กัป คืออะไร, อสงไขย คืออะไร
กัป คืออะไร
กัป คือ การเกิดโลกครั้งหนึ่ง อาจรวมได้ประมาณหมื่นล้านปี คนโบราณว่าไว้ดังนี้
เวลาของกัปคือ "นานแสนนานจนไม่อาจนับเป็นเดือนปีได้ อุปมาเหมือนมีภูเขาลูกหนึ่งสูง ๑ โยชน์ วัดโดยรอบได้ ๓ โยชน์ ถึงเวลา ๑๐๐ ปีจะมีเทวดาเอาผ้าทิพย์อันอ่อนบางดังควันไฟมากวาดภูเขาหนึ่งรอบ เมื่อใดที่ภูเขานั้นราบลงกับผืนดินจึงจะเท่ากับป ๑ กัป"
บางตำราบอกว่า "อุปมามีหินภูเขาลูกหนึ่งสูง ๑๐ โยชน์ ทุก ๆ พันปีจะมีนกน้อยตัวหนึ่งเอาจะงอยปากมาลับที่ภูเขานี้ครั้งหนึ่ง ถ้าภูเขานั้นราบลงไปหมดจะเท่ากับ ๑ วันของกัป"
ทั้งนี้ ๑ กัปจะเกิดขึ้นและจบสิ้นไปด้วยไฟบรรลัยกัลป์ หรือไฟล้างโลก ซึ่งไฟนี้จะเผาไหม้มาตั้งแต่นรก ไหม้กามภูมิทั้งหมดขึ้นไปจนถึงชั้นพรหม และเมื่อเกิดกัปเช่นนี้ ๗ ครั้งเราจึงรวมเรียกว่า มหากัป
ในมหากัปหนึ่ง ๆ จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้น ๑-๕ พระองค์ไม่เกิน มหากัปที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นเลย เรียกว่า สุญกัป
ส่วนมหากัปของเรานี้จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้น ๕ พระองค์ เรียกว่า ภัทรกัป โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงอุบัติขึ้นแล้ว คือ
๑. สมเด็จพระกกุสันธะพุทธเจ้า ๒. สมเด็จพระโกนาคมน์พุทธเจ้า ๓. สมเด็จพระกัสสปะพุทธเจ้า ๔. สมเด็จพระสมณโคดมพุทธเจ้า และ ๕. สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า ซึ่งจะตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์สุดท้ายในมหากัปนี้
แต่ในพระพุทธศาสนามักจะใช้กล่าวถึง ระยะเวลาที่พระโพธิสัตว์สร้างสมบารมีมาเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า โดยนับหน่วยเวลาเป็นอสงไขยกัป. อสงไขยเป็นปริมาณหรือจำนวนที่มีการกำหนดที่นับประมาณมิได้ ซึ่งมีอุปมาเปรียบเทียบเอาไว้ว่า ฝนตกใหญ่อย่างมโหฬารทั้งวันทั้งคืน เป็นเวลานานถึง 3 ปี ไม่ได้ขาดสายเลย จนกระทั่งน้ำฝนท่วมเต็มขอบจักรวาล ซึ่งมีระดับความสูง 84,000 โยชน์ หากว่ามีใครสามารถนับเม็ดฝนที่ตกลงมาตลอดทั้ง 3 ปีได้ นับได้เท่าไร นั่นคือจำนวนเม็ดฝน 1 อสงไขย.
อสงไขย คืออะไร
อนึ่ง คำว่า อสงไขย นั้น มาจากภาษาบาลี ว่า อ + สงฺเขยฺย (สันสกฤต : อ + สํขฺย) หมายถึง นับไม่ได้ หรือนับไม่ถ้วน นั่นเอง พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542ระบุจำนวน ของอสงไขย ไว้ว่า เท่ากับ โกฏิ ยกกำลัง 20
การคำนวณความยาวนาน
1. สมมุติมีกล่องใบหนึ่ง กว้าง 100 โยชน์ ยาว 100โยชน์ และ สูง 100 โยชน์ ในเวลา 100 ปี ให้เอาเมล็ดผักกาด 1 เมล็ด ใส่ลงไปในกล่องนั้น ทำอย่างนี้จนเมล็ดผักกาดนั้นเต็มเสมอเรียบปากกล่อง นั้นละจึงเท่ากับ 1 กัป
2. (บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์) วิเคราะห์คำนวณ 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร ดังนั้นกล่องใบนี้มีปริมาตร = 1600X1600X1600 = 4,096,000,000 ลูกบาศก์กิโลเมตร ประมานว่า เมล็ดผักกาด มีขนาด .5 มิลลิเมตร 1 กิโลเมตรเทียบเป็นมิลลิเมตรได้ดังนี้ 10X100X1000 = 1,000,000 มิลลิเมตรจะได้ 1 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = (1,000,000)/0.5 = 2,000,000 เมล็ด
3. ดังนั้น 1600 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = (1600X2,000,000 = 3,200,000,000) เมล็ด ถ้าเป็นปริมาตร คือ (กว้าง x ยาว x สูง) ต้องใช้เมล็ดผักกาดทั้งหมด คือ (3,200,000,000X3,200,000,000X3,200,000,000 = 32,768,000,000,000,000,000,000,000,000 เมล็ด)
4. ใน 100 ปี ใส่เมล็ดผักเพียง 1 เมล็ด ดังนั้นต้องใช้เวลาทั้งหมดคือ 32,768,000,000,000,000,000,000,000,000X100 =3,276,800,000,000,000,000,000,000,000,000 ปี
5. จึงได้เวลา 1 กัป ประมาณ สามล้านสองแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยล้านล้านล้านล้าน ปีประมาณ 3.3 X 10 ยกกำลัง 30 ปี
6. 1 อสงไขยมีกี่ปีนั้นเป็นจำนวนที่แน่นอน คือ 1 ตามด้วยเลข 0 จำนวน 140 ตัว หรือ 1 X 10 ยกกำลัง140 ปี
วิธีนับอสงไขย
การนับอสงไขยให้เทียบเอาดังนี้
1. สิบ สิบหน เป็น หนึ่งร้อย 2. สิบร้อย เป็น หนึ่งพัน 3. สิบพัน เป็นหนึ่งหมื่น 4. สิบหมื่น เป็น หนึ่งแสน 5. ร้อยแสน เป็นหนึ่งโกฏิ 6. ร้อยแสนโกฏิ เป็น หนี่งปโกฏิ 7. ร้อยแสนปโกฏิ เป็น หนึ่งโกฏิปโกฏิ 8. ร้อยแสนโกฏิปโกฏิ เป็น หนึ่งนหุต 9. ร้อยแสนนหุต เป็น หนึ่งนินนหุต 10. ร้อยแสนนินนหุต เป็น หนึ่งอักโขเภนี 11. ร้อยแสนอักโขเภนี เป็น หนึ่งพินทุ 12. ร้อยแสนพินทุ เป็น หนึ่งอพุทะ 13. ร้อยแสนอพุทะ เป็น หนึ่งนิระพุทะ 14. ร้อยแสนนิระพุทะ เป็น หนึ่งอหหะ 15. ร้อยแสนอหหะ เป็น หนึ่งอพพะ 16. ร้อยแสนอพพะ เป็น หนึ่งอฏฏะ 17. ร้อยแสนอฏฏะ เป็น หนึ่งโสคันธิกะ 18. ร้อยแสนโสคันธิกะ เป็น หนึ่งอุปละ 19. ร้อยแสนอุปละ เป็น หนึ่งกมุทะ 20. ร้อยแสนกมุทะ เป็น ปทุมะ 21. ร้อยแสนปทุมะ เป็น หนึ่งปุณฑริกะ 22. ร้อยแสนปุณฑริกะ เป็นหนึ่งอกถาน 23. ร้อยแสนอกถาน เป็น หนึ่งมหากถาน 24. ร้อยแสนมหากถาน เป็น หนึ่งอสงไขย
จำนวนอสงไขย
อสงไขย มี 7 อสงไขย คือ
1. นันทอสงไขย 2. สุนันทอสงไขย 3. ปฐวีอสงไขย 4. มัณฑอสงไขย 5. ธรณีอสงไขย 6. สาครอสงไขย 7. บุณฑริกอสงไขย
กัปป์ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามีอยู่ ๒ ประการ คือ
๑) สุญญกัปป์ หมายถึง กัปป์ที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระเจ้าจักรพรรดิ ๒) อสุญญกัปป์ หมายถึง กัปป์ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระเจ้าจักรพรรดิ อุบัติขึ้น
อสุญญกัปป์มี ๕ อย่างคือ
๑) สารกัปป์ ได้แก่ มหากัปป์(= ๔ อสงไขยกัปป์)ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ๑ พระองค์ ๒) มัณฑกัปป์ ได้แก่ มหากัปป์(= ๔ อสงไขยกัปป์)ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ๒ พระองค์ ๓) วรกัปป์ ได้แก่ มหากัปป์(= ๔ อสงไขยกัปป์)ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ๓ พระองค์ ๔) สารมัณฑกัปป์ ได้แก่ มหากัปป์(= ๔ อสงไขยกัปป์)ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ๔ พระองค์ ๕) ภัททกัปป์ ได้แก่ มหากัปป์(= ๔ อสงไขยกัปป์)ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ๕ พระองค์
ภัทรกัปป์ ( คือกัปป์ปัจจุบัน )
มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แล้ว ๔ พระองค์คือ - พระพุทธกกุสนธะ - พระพุทธโกนาคมน์ - พระพุทธกัสสปะ - พระพุทธโคดม ( สมเด็จพระศาสดาองค์ปัจจุบัน ) - และจะมี พระพุทธเมตไตรย มาตรัสรู้ในอนาคต
เมื่อสิ้นมหากัปป์นี้แล้ว คัมภีร์อนาคตวงศ์กล่าวไว้ว่าอสุญญกัปป์ต่อไปจะเป็น มัณฑกัปป์ มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์คือ พระรามโพธิสัตว์ และพระเจ้าปเสนทิโกศล(พระธรรมราช)
อ้างอิง: 1. //th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A2 2. พระคัมภรีอนาคตวงศ์ , ประภาส สุระเสน, มหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์,พ.ศ. 2540, โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย , ISBN 974-580-742-7 3. เว็บไซต์ทีนดอตเน็ต //www.tteen.net/view.php?time=20040301022847
Create Date : 20 ตุลาคม 2551 |
|
19 comments |
Last Update : 20 ตุลาคม 2551 12:16:48 น. |
Counter : 5946 Pageviews. |
|
|
|
ช่วงนี้ปฏิบัติธรรมเข้มข้นเลยนะครับ
อิอิอิ