ตลาดสามชุก - - ความสุขที่ไม่อาจหวนคืน
ครั้งแรกที่ไปเยือนตลาดสามชุก ฉันจำได้แม่นว่าเป็นวันที่ 26 ธันวาคม เพราะเป็นวันเดียวกับวันที่หลายพื้นที่รวมถึงทางตอนใต้ของไทยประสบเหตุสึนามิ
ฉันและสมาชิกครอบครัวไปถึงตลาดสามชุกช่วงสายๆ แต่ตลาดยังไม่วาย และดูเหมือนเพิ่งจะเริ่มคึกคัก
ตลาดสามชุกเมื่อสามปีก่อน มีบรรยากาศของวันคืนเก่าๆสมชื่อตลาดร้อยปีให้สาว Retro romantic * อย่างฉันเป็นปลื้มอย่างออกหน้า
( Retro Romantic - ตามพจนานุกรมฉบับรักแรกคลิกอธิบายไว้ว่า เป็นลักษณะเฉพาะของคนที่ชอบหวนหาอดีต ขณะเดียวกันก็พึงสุนทรีย์ในศิลปะผสมความโรแมนติกในคราวเดียวกัน)
ฉันกับพี่ชายสองคนชี้ชวนกันเดินเล่นรอบตลาด แวะเวียนดูร้านค้าเก่าๆ เช่น ร้านขายยาแผนโบราณ ร้านบาเบอร์รุ่นคุณปู่ยังหนุ่มฟ้อ ร้านถ่ายรูปยุคฟิล์มขาวดำคลาสสิก รวมถึง พิพิธภัณฑ์สามชุกซึ่งแต่เดิมเป็นบ้านของขุนจำนง จีนารักษ์
(ป้ายน่ารักของร้านซ่อมรองเท้า เจ้าเก่า)
(โชห่วย รวยเสน่ห์)
(ร้านนี้ขายหม้อ ตะเกียง ถัง กะละมัง รางน้ำไม่รั่ว)
ร้านที่ฉันติดใจในบรรยากาศถึงขั้นเข้าไปนั่งทอดอารมณ์อยู๋นานคือร้านกาแฟโบราณ
ฉันไม่ใช่คอกาแฟตัวยงอะไรนัก แต่เมื่อได้เห็นกรรมวิธีการชงสูตรมืออาชีพ ได้กลิ่นกาแฟหอมอบอวล เสิร์ฟในแก้วใสทรงสูง ก้นแก้วมีรอยจีบเป็นริ้ว แบบที่เคยเห็นตามร้านกาแฟต่างจังหวัด ฉันก็เสพติดเสน่ห์ของกาแฟโบราณเข้าเต็มรักราวกับสารคาเฟอีนเข้าไปจุกหัวใจ
เดินชมตลาดไม่นาน ดูเหมือนมนต์เสน่ห์สามชุกจะอยากหยุดเวลาฉันไว้ที่นี่ นาฬิกาข้อมือเจ้ากรรมของฉันเกิดหยุดเดินไปเสียอย่างนั้น เลยแวะเข้าร้านบุญช่วยหัตถกิจ เพื่อขอเปลี่ยนถ่านนาฬิกา
(คุณป้าสายบัว)
เจ้าของร้านชื่อคุณป้าสายบัว รอยยิ้มใจดีของป้าทำให้ฉันถูกชะตาแต่แรกเห็น เราคุยกันถูกคอได้พักใหญ่ ฉันนีกสรุปในใจว่า อัธยาศัยป้าน่ารักอย่างนี้ สมัยสาวๆของป้าคงไม่มีหนุ่มคนไหนใจร้าย ปล่อยให้ป้าสายบัวแต่งตัวเก้อแน่ๆ...
พอนาฬิกาซ่อมเสร็จ ป้าสายบัวก็ยื่นนาฬิกาคืนให้โดยไม่คิดค่าบริการกับฉัน ความประทับใจที่ร้านบุญช่วยหัตถกิจไม่ใช่การที่ฉันได้ซ่อมนาฬิกาฟรี แต่เป็นรอยยิ้มในความทรงจำและมิตรภาพจากป้าที่ยังเดินหน้าตามเข็มนาฬิกาทุกครั้งที่ฉันยกข้อมือขึ้นมาดู
(ธิดาน้อยสามชุก ลูกหลานแม่ค้าในตลาด - ปัจจุบันคงโตเป็นสาวแล้ว)
ก่อนออกจากตลาดสามชุก พี่สาวของฉันซึ่งทำงานอยู่ภูเก็ต โทรมาแจ้งว่าแถวหาดมีคลื่นยักษ์ กวาดรถยนต์ลงทะเลไปนับร้อยๆคัน พวกเราฟังแล้วหัวเราะคิดว่าพี่ตลกร้าย วันนี้ไม่ใช่วันApri's fool เสียหน่อย แต่ต่อมาเราจึงพบว่ามันคือเรื่องจริง โดยมีมุมหนึ่งของตลาดสามชุกเป็นพยานรับรู้ข่าวร้ายนี้ไปพร้อมๆกับพวกเรา
สามปีต่อมา พ่อ พี่ๆ และฉันร่วมเดินทางไปตามรอยตลาดสามชุกอีกครั้ง แต่ความรู้สึกเมื่อก้าวเท้าเข้าไปในตลาดแตกต่างกับสามปีก่อนโดยสิ้นเชิง
ตลาดสามชุกในความทรงจำ บัดนี้เปลี่ยนโฉมไปราวกับเป็นสถานที่ใหม่ที่ฉันไม่เคยรู้จัก หากเปรียบตลาดสามชุกกับหญิงสาวโบราณ ตลาดสามชุกในวันวาน เหมือนสาวผมยาว โครงหน้าสวยพิศเรียบๆ ในชุดผ้าแถบ กิริยานิ่มนวลแต่น่าพิสมัย เพราะเธองามแบบไม่ปรุงแต่งและเป็นธรรมชาติ
บัดนี้ตลาดสามชุกปัจจุบัน เหมือนสาวคนเดิมที่สวมเสื้อยีนสีซีดคลุมทับผ้าแถบ และประทินโฉมด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะบนใบหน้า เดินกระฉับกระเฉงกว่าเคยบนรองเท้าส้นสูง และกระชับลูกคิดอยู่ในมือพร้อมเจรจาธุรกิจกับผู้สัญจรมาพบอย่างขะมักเขม้น
ฉันมองไม่เห็นร้านค้าเดิมๆที่ฉันเคยหยุดยืนมองหน้าร้านเนิ่นนานอีกต่อไป หลายร้านที่เกิดใหม่เน้นตกแต่งภายในสวยหรู โดยพยายามให้ดูเก่าท่ามกลางความใหม่นั้น
ร้านกาแฟที่ฉันเคยไปนั่งดื่มด่ำบรรยากาศ กำลังมีนักท่องเที่ยวเล่นเก่าอี้ดนตรีกันอยู่แน่นร้าน แก้วทรงสูงที่ใช้ใส่กาแฟหายไปพร้อมกับมีแก้วพลาสติกพร้อมฝาปิดเข้ามาแทนที่ ฉันได้แต่มองโลกแง่ดีว่าวันนี้เจ้าของร้านคงล้างแก้วไม่ทัน เลยเอาแก้วพลาสติกมาใช้ขัดตาทัพ
ฉันมึนงงกับกองทัพเตนท์ขายของชั่วคราวที่เรียงกันแน่นขนัดจนมองไม่เห็นทางเข้าร้านค้าถาวรด้านหลัง ฉันใจหายเมื่อนึกถึงป้าสายบัวที่ร้านบุญช่วยหัตถกิจ ไม่รู้ว่าความเปลี่ยนแปลงรายล้อมจะทำให้ร้านป้าเปลี่ยนไปไหม
ร้านบุญช่วยหัตถกิจยังอยู่ แต่ป้าสายบัวไม่อยู่ร้านในวันนั้น ฉันเดินแกมผิดหวังออกมาจากร้านบุญช่วยฯ โดยมีฝนตกปรอยหล่นลงกระทบหน้าในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
ถ้าฉากนี้เป็นฉากในมิวสิกวีดีโอ ต้องมีคนดูตบเข่าฉาดและร้อง ...ไหมล่ะ รันทดเข้าหน่อยก็มีฝนตก... เป็นแน่
ฉันชวนพี่เดินข้ามสะพานคอนกรีต หลีกกลุ่มคนเพื่อออกทางหลังตลาด ทิ้งตลาดสามชุกไว้อีกด้านของสะพาน
ระหว่างทางกลับบ้าน พ่อถามในรถว่าฉันขึ้นรถมาหรือเปล่า ไม่ได้ยินเสียงสักแอะ
พี่สาวมองฉันผ่านกระจกมองหลังแวบหนึ่ง แล้วตอบพ่อลอยๆว่า
"มันกำลังเฮิร์ตละมังพ่อ ปล่อยไว้สักพัก เดี๋ยวก็ดีเอง..."
Create Date : 16 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 10:48:57 น. |
|
11 comments
|
Counter : 4475 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ชากีร่า วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:13:48 น. |
|
|
|
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:16:00 น. |
|
|
|
โดย: ภูเพยีย วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:50:34 น. |
|
|
|
โดย: sugarhoney วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:55:43 น. |
|
|
|
โดย: แม่แอมเบอร์ IP: 122.133.116.219 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:47:47 น. |
|
|
|
โดย: พ่อพเยีย วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:48:11 น. |
|
|
|
โดย: chenyuye วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:56:52 น. |
|
|
|
โดย: may-mos วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:34:01 น. |
|
|
|
โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:01:20 น. |
|
|
|
โดย: คนสุพรรณ IP: 180.180.17.214 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:46:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อยากให้คงรักษาร้านเก่าๆ แบบไทยๆ ที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ยิ้มแย้มแจ่มใส
และต้อนรับกันด้วยอัธยาศัยใจคออย่าง"ไทยแท้" อย่างแท้จริง
อ่านบลอกนี้ของเจ้าของบลอกแล้วก็พลอย"เฮิร์ต"ไปด้วยค่ะ