Atwood, M. (c1985, 2005). The handmaid's tale. London: Vintage.
เมื่อสังคมอเมริกันพังทลายลงด้วยสงครามกลางเมือง กลุ่มนิยมศาสนาหัวรุนแรงก็ขึ้นครองอำนาจ จัดระเบียบสังคมใหม่ แบ่งชนชั้น กำหนดบทบาทสังคมชัดเจน ที่สำคัญคือในสังคมนี้ผู้ชายจะเป็นใหญ่ ตามท้องเรื่องตัวเอกคือ Offred ซึ่งถูกจัดพวกอยู่ในผู้หญิงที่มีหน้าที่พิเศษคือการเป็น อู่ ให้กำหนดบุตรที่จะเกิดมาในสังคม เธอส่งเข้าไปในสถาบันแห่งหนึ่งเพื่อฝึกการเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่ผลิตทารก หลังจากสำเร็จจากหลักสูตรนั้นแล้วก็ถูกส่งไปยังบ้านของชนชั้นนำต่างๆ ที่เป็นบรรดาหัวหอกของสังคม เธอต้องเข้าพิธีผลิตบุตร (เป็นฉากที่อ่านแล้วต้องอึ้ง) แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีผลิตผลออกมาได้สักที สังคมนี้บีบคั้นจิตใจ Offred เป็นอย่างมาก เธอคิดถึงลูกและสามีก่อนที่สังคมในอดีตจะล่มสลาย แต่ก็ไม่สามารถออกไปตามหาพวกเขาได้ ไม่รู้ว่าถูกจับไปอยู่ ณ ที่ใด วันเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า
อย่างไรก็ดีเมื่อเธอกับเจ้าของบ้านเริ่มสนิทกันมากขึ้น (ทั้งๆ ที่กฎระเบียบขีดเส้นไม่ให้ใกล้ชิดกัน นอกจากสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น) เขาก็พาเธอไปที่ใหม่ๆ อย่างผับบาร์ ทำให้เธอเหมือนเป็นของเล่นของเขาที่นำไปโชว์ตามสถานที่นั้น ทำให้เธอรู้ว่าในสังคมที่พยายามกำจัดสิ่งที่เรียกว่าอบายมุขให้หมดไปเพื่อให้เกิดสังคมที่สมบูรณ์กลับมีของเลวทรามปะปนอยู่ ในตอนท้ายเรื่องกลับกลายเป็นว่าเธอพยายามที่จะปลดแอกตัวเอง มีข้อเสนอจากตัวภรรยาของเจ้าของบ้านให้ไปมีอะไรกับคนขับรถเพื่อจะได้มีลูกออกมาโดยไว แต่ก็มีการดัดหลังกันเกิดขึ้นและสร้างแผนซ้อนกลกันอีกหลายต่อ
เสียดายความสั้นของหนังสือ คิดว่าน่าจะเขียนให้ได้เยอะกว่านี้ สังคมที่สร้างมาน่าสะอิดสะเอียนใช้ได้ ตอนจบนั้นชอบที่สุด เพราะเหมือนคนเขียนเอา genre อื่นมาประสมกับนิยาย เป็นบทถอดเทปงานสัมมนาในอนาคตอีกสองร้อยกว่าปี พูดถึงสังคมที่ Offred อยู่แต่ล่มสลายไปแล้ว ถึงจะจบแบบงงๆ แต่ก็ชอบเอามากๆ
...
# 46
William, N. (c1997, 2015). Four letters of love. London: Picador Classic.
เป็นเรื่องของ Nicholas เด็กหนุ่มชาวไอริชที่เติบโตมากับพ่อศิลปินนักวาดภาพหลังจากแม่จากไปด้วยการฆ่าตัวตาย เมื่ออายุเข้าสู่วัยรุ่นพ่อก็ต้องมาตายจากไปอีก ชีวิตผกผันเมื่อเขาคิดจะตามหาภาพเขียนของพ่อที่เหลืออยู่เพียงภาพเดียวซึ่งตกไปอยู่ในมือของครอบครัวหนึ่ง เมื่อเดินทางไปขอภาพคืนก็ตกหลุมรักลูกสาวของครอบครัวนั้นทันที ทั้งที่หญิงสาวนั้นกลับมีสามีอยู่แล้ว ฝ่ายหญิงสาว Isabel ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับสามีที่ตนหลงรักและคิดว่าเป็นความรักที่ยั่งยืน แต่เมื่อได้ร่วมหอลงโรงกลับกลายเป็นตรงกันข้าม สามีไม่เอาถ่านแถมยังทำร้ายร่างกายและหึงหวง ชะตากรรมนำทั้ง Nicholas และ Isabel มาพบกัน ทั้งคู่ต้องเลือกระหว่างความถูกต้องกับหัวใจที่ร้อนรุ่มด้วยไฟรัก
พล็อตเรื่องไม่มีอะไรมาก แต่คนเขียนใช้ภาษาเปรียบเทียบเปรียบเปรยได้สวยงาม ทำให้อ่านได้รื่นไหล แต่บรรยากาศในเรื่องนี้หม่นๆ มัวๆ ไปหน่อย จะคิดว่าออกแนวโรแมนติกก็ได้ จะว่าหดหูก็ได้เช่นกัน อีกประเด็นที่ทำให้รู้สึกเข้าไม่ค่อยถึงเรื่องนี้ก็คือประเด็นเกี่ยวกับศาสนา เพราะผู้เขียนโยงความรักหนุ่มสาวเข้ากับศาสนาไปเสียแทบทุกตอน
...
#47
Coetzee, J.M. (2000). Disgrace. New York: Penguin Books.
Lurie โปรเฟสเซอร์ผิวขาววัยกลางคนในแอฟริกาใต้ที่สอนวรรณคดี มีเหตุให้ต้องเสียชื่อเสียงเมื่อแอบไปมีเพศสัมพันธ์กันนักศึกษาที่ตนสอนอยู่และถูกจับได้ ทำให้ต้องเดินทางออกไปนอกเมืองหลังจากถูกให้ออกจากงาน เขาไปอาศัยอยู่กับลูกสาวจากเมียคนแรก แต่เลือกใช้ชีวิตเป็นชาวไร่ พ่อลูกเหมือนได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง แลกเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่เคยได้มีโอกาสมองเห็นแง่มุมต่างๆ ของกันและกันมาก่อน
อย่างไรก็ดี ชุมชนที่ลูกสาวอาศัยอยู่เป็นชุมชนที่ไม่ปลอดภัย ไม่นานนักบ้านก็ถูกพวกคนดำปล้น ตัวโปรเฟสเซอร์ถูกทำร้ายไฟลวก ลูกสาวก็ถูกกระทำชำเรา หลังเหตุการณ์เกิดเป็นชนวนให้พ่อลูกต้องผิดพ้องหมองใจกันอีก เพราะตัวพ่ออยากให้ลูกขายที่ย้ายออกไป แต่ลูกยืนกรานที่จะอยู่ ไม่ต้องการให้พ่อมาควบคุมชีวิต โปรเฟสเซอร์ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องอดกลั้นอดใจอาศัยอยู่เป็นเพื่อนลูก คอยปกป้องคุ้มภัยแม้จะไม่รู้ว่าทำได้แค่ไหนก็ตาม เขามีโอกาสได้ช่วยคลินิกรักษาสัตว์ เป็นผู้คอยยุติชีวิตบรรดาสุนัขที่ไม่อาจเยียวยาได้ด้วยการฉีดยาฆ่าให้ตาย แล้วนำไปเผาในเตาเผาในเมือง
ผู้เขียนเหมือนสะท้อนภาพของสุนัขและการที่โปรเฟสเซอร์ต้องจนตรอก รับชะตากรรมที่ผิดพลาดครั้งเดียวจนทำให้ชีวิตผกผันแปรเปลี่ยนมาถึงขนาดนี้ได้ดี เรื่องนี้เล่าภาพของสังคมแอฟริกาใต้หลังเหตุการณ์แบ่งแยกผิวยุติลงได้อย่างเข้าถึงความเป็นจริง การต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่ยังไม่ประสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกันดีนั้นแสดงออกมาเด่นชัดในงานชิ้นนี้
...
# 48
Bradley, A. (2011). A red herring without mustard. New York: Bantam Books.
Flavia กลับมาอีกครั้งกับวีรกรรมนักสืบวัยกระเตาะ คราวนี้มาสืบคดีที่เกิดการทำร้ายยิปซีจนเกือบเสียชีวิตในพื้นที่คฤหาสน์ที่เด็กหญิงอาศัยอยู่ คดียุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้นเมื่อมีคนตายที่พ้องกันคดีก่อนหน้าภายในสวนหลังบ้าน Flavia ใช้ความฉลาดเกินวัยสืบเสาะไปจนพบว่าคดีทั้งสองเกี่ยวพันกันนิกายความเชื่อเรื่องศีลจุ่มให้แก่เด็กแรกเกิดโดยการจับเด็กกดน้ำไปทั้งตัว ซึ่งเคยทำให้เด็กของครอบครัวหนึ่งข้างๆ คฤหาสน์ต้องเสียชีวิตไป แต่ยิปซีผู้ถูกทำร้ายนั้นกลับโดนป้ายสีว่าเป็นผู้ขโมยเด็ก หลักฐานต่างๆ ที่ฆาตกรใช้ลงมือค่อยๆ ปรากฏจนนำ Flavia ไปถึงตัวคนร้ายได้สำเร็จ แต่ก็เกือบต้องแลกมาด้วยชีวิตหลังจากไปติดอยู่ในห้องลับใต้คฤหาสน์ของตนเองที่ไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่ามีอยู่จริง
ซีรี่ส์ชุดนี้ยังคนสนุก อ่านเพลินกับความคิดเฉลียวฉลาดเกินวัยของเด็กหญิงได้เป็นอย่างดี คิดว่าอย่างหนึ่งที่ทำให้อ่านติดและชอบใจคือการสร้างตัวละครพิเศษของผู้เขียน คำพูดคำจาและความกล้าหาญของตัวเอกที่เป็นเด็กทำให้อดเอาใจช่วยตามไปด้วยไม่ได้