The Blog To Love @ First Click - - ความเหงาไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่เจ้าของหัวใจที่ทำร้ายตน-- รักแรกคลิก
ประทับใจเรียกพี่ ที่จีลอง



ชายหาดจีลอง


จีลองเป็นชื่อเมืองชายทะเลเก่าแก่ อยู่นอกเมืองค่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญไปยังเมืองอื่นโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเช่น Great Ocean Road

ฉันแอบใฝ่ฝันอยากมาจีลองใจจะขาดเพียงเพราะเมืองนี้มีนางกวักแท้ๆ...



นางกวักที่ว่าคือตุ๊กตาไม้ที่เรียกกันว่า Bollards วางอยู่ทั่วชายหาดเมืองจีลอง มันเป็นศิลปะริมทะเลที่มีต้นกำเนิดมาจากเสาไม้คร่ำคร่าแถวท่าเรือจีลองโดยศิลปินชื่อแจน มิตเชล ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์และสร้างชื่อให้เมืองนี้อย่างมาก สีสันสดใสเหมือนลูกกวาดของบรรดาตุ๊กตาไม้พวกนี้ทำเอาคนรักทะเลอย่างฉันผิวหนังกระตุกเป็นกุ้งเต้น

ฉันชวนรุ่นน้องกลุ่มหนึ่งเดินทางด้วยรถไฟสายพิเศษเรียกว่า V-line ที่สถานีสเปนเซอร์ของเมลเบิร์นสู่ปลายทางที่เมืองจีลอง ใช้เวลาราวชั่วโมงกว่าก็ถึง และแล้วเราก็เริ่มเดินทางไปตามหาเจ้าตุ๊กตาไม้ริมหาดดังหมาย วันนั้นแม้มีแดดจ้า แต่อุณหภูมิค่อนข้างเย็นจัดโดยเฉพาะลมทะเลที่พอพัดเข้าฝั่งทีไรก็กรีดผิวเข้าไปถึงหัวใจ

พอเดินถึงหาดฉันทำท่าสูดลมทะเลเข้าปอดพลางถามสมาชิกเพื่อสร้างอารมณ์ฮึกเหิมสุดชีวิตว่า “เป็นไงๆ สัมผัสกลิ่นอายของทะเลหรือยัง”

น้องๆเอามือลูบจมูกป้อยๆ หนึ่งในนั้นบอกฉันเสียงสั่นว่า “ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย… เพราะจมูกหนูแข็งยะเยือกไปหมดแล้ว!”

ฉันอดขำไม่ได้ แต่แล้วก็หยุดเดินหันมาบอกน้องๆเสียงจริงจังว่า
“ ความหนาวก็เหมือนความเจ็บปวดนั่นแหละ” ฉันว่า “ แรกๆเราจะรู้สึกว่ามันหนักหนาจนทนไม่ได้ แต่จงลองอยู่กับมัน ดูมัน จ้องมัน แล้วสักพักเราก็จะคิดว่า เออนะ มันก็ไม่เท่าไหร่นี่ ”

ฉันไม่ได้อวดตนกับน้องว่าเป็นสาวปอดเหล็ก เพียงแต่ฉันอยากให้น้องเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นกับชีวิต เราสามารถตั้งรับกับมันได้เสมอ เพียงแค่เรามีสติเท่านั้น

อีกสิ่งที่ฉันชอบใจเกี่ยวกับเมืองจีลองคือทุกที่ที่มีทุ่งหญ้า จะดอกไม้ดอกเล็กๆสีเหลืองกระจายเกลื่อนเต็มทุ่งริมสองข้างทาง มองดูเหมือนมีใครโปรยเศษขนมตาลบนลานใบตองอย่างไรอย่างนั้น
<
a href="//www.bloggang.com/data/a/atfirstclick/picture/1242885824.jpg" target=_blank>>When a flower blossoms, it is a smile from me.


ฉันแอบตั้งชื่อให้มันว่า Mustard Marvel หรือ ดอกขมิ้นขจร ฉันเคยเห็นดอกไม้ป่าที่อาจเรียกได้ว่าเป็นวัชพืชชนิดนี้ขึ้นทั่วไปในเมลเบิร์นเหมือนหญ้าขจรจบบ้านเรา แต่ไม่รู้ทำไม หัวใจลำเอียงของฉันบอกว่าดอกไม้สีเหลืองพวกนี้เวลาอยู่ที่จีลอง ดูสวยกว่าทุกทีที่เห็น

พอคลายมนต์จากตุ๊กตากวัก ฉันก็พาน้องๆมุ่งหน้าไปยังสวนพฤกษศาสตร์ Geelong Botanic Garden เป็นที่สุดท้าย เมื่อถึงทางเข้าสวน ก็พบตุ๊กตาไม้สองตัวรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว

ข้อมูลจากแผ่นพับที่วางให้หยิบฟรีในสวนบอกว่าตุ๊กตาไม้สองตัวนี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นตัวแทนของบุคคลสำคัญของเมืองคือ Daniel Bunce และ Madame of Geelong

ขณะที่พวกเราเดินเข้าประตูทางเข้า ก็พบผู้หญิงคนหนึ่งมาแนะนำตัวและอาสาพากลุ่มของเราชมสวนโดยประจวบเหมาะพอดี

เธอออกตัวว่าพวกเรามาเที่ยวปลายหน้าหนาว ต้นไม้อาจไม่มีดอกมีใบมากเหมือนหน้าร้อนนักนะ ฉันตอบเธอยิ้มๆว่าไม่เป็นไร ชมสวนหน้าหนาวน่าสนใจนะ เพราะเราจะได้เรียนรู้กายภาพและโครงกระดูกของต้นไม้โดยไม่มีใบมาบัง



ไกด์อาสาสมัครคนนี้ชื่อจีอานเนต บอล เธอเกษียณแล้วแต่มาทำงานอาสาแก้เหงา ซึ่งหลังจากชมการนำเที่ยวของเธอแล้ว ฉันว่าเธอทำหน้าที่ได้ดีเกินกว่าคำว่า ทำเล่นแก้เหงาเสียอีก

จีอานเนตมียิ้มระบายบนใบหน้าเสมอ มองแล้วเย็นเหมือนมองต้นไม้ และน้ำเสียงของเธอเวลาอธิบายก็ฟังแล้วเย็นใจ การนำชมสวนสุดประทับใจครั้งนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้ชื่อและสายพันธุ์ต้นไม้ท้องถิ่นจากเธอมามากมายทีเดียว

นอกจากนี้ จีอานเนตยังมีอิทธิพลให้ฉันรู้สึกรักพืชเมืองร้อนของเอเชียเรามากกว่าเดิม เมื่อจีอานเนตพาเราไปชมโดมใหญ่ที่เอาไว้บริบาลต้นไม้เมืองร้อน

จะว่าไปต้นไม้ที่เขาประคบประหงมในสวนนี้มองดูไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ที่เราพบได้ทั่วไปตามสวนหลังบ้านหรือตามตลาดนัดจตุจักร

แต่อารมณ์ของการเดินชมสวนไม้เมืองร้อนที่นี่ ดูน่าสนใจกว่าทุกคราว เมื่อจีอานเนตตั้งอกตั้งใจอธิบายพืชพันธ์เมืองร้อน ในมุมมองของฝรั่งตะวันตก และดูเธอภูมิใจยิ่งขึ้นเวลาได้เล่าถึงความซับซ้อนในการดูแลพืชเมืองร้อนนี้ให้ยังสวยงามอยู่ได้ในสภาพอากาศหนาว

ฉันพบว่าอันที่จริงแล้ว ทุกสิ่งมีคุณค่าในตัวของมัน เพียงแต่เราอาจไปตีค่าว่ามันธรรมดาเพียงเพราะมันดาษดื่น หรือตีค่าว่ามันล้ำเลิศเพียงเพราะมันหายาก

ฉันมองกระถางเขียวใส่ต้นคล้าเงินที่จีอานเนตยื่นหน้าไปพินิจใบอย่างชื่นชม แล้วได้แต่นึกถึงกระถางใบเก่าๆใส่พืชชนิดเดียวกัน ชั่วแต่มันถูกวางหลบมุมในสวนที่บ้านเมืองไทยอยู่เงียบๆ

พอชมสวนเสร็จ เธอถามว่าเรามีอะไรสงสัยอีกไหม ฉันถามเธอว่าต้นไม้ต้นไหนในสวนนี้ที่คุณโปรดปรานมากที่สุด จีอานเนตมองหน้าฉันยิ้มๆ บอกว่าไม่เคยมีใครถามคำถามนี้กับเธอมาก่อน


เธออึ้งไปสักประเดี๋ยวก็เดินพาพวกเราเลาะไปยังทางเดินเล็กๆและชี้ไปที่ต้นไม้รูปทรงประหลาดต้นหนึ่ง ลำต้นล้มโค่นลงไปแต่กลับผุดลำต้นแทงขึ้นมาจากดินอีกครั้ง และอวดกิ่งก้านใบสวยงามอยู่ตรงหน้า เธอบอกว่าเป็นพันธุ์ Weeping Pittosporum มีต้นไม้หลายต้นที่เธอชอบในสวนแห่งนี้ แต่ต้นนี้พิเศษกว่าต้นไหนๆเพราะมัน…. เธอพยายามนึกคำเหมาะๆ

“เพราะมันมีเรื่องราวในตัวมันเอง หรืเปล่าคะ” ฉันช่วยออกความเห็น
จีอานเนตพยักหน้าเห็นด้วย และมองหน้าฉันนิ่งราวกับว่าเพิ่งค้นพบเรื่องราวในตัวของเธอเอง

ก่อนลาจากสวนพฤกศาสตร์ที่เมืองจีลอง ฉันหันกลับไปมองต้นไม้ต้นโปรดของจีอานเนตอีกครั้ง

ในอดีตต้นไม้ต้นนี้คงเคยโดนพายุหรือเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรสักอย่าง ลำต้นจึงเอนราบจมดิน แต่ต้นไม้อาจปลอบใจตัวเองเหมือนกับที่ฉันเพิ่งสอนน้องไปหยกๆว่า

ความเจ็บปวดนั้น แรกรู้สึกมักหนักหนา แต่หากเราตรองมันด้วยสติ ทุกข์โศกที่คิดว่ามากก็จะลดขนาดลงเรื่อยๆ แล้วเราก็จะลุกขึ้นได้อีกครั้ง เหมือนลำต้นของมันที่กลับผุดขึ้นมาจากพื้นและยืนหยัดงดงามเป็นปริศนาธรรมให้แก่มุมเล็กๆของสวนแห่งนี้



Create Date : 21 พฤษภาคม 2552
Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 13:07:56 น. 2 comments
Counter : 1122 Pageviews.

 



ละเลียดอ่านเลยนะคะเนี่ย
เป็นเพราะดิฉันไม่เคยไปเมืองนอกด้วย
ชอบการเปรียบเทียบของคุณจัง

"จะดอกไม้ดอกเล็กๆสีเหลืองกระจายเกลื่อนเต็มทุ่งริมสองข้างทาง มองดูเหมือนมีใครโปรยเศษขนมตาลบนลานใบตองอย่างไรอย่างนั้น "


กับประโยคตรงนี้ค่ะ
เห็นด้วยกับคุณจริง ๆ

"ทุกสิ่งมีคุณค่าในตัวของมัน
เพียงแต่เราอาจไปตีค่าว่ามันธรรมดาเพียงเพราะมันดาษดื่น
หรือตีค่าว่ามันล้ำเลิศเพียงเพราะมันหายาก"


หรือตรงนี้ก็เช่นกัน

การเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นกับชีวิต
เราสามารถตั้งรับกับมันได้เสมอ เพียงแค่เรามีสติเท่านั้น

บางครั้งดูเหมือนเราจะเข้าใจ แต่ยามที่เกิดขึ้นจริง ๆ
มักตั้งสติไม่ทัน
คุณมีมุมมองทางด้านชีวิตกับธรรมะ
กลมกลืนจนดูเป็นธรรมชาติจริง ๆ

ชอบงานเขียนของคุณนะคะ
ยิ่งไล่อ่านงานเก่า ๆ ที่คุณมาวางในบล็อก ก็ยิ่งชอบ
ประทับใจเรื่องเล่าที่ให้อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มีค่าให้ได้ฉุกคิด
ขอบคุณมากค่ะ
ด้วยมิตรภาพ








โดย: ภูเพยีย วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:51:08 น.  

 
ขอบคุณคุณภูเพยียที่แวะเข้ามาทักทายและอ่านงานเขียนของเราค่ะ

ไว้จะทยอยเอาภาพเศษขนมตาล / ขนมขี้หนู / และอื่นๆ ( หมายถึงภาพดอกไม้ : )

มาลงไว้ในบลอกให้อ่านอีกนะคะ

เราเฉยๆกับดอกไม้ แต่เห็นสวยๆข้างทางทีไร อดใจถ่ายเก็บไว้ไม่ได้ทุกทีเลยค่ะ


โดย: รักแรกคลิก (Love At First Click ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:11:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Love At First Click
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




An ordinary woman who loves to write and who loves to know what love is.
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Love At First Click's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.