บาหลี#9 : ปักอุรา วิสามัญฯ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว - เมื่อออกมาจากวัดเมงวี เราเตรียมเดินทางต่อไปยังทะเลสาบบราตัน แต่ออกจากวัดเมงวีไปไม่เท่าไร ก็เจอคนมุงกันหนาตาหน้าคูหาชั้นเดียวที่อยู่ริมทางนั้น
กลิ่นและไฟขโมงคลุ้งไปทั้งย่าน จนพวกเราสามสาวอ้าปากค้าง มุ่งมองคูหาในหมอกหนาตาและควันนั้นด้วยใจระทึก...
พี่สาวจอดรถพรืดเข้าข้างทาง และหารือว่าเราควรไปช่วยเขามุงกันไหม ก่อนเร่งเร้าให้พวกเรารีบออกจากรถมาโดยเร็วเพื่อไม่พลาดเหตุการณ์ช่วงสำคัญ
เมื่อเดินเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุก็พบชายฉกรรจ์กำลังวิสามัญฯหมูไม้จ้อย ด้วยท่าทางชำนิชำนาญบนเตา
(Warung แปลว่าร้านขายอาหาร ส่วนชื่อร้าน PAK NGURAH แปลว่าอะไรไม่รู้ แต่ฉันตั้งชื่อร้านให้ใหม่ว่า ปักอุรา โภชนา ไปเรียบร้อยแล้ว)
หน้าร้านมีชาวบ้านซึ่งน่าจะเป็นคนพื้นถิ่นมามุงรอซื้อหมูย่างอยู่ก่อนแล้วหลายคน ขณะที่ในร้านก็มีลูกค้านั่งเรียงกันแน่นครึ่ดจนดูร้านแคบถนัดใจ
ตัวร้านมีขนาดสองคูหาแบบตึกชั้นเดียวและฝ้าเพดานต่ำ จัดวางตั่งไม้เตี้ยๆขนาดยาวสามแถวไว้รองรับลูกค้า การนั่งจะนั่งคุกเข่าแบบญี่ปุ่น นั่งพับเพียบแบบแม่พลอย สี่แผ่นดิน นั่งขัดสมาธิแบบหลวงตา หรือจะนั่งชันขาขึ้นข้างหนึ่งแบบจีนก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
บนโต๊ะไม่มีอะไรนอกจากห่อกระดาษทิชชู่คุณภาพต่ำสีชมพูแปร๊ด และขวดซีอิ๊วเขรอะๆ บนผนังร้านไม่มีภาพตกแต่งวิจิตรนอกจากแผ่นโปสเตอร์โฆษณาน้ำอัดลมท้องถิ่น และปฏิทินคร่ำคร่าแขวนเอียงๆบนมุมหนึ่งของผนัง
ไม่มีเสียงเพลงคลอเบาๆสร้างบรรยากาศในร้าน มีแต่เสียงโหวกเหวกของลูกค้าสั่งอาหาร ตามด้วยเสียงทวนคำสั่งลูกค้าของคนขายตะโกนต่อกันมาเป็นทอดๆถึงหน้าร้าน ถึงอย่างนั้นฉันก็รับรู้ถึงความสนุกสนานและเสน่ห์แบบบ้านๆของภัตตาคารแห่งนี้
โฉมหน้าชายฉกรรจ์และกรรมวิธีวิสามัญฯเผาสดหมูโชคร้าย ด้วยมาดสุขุม โดยมีพัดลมโบราณเป็นพยานปากเอก
หร่อยจริงๆเลยนะ ไม้แค่เนี๊ยะ ช่างบากู๊ดส์อะไรอย่างนั้น ไม้นิดเดียะ ( โปรดฮัมด้วยทำนองเพลงพริกขี้หนูของพี่เบิร์ด จะได้อารมณ์พอใช้)
ลีลาการเสิร์ฟยอดนิยมของบาหลี คือเสิร์ฟในกระทงสาน รองด้วยกระดาษปรูฟชนิดหยาบสีน้ำตาลอ่อน
บนถาดประกอบด้วย หมูย่าง -อร่อยไม้เดียวไม่เคยพอ / ข้าวเปียกหั่นเป็นชิ้นพอคำ - คำเดียวก็เกินพอ/ ซามัลลล หรือน้ำพริกชูรสแบบบาหลีที่ไม่เผ็ดเลยสักนิด (มันเป็นศัพท์คำแรกๆที่ฉันเรียนรู้และจำขึ้นใจเพื่อเอ่ยขอทุกครั้งในทุกมื้ออาหาร / ตบท้ายด้วยลาบบาหลี - รสชาติเหมือนใครเอาลาบเหนือกับลาบอีสานมาคลุกรวมกันแล้วใส่ข่าป่นกลิ่นฉุนเฉียวพร้อมเครื่องเทศรสฝาดปนมาด้วย
เคาเตอร์เตรียมออเดอร์ให้ลูกค้า เรียบง่ายเสียนี่กระไร โปรดสังเกตกองกระเป๋าสานบนโต๊ะ นั่นไม่ใช่สินค้าจักสานโอทอปแต่คือบรรจุภัณฑ์ทำมือใส่ข้าวเปียกยอดนิยมของชาวบาหลีนั่นเอง
มุมบาร์เทนเดอร์ข้างร้านปักอุรา เครื่องดื่มที่ฮิตที่สุดน่าจะเป็น พร้าวพันช์... หรือน้ำมะพร้าวสูตรเด็ดของบาหลีนั่นเอง
( ฉันไปลอบสังเกตวิธีทำน้ำมะพร้าวตำรับบาหลีมา เขาเอาน้ำมะพร้าวสดใส่น้ำเชื่อมและบีบมะนาวด้วย รสชาติออกหวานเจื๋อยอมเปรี้ยวบางๆ คล้ายน้ำมะพร้าวบูดนิดๆ...แต่ดื่มไปเรื่อยๆ ก็สดชื่นประสาบาหลีๆดีเหมือนกัน)
ก่อนเข้าไปนั่งกินในร้านต้องถอดรองเท้าก่อน นี่เพียงมุมหนึ่งที่ความกว้างเลนส์จับภาพถึงเท่านั้น ดูจากจำนวนคู่และปริมาณข้างแล้ว คงพอเดาความคับคั่งในร้านๆได้พอสมควร
อันที่จริง พวกเรามีแผนจะไปฝากท้องเอาดาบหน้า ที่ warung ไหนสักแห่ง แต่เพราะหมอกและควันจากร้านปักอุราบังตาให้เราไม่เห็นหนทางข้างหน้า เลยต้องสะเปะสะปะหลงเข้าร้าน และฉลองศรัทธาด้วยหมูย่างไป'แค่'สามสี่ชุด
อิ่มหรือเปล่าบอกไม่ถูก บอกได้เพียงว่าหมูสยามสามตัวกลายเป็นหมูในอวยของเจ้าของร้านปักอุรา วิสามัญฯไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเราเดินอืดๆ ออกจากร้านปักอุราเพื่อเดินทางขึ้นเขาต่อไปยังทะเลสาบบราตัน
เส้นทางสายเล็กๆระหว่างวิวภูเขา หมอกจาง และลมหนาวเอื่อยๆตลอดทางคล้ายกำลังไต่ระดับทางลาดชันไปอ.เถิน หรืออ.ลี้ช่วงปลายฝนต้นหนาว
ฉันยื่นแขนและหน้าออกไปนอกรถเหมือนตูบน้อยสำรวจโลกเช่นเคย
ทะเลสาบบราตันรออยู่ข้างหน้า แต่อากาศเย็นเยียบที่ปะทะผิว ทำให้ระยะทางสู่ทะเลสาบคล้ายเถิบใกล้ เพียงชั่วเอื้อมแขนถึง....
Create Date : 13 ตุลาคม 2553 |
|
16 comments |
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 14:22:30 น. |
Counter : 1718 Pageviews. |
|
|
|
โอ..ก็ว่าอะไรนะ มันถึงปักอุราได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ตั้งชื่อซ้า)))
โหยย..อิจฉาเลยนะคะนี่ ขับรถตะลุยแบบนี้
ชอบมาก ร้านข้างทางแบบนี้
เที่ยวแบบนี้ แวะไปเรื่อย ๆ
อิ่มตา อิ่มใจ แถมอิ่มพุง
ทัวร์อิ่มท้องกับน้องรักฯ อุอุ
ชอบทุกภาพเลยค่ะ
โดยเฉพาะภาพสุดท้าย
อิ่มอุรา .. สามัญ !!