: 125.24.65.65 14 พฤษภาคม 2549 16:37:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bryan IP: 203.131.220.1 14 พฤษภาคม 2549 16:42:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: lily <lovekalo> (lovekalo ) 14 พฤษภาคม 2549 17:56:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: มน (ลิปมัน ) 14 พฤษภาคม 2549 19:45:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: คีตภา 14 พฤษภาคม 2549 19:52:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: พิมลพัทธ์ (พิมลพัทธ์ ) 14 พฤษภาคม 2549 22:37:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: วีสาม (มดx-v3 ) 15 พฤษภาคม 2549 0:23:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ZeeZaa(จอยค่ะ) IP: 58.64.127.181 15 พฤษภาคม 2549 13:35:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: karina IP: 58.136.74.161 15 พฤษภาคม 2549 16:53:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุรัสยา IP: 58.8.34.174 15 พฤษภาคม 2549 21:45:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: p_jung IP: 221.128.98.226 25 พฤษภาคม 2549 14:14:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูดี IP: 58.136.208.226 13 มิถุนายน 2549 12:24:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: Masaomi IP: 124.121.127.90 13 มิถุนายน 2549 15:16:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: peach_zoda IP: 203.113.70.8 5 สิงหาคม 2549 11:47:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: kingkiyo IP: 202.44.135.35 18 พฤศจิกายน 2549 15:56:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ColdOut/รรร IP: 203.146.147.13 9 มิถุนายน 2550 2:30:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: tiara IP: 125.27.156.133 22 มิถุนายน 2550 16:27:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: klasseye IP: 202.149.25.225 11 กุมภาพันธ์ 2552 9:50:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ~ Nakashima Ayumi ~ IP: 222.123.223.27 10 เมษายน 2552 13:13:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: คน IP: 125.26.49.228 5 สิงหาคม 2554 23:04:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แล้วก็
หน้าที่ของนักเขียนก็คือ เขียนงานออกมาให้ดี
และมีคุณค่า...ดีและมีคุณค่าพอที่จะทำให้ใครต่อใคร
เข้ามาอ่าน
ชอบคำพูดนี้จังเลยค่ะ
แต่ทำไมนะ นักเขียนหลายๆคนถึงไม่คิดอย่างพี่ไอซ์