Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
1 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
Sweet Child O’ Mine

Sweet Child O’ Mine

ผมอยู่ที่บ้าน

บ้านที่ไม่ได้กลับมานาน แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เหมือนเดิมเหมือนกับว่าผมไม่เคยจากไปไหน

เสียงลมหวีดหวิวหอบลมหนาวมาเยือน หนาวเหมือนเมื่อครั้งหนึ่งในตอนเด็กๆ เคยสัมผัส บางทีมันอาจนานมากแล้ว แต่ความรู้สึกมันยังคงแจ่มกระจ่างอยู่เสมอ เหมือนขนม Madeleine ของ Marcel Proust ในหนังสือเรื่อง À la recherche du temps perdu ขนมชิ้นนั้นอาจจะเป็นขนมก้อนเล็กๆ ไม่ได้เอร็ดอร่อยเลิศล้ำ แต่รสชาติของมันที่พาย้อนไปยังความรู้สึกแรกที่ริมฝีปากและลิ้นได้ลิ้มรสนั่นน่ะ ช่างเต็มตื้นและอิ่มเอิบอย่างประหลาดล้ำ

ลมหนาวครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

เที่ยงคืนกว่า ผมแอบเปิดประตูให้ลมหนาวเข้ามาเยือน แทรกตัวเข้าเบียดกับความเย็นยะเยือกข้างนอกเพื่อหนีออกไปสูบบุหรี่ ข้างนอกมืดสนิท เป็นความมืดอันแปลกประหลาดสำหรับผู้ที่หนีไปใช้ชีวิตในเมืองอย่างผม ในความเงียบงันมีเพียงเสียงลมเสียดสีใบไม้ที่ไหวล้ออยู่กลางอากาศ แข่งขับจั๊กจั่นที่กรีดเสียงระงมอยู่ที่ต้นไม้ต้นใหญ่ใกล้ๆ รั้วบ้าน

ผมยืนอิงแอบต้นขนุนหน้าบ้านที่ตอนนี้เหลือเพียงเศษซากของสิ่งที่เคยมีชีวิต มันเคยเป็นต้นขนุนประจำหมู่บ้านอันเลื่องชื่อ ด้วยขนาดของลูกขนุนที่ใหญ่อวบเกินมาตรฐานกว่าต้นใดๆ ในละแวกนี้ รสชาติที่หวานกรอบจนคว้ารางวัลมาไม่รู้กี่สมัย มันสร้างชื่อเสียงด้วยตัวมันเอง ทุกครั้งที่ถึงฤดูที่มันออกดอกผล มักมีแม่ค้าพ่อค้ามายืนจับจองไว้ตั้งแต่ยังไม่สุกดี เสนอเงินในราคางาม

ตอนนี้มันตายซะแล้ว

ผมยืนสูบบุหรี่เงียบๆ กลางลมหนาว หันมองสรรพสิ่งรอบข้างที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่กับมัน แม้แต่กำแพงหน้าบ้านก็มีเรื่องเล่าของมันเอง มันเป็นกำแพงแห่งความมีน้ำใจ รอบรั้วบ้านผมเต็มไปด้วยกำแพงขนาบข้าง จากบ้านที่ผุดขึ้นหลังจากที่เราอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาหลายปี ทุกคนต่างสร้างกำแพงล้อมอาณาเขตบ้านของตัวเอง กำแพงหลังบ้านผมคือกำแพงของบ้านฝั่งตรงข้าม ด้านซ้ายก็เช่นกัน เหมือนกับด้านขวา ทั้ง 3 ด้านขนาบอาณาเขตของบ้านผม ล้วนเป็นกำแพงของคนอื่นทั้งสิ้น เราไม่เคยมีกำแพงเป็นของตัวเอง แม้แต่หน้าบ้าน มันเป็นเพียงรั้วไม้หยาบๆ กันพอให้รู้ว่านี่คืออาณาเขตบ้าน ในที่สุดเมื่อวันที่กำแพงด้านซ้ายกำเนิดขึ้น เพื่อนบ้านใจดีของเราเสนอทำกำแพงหน้าบ้านให้เรา ด้วยเห็นว่าเหลืออีกเพียงด้านเดียว บ้านเราก็จะมีกำแพงล้อมรั้วทั้ง 4 ด้าน

ถึงแม้ทั้ง 4 ด้านจะล้อมไปด้วยกำแพง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่นี่ตัดขาดจากกัน เพราะสุดท้ายประตูรั้วหน้าบ้านก็ไม่เคยปิดสักที การเดินเข้าออกบ้านหลังนั้นหลังนี้โดยไม่ต้องตะโกนขออนุญาตยังเป็นประเพณีปฏิบัติอันเคยชินของพวกเรา

ตีสองกว่า พ่อแม่ตื่นขึ้น อาบน้ำล้างหน้าเตรียมตัวไปขายของ พ่อกับแม่กำลังจะเริ่มต้นทำงานในเช้าอีกวันหนึ่ง ในขณะที่ลูกชายยังคงนั่งทำงานของเมื่อคืนที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

ผมเดินไปคุยกับพ่อ ถามหาเครื่องเล่นเทปอันแรกของบ้านที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ มันผุดขึ้นมาในขณะที่ผมกำลังเขียนบทความชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับวัฒนธรรมดนตรี มันเป็นเครื่องเล่นเทปสีเงินอันใหญ่ซึ่งพ่อซื้อต่อจากเพื่อนที่นำมันมาจากเมืองนอก รูปร่างของมันเหมือนในมิวสิค วิดีโอเพลงแร็พที่แบกออกจากบ้านแล้วตั้งวงเต้นกันกลางถนน หรือริมฟุตบาท

ผมรักมันมาก ลำโพงของขับขานตั้งแต่เพลงลูกทุ่งอย่างชาย เมืองสิงห์ของพ่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์ของแม่ เพลงต้อม เรนโบว์ อริสมันต์ของพี่สาว หรือแม้กระทั่งโอเอซิสของผม

ตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว เราต่างพิศวงว่ามันหายตัวไปจากที่นี่ได้อย่างไร เราไม่เคยย้ายบ้าน ไม่เคยขายมันออกไป จากเครื่องเล่นเทป สิ่งของหลายๆ อย่างในบ้านต่างหลั่งไหลออกจากความทรงจำของเราทั้ง 3 คน มันเคยสร้างความสุขให้เรามากแค่ไหน และตอนนี้มันยังอยู่ดีหรือเปล่า

พ่อแม่ออกจากบ้านไปเมื่อเกือบตี 3 ทั้งบ้านเหลือเพียงผมคนเดียว พี่สาวโทรมาบอกว่าจะกลับบ้านพรุ่งนี่เย็นๆ ส่วนน้องสาวที่เรียนอยู่อีกจังหวัดก็เช่นเดียวกัน

ผมเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน 1 ใน 3 ห้องข้างบนคือห้องนอนเก่าของผม ที่ยังคงสภาพเดิม เหมือนเมื่อครั้งที่ผมอยู่ มันเป็นห้องนอนเล็กๆ ที่ต่อเติมขึ้นมาใหม่ หลังจากผมเรียกร้องความเป็นส่วนตัวเมื่อคิดว่าตัวเอง ‘โต’ แล้ว ห้องเล็กๆ มีเพียงเตียงเดี่ยวที่แอบอิงอยู่ข้างฝา ปูทับด้วยผ้านวมสีเจ็บที่ผมเลือกซื้อเอง แต่แม่เป็นคนจ่ายเงิน ที่ปลายเตียงมีชั้นวางหนังสือที่เต็มไปด้วยสมบัติของผมมากมาย ถัดไปอีกข้างคือตู้เสื้อผ้าทำจากไม้อัด แต่ก่อนมันเคยสูงกว่าตัวผม แต่ตอนนี้ผมยิ้มอย่างผู้มีชัย เพราะมันทำได้แค่แหงนหน้ามองความเติบใหญ่ของเจ้าของของมัน

หัวเตียงยังคงมีเรื่องเล่นเทปเล็กๆ สีดำ ตั้งอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับคาสเซ็ตเทปจำนวนมหาศาลที่ผมหมั่นเพียรซื้อทุกๆ สัปดาห์จากเงินค่าขนมไปอันน้อยนิด สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดคือผนังห้อง ที่เต็มไปด้วยรูปศิลปินมากมาย ตัดแปะอย่างหยาบๆ ละเลงไปทั่วจากบนลงล่าง จากซ้ายไปขวา 3 พี่น้อง Hanson ยังคงยืนหน้าแฉล้มไม่โตขึ้นเลยสักนิด เสียงเพลง ‘MmmBop’ ดังออกมาจากความทรงจำ เสียงนั้นช่างอ่อนหวานและร่าเริง

Mariah Carey จากหน้าปกอัลบั้ม 1# ขนาดเกือบเท่าตัวจริงยังคงยืนโพสท่าสวย คลาสสิก ตอนนั้นเธอยังมีเพลงอันดังหนึ่งเพียง 13 เพลง ดูตอนนี้สิ เธอมีถึง 17 เพลงไปแล้ว

ข้างๆ กันคือเจ้าเลียม และโนเอล แห่ง Oasis ที่ผมยังคงภักดีเสมอมา เสียงเพลง ‘Wonderwall’ และ ‘Champagne Supernova’ ยังคงตามหลอกหลอน ไม่มีเพลงใดจะสวยเศร้าได้เท่าสองเพลงนี้อีกแล้ว…ไม่มี

ทั่วทั้งผนังห้องเต็มไปด้วยศิลปินเพลงในยุค ‘90s ที่ผมโปรดปราน มันคือความหวานหอมในวัยเด็กที่มิอาจย้อนคืน แต่ทุกครั้งที่ได้นึกถึง ที่ประสาทสัมผัสแห่งความทรงจำได้ลิ้มรสของมัน รสชาติที่ลืมเลือนไปแล้ว ยังคงเก็บงอมความหวานของมันไว้อย่างไม่เคยจืดจาง

ผมแทรกตัวเข้าไปยังผ้าห่มนวมผืนหนา บนเตียงที่ตอนนี้สั้นกว่าขาทั้งสองข้าง เปิดอ่านความทรงจำเก่าๆ ที่กักเก็บไว้ในห้องนี้ ในบ้านหนังนี้ พร้อมเสียงเพลงที่ไม่เคยหายไปจากห้องนอนห้องนี้เลย เมื่อผมอยู่บ้าน
“Ohhh…Sweet Child O’ Mine’




Create Date : 01 มกราคม 2551
Last Update : 1 มกราคม 2551 0:55:41 น. 21 comments
Counter : 685 Pageviews.

 
สุขสันต์วันปีใหม่
สมใจดั่งที่ฝัน
สดชื่นทุกวัน
สมดั่งหวังตลอดไป


โดย: น้ำหวานโซดา วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:0:56:19 น.  

 




สวัสดีปีใหม่ 2551 นะคับ



โดย: K_chang วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:1:02:19 น.  

 
Photobucket


โดย: conejodulce วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:2:26:37 น.  

 
สวัสดีปีใหม่คะ ขอให้มีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา ร้ำรวย เฮงๆ นะคะ


โดย: This road is mine วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:8:19:34 น.  

 
ความทรงจำในวัยเยาว์ งดงามเสมอเนาะ

เราก็กลับมาบ้านนอกเนี่ย หยาวค่อดๆเรย น้ำก็ยังไม่อาบ


โดย: ซซ วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:9:49:29 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลยครับ
นึกถึงเรื่องของตัวเองเลย
เมื่อวานนี้ผมกลับไปอ่างขางอีกครั้ง
ทั้งทั้งที่ก็ไปมาเรื่อยเรื่อย ทุกทุกเดือน
เพราะที่แห่งนี้เป็นที่ที่ผมรู้สึก "รัก" อย่างแท้จริงเป็นที่ที่สอง นอกจากบ้านผม
เมื่อสัก 5-6 ปีก่อนผมขึ้นอ่างขางแทบทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่ก็เพื่อไปดูนกน่ะครับ
ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง การเจริญเติบโต งอกเงยทีละนิดละหน่อย
ทำให้รู้สึกผูกพันกับสถานที่แห่งนี้มาก
แต่ช่วงปีหลังหลังการไปเยือนอ่างขางของผม ผมรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกแบบนั้นแล้ว
ผมรู้สึกว่าตัวเองละเลยไปมาก

จนเมื่อวานนี้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ความรู้สึกแบบนั้นวนกลับเข้ามาอีกครั้ง
ความรู้สึกของครั้งแรกที่มาที่นี่ กลิ่นของป่าแบบนี้
การเดินเข้าป่าไปคนเดียวแบบนี้
รู้สึกเหมือนความทรงจำทุกๆอย่างมันแฟลชแบ๊คกลับคืนมา
และผมก็รู้สึกว่านี่แหละ ของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับผม


โดย: Unravel วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:10:07:21 น.  

 


โดย: สาวอิตาลี วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:14:29:19 น.  

 
สวัสดีครับ ขอบคุณครับ ขอโทษครับ ไม่เป็นไรครับ

คาถาสี่คำนี้ ถ้าใช้ให้ยิ่งบ่อย ชีวิตจะไม่เหงาครับ

Happyๆ นิว year นะครับ..^o^


โดย: แมวกนล วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:14:37:29 น.  

 


หวัดดีปีใหม่เน้อ รักษาสุขภาพด้วย


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:21:16:06 น.  

 
เพิ่งกลับจากบ้านเหมือนกัน แต่ที่บ้านเรามีแต่ฝนและฝน


โดย: lamerdejoy IP: 202.57.140.163 วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:10:21:47 น.  

 
กลับบ้านทีไร ก็ได้ feel เดียวกัน เหมือนกันเลยนะครับ คุณกับผม
แต่ว่า เราคงเป็น อริ กันแน่ ๆ
เพราะ ฝาผนังห้องผมมี วง Blur ติดอยู่น่ะสิ


โดย: pecochan วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:12:51:29 น.  

 
สวัสดีหลังปีใหม่ค่ะ

บ้านหลังเดิม
ความทรงจำเดิม
รอเรากลับไปหาเสมอค่ะ
บางทีความหลังก็ทำให้เราเข้าใจปัจจุบันได้ดีขึ้นนะคะ

มีความสุขมาก ๆ ค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:23:42:17 น.  

 
อ่านแล้วเหงาง่ะ
ตอนนีอากาศเย็นลงอีกแล้ว
รักษาสุขภาพด้วย

ปล. ตอนนี้ขาดแรงบันดาลใจขนาดหนัก
จนไม่มีปัญญาอัพบล็อก
รู้สึกเหมือนกลับไปสู่วัยเบญจเพสอีกครั้ง 55


โดย: มะแต้มมะตูม วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:13:59:40 น.  

 
เขียนดีจังค่ะ
แอบชอบเจ้าของข้อเขียน..หุหุ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน IP: 58.8.129.14 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:13:15:57 น.  

 
ขนมชิ้นเล็ก ๆ บางชิ้นก็ทำให้กลับไปถึงความทรงจำครั้งแรกได้จริง ๆ นะคะ

และความทรงจำแรก...มักงดงามเสมอ
.
.
.
สวัสดีปีใหม่นะคะพี่...ช้าไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สายไปเท่าไหร่ใช่มั้ยคะ
มีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอให้เป็นปีที่ดีเสมอ ๆ ค่ะ

ปอลอ....ชอบ Hanson เหมือนกัน ตอนนั้นอยู่มอสาม มอสี่...อิอิ Moffatts ด้วย จำได้ป่าว?


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:5:42:40 น.  

 
อ้าว เปลี่ยนแบ๊คกราวด์แล้ว
อารมณ์ของบล๊อกก็เปลี่ยนเลยนะเนี่ย
Blue มาเชียว


โดย: Unravel วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:21:20:10 น.  

 
คุณขา ที่คิโนะมันหมดแล้วอ่ะค่ะ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:22:47:21 น.  

 
ตามมาจากบล็อกคนข้างบน ^
middlesex ผ่านช่วงไฟไหม้ไป เดี๋ยวก็ดีขึ้น
ตอนอ่านก็ช้าช่วงนี้เหมือนกัน


โดย: แวะมาบอก (อั๊งอังอา ) วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:10:19:37 น.  

 
บีจีนั่นใครง่ะ หน้าใสกิ๊งงงงงเลย ...


โดย: ซซ วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:17:42:58 น.  

 
อ่านแล้วคิดถึงบ้านขึ้นมากเลย

อยากกลับบ้าน


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:3:19:48 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลยค่ะ...
ทำให้นึกไปถึงสมัยเด็ก ๆ
บ้านเราก็มีต้นขนุนออกลูกใหญ่มาก ๆ เหมือนกัน
แต่ตอนนี้โดนโค่นไปแล้วล่ะ...น้ำท่วมอ่ะ...

Hanson เราก็ชอบเหมือนกันนะ...ชอบเพลง I will come to you อ่ะ...


โดย: Almondblist วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:22:22:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แอบชอบ คห. ข้างล่าง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจัย 5 อย่าง หนัง เพลง หนังสือ กาแฟ และบุหรี่
Friends' blogs
[Add แอบชอบ คห. ข้างล่าง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.