ต้นไม้ใต้โลก : ทุกคำสัญญาหมดอายุในวันที่โลกไม่ต้องการฮีโร่
ครั้งแรกที่ผมเขียนถึงหนังสือเล่มนี้ ผมจบเนื้อหาในตอนนั้นไว้ด้วยประโยคที่ว่า บางครั้งเส้นแบ่งระหว่างฮีโร่ผู้ดูแลโลกกับคนธรรมดาอาจจะเป็นแค่เพียงหนังสือที่พวกเขาอ่าน ในตอนนั้น ผมเชื่อจริงๆว่า หากใครได้อ่านหนังสือที่บอกเล่า 100 วิธีดูแลโลกในแบบที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้เล่มนี้ เขาจะต้องตื่นเต้น เร้าร้อน และถูกแรงบันดาลใจถีบให้ลุกขึ้นมาเป็นฮีโร่ที่ทำอะไรดีๆ เพื่อโลกต่อไป อ้อ ใช่...ในคราวนั้นผมยังเขียนอีกด้วยว่า การให้ผู้คนได้อ่านหนังสือเล่มนี้คือการช่วยโลก
ว่าแล้วผมก็เลยให้สัญญากับตัวเองว่า จะเขียนถึงหนังสือเล่มนี้ทุกเดือน
2 ประโยคที่ผมเคยเขียนบอกกับผมว่า ผมน่าจะถือเป็นคนนึงที่เชื่อใน พลังของหนังสือ ว่ามันร้อนแรงพอที่จะผลักดันให้คนอ่านเกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด ซึ่งจะตีวงกว้างไปถึงการกระทำ และไม่ใช่ผมคนเดียวที่เชื่อเช่นนั้น...ห่างไปไกลคนละทวีป ใครบางคนกำลังเชื่อในอะไรที่ไม่แตกต่างกัน
ใครคนนั้นคือ ซาเวียร์ กอนซาเลซ การ์ซา ผู้อำนวยการรถไฟใต้ดินของเมืองเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงของประเทศที่เต็มไปด้วยอาชญากรและยาเสพติด สถานีรถไฟใต้ดินในการดูแลของเขาจึงไม่พ้นเป็นแหล่งหากินอันดับต้นๆ ของเหล่าโจรผู้ร้าย
ด้วยความเชื่อมั่น...แผนการแก้ปัญหาของผู้อำนวยการกอนซาเลซจึงออกปฏิบัติการ ด้วยการต่อเติมสถานีรถไฟใต้ดินให้มีห้องสมุดขนาดใหญ่ไว้ให้บริการ ในนั้นมีหนังสือกว่า 250,000 เล่ม (และกำลังจะเพิ่มเป็น 7 ล้านเล่มในอีก 2 ปี)ให้คนเดินทางหยิบยืมอ่านกันฟรีๆ ใครที่ผ่านไปผ่านมาสามารถยืมหนังสือจากสถานีต้นทาง ไปนั่งอ่านบนรถ แล้วหย่อนคืนง่ายๆ ได้ที่สถานีปลายทาง โดยหนังสือส่วนใหญ่เป็นพวกเรื่องสั้นหรือบทกวีที่ถูกคัดสรรมาให้เหมาะสมกับระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง
ผู้อำนวยการคนนี้เชื่อว่าหากคนเราอ่านหนังสือดีๆ เราก็จะเป็นคนดี คิดดี ทำดี และอัตราการก่ออาชญากรรมก็จะลดลงไปเอง เขาเชื่อเช่นนั้น แนวทางการบริหารของเขาจึงไม่ได้มีการเพิ่มจำนวนตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจตรา แต่เขาส่งบรรณารักษ์ลงไปปราบอาชญากร ครับ...ส่งลงไปปราบไม่ต่างอะไรกับที่เหล่าฮีโร่ร่อนลงมาลุย ต่างกันตรงที่บรรณารักษ์ไม่ได้ใช้พลังวิเศษแบบฮีโร่ลงไปต่อยตี บุกจับ หรือเข้ากระทำอาชญากรแต่อย่างใด พวกเขาแค่ช่วยกันสร้างระบบห้องสมุดที่ดี แล้วปล่อยให้พลังของหนังสือเปลี่ยนสถานีรถไฟฟ้าเป็นสถานที่ที่ปราศจากผู้ร้าย ...และเมื่อไม่มีผู้ร้าย...?
ในจุดนี้ คุณทรงกลด - ผู้เขียนหนังสือได้จบเนื้อหาที่กล่าวถึงผู้อำนวยการคนนี้ไว้ว่า ถ้าสงสัยว่านโยบายหลุดโลกแบบนี้หลุดออกมาได้ยังไง เดาไม่ยาก, ก็คงมีแต่ผู้บริหารที่รักงานวรรณกรรมเท่านั้นแหละ ที่เชื่อมั่นในพลังของวรรณกรรม
ตีตั๋วจากเม็กซิโกกลับมาที่บ้านเรา แล้วย้อนเวลากลับเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2551 ในวันนั้นผมได้ชักชวนเพื่อนๆ พี่ๆ หลายๆคนให้มาร่วมเขียนถึงหนังสือต้นไม้ใต้โลกพร้อมๆ กันในวันนี้( 25 กรกฎาคม) ณ วันนั้นที่คิดโครงการชวนกันเขียน ผมหวังเอาไว้ว่าด้วยการเผยแพร่หนังสือพร้อมๆกันจากหลายๆทางนี้ ต้นไม้ใต้โลกจะได้มีโอกาสเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มปริมาณฮีโร่ตามไปด้วย...แต่นั่นคือความที่ผิด
ประโยคที่ผมเคยเขียนว่า เส้นแบ่งระหว่างฮีโร่ผู้ดูแลโลกกับคนธรรมดาอาจจะเป็นแค่เพียงหนังสือที่พวกเขาอ่าน ก็เป็นความเชื่อที่ผิดด้วยเช่นกัน!
เพราะหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ต้องการที่จะสร้างฮีโร่ขึ้นมาประดับวงการตั้งแต่แรกแล้ว สิ่งที่หนังสือต้องการก็คือการแบ่งเบา จัดสรร และกระจายภารกิจของฮีโร่ผู้ดูแลโลกไปสู่ผู้คนตาดำๆ ตามบ้าน ทำเรื่องช่วยโลกให้กลายเป็นเรื่องที่สอดคล้องไปกับวิถีชีวิตของเราจนกลายเป็นเคยชิน และเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีพิษมีภัยต่อโลกใบนี้
เปลี่ยน...เหมือนที่กอนซาเลซเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินให้เป็นที่ที่ไม่มีผู้ร้าย จนไม่จำเป็นต้องมีฮีโร่คอยดูแล ต้นไม้ใต้โลกก็เช่นกัน หนังสือเล่มนี้อยากให้ฮีโร่ตกงาน เพราะเมื่อพวกเราคนธรรมดาๆ ต่างคนต่างช่วยกันดูแลโลก ก็จะไม่มีผู้(ที่มุ่งทำ)ร้าย(โลก)หน้าไหนให้ฮีโร่ต้องคอยต่อกร
โลกใบนี้มีฮีโร่อยู่สักกี่คนกัน...รวมๆ ทุกขบวนการแล้วจะถึงหมื่นคนไหมนะ? คุณว่าเราจะเลือกฝากโลกทั้งใบให้พวกเขาที่มีกันอยู่แค่หยิบมือคอยดูแล หรือคุณว่าเราควรจะฝากมันไว้กับคนธรรมดาๆ ที่มีกันกว่า 6,000 ล้านคน...
________________________________________________________________________________
คลิกไปแวะอ่านมุมมองของคนธรรมดาๆ (ผู้น่ารัก) ที่เชื่อในพลังของหนังสือเล่มนี้ได้จากรายชื่อของเพื่อนๆที่ร่วมด้วยทั้งชุดนอนที่ด้านล่างได้เลยครับ ขอขอบคุณทุกคนจากใจที่สละเวลามาร่วมโครงการในครั้งนี้ครับ ^^
คุณ nikanda คุณนัทธ์ คุณนางสาวดุ่บดั่บ คุณ narumol_tama คุณ Verena_T คุณแม่มดพันปี คุณ BeCoffee คุณ Pattararanee คุณต้อม คุณ heyboibz คุณ Leon~Z คุณMaeBin คุณ PeterBen
Create Date : 25 กรกฎาคม 2551 |
|
30 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2552 15:24:41 น. |
Counter : 1417 Pageviews. |
|
|
|
+
ผ้ากันเปื้อน + ยาแก้เลี่ยน
สำหรับสวมกันเสื้อผ้าของคุณเปื้อนน้ำตาจากความปลื้มปิติของเจ้าของโครงการ
และยาน้ำแก้เลี่ยนคำขอบคุณที่คุณจะได้รับชนิดซ้ำแล้วซ้ำอีกย้ำคิดย้ำทำ
เพราะจากนี้ไปไม่ว่าวันไหนคุณจะแค่แวะมาตอบเมนต์เพลินๆ
เจ้าของโครงการก็จะขุดเรื่องเก่า (ว่าคุณเคยร่วมโครงการนี้) มาขอบคุณไม่ขาดปาก
ราวกับเป็นคนแก่ทั้งชุดนอนชอบพูดเรื่องความหลังวัยยังหวาน
ซองอั่งเปา
อันที่จริงเป็นแค่ซองอั่งเปาเปล่า... ... ...ให้เผื่อไว้สำหรับเวลาเราไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาล
หากผู้ใหญ่ของท่านบังเอิญไม่มีซอง เราจะได้มอบซองเปล่าให้ท่านยืมใช้(เพื่อใส่เงินมอบให้เราอีกที)
ประมาณว่า จะให้เงินผม(หนู)ใช่ไหมครับ/คะ โหย! พอดีเลย! ผม(หนู)เตรียมซองเปล่ามารอรับพอดี
งานนี้รับรองเรทติ้งหลานคนโปรดพุ่งกระฉูดฉุดไม่อยู่(ไปไม่กลับหลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มีหนีไม่พ้น)
+
ผ้ายันต์กันงอน + กุญแจประตูหลังบ้านชุดนอน
คุณเคยไหม...รู้สึกเบื่อเวลาเจอคนอัพบล็อกไร้สาระ ใช้ภาษาบ้านๆ และเขียนแต่เรื่องราวไม่น่าอ่าน
แต่ดันต้องไปตอบเมนต์เพราะกลัวว่าเจ้าของบล็อกจะงอน วันนี้เราจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้กับคุณ
ด้วย ผ้ายันต์กันงอน ด้วยผ้ายันต์นี้คุณสามารถไม่ต้องแวะมาอ่านหรือคอมเมนต์บล็อกของขอรบกวนทั้งชุดนอน
ได้โดยจะไม่ถูกงอนออกนอกหน้า แอบน้อยใจภายหลัง หรือเก็บไปเป็นเคียดแค้นตลอดกาล
ดังนั้นถ้าคุณแวะมาดูหน้าบล็อกแล้วรู้สึกไม่อยากอ่านให้สมองบูด
คุณสามารถใช้กุญแจไขออกประตูหลังวิ่งหนีไปได้ในทันที
คำเตือนและคำแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์
- การอ่านตัวหนังสือของชุดนอน จะทำให้สมถะภาพของเซลสมองลดลงจนติดลบ
- ผ้ายันต์กันอาการงอนได้ แต่กันโรคเอ๋อที่จะเกิดขึ้นกับคุณไม่ได้ หากคุณยังยืนยันที่จะเสพตัวหนังสือในบล็อกนี้ต่อไป
- ถึงจะไม่ได้ตั้งใจเอามาใช้ แต่ก็สามารถพกผ้ายันต์เข้าบล็อกนี้ได้
โดยไม่ส่งผลให้เจ้าของบล็อกรู้สึกร้อนเหมือนเวลาผีสางเดินเข้าวัด และผ้ายันต์จะไม่เกิดลุกติดไฟขึ้นมาเอง
...ของแบบนั้นมันมีแต่ในหนังครับ...
เปลือกไข่ครึ่งฟอง
เหมือนกับเวลาเราสัญญาอะไรกับใครสักคน แล้วใช้การแบ่งสิ่งของให้กลายเป็น 2 เพื่อยืนยันคำสัญญานั้น
งานนี้เราจะตอกไข่แล้วแบ่งเปลือกของมันเก็บไว้คนละครึ่งฟอง คุณครึ่งนึง ผมครึ่งนึง
(ส่วนเนื้อไข่ผมเอาไปทอดกินคนเดียว...ช่วงนี้ไม่มีเงินกินกับข้าวเป็นสำรับ กินแต่ข้าวโปะไข่ดาวประทังชีวิต)
คุณสามารถนำเปลือกไข่ใช้แล้วในครัวเรือนนี้ มาแสดงต่อเจ้าของโครงการเพื่อแลกกับคำสัญญาได้ 1 ข้อ
อยากให้เจ้าของโครงการทำอะไร พิเรนท์ขาดไหน อะไรยังไง - ได้หมด!
ครึ่งฟองมีมูลค่า 1 คำสัญญา ใช้แล้วไม่พอใจยินดีคืนเปลือกไข่ไว้ให้ใช้ใหม่ในโอกาสหน้า
หมายเหตุ เปลือกไข่ที่เก็บไว้นานอาจจะส่งกลิ่นเหม็นเน่า แต่ก็ยังสามารถนำมาแลกคำสัญญาได้ตามปกติ
หนังสือรุ่นทั้งชุดนอนโครงการ 1
หนังสือรุ่นที่จะบอกข้อมูลของผู้ร่วมโครงการทั้งข้อมูลพื้นๆ อย่างชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
ไปจนถึงข้อมูลที่ซ่อนอยู่ในซอกหลืบอย่างเช่น ผู้ร่วมโครงการกำลังแอบชอบใคร
แอบอิจฉานางเอกละครเรื่องไหนมาโดยตลอด รวมไปถึงมีชุดนอนชุดโปรดสีอะไร
อ่านแล้วเราจะได้รู้สึกผูกพันกับเพื่อนร่วมโครงการมากขึ้น แต่อาจจะต้องเขินๆ ตัวเองเล็กน้อย
ขอบคุณทุกคนที่ร่วมโครงการนะครับ...ขอบคุณมากๆ
ด้วยความเคารพทั้งชุดนอน